เป็นอีกครั้งที่กระผมเลือกที่จะ รีวิว การเดินทางช่วงสั้น ๆ ผ่านการบริการของรถไฟไทย
สำหรับ การเปิดเส้นทางใหม่ หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ซึ่งได้เปิดบริการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นขบวนดีเซลรางปรับอากาศ และไปเชื่อมต่อกับขบวนรถไฟฟ้าด่วน ETS ที่สถานีปาดังเบซาร์
เพื่อเดินทางต่อไปยัง เมืองบัตเตอร์เวอร์ธ(รัฐปีนัง) เมืองอิโปห์ (รัฐเปรัก) และ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ของประเทศมาเลเซีย
///////////////////////////
เอาง่าย ๆ เมืองไทยเราตอนนี้ มีรถไฟฟ้าด่วนจอดรออยู่ที่ด่านชายเเดน ปาดังเบซาร์ เพื่อในอนาคตจะเชื่อมมายังไทย
(อนาคตจริง ๆ) สำหรับทริปต่าง ๆ เดียวกระผมจะสรุปไว้ท้ายกระทู้นะครับ สำหรับทริปนี้เป็นทริปเร่งด่วนจริง ๆ ครับ
สำหรับเส้นทางนี้ มีบริการทั้งสิ้น 4 ขบวนคิดอัตราค่าโดยสาร 80 บาทตลอดสาย ประกอบด้วย //
ขบวน 947 หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ออก 07:30 ถึง 08:25 // ขบวน 948 ปาดังเบซาร์ - หาดใหญ่ ออก 08:55 ถึง 09:50 // ขบวน 949 หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ออก 13:05 ถึง 14:02 // ขบวน 950 ปาดังเบซาร์ - หาดใหญ่ ออก 14:40 ถึง 15:35
///////////////////////////
เนื่องจากพวกกระผมตื่นสายจึงเลือกเดินทาง รอบขบวน 949 หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ออก 13:05 ถึง 14:02, และกลับขบวน 950 ปาดังเบซาร์ - หาดใหญ่ ออก 14:40 ถึง 15:35 ดังนั้นเรามีเวลาที่ด่านปาดังเพื่อไป Shop ที่ชายเเดนประมาณ 40 นาที
พร้อมเเล้วเริ่มมมม !!!!!!!!
พวกเราไปถึงสถานีเกือบสายเเล้วครับ ประมาณ 13.00 น. ซึ่งก็รีบไปซื้อตั๋วที่ช่องบริการ โดยรถจอดรออยู่ที่ชานชลาที่ 4
ราคาอยู่ที่ 80 บาทครับ โดยเราไม่ได้ซื้อตั๋วรอบกลับ เพราะเดินทางไปสายเเล้ว เจ้าหน้าที่เลยเเนะนำให้ซื้อที่สถานีปาดังเบซาร์ เราก็รีบวิ่งไปขึ้นรถไฟ ก็โชคดีครับที่ไปทัน บรรยากาศเเรกที่ขึ้นรถไฟคือ แอร์เย็นมาก !!! 555 ที่สำคัญคนเต็มรถเลยครับ
มีทั้งคนไทย และ พี่ ๆ ชาวมาเลเซีย ก็เลยหยิบกล้องเดินไปท้ายขบวนเพื่อจะเก็บรูปภาพบรรยากาศ 2 ข้างทางให้ได้เยอะที่สุดทริปนี้ เราโชคดีครับ มีผู้บริหาร (น่าจะเป็นหัวหน้า) ของรถไฟไทยเดินทางไปกับพวกเราเเล้วก็เเนะนำเรื่องต่าง ๆ พร้อมสอบถามว่าเราเดินทางไป-กลับด้วยไหม เพราะเจ้าหน้าที่จะได้ให้เบอร์โทร สอบถามเผื่อเราจะตกรถ (น่ารักจริง ๆ ครับ) เราก็ออกจากสถานีหาดใหญ่เวลา 13.15 นาที
สำหรับเส้นทางเดินรถไฟขบวนนี้ จากเวลาจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยจะจอดเเค่สถานีคลองเเงะ และ ปาดังเบซาร์โดยรวมเเล้วถือว่าค่อนข้างเร็วครับ รถไฟจะมี 1 ขบวน 2 คัน โดยจากการสอบถามนายสถานีก็จะมีจำนวน 128 ที่นั่ง เราเลยเดินมายังคันที่ 2 เพื่อเก็บบรรยากาศ 2 ข้างทาง ครับ
นี่คือบรรยากาศในขบวนรถครับ อาจจะดูไม่มีที่นั่งเเต่ถ้าใครซื้อตั๋วเเล้วก็พยายามเดินหาที่นั่งบริเวณท้าย ๆ ขบวนครับบรรยากาศก็จะมีทั้งชาวไทยเเละมาเลเซีย สำหรับตั๋ว จะไม่ระบุที่นั่งนะครับ เดินทางที่นั่งตามอัธยาศัยได้เลยนั่งไปประมาณ 10 นาทีก็จะเจอสุดหล่อของเรามาตรวจตั๋วครับ อย่าหายล่ะ ไม่งั้น คงต้องลงสถานีคลองเเงะเป็นเเน่เเท้ในรถไฟค่อนข้างสะอาดเลยครับ (เมื่อเปรียบเทียบกับขบวนอื่น ๆ ที่เคยนั่งมา) ห้องน้ำก็สภาพปล่อยหนักได้ครับ
บรรยากาศในขบวนเจอแอร์เย็น ๆ เเล้วจะทำอะไรหล่ะคร้บ 555
วันเดินทางของเราเป็นวันอาทิตย์หลายท่านดีทราบข่าว ก็พาลูก ๆ มานั่งรถไฟเล่นกัน ซึ่งในคร้งนี้เราเจอ สองครอบครัวครับ มีลูก ๆ หลานมากันเต็มเลย สำหรับการเดินทางขบวนนี้
บรรยากาศ 2 ข้างทางครับ เราตื่นเต้นตลอดช่วงการเดินทางเลยครับ 5555 อยากจะเก็บรูปให้เยอะที่สุด เเต่หลายท่านคงสงสัยว่าเราถ่ายรูปจากส่วนไหนเพราะขบวนเป็นตู้แอร์
มุมนี้เลยครับ ห้องคนขับ 5555 ก็ขออนุญาตพี่ ๆ เค้าเเล้ว ก็ขอกวนหน่อยเเล้วกันนะครับ 555 เเล้วเราก็มาถึงสถานีเเรกที่รถไฟจอดครับ นั้นคือสถานีคลองเเงะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
หลังจากสถานีคลองเเงะไม่นาน เราก็ถึงสถานีปาดังเบซาร์ฝั่งไทยครับ เราใช้เวลาเร็วมากครับ อาจจะเป็นเพราะ เราตื่นเต้นกับบรรยากาศ 2 ข้างทาง พอมาถึงสถานีนี้ มีผู้โดยสารลงจำนวนมากเลยครับ
สำหรับสถานีปาดัง (ฝั่งไทย) เป็นสถานีใหม่ที่เปิดมารองรับการเดินทางขบวนนี้เลยครับ สำหรับท่านใดที่อยากเดิน ทางท่องเที่ยวเมืองปาดังเบซาร์ ก็เดินทางได้ครับผมเเนะนำวันอาทิตย์รอบเช้าครับเพราะจะมีตลาดนัดปาดังเบซาร์ ก็จะมีของขายมากมายเลย เเต่เราเดินทางรอบบ่ายเเน่นอนครับ ปิดเเล้ว 555 เเล้วเราก็เดินทางอีกนิดเพื่อเข้าไปยัง สถานีปาดังเบซาร์ฝังมาเลเซีย (สถานีนี้เหละครับปลายทางขบวนนี้เเละเป็นช่วงต่อเพื่อที่จะเดินทางขึ้นรถไฟฟ้าด่วน ETS)
ถึงเป็นที่เรียบร้อยครับ สำหรับสถานีปลายทาง บรรยากาศต่างกับฝั่งไทยมากเลยครับ 555 เพราะสถานีปาดังเบซาร์ (ฝั่งมาเลเซีย) พัฒนามาเพื่อรองรับรถไฟฟ้าด่วน ETS เพื่อเดินทางไปยัง สิงคโปร์ สถานีก็ใหม่มากครับ เมื่อเราลงจากรถไฟเสร็จก็ต้องรีบไปที่ห้องตั๋ว เพื่อซื้อเที่ยวกลับหาดใหญ่ (ตรงนี้อย่าลืมเลยนะครับ) ซึ่งออกเดินทางเวลา 14:40 ถึง 15:35 น. มีเวลาให้เที่ยวประมาณ 40 นาที เราก็ลุยตลาดชายเเดน มาเลเซีย ซึ่งหลายท่านคงทราบว่า มีของขายราคาถูกจำนวนมาก โดยเฉพาะเสื้อผ้า ลุยยย !!!
ก่อนจะพาทุกท่านไปเที่ยวตลาดชายเเดนปาดังเบซาร์ ผมขอนำภาพบรรยากาศรอบ ๆ สถานีให้ชมกันครับ สำหรับผู้ที่ต้องการข้ามไปยัง ประเทศมาเลเซีย ด้วยรถไฟฟ้าด่วน ETS ก็สามารถจ๊อบพาสปอตจากที่สถานีได้เลยครับ
รถไฟขบวนนี้เหละครับ รถไฟฟ้าด่วน ETS สามารถเดินทางจากสถานีปาดังเบซาร์ (ฝั่งมาเลเซีย) ไปยัง KL หรือยะโฮได้ สำหรับใครต้องการรายละเอียดการจอง ก็สามารถคลิกไปอ่านได้เลยครับที่ http://pantip.com/topic/33929563
เราไปเดินเที่ยวตลาดชายเเดนกันเลยดีกว่าครับ !!!หลังจากถึงสถานี เราต้องข้ามฝั่งไปยังตลาดชายเเดนซึ่ง ตามหลักความถูกต้องเเล้วมันต้องนำพาสปอตไปด้วยครับ จ๊อบเเล้วข้ามไปยังทางเดินบนสถานีรถไฟ (หรือเรียกว่าทางเชื่อม ผมไม่เเน่ใจ) เเต่เนื่องจากวันนั้นเราไม่ได้เตรียม พาสปอตมา เเล้วเวลาเราก็มีน้อยมาก ก็เลยตีเนียน เเล้วก็เดินขึ้นบันไดไปยังทางเชื่อมได้ (มันไม่ใช่วิธีที่ดีนะครับ) ตามหลักเเล้วต้อง จ๊อบพาสปอต
ตรงนี้คือประตูที่มีบันไดเข้าไปทางเชื่อมครับ เเล้วเราก็เดินข้ามสะพานเพื่อเดินต่อไปยังตลาดชายเเดนครับ
บรรยากาศทางเชื่อมด้านบน ถ้าเราขึ้นไปเเล้ว ก็จะเจอร้านค้าเล็ก ๆ เพื่อบริการผู้ที่รอรถไฟเพื่อเดินทางไปยัง KL ครับ เราไปถึงเวลาบ่ายสอง ซึ่งถ้าดูจากนาฬิกาก็บ่ายสาม (เพราะเป็นเวลามาเลเซียครับเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง) ในช่วงหาทางขึ้น เราเสียเวลาไปเกือบ 10 นาทีครับ เหลือเวลาให้เที่ยวอีก 30 นาที ลุยต่อเลย !!
บริเวณทางเชื่อมด้านบนครับ มองลงข้างล่างก็จะเจอรถไฟขบวนที่เรามาครับ
เเละเเล้วเราก็เดินเข้ามายังตลาดชายเเดนปาดังเบซาร์ครับ ใช้เวลาจากสถานีประมาณ 6 นาที ข้อระวังเมื่อเดินลงจาก ทางเชื่อมสถานีรถไฟนะครับ จะมีพี่วิน รอเราอยู่บริเวณนั้นเเล้วจะคอยถามเราไปไหน ยิ้มเเล้วทำหน้าหมึน ๆ เเล้วเดินต่อครับ เพราะไม่งั้นจะเจอค่ามอเตอร์ไซต์ ราคาเเพงได้
พอเดินมาซักพักเราก็เจอตลาดครับ บริเวณนี้จะมีทั้ง ดิวตี้ฟรี เน้นขายน้ำหอมเเละนาฬิกาครับ เดินต่อไปอีกนิดเราจะเจอตลาดใหญ่ เหมือนอาคาร ประมาณ 2 ชั้นครึ่ง ซึ่งชื่อว่า ตลาดเปกันสยาม สวรรค์สำหรับนักต่อราคา เค้าว่ากันแบบนั้นอะนะครับ บริเวณปาดัง เบซาร์ มีร้านค้าเรียงรายกันอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า สิ่งทอ งานฝีมือ อาหาร ผลไม้ และของที่ระลึก ซึ่งตรงนี้คนเยอะมาก ผมไม่เเน่ใจว่าเปิดทุกวันรึเปล่านะครับ เเต่บรรยากาศโดยรอบ ๆ โอเครเลย
บรรยากาศรอบ ๆ จะเป็นร้านขายของเล็ก ๆ ครับมีทุกอย่าง ผ้านวม เสื้อผ้า รองเท้า โดยเฉพาะเสื้อกีฬา มีสโมสรเเถบบ้านเราด้วย รวมถึงรองเท้าครับ มีทั้ง nike adidas เเต่ทุกอย่าง copy หมดนะครับ 555 ราคาอยู่ที่ตัวละ 10 - 20 เหรียญ (1 เหรียญมาเล = 8.25 ไทยครับ) ในช่วงเวลานั้นนะครับ เพราะตอนนี้ค่าเงินมาเลเซียถูก เเต่เนื่องจากเวลาเร่งรีบก็ไม่ได้ซื้ออะไร ก็ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ครับ
พอเดินไปสุดทาง เราก็จะเจออาคารสองชั้นครึ่ง ที่บอกไปนะครับ เราเข้าไปดูกันครับว่าข้างในขายอะไรบ้าง ปล. บริเวณตลาด คนเยอะมากครับ สิ่งที่ควรระวังเหมือนทุกทีนั้นคือ กระเป๋าสตางค์ และถ้าไม่จำเป็นอย่าเข้าห้องน้ำที่นั้นครับ ^^
บรรยากาศ ตลาดเปกันสยาม จะมีประมาณ 2 ชั้นครึ่งครับ ลักษณะร้านค้าจะติดกัน โดยส่วนใหญ่ถ้าใครเคยเที่ยวหาดใหญ่ จะคล้ายกับ ตลาดกิมหยง หรือประมาณ ตลาดนัดจตุจักร ครับ ส่วนใหญ่ของที่ขาย ก็จะมาจากบ้านเรานิเหละครับ ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางเสื้อผ้า ของเล่นเด็ก มะม่วงหิมพาน ลิง (ที่ไปไหนก็เจอเเละมีทุกที่ในโลกใบนี้ที่ผมไป 555) ของเล่นเด็กราคาถูก ฯลฯ อีกมากมาย เเต่ถ้าเป็น เสื้อฟุตบอล ส่วนใหญ่ ของ copy ร้อยเปอร์เซนต์ ^^ ไปดูบรรยากาศด้านในกันครับ
ภาพสุดท้ายคือเจ้าลิงที่ผมบอกครับ 555 สำหรับความน่าสนใจที่ตลาดนี้คือราคาของครับ ค่อนข้างถูกเเละตอนนี้เงินมาเล ก็ถูกด้วย ถ้าใครคิดจะซื้อของติดไม้ติดมือก็ตามสบายเลยครับ เเต่สำหรับกระผมในทริปนี้ไม่ได้ซื้อเลยครับ ได้เเต่เดินผ่าน เพราะดูนาฬิกาก็ เหลืออีก 15 นาที ก็รีบเดินกลับไปยังสถานี เพื่อเดินทางกลับหาดใหญ่ครับ ^^
หลังจากนั้นเราก็รีบเดินกลับมายังสถานี เพื่อเดินทางกลับในขบวนเดียวกันกับที่มา รถออก 14.40 น. ครับ ก็จะไปถึงหาดใหญ่ประมาณ 15.35 น. ตรงนี้ก็อย่าลืมตั๋วนะครับ สถานที่ขายก็อยู่บริเวณชานชลาที่ 2 เลยครับ ทริปในวันนี้ก็จบลงครับ สำหรับท่านที่ต้องการเดินทางมาอย่างกระผม ผมเเนะนำให้มารอบเช้าดีกว่าครับ ก็จะออกจากหาดใหญ่ 07:30 ถึง 08:25 ครับเเล้วนั่งกลับเวลา เวลา 14.40 น. เราก็จะมีเวลาเที่ยวประมาณ 5 ชั่วโมง ก็จะไม่รีบแบบกระผมในวันนี้ครับ
สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าด่วน ETS จะไป KL หรือ ปีนัง ฯลฯ ลองดูเวลาตั๋วนะครับ อย่าลืมนะครับ เวลาในตั๋วรถไฟฟ้าด่วน ETS จะเป็นเวลามาเลเซีย คือเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง จากที่ทราบ รถไฟจะมี 2 รอบคือเช้า 07.30 น. (คือเวลา 06.30 น. ไทยนะครับ) และอีกรอบคือเย็น 17.30 น. (นั้นคือ 16.30 น.) นั้นคือใครที่เดินทางรอบเช้าถ้าคิดจะเดินทางต่อ ไม่ทันเเน่นอนครับ เพราะฉนั้นรอบบ่ายจะดีที่สุดครับ มาถึงเวลา 14.00 น. มีเวลาให้เดินเล่น เเล้วค่อยขึ้นรถไฟฟ้าด่วน ETS ต่อไปมาเลเซีย ครับ เเต่พวกผมก็ต้องกลับไปหาดใหญ่ ครับ ทริปนี้พวกผม 3 คนหมดไปคนละ 160 บาท x 3 เพราะไม่ได้ซื้ออะไรเลยครับ 555
และเราก็ถึงสถานีหาดใหญ่ประมาณ 15.25 น. พอดีครับ จบทริป Happy ครับผม มาถึงหาดใหญ่เรียบร้อย
การเดินทางครั้งนี้ เป็นอะไรที่รีบมากครับ เเต่ก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะเดินทางไปมาเลเซีย ด้วยวิธีจาก Hatyai ไปยังสถานีปาดังเบซาร์ ในเบื้องต้น ผมจะเดินทางด้วยวิธีนี้ในวันที่ 30 ธันวาคมที่จะถึงนี้ครับ เเน่นอนครับ จะมารีวิวการเดินทางด้วย รถไฟฟ้าด่วน ETS อีกครั้งครับ โดยมีโปรแกรมจะไป เคาท์ดาวน์ ที่ KL ครับ
ทริปนี้ต้องขอบคุณ น้อง ๆ ที่มาด้วยกันเเละภาพถ่ายบางภาพในกระทู้ครับ
Thank : Nat Natjadee & Wanicbut Wattanamatiphot
ติดตามเรื่องราวของผมได้ที่
instagram @iddekfilm
https://www.facebook.com/Isarapabc-153377218149435/
ที่สำคัญ ใครจะข้ามไปตลาดเหมือนกระผม อย่าลืม พาสปอตนะครับโผ๋มเพิ่มเติมอีกนิดครับ สำหรับใครชอบถ่ายเเนว ฮิปสเตอร์ พื้นที่เเถว ๆ สถานีรถไฟจะมีโกดังสินค้าเหมาะสำหรับคนชอบเเนวนี้เป็นอย่างมาก 555 ก็สามารถลงที่สถานีปาดังเบซาร์ ฝั่งไทย เเล้วเดินซ้ายมาให้สุดถนน ก็จะได้รูปประมาณนี้ครับ
Isarapab Chumruksa
วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.26 น.