สวัสดีค่าาาา ทริปนี้เป็น One day Trip ปุ๊บปั๊บทัวร์ คือนัดกับเพื่อนวันนี้พรุ่งนี้ไปเลยจ้า ที่เราเลือกไปเมืองกาญเพราะว่าบ้านเราอยู่สุพรรณ5555 อยู่ติดกันเลยสามารถไปเที่ยววันเดียวได้อย่างสบาย จริงๆจังหวัดกาญเป็นจังหวัดที่มีความอุมดมสมบูรณ์และมีทรัพยากรหลากหลาย สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เป็นจังหวัดที่เราชอบมากกกกกก มีธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แถมอยู่ใกล้กรุงเทพอีกด้วย เรียกได้ว่าไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลยจริงๆ

ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตอนแรกจะไปรถเมล์แต่คิดว่าวันเดียวไม่น่าจะพอ555 เพื่อนเราเลยอาสาเป็นดารา เพราะว่าให้แฟนคลับ(ขับ) พาไป เดี๋ยวๆๆนี่มุกหรือเปลือกหอย!!

ว่าด้วยเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว เอาจริงๆไม่รู้ด้วยว่าจะไปไหนกันดี ปกติเป็นคนที่ไปเที่ยวแล้วไม่มีแพลนห่าเหวอะไรเลย5555 อยากไปไหนก็ไป เน้นไปก่อนค่อยว่ากัน คนขับก็ไม่รู้ทางอีก เอาแล้วเรา ทริปนี้จะรอดมั้ย!! เราเลยอาสาเขียนโปรแกรมทัวร์ให้ เอาล่ะ!! ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์ก็วันนี้แหละเรา...

โปรแกรมทัวร์ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว รออะไรล่ะพวกเรา ไปลุยกันเล๊ยยยยย!!


วันเดินทาง. . .

ไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลที่ "วัดถ้ำเสือ" เพื่อเพิ่มแต้มบุญให้คนบาปอย่างเรา

สถานที่แรกที่เราไปกันก็คือ "วัดถ้ำเสือ" วัดนี้ควรค่าเหมาะแก่การไปมาก ใครที่ไปกาญแล้วไม่ได้ไปที่วัดนี้นี่ถือว่าพลาดมาก เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ท่ามกลางทุ่งนาและขุนเขา มองเห็นวิวเขื่อนแม่กลองด้วย เราไปกาญมาก็หลายครั้ง แต่เพิ่งมีโอกาสได้ไปวัดนี้เป็นครั้งแรก พอได้เห็นนี่ถึงกับตาค้างเลย!! กินกาแฟมาเมื่อเช้า ถรุยยยย55555 แต่สวยจริงๆ ประทับใจมากๆ


ด้านหน้าทางขึ้นเป็นลานจอดรถ


บันไดทางขึ้นสำหรับคนที่ข้อเข่ายังสภาพดีอยู่ แต่ถ้าใครรู้สึกว่าเดินไม่ไหว ทางวัดมีบริการรถรางขึ้นไปถึงข้างบนด้วยน้าาาา แต่ราคาเท่าไรนี่จำไม่ได้555 แต่ว่าไม่แพงๆ


ถึงแล้วด้านบน ของก็ไม่เยอะแต่ทำไมหอบ... แฮ่กๆๆๆๆ!!





มาวิวชมสวยๆรอบวัดกันดีกว่า...



ที่นี่ชื่อวัดถ้ำเสือ ก็ต้องมีถ้ำเสืออยู่แน่นอน แต่เราไม่ได้เข้าไปเพราะว่าเสือสองตัวมันอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ แฮร่!!จริงๆแล้วเราเหนื่อยกันมากๆ เหมือนตื่นมาออกกำลังกายยามเช้าอ่ะ เลยขอพักก่อน5555555

ได้เวลาอันสมควรแล้ว เพราะแค่ขึ้น-ลงบันไดวัดก็เหนื่อยเหมือนหมาหอบ สถานีต่อไป "มีนาคาเฟ่" เย้!!

"มีนาคาเฟ่" เป็นคาเฟ่สุดชิคที่มีสะพานยื่นออกไปกลางทุ่งนา หลังวัดถ้ำเสือเลย ที่นี่บรรยากาศดีมาก เหมาะแก่การนั่งชิลๆจิบชากาแฟ ทานของหวานให้ชื่นใจ หลังจากที่เหนื่อยหอบมาจากการเที่ยววัด แต่เสียดายวันที่เราไปเป็นวันเสาร์ ซึ่งคนเยอะมากกกกกกก!! แทบล้นร้าน ถ้าเดาไม่ผิดเหมือนจะมีทัวร์มาลง ไม่มีที่จะนั่ง (ปาดน้ำตาTT) เราเลยตัดสินใจบอกกัปตันให้เลี้ยวหัวรถ มุ่งหน้าไปสถานีต่อไปคือ "สะพานข้ามแม่น้ำแคว"


ไปนอนบนรางให้รถไฟเหยียบเล่น ที่ "สะพานข้ามแม่น้ำแคว"

มาถึงกาญแล้วก็ต้องมาที่นี่ (ถึงแม้ว่าเราจะมาเป็นร้อยๆครั้งแล้วก็ตาม5555555) เพราะว่าสะพานข้ามแม่น้ำแควนี้เป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองแหน่ะ พวกเราจึงแวะมาถ่ายภาพชิคๆกันก่อนที่จะไปกินข้าว เป็นการฆ่าเวลา อิอิ

เพราะทุกวันคือรันเวย์ ถ่ายรูปยังไงให้คนมอง ล่าสุดนี่หลังไหม้ไปแล้วค่ะคุณณณณณ5555555555

ท้องฟ้าที่สวยสดใส ย่อมมาพร้อมแดดแรงๆเป็นธรรมดา ถ่ายรูปจนเหนื่อยแล้วชักเริ่มหิว กัปตันขามุ่งหน้าไปกินกันเลยค่าาาาาาา


ฝากท้องต้องไปโรงพยาบาล ถ้าอยากรับประทานต้องไป "คีรีมันตรา"

ถึงแล้วววววววว!! ร้านอาหารคีรีมันตรา ร้านนี้เคยเห็นคนแชร์ในเฟสบุ๊ค เราเลยเข้าไปส่องดู บรรยากาศดีมากๆ เลยตัดสินใจว่าร้านนี้แหละเป็นร้านที่ข้าจักต้องไปลิ้มลองให้ได้ ระหว่างทางที่ขับรถมาก็ดีงาม อยู่ไม่ไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว ขับรถมาประมาณ 15 นาทีก็ถึงล้าวววว ลานจอดรถเค้านี่กว้างขวางน่าเอาฟุตบอลมาเตะเล่น

ห้องน้ำที่นี่โคตรหรูอยู่สบาย แอร์เย็นฉ่ำ สะอาดเอี่ยม นี่ห้องน้ำหรือคอนโดเปิดให้เช่าเนี่ย?555555555

แค่ห้องน้ำยังดีงามขนาดนี้ มาดูบรรยากาศภายในร้านกันบ้างดีกว่า...



โอ้โหพระเจ้าาาาาา วิวที่นี่โคตรสวยยยยยยยย!! ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปกินข้าวที่ไหนที่บรรยากาศดีขนาดนี้เลย เพราะปกติกินแต่ข้าวข้างถนน แย่งไอ้ด่างกิน555555555 แต่มันสวยจริงๆนะ ต้องมาเห็นด้วยตาของตัวเองอ่ะ พูดแล้วจะหาว่าคุย

หิวก็หิว วิวก็สวย ถ่ายรูปก็อยากถ่าย งั้นขอสั่งข้าวก่อนดีกว่า เพราะว่าเรื่องกินสำคัญที่สุด55555

ต้มยำปลากระพง

เมี่ยงปลาทับทิม

ปลาช่อนคีรีมันตรา

รสชาติอาหารโดยรวมถือว่าอร่อย ปลาสด สะอาด รสชาติเข้มข้น ออกเปรี้ยวหวาน ปกติแล้วเราเป็นคนชอบทานอาหารรสจัด เปรี้ยวหวานนี่เข้าทางเลย เพราะชอบมากกกกกก ราคาปานกลาง ไม่แพงมาก มื้อนี้เลยฟินกินจนพุงกางกันไปเล๊ยยยยยย

เมื่อสวาปามกันจนอิ่มหนำสำราญแล้วก็ได้เวลาเที่ยวต่อ สถานีต่อไปตามโปรแกรมคือ เมืองมัลลิกา แต่จู่ๆเพื่อนก็บอกว่าร้อนอยากไปเล่นน้ำตก เปลี่ยนไปน้ำตกเอราวัณกันมั้ย เราก็เอ้อไปสิ เวลามีเหลือเฟือ ไปก็ไป ทั้งๆที่ทุกคนไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าอะไรกันมาเล๊ยย555555 ปุ๊ปปั๊บทัวร์จริงๆเธออออ!!

ถึงแล้วววววว น้ำตกเอราวัณของพวกเราาาา เย้ๆๆๆ แต่ว่า...ไม่ได้เล่นน้ำจ้าาาาา น่าอนาถใจจริงๆ ฮือๆๆ พอเดินเข้าไปถึงชั้นแรก คนเยอะอย่างกับฝูงมอด!! ก็นี่มันวันเสาร์นี่นา ทำได้เพียงเอาเท้าจุ่มๆให้รู้สึกว่านี่น้ำตกนะเว้ย เราโดนน้ำตกแล้วนะ ไรงี้55555555 โถ่วววววววว

ในเมื่อไม่ได้เล่นน้ำ เวลาก็ยังเหลือสิ่ เราจะไปไหนกันดีน้าาาา เขื่อนศรีนครินทร์ไงยูว์!! อยู่ใกล้น้ำตกสุด จัดไป เอาให้คุ้มค่าเข้าอุทยานคนละ 50 บาท ซื้อส้มตำไปนั่งกินด้วยดีกว่า ของเก่ายังไม่ย่อยเลยมั้ง555555


ชมบรรยากาศสุดฟิน ที่ "เขื่อนศรีนครินทร์" สิคะคุณณณณ

มาที่เขื่อนศรีนครินทร์ เราก็ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรกันมาก นอกจากนั่งจกส้มตำกันนัวๆ55555 ก็เรามันสายแดรกนี่นา แน่นท้องแล้วก็ไปถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆ

ชอบเวลาที่แดดจ้า เพราะว่ามันทำให้ท้องฟ้าสวยสดใส ^_^

ได้เวลากลับบ้านกันแล้วพวกเรา เดี๋ยวแม่ด่า55555 จบแล้วค่า กับ One Day Trip ในเมืองคานชานะบุรีย์ (สำเนียงอังกฤษ) เมืองกาญจนบุรีนี่แหละ เป็นวันเดียวที่โคตรคุ้มค่า มีความสุขมากๆ ได้เที่ยวกับเพื่อนในรอบหลายปี เพราะปกติเราจะเที่ยวคนเดียวตลอด มีคนเม้าด้วยตลอดทาง พูดไม่หยุด พูดจนคอแห้ง หัวเราะจนเจ็บคอ มันก็สนุกไปอีกแบบนะ แต่ไม่ว่าจะแบบไหนถ้าได้ไปเที่ยวเรามีความสุขหมด ถ้ามีโอกาสเราจะกลับไปอีกเด้อ : )


สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ

ค่าน้ำมันหารกัน 4 คน คนละ 250 บาท

ค่าอาหารกลางวัน คนละ 250 บาท

ค่าเข้าอุทยานคนละ 50 บาท

ค่าอื่นๆตามแต่ใจเธอจ้าาา :P

ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านนะคะ สามารถติชมกันได้จ้าาา ครั้งแรกมันก็จะงงๆหน่อย5555 ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆไปผจญภัยที่ไหน ฝากติดตามกันด้วยนะคร้าบบบบบบ บั๊ยบายยยย. . .

Naree'Route

 วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.34 น.

ความคิดเห็น