เช้าวันใหม่ เราตะลอนทัวร์กันอีกวัน สำหรับวันนี้เราจะไปนั่งรถไฟ JR East อีกสายที่ยังไม่เคยใช้บริการ นั่นคือเจ้าเหยี่ยว Hayabusa ซึ่งใช้ความเร็วถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้วิ่งถึงเกาะฮอกไกโดกันเลย แต่เราขอไปแค่ใกล้ๆ อย่างเมืองเซนได (Sendai) แค่นั้น

uzjnsi177yw2
1uax2a3ujwtj

เมื่อไปถึงเซนได พี่ใหญ่เสนอว่าเรานั่งรถไฟไปเที่ยวนอกเมืองกันดีกว่า จริงๆ ไม่ต้องถามเลยค่ะ จัดเลย

เราไปต่อรถไฟ JR สาย Senzan Line ซึ่งวิ่งระหว่างสถานียามากาตะ (yamakata) กับ สถานีเซนได (sendai) โดยมีจุดหมายที่สถานียามาเดระ (Yamadera Station) จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ

szodx38w901y

เมื่อนั่งรถไฟมาเรื่อยๆ เริ่มมีสิ่งผิดสังเกตค่ะ นอกจากข้างทางมีแต่ป่ากับภูเขาแล้ว สองข้างทางยังคงมีร่องรอยของหิมะและน้ำแข็งที่ยังไม่ละลายให้ได้เห็นตลอดทาง

dh64kk4nn09m
xerqmw1odwv4
m4nd9duks1sd
kqgj728h0ih8

เมื่อถึงสถานีปลายทาง จุดที่เขามากันคือวัดยามาเดระ (Yamadera Temple) เมื่อออกจากสถานียามะเดระเดินเท้าเพียง 5 นาที ผ่านร้านค้า และร้านอาหารต่างๆ รวมถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขนาดเล็กซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งของสะพาน เมื่อเดินข้ามสะพาน แล้วเลี้ยวไปทางขวาก็จะเห็นบันไดทางขึ้นวัด

enxif0v0as1r
7hrmfwbkrop9
uive4jd371ox
v0vcfg66tklw
lsot2yoprqiy
1b31hf4uymjf

Yamadera นั้น ถ้าแปลตรง ๆ จากภาษาญี่ปุ่น จะแปลได้ว่า "ภูเขา" และ "วัด" เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดบนภูเขาค่ะ กุารจะไปวัดนี้ก็ต้องเดินขึ้นบันไดไปบนภูเขา ที่นี่เป็นวัดของนิกายเทนไดที่สวยงาม ตั้งอยู่ในภูเขาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองยามากาตะ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.860 มีอายุมากกว่า 1,000 ปี มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Risshakuji เนื่องจากพื้นที่ของวัดครอบคลุมถึงบนเนินเขาลาดชัน ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหุบเขาที่สวยงามได้อย่างชัดเจน

7i93jlfsedgu
i5cd3st35qi7
atda08z2ubj3

ในช่วงต้นสมัยเฮอัน(ค.ศ.794-1185) จักรพรรดิเซวะ ได้ส่งพระสงฆ์ Jikaku Daishi ไปยังชายแดนของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) และได้สร้างวัดยามาเดระขึ้น วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีนักกวีชื่อดัง Basho ได้มาเยี่ยมชมแล้วแต่งกลอนไฮกุอันไพเราะไว้ที่นี่ ซึ่งเกี่ยวกับความนิ่งและเงียบสงบของพื้นที่แห่งนี้ ปัจจุบันมีรูปปั้นของกวี Basho และแผ่นหินจารึกตั้งอยู่ด้านล่างของวัด

yqf4l6epqh5y
k2ad7qtyp1k0
z48dtwsm0gto
d3sjbmfsmopk

หากต้องการเข้าชมพื้นที่ด้านบนของวัด จะต้องใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณ 30 นาที เส้นทางที่เดินขึ้นไปเป็นบันไดหินประมาณ 1,000 ขั้น บางครั้งจึงถูกเรียกว่า วัดบันไดพันขั้น ตลอดทางจะพบโคมไฟหิน และรูปปั้นเล็กๆในป่า เมื่อเดินถึงด้านบนแล้วมองลงมาจะนับเป็นจุดชมวิวชั้นดีและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากแห่งหนึ่ง

fe3uhkyxml4c

เราสองคนสมัครใจเดินเล่นอยู่ด้านล่าง ไม่ขอขึ้นบันไดพันขั้น เราใช้เวลาที่วัดสักพักก็เดินกลับไปนั่งเล่นแถวสถานีรอเวลาเดินทางกลับเซนได

jrlkd7aoe8nm

จากวัดยามาเดระ เราเดินทางกลับที่สถานี JR Sendai ดูเวลาแล้วคงไปไหนต่ออีกได้ยาก ก็เลยรอเวลารถไฟเพื่อเดินทางกลับ

nqtd2mnl4ayq
n5ll3ck91cdb
l8uztczh90gf

เท่าที่สังเกต สถานี JR Sendai เป็นตึกยาวที่เชื่อมต่อกับห้างสรรพสินค้าโดยรอบหลายตึก ดังนั้นจึงมีทางเดิน Sky Walk หรือทางเดินลอยฟ้าเชื่อมบริเวณโดยรอบถึงกันหมด จุดเลี้ยวในแต่ละแยกของทางเดินลอยฟ้าก็มีป้ายบอกทิศทางว่าไปไหนได้บ้าง ใครอยากไปเที่ยวสถานที่ที่ไม่ไกลมากก็สามารถเดินตามป้ายได้แบบสบายๆ

myuquq4yfge1
d0ajpesbhetj

มองลงไปด้านล่างจุดจอดรับส่งของรถบัสเมืองเซนไดนั้นอยู่บริเวณหน้าสถานีชั้น 1 มีชานชาลาแยกไปตามประเภทรถ มีทั้งรถบัสสาธารณะ และรถบัสของแต่ละโรงแรมที่มีบริการรับส่งแขกผู้ใช้บริการ ส่วนโซนตรงกลางปากทางเข้าชั้น 1 คือ จุดจอดรถแท็กซี่ที่จะออกตามคิวค่ะ จอดกันเป็นระเบียบมาก ไม่เหมือนบางประเทศที่เราคุ้นเคย ถ้าจะเรียกรถ เราต้องเรียกในจุดที่เขาจัดให้ เดินดุ่มๆ ไปเรียกไม่ได้ และต้องเข้าแถวตามคิวเรียกอีกด้วย

iyfg6fm2l54z
dtq1yqmy6qqe

เดินชมบรรยากาศรอบสถานีได้สักพักก็ถึงเวลารถไฟที่จะกลับโตเกียวแล้ว ขากลับก็นั่งเจ้าเหยี่ยว Hayabusa เช่นเดิม

aodvnrlm4uef
j2x8qask5xbk
ra9s6erkkq8e

การเที่ยวแบบชิลๆ หมดไปอีกหนึ่งวัน และนี่ก็เป็นสัญญาณด้วยว่าเวลาของเราในการเที่ยวเล่นที่ญี่ปุ่นใกล้หมดเวลาแล้วค่ะ

ว่างๆ ไปทักทายกับพี่ใหญ่และหนูเล็กกันได้ค่ะที่ https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/

ความคิดเห็น