รีวิวนี้...เราสองคน Bestie Wanderer จะพาไป เที่ยวมัลดีฟส์ 3 วัน 2 คืน กับประสบการณ์สุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต... ที่คนรักทะเลต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง...

ได้ไป Dream Destination อย่าง 'มัลดีฟส์' ทั้งที... ก็ต้องเต็มที่กันหน่อย และต้องได้ฟิลแบบนี้สิ! ได้บินกับ Bangkok Airways ได้ลองขึ้นซีเพลน ได้ว่ายน้ำกับกระเบนในทะเลสีฟ้าใสกริ๊ง ได้ดำน้ำดูปะการังริมหาดของรีสอร์ท ได้นอนรีสอร์ทระดับ 6 ดาวที่... "The St. Regis Maldives Vommuli Resort"


บิกินี่มีกี่ชุด ขนมาให้หมดจ้า เพราะจะได้ใช้คุ้มแน่!

เอะอะลงสระ เอะอะลงทะเล เปลี่ยนชุดถ่ายรูปรัวๆกันสักพันใบ ก็ไม่ต้องอายใครเด้อ


เผื่อใครชอบดูรีวิวแบบวิดีโอ ตามไปดูด้านล่างก่อนได้เลยจ้า


ฝาก VLOG แรกของพวกเราด้วยน้า

มันเต็มอิ่มปริ่มใจ น้ำตาจะไหล เป็นประสบการณ์ที่หาที่อื่นแทบไม่ได้เลยจริงๆ


สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ สำหรับทริปมัลดีฟส์ 3 วัน 2 คืน แบบบินสบาย นอนสบายในรีสอร์ท 6 ดาว

  • ค่าที่พัก วิลล่ากลางน้ำ คืนละ $2,784 (ราคารวมบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า) 2 คืน = 172,608 บาท
  • ค่า Seaplane จากสนามบินไปที่รีสอร์ท ไปกลับคนละ $665 2 คน = 41,230 บาท
    (ไปรีสอร์ทได้แต่ทางซีเพลน หรือ Charter Yacht เท่านั้น)
  • ค่าตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-มัลดีฟส์ Bangkok Airways ไปกลับคนละ ประมาณหมื่นกว่าบาท (ขึ้นอยู่กับช่วงที่เดินทาง)

*ช่วงที่เราไป เรทเงินประมาณ $1 = 31 บาท


การเดินทางไปมัลดีฟส์กับ Bangkok Airways

นี่เป็นการเดินทางไปมัลดีฟส์ครั้งแรกของเราสองคน เราเลยขอเลือกบินสบายๆ กับสายการบินฟูลเซอร์วิส อย่าง Bangkok Airways สะดวกสบาย ทั้งที่สนามบิน และบนเครื่องบินเลยน้า

  • ฟรีห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน มี Wi-Fi ให้เล่นเพลินๆ กินขนม จิบเครื่องดื่ม ระว่างรอเครื่องกันได้ไม่อั้น
  • ฟรีน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม ทุกเส้นทาง
  • ฟรีบริการเลือกที่นั่ง
  • ฟรีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

บางกอกแอร์เวย์สบินตรง กรุงเทพฯ – มัลดีฟส์ทุกวัน โดยเครื่องบินแบบแอร์บัส 319 ขนาด 120 ที่นั่ง นั่งสบายๆแค่ 4 ชม. ก็ถึงมัลดีฟส์แล้วจ้า

  • ขาไป ออกจากกทม. 09.20 น. ถึงมัลดีฟส์ 11.45 น.
  • ขากลับ ออกมัลดีฟส์ 12.40 น. ถึงกทม. 19.20 น.

ถ้าได้ลองบินกับบางกอกแอร์เวย์สสักครั้ง เราเชื่อว่าจะติดใจ เหมือนเราสองคนแน่นอน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสํารองที่นั่งได้ที่ www.bangkokair.com

หรือ Call Center โทร.1771


Bangkok Airways Blue Ribbon Lounge

เราส่วนใหญ่น่าจะเคยทราบมาก่อนแล้วว่าสำหรับใครที่จองตั๋วเครื่องบินของ Bangkok Airways จะได้เข้าใช้บริการ Lounge ของ Bangkok Airways กันทุกคน แต่ถ้าจองแบบ Business Class จะได้สิทธิเข้า Lounge ที่หรูขึ้นมาอีกด้วย คือ "Blue Ribbon Lounge" นั่นเอง

สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ ตัวเลือกของอาหารและเครื่องดื่มมีมากขึ้น หลากหลายขึ้น และ Premium ขึ้นด้วย เดี๋ยวลองดูรูปด้านล่างนี้กันได้เลยจ้า



บรรยากาศด้านในห้องโดยสารชั้น Business Class


บรรยากาศห้องโดยสารแบบ Economy Class


หลังจากเดินทางบินมาสี่ชั่วโมงกว่า เราก็มาถึง สนามบิน Velana International Airport เมือง Male ทันทีที่เราลงจากเครื่องและผ่านตม.เรียบร้อยแล้ว ก็ไปรอรับกระเป๋า และตรงประตูทางออก จะเจอกับเจ้าหน้าที่จากรีสอร์ท มาถือป้ายรอรับเราอยู่ เค้าจะมาช่วยพาเราไปเช็คอินกับ Sea Plane ที่ทางรีสอร์ทจองไว้ให้เรียบร้อย ถ้าใครไม่ได้จองล่วงหน้า ก็สามารถมาจองตรงนี้ได้เลยเช่นกัน


หลังจากเช็คอินกับ Seaplane เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาเราไปขึ้น limousine ที่รีสอร์ทเตรียมมารับ เพื่อพาเราไปรอขึ้น Seaplane ที่ The Great Room ซึ่งเป็น Lounge ส่วนตัวของ The St. Regis ค่ะ


บริเวณ Lounge ส่วนตัวของรีสอร์ท ระหว่างนั่งรอ Seaplane เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราเช็คอินตรงนี้เลย เพื่อที่ไปถึงรีสอร์ทแล้วเราจะได้เข้าห้องพักได้ทันที ไม่ต้องเสีบเวลาทำเรื่องเช็คอินอีก ซึ่งเราว่าเป็นสิ่งเล็กๆที่ดีนะคะ เวลาเดินทางไปเหนื่อยๆ เราก็อยากจะเข้าพักทันที ไม่อยากนั่งรอเช็คอินนานๆเหมือนกัน ปลื้มในความใส่ใจในการบริการของเค้าตั้งแต่ยังไม่ถึงรีสอร์ทเลยล่ะค่ะ สมกับเป็นโรงแรม SPG Category 7

และก็มีอาหารว่างให้ทาน และจิบเครื่องดื่มชิลๆ นั่งมองวิวสวยๆ น้ำทะเลใสๆไปเพลินๆ ใครอยากอาบน้ำก็มีห้องอาบน้ำให้ด้วย หรือถ้าอยากนั่งเล่นเน็ตอัพรูปเก๋ๆ ก็มี Wi-Fi แรงๆให้เล่นค่ะ


พอใกล้ถึงเวลาที่เราต้องขึ้น Seaplane เจ้าหน้าที่จะพาเราไปที่อีกห้องหนึ่งเพื่อชม Safety Video ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นก็ถึงเวลา Boarding Time ได้ขึ้นเครื่องกันอีกรอบจ้า


บรรยากาศบน Seaplane ก็จะคับแคบหน่อย แต่วิวสวยจริงอะไรจริง ถ้ามามัลดีฟส์ครั้งแรก แนะนำให้ลองนั่งสักครั้งแล้วจะติดใจกับวิวเกาะเล็กเกาะน้อยนับร้อยนับพันเกาะที่เราเห็นระว่างทาง มันสวยมากๆจริงๆนะ



รีวิว The St. Regis Maldives Vommuli Resort

3 วัน 2 คืน กับการนอนพูลวิลล่ากลางทะเล 'มัลดีฟส์' ยิ่งกว่าสรรค์ชั้น 7 ใน Luxury รีสอร์ท หรูหรา ระดับ 6 ดาว พร้อม Butler ส่วนตัว บริการ 24 ชม. ราวกับเป็นเจ้าหญิง ที่ถือเป็น Signature Service ขึ้นชื่อของโรงแรมแบรนด์นี้... ที่นี่ The St. Regis Maldives Vommuli Resort


หลังจากขึ้น Sea Plane จากสนามบิน Velana International Airport มาได้ประมาณ 45 นาที ในที่สุด... เราก็มาถึง The St. Regis Maldives Vommuli Resort กันแล้วจ้า!

First Impression เป็นสิ่งสำคัญเสมอ และนี่คือภาพแรกที่เราเห็นรีสอร์ทจากบนซีเพลน ความรู้สึกแรกเลยคือสวยมากและตื่นเต้นนนนนมาก ได้มาสักที รีสอร์ทในฝันของเรา


ต้นมะพร้าวกลางเกาะ ทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าไล่ระดับไปเรื่อยๆจนเป็นสีน้ำเงิน ปะการังหน้าหาดแน่นมาก แบบนี้แหละ เสน่ห์ มัลดีฟส์ ของจริง


หลังจากที่เราลงจากซีเพลน Butler ของเราก็จะเข้ามารับเรา พาเราไปนั่งพักและดื่มน้ำมะพร้าวเย็นๆชื่นใจให้หายเหนื่อยจากการเดินทางกันก่อน จากนั้นเราจะเข้าห้องพักกันค่ะ

จากที่เราอ่านรีวิวมี หลายรีสอร์ทที่มัลดีฟส์ ไม่มีท่าจอด Seaplane ถ้านั่ง Seaplane มา จะต้องลงจอดกลางทะเล และนั่งเรือต่อเพื่อเข้ารีสอร์ทอีกครั้ง แต่สำหรับที่ The St. Regis Maldives Vommuli Resort เค้ามีท่าจอด Seaplane ส่วนตัว ทำให้เดินทางด้วย Seaplane ได้สะดวก จอดที่รีสอร์ทได้โดยตรง ไม่ต้องต่อเรืออีกครั้ง ซึ่งจุดนี้เราว่าช่วยให้สะดวกสบายมากทีเดียวค่ะ


อยู่นี่นอกจากจะมีบัทเลอร์ส่วนตัวคอยรับส่งแล้ว เรายังชอบปั่นจักรยานเล่นให้ทั่วเกาะ กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวของรีสอร์ท รับรองว่าปลอดภัย ไม่หลงแน่นอน



หลายคนถามว่ามามัลดีฟส์กับเพื่อนเนี่ยนะ มาทำอะไร?? เอ้าาา ที่สวยๆแบบนี้ จะมากับเพื่อนคู่ซี้สักคนก็ไม่เห็นแปลก...

มากับเพื่อนนี่สิมันส์ กิน ดื่ม ชิล เต็มที่ อะไรก็ได้ง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องคิดมาก ยิ่งถ้าชอบถ่ายรูปเหมือนอีก นี่ยิ่งเพลินไปกันใหญ่เลยล่ะ


Overwater Villa with Pool

ภายในห้อง Overwater Villa with Pool กว้าง 182 ตรม. มี Facilities ครบครัน (เกินพอซะด้วยซ้ำนะเราว่า 555) ไม่ว่าจะเป็น เตียง St.Regis Signature Bed King Size นุ่มสบายกำลังดี


และในห้องยังมีตู้แช่ไวน์ เค้าท์เตอร์ผสมค้อกเทล ทีวีจอเบิ้ม 55 นิ้ว พร้อม Apple TV และที่เราชอบมากคือ ระบบต่างๆของห้อง ทั้งเปิดปิดทีวี ไฟ ม่าน รูมเซอร์วิส สั่งงานผ่านไอแพดจ้าาา ไฮเทค ล้ำไปอีก เด้อออ สมกับเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ทันสมัยที่สุดและดีที่สุดในมัลดีฟส์


ในส่วนของห้องน้ำ นี่ก็สามารถ เปิดประตูเดินทะลุมาจากห้องนอนได้เลย และสามารถเปิดประตูลงสระ และเดินลงทะเลได้เลยอีกด้วยน้า


แน่นอนว่า Amenities ที่นี่ เค้าจัดมาให้แบบครบมาก เรียกได้ว่าไปแต่ตัว ก็ไหว มีทั้งสบู่ ยาสระผม ครีมกันแดด ที่โกนขน แหนบ กรรไกรตัดเล็บ ไดร์เป่าผม และอื่นๆที่เราคาดไม่ถึงอีกเพียบเด้อ

มีห้องส้วมและห้องอาบน้ำแบบฝักบัวแยกออกไปอีกต่างหาก แต่เราชอบอ่างมากกก ก็ดูสิ วิวแบบนี้ เปิดน้ำอุ่นแช่ไป ดูวิวไป ฟินไปอี้ก


ด้านนอกของวิลล่า มีสระว่ายน้ำ เตียงอาบแดด บันไดลงทะเล และเปลที่ทำให้เหมือนเรานอนลอยกลางน้ำแบบนี้ หื้มมมม ชิลไปอีกเนาะ




นี่แหละมุมโปรดของเรา นั่งๆนอนๆเดินๆวนไปอยู่ตรงนี้ กับวิวแบบนีไม่เบื่อเลยจริงๆน้า







Welcome Drink ของที่นี่ นอกจากจะมีน้ำมะพร้าวให้ตอนเราทันทีที่ลงจากซีเพลนแล้ว เค้ายังเตรียม Prosecco เย็นๆไว้ให้เราในห้องอีกขวดนึงด้วย เห็นแล้วยิ้มเปรมกันเลยจ้าา


ช่วงเวลาแห่งความชิลที่สุดของเราสองคน

ได้จิบไวน์ไป แช่น้ำไป ชมวิวสวยๆไปด้วยแบบนี้... มันเหมือนที่เคยฝันไว้เลยจริงๆ



เหมือนมีสระว่ายน้ำสีฟ้าใสกริ๊งใหญ่เบิ้มอยู่หน้าบ้านเลยเนาะ บรรยากาศแบบนี้ จะไปหาที่ไหนได้อีกน้อออ


ภาพ Overwater Villa ยามค่ำคืน ก็สวยไปอีกแบบ ได้บรรยากาศไม่แพ้ตอนกลางวันเลยล่ะค่ะ



Iradium Spa

ตรงนี้คือ Iridium Spa ของทางรีสอร์ท บอกเลยว่า ถ้ามาพักที่นี่ ยังไงก็ต้องห้ามพลาด อย่าลืมมาใช้บริการสปากลางน้ำแห่งนี้นะคะ





ที่สปาแห่งนี้ มีบริการทรีตเม้นท์และนวดหลายแบบ แต่เราสองคนเลือกลองใช้บริการแช่ตัวในสระสปาแบบ hydrotherapy แบบนี้ ราคาคนละ USD60 สำหรับ 1 ชั่วโมง

ระบบนวดด้วยน้ำในสระสปา ทำให้เราผ่อนคลาย สบายๆ อย่างบอกไม่ถูก ต้องมาลองสักครั้งนะคะ


ระหว่างแช่ตัวกันอยู่ มีซีเพลน landing ลงมาต่อหน้าต่อตาพอดี เราสองคนก็ตื่นเต้นกันใหญ่สิคะ 5555



นี่คืออีกหนึ่งจุดเก๋ๆในสปา ตรงพื้นจะเป็นกระจกกลมๆแบบนี้ มองลงไปเห็นปลาว่ายอยู่ในน้ำใสๆจากตรงนี้เลยล่ะ เก๋กู้ดมากเลยช่ายมั้ยเนอะ


ชั่วโมงนี้เราจองและครองที่นี่กันจ้า สระสปาทั้งสระเป็นของเราสองคนเท่านั้น ดีงามเนาะ


Iridium Spa จากมุมสูงกันบ้าง สปากันกลางน้ำแบบนี้ มีที่นี่ที่มัลดีฟส์เท่านั้นเลยน้า




รีวิว บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า

บริเวณนี้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ส่วนกลาง ที่รวม Facilities หลายอย่างไว้ที่นี่ ทั้งห้องอาหาร บาร์ สระว่ายน้ำ ห้องสมุด และอื่นๆอีก



แวะมานั่งดื่มชิลๆริมสระว่ายน้ำกันบ้างเนาะ




ถึงทุกวิลล่าจะมีสระส่วนตัว แต่ที่ The St. Regis Maldives Vommuli Resort ก็มีสระว่ายน้ำส่วนกลาง ที่สวยวิวมากๆด้วย เลือกไม่ถูกเลยล่ะค่ะทีนี้ ว่าจะเล่นสระในวิลล่า เล่นน้ำทะเล หรือสระส่วนกลางดี




บรรยากาศของห้องอาหาร Alba มีทั้งโซน indoor ห้องแอร์ และ outdoor เลือกกันได้ตามสบายเลย




เรานั่งทานอาหารเช้ากันริมสระ พร้อมวิวแบบนี้เลย อาหารก็อร่อย บรรยากาศดี อากาศก็ดี อยากย้อนเวลากลับไปอีกซะเดี๋ยวนี้เล้ย



นี่คือส่วนหนึ่งของเมนูอาหารเช้าที่ The St. Regis Maldives Vommuli Resort

ก่อนมาที่นี่ บอกตามตรงเราคิดว่าต้องกินอาหารบ้านเค้าไม่ได้แน่เลย แต่เอาเข้าจริง ก็อร่อยเลยนะ และเพราะที่นี่เป็นโรงแรมแบรนด์ worldwide เค้ายังมีเมนู international เยอะพอสมควร

เมนูอาหารเช้าจะรวมพวก ซูชิ ซาชิมิ ไข่เจียวล็อปสเตอร์และปูอลาสก้า ฟัวกราส์ และแม้กระทั้ง Ribeye steak ก็มีให้กินแบบไม่อั้นด้วย


อีกมุมนึงของรีสอร์ทที่สวยมาก คือ Whale Bar ตอนเย็นจะเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดจุดหนึ่งของรีสอร์ท เหมาะกับมานั่งจิบ Cocktails ชมวิวสวยๆ แต่น่าเสียดายที่ช่วงที่เราไป มีฝนตกตอนเย็น และเมฆเยอะช่วงเย็น เลยอดเห็น Sunset ที่นี่เลยล่ะค่ะ


ต่อไปเราจะพาไปดู Villa ริมหาดของที่ The St. Regis Maldives Vommuli Resort กันบ้างค่ะ เผื่อใครสนใจไปพักที่นี่ แต่งบไม่ถึงห้องแบบ Overwater เราว่า Villa ริมหาดของที่นี่ก็ดีไซน์สวยไปอีกแบบไม่แพ้ห้องกลางน้ำเลยนะคะ


ที่ The St. Regis Maldives Vommuli Resort วิลล่าทุกหลังจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นวิลล่าริมหาดหรือวิลล่ากลางน้ำ ก็สามารถชิลและผ่อนคลายในสระได้ทั้งวัน


ห้องนี้ชื่อ Garden Villas With Pool กว้าง 150 ตรม. อาจจะเล็กกว่า Overwater Villa เล็กน้อย แต่รับรองได้เลยว่า amenities จัดเต็มเหมือนกัน และ layout ของห้องไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน



ห้องน้ำของ Garden Villa With Pool ก็มีทั้งส่วน Indoor และ Outdoor กว้างจนอยากพาเพื่อนๆมานอนในนี้กันอีกสี่ห้าคนเลยล่ะค่ะ (แต่โรงแรมคงไม่อนุญาต แหะๆ ^^")


เราชอบดีไซน์ของวิลล่านี้มาก เราว่ามันเข้ากับบรรยากาศที่ล้อมไปด้วยต้นมะพร้าว และหาดทรายขาวๆทะเลใสๆหน้าห้องอย่างบอกไม่ถูก



อีกหนึ่งข้อดีของวิลล่าริมหาดคือ เดินจากห้องแค่ไม่กี่ก้าว เราก็ลงมาที่หาดได้เลย นั่งชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าริมหาดก็สวยไม่แพ้วิวจาก Overwater Villa เนาะ


ว่ายน้ำกับกระเบนที่มัลดีฟส์

มามัลดีฟส์มันต้องได้ feeling แบบนี้สิ... ว่ายน้ำกับฝูงกระเบนในทะเลสีฟ้าใสกริ๊ง ตรงริมหาดของรีสอร์ท เป็นประสบการณ์ที่หาที่อื่นแทบไม่ได้เลยจริงๆ เราโชคดีมากที่กระเบนว่ายมาหน้าวิลล่าของเราพอดี และถ่ายภาพไว้ได้ทันพอดี

สำหรับใครที่กังวลว่าจะโดนกระเบนทำร้าย สำหรับเรา ที่เราเจอกับตัวเองคือ กระเบนจะว่ายน้ำหนีเราไวมากๆมากกว่า ไม่ได้เข้ามาใกล้เลย และถ้าเรายังพยายามว่ายเข้าหามันเท่าไหร่ มันยิ่งว่ายหนีออกไปไวมากๆและไกลกว่าเดิมอีกค่ะ เราไม่สามารถถ่ายภาพได้เลยจ้า ภาพทั้งหมดกับกระเบนที่เราลง เราแคปเจอร์มาจากวิดีโอมุมสูงอีกทีค่ะ

3 วัน 2 คืนที่ The St. Regis Maldives Vommuli Resort ผ่านไปไวเพียงพริบตาเดียว... ทริปนี้เป็นทริปที่ 'บินดี อยู่ดี' เปย์ตัวเองแบบเต็มที่สุดในชีวิต เต็มที่กับการพักผ่อนสุดๆ จนไม่อยากกลับเลยล่ะ


'มัลดีฟส์ ก็คือ มัลดีฟส์'

มันสวยเกินคำบรรยายจริงๆ

สำหรับเรา...ไม่มีที่ไหนมาแทนได้จริงๆนะ

เราตั้งใจแล้วว่า...เราจะกลับไปมัลดีฟส์อีกครั้งเร็วๆนี้อย่างแน่นอน!


ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาถึงตรงนี้นะค้า

แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางครั้งต่อไปของเรา #คู่ซี้ตะลอนโลก เร็วๆนี้นะคะ

ติดตามอ่านรีวิวอื่นและดู VDO ท่องเที่ยวแบบฉบับสองสาวคู่ซี้ได้ที่ช่องทางด้านล่างนะคะ

Facebook: https://www.facebook.com/bestiewanderer/

ความคิดเห็น