ตามรอยโยเดีย สู่เมืองมัณฑะเลย์ อังวะ อมรปุระ สกายน์ ประเทศพม่า 4 วัน 3 คืน



ประเทศพม่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าไปเยือน โดยเฉพาะวัดวา โบราณสถานต่างๆ ที่มีประวัติความเป็นมาเทียบเคียงกับไทยเรานี่เอง ไปง่าย สถานที่สวย แรงบันดาลใจที่อยากไปคือสารคดีโยเดีย ที่คิด(ไม่)ถึง ที่มีจุดไฮท์ไลท์คือสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์และร่องรอยของชาวอยุธยา รวมถึงสถานที่ระหว่างทางที่เป็นร่องรอยความรุ่งเรืองของพม่าในยุคนั้น

📍 การเดินทาง

- สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ 4 วัน 3 คืน บินตรงโดยสายการบินแอร์เอชีย ดอนเมือง - มัณฑะเลย์ เป็นตั๋วโปรจองแบบเกือบข้ามปีได้ในราคาไป-กลับ คนละ 2800 บาท รวมค่าโหลดไป 20 กก. กลับ 40 กก.

- การเดินทางท่องเที่ยวในมัณฑะเลย์และเมืองรอบๆ จะใช้บริการแท็กซี่ ซึ่งผมหาได้จากบริเวณใกล้ๆ โรงแรม ต่อรองราคาเอง ซึ่งถ้าเราเรียกให้โรงแรมหาให้ ราคาจะชาร์ท

📍 ที่พัก

- ที่พักในครั้งนี้อยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ใกล้ซุปเปอร์มาเก็ต ชื่อโรงแรม taw win myanmar hotel ราคาไม่แพง ห้องใหญ่และสะอาด พนักงานต้อนรับอัธยาศัยดีมาก 4 วัน 3 คือ ได้ในราคา 6,850 จำนวน 2 ห้อง 5 ท่าน โดยจองผ่าน agoda



📌ฝากกดติดตามกันด้วยครับ

IG: IWasHereB4 > http://bit.ly/2x2PDmv
FB: ให้รู้ว่ามาแล้ว > http://bit.ly/2xaK2dP
Youtube: ให้รู้ว่ามาแล้ว > http://bit.ly/2zKCz5z
Twitter: @borilove > http://bit.ly/2x9faJX


เริ่มต้นการเดินทางถึงมัณฑะเลย์ประมาณ 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ช้ากว่าบ้านเรา 30 นาที

ถึงสนามบินแล้วก็เดินทางเข้าเมืองโดยรถบัสโดยสาร คนละ 4000 จาด ไปลงที่หน้าโรงแรมเลยครับ

โรงแรม taw win myanmar hotel ราคาไม่แพง ห้องใหญ่และสะอาด

หลังจากพักผ่อนกันเรียบร้อยได้เวลาทั่วรอบเมืองในช่วงบ่ายกันสักหน่อย



ที่แรกวิหารชเวนันดอร์ (Shwenandaw Kyaung) วิหารนี้เดิมที่อยู่ที่พระราชวังมัณฑะเลย์ พระเจ้ามินดงสวรรคต ณ วิหารหลังนี้ หลังจากนั้นพระเจ้าทีบอ โปรดฯ ให้รื้อ แล้วนำมาสร้าง ณ ที่วัดแห่งนี้

เป็นวิหารหลังเดียวที่หลงเหลืออยู่ จากช่วงสงครามโลก

วัดอทูมาชิ (Atumashi Kyaugdawgyi) อยู่ใกล้ๆ ชเวนันดอร์ เดินเข้าไปไหว้พระได้

วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda) เป็นวัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับเมืองมัณฑะเลย์

พระราชานุสาวรีย์พระเจ้ามินดง ก็อยู่หน้าวัดกุโสดอร์นั้นเอง

พระเจดีย์มหาโลกมารชินจำลองรูปแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม

เจดีย์เล็กๆ รายรอบ มีพระไตรปิฎกที่จารึกบนหินอ่อนที่พระเจ้ามินดงได้มีสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4

Kyauktawgyi Paya Temple เป็นวัดที่ตั้งอยู่ก่อนขึ้นไปที่มัณฑะเลย์ฮิลส์ ทางเข้าก็ประดับสีเขียวสวยงาม

พระหินอ่อนภายใน Kyauktawgyi Paya Temple

สิงห์คู่ก่อนทางขึ้น มัณฑะเลย์ฮิลล์

ปิดท้ายทริปของวันที่ มัณฑะเลย์ฮิลล์

วันที่ 2 เริ่มต้นด้วยการไปร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี ซึ่ง จะทำพิธีในตอนเช้าของทุกวัน เวลาประมาณ 4.00 น. อยากนั่งหน้ามุมดีๆ ต้องมาไวๆ ชาวพม่าเชื่อกันว่าพระมหามัยมุนีเป็นพระพุทธรูปมีชีวิตที่ได้รับประทานลมหายใจจากพระพุทธเจ้า จึงทำให้ต้องจัดพิธีล้างหน้า โดยท่านเจ้าอาวาสจะใช้น้ำอบผสมทานาคา แปรงฟัน เช็คพระพักตร์ด้วยผ้าจนแห้งสนิท ใช้พัดโบกถวาย ถวายภัตตาหารเช้า เพราะถือว่าท่านมีชีวิต มีลมหายใจ


เริ่มต้นเจ้าอาวาสทำการถวายน้ำอบ

ทำการแปรงฟัน

เช็คพระพักตร์ด้วยทานาคา

เช็คพระพักตร์จนแห้ง

ใช้พัดทองโบกถวาย

ถวายภัตตาหารเช้า

ถวายพัดโบก

เสร้จพิธี

ผู้ชายจะมีโอกาสได้ขึ้นไปปิดทองคำเปลวที่องค์พระ ผู้หญิงจะต้องฝาก และนั่งอยู่บริเวณที่จัดให้

ผิวองค์ตะปุ่มตะปั่มเกิดจากทองคำเปลวที่ปิดสะสมมาเป็นระยะเวลานาน เมือกดลงไปจะรู้สึกนิ่ม จนได้รับนามว่า พระเนื้อนิ่ม

จากนั้นช่วงสายๆ หน่อย เราก็ไปกันต่อที่พระราชวังมัณฑะเลย์ มาตามรอยละครเพลิงพระนางกันครับ

พระราชวังมัณฑะเลย์ สร้างโดยพระเจ้ามินดง เพื่อย้ายเมืองหลวงหนีกองทัพอังกฤษ ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เนื่องจากหลังเดิมถูกไฟไหม้จากเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสิ่งที่หลงเหลืออยู่มีเพียงสิ่งเดียวจากพระราชวังมัณฑะเลย์คือ "วิหารชเวนันดอส์"

พระราชวังแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่โหดร้ายในยุคของพระเจ้าธีบอกับพระนางศุภยาลัต

โดยมีเบื้องหลังผู้บงการคือพระนางอเลนันดอ มเหสีรองของพระเจ้ามินดง ในการสนับสนุนให้พระเจ้าธีบอขึ้นครองราชย์ต่อ รวมถึงการสังหารหมู่พระราชวงศ์ในพระราชวัง พระนางศุภยาลัตมีอำนาจเบ็ดเสร็จที่สามารถบงการพระเจ้าธีบอได้ และได้วางแผนการสังหารหมู่พระราชวงศ์ที่อาจจะมาชิงอำนาจได้ โดยได้ทำการสั่งให้ฆ่าเหล่าเครือญาติทั้งหมด แล้วให้นำศพไปฝัง จัดให้มีมรสพสมโภชเพื่อกลบเสียงกรี๊ดร้อง ส่วนพระเจ้าธีบอ ก็เสวยน้ำจันท์ โดยที่ไม่ทราบเหตุการณ์ใดๆ การสังหารหมู่เกิดขึ้นถึง 3 วัน ถึงจะสังหารหมดสิ้น หลุมที่ฝังศพเกิดนูนขึ้นมาจากศพที่อืดบวม พระนางจึงได้สั่งให้เอาช้างมาเหยียบ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้หมด จึงได้นำศพขึ้นมาแล้วนำไปทิ้งที่แม่น้ำอิรวะดี หลังจากนั้นไม่นาน อังกฤษจึงได้บุกยึดพระราชวังได้สำเร็จ พร้อมกับเนรเทศพระเจ้าสีป่อ พระนางศุภยลัต พระนางอเลนันดอ ไปยังเมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย

ท้องพระโรงกลาง

หมู่พระตำหนัก

หอคอยด้านขวาของภาพ เป็นหอคอยสุภยาลัต หอคอยที่พระนางศุภยาลัตขึ้นมาดูกองทัพอังกฤษบุกมาก่อนเสียเมือง

ด้านนอกของพระราชวังมีน้ำล้อมรอบ

📌ช่วงบ่ายไปตามรอยโยเดีย ณ เมืองอังวะ อมรปุระ กันครับ

การเดินทางเหมาแท็กซี่มาจากเมืองมัณฑะเลย์มายังท่าเรือเพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปยังเมืองอังวะ จากนั้นก็นั่งรถม้า ซึ่งเป็นเสน่ห์ของที่นี่เที่ยวรอบเมืองอังวะกัน

วัดบากะยาจาวน์ (bagaya monastery)

ที่นีมีร่องรอยของโยเดียชัดเจน นั้นคือไม้แกะสลักรูปครุฑยุดนาค ศิลปะไทยผสมกับพม่า บริเวณหัวเสาของวิหาร

ด้านเศียรสวมชฎาเป็นศิลปะอยุธยา

บานประตูสวยงามมาก

Myont Mo Taung จะอยู่ใกล้ๆ กับวิหารบากะยาจาวน์ โดยเลยมาด้านใน

หมู่เจดีย์ดอย์กะยัน Daw Gyan pagoda complex

มีเจ้าถิ่นคอยต้อนรับ

ภายในอุโบสถ Daw Gyan pagoda คาดว่าเป็นศิลปะอยุธยาทั้งลักษณะการตกแต่งเสาอุโบสถและฐานชุกชีพระประธาน

Desada Taya (White Temple)

หอคอยนานมยิน Nan Myint (watchtower) of Innwa

วิหารมหาอ่องมเยบองซาน (Mahar Aung Mye Bon San Monastery)

อีกสถานที่หนึ่งที่สำคัญนั้นคือ สถูปพระเจ้าอุทุมพร ขุนหลวงหาวัด (Linzingon udombara) สถานที่สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จเจ้าฟ้าอุทุมพร หลังจากที่ได้ขุดค้นพบพระบรมอัฐิในสถูปแห่งนี้ เมื่อเดือน ก.พ.2556 สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร เป็นพระมหากษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยาที่ถูกจับมาเป็นเชลยศึกในพม่า เมื่อครั้งเสียกรุง พ.ศ.2310 และอยู่ในเพศบรรพชิตจนมรณภาพ

สถูปองค์นี้มีรูปร่างคล้ายทรงพระโกศ หลายคนเข้าใจกันว่า พระบรมอัฐิบรรจุที่องค์นี้ แต่จริงๆ ไม่ใช่ครับ จะเป็นอีกองค์หนึ่งใกล้ๆ กัน

องค์เจดีย์ที่ขุดพบพระบรมอัฐิ

สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว บริเวณรอบๆ จึงถูกปล่อยให้รกร้าง มีต้นไม้ปกคลุมอย่างหนาทึบ และมีรั้วกั้น

สถูปพระเจ้าอุทุมพร อยู่ใกล้ๆๆ สะพานไม้อูเบง แนะนำให้เปิด GPS มาเลยครับ

ปิดท้ายทริปวันที่ 2 ที่สะพานไม้อูเบง

มาต่อกันวันที่ 3 ไปเมืองสกายน์ มิงกุนกันครับ

เดินทางโดยแท๊กซี่ข้ามสะพานแม่น้ำอิรวดี

จุดหมายของวันนี้ไปที่เมืองมิงกุนกันก่อนเลยครับ ที่แรกเจดีย์มินกุน เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้าสร้างเสร็จนะครับ แค่ฐานก็ใหญ่มากกก

ตรงกับเจดีย์มีทางลงไปแม่น้ำ จะมีซากของสิงห์ขนาดใหญ่

ใกล้ๆๆ กันก็จะพบกับระฆังมินกุนขนาดใหญ่ พระเจ้าปดุงโปรดฯ ให้สร้างเพื่ออุทิศถวายแด่มหาเจดีย์มิงกุน

เจดีย์ชินพิวมิน “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี” อยู่ไกลจากเจดีย์มินกุง

สร้างขึ้นด้วยหลักไตรภูมิที่มียอดเขาพระสุเมรุ ล้อมรอบด้วยขุนเขาและมหาสมุทร

กลับมาที่เมืองสกายน์ ไปที่วัดซุนโอปงงาซิน Soon U Ponya Shin Pagoda บนยอดเขาสกายน์ฮิลล์

Umin Thonse` Pagoda or 30 Caves Pagoda

ปิดท้ายด้วยจุดไฮท์ไลท์ ที่เพิ่งค้นพบมาไม่นาน จิตรกรรมฝาผนังในวิหารวัดมหาเตงดอจี เมืองสะกาย ประเทศพม่ารูปแบบการเขียนภาพและฝีมือช่างระดับช่างสิบหมู่ เป็นศิลปะแบบอยุธยา ทั้งลายบุษบกแบบอยุธยา ยอดมณฑป ลายดาวประดับ ลายพรรณพฤกษา ทำให้สันนิษฐานได้ว่าคนอยุธยาที่ได้มาเป็นเชลยศึกที่เมืองอังวะเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก อาจจะติดตามพระเจ้าอุทุมพรที่ทรงผนวชอยู่ แล้วอาจมา ณ ที่แห่งนี้ ใครที่มาเยือนมัณฑะเลย์ก็ลองแวะมาดูนะครับ มาไม่ยากและไม่ไกลจากเมืองมัณฑะเลย์ แต่สถานที่นี้ไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวนะครับ มาถึงประตูอาจจะล็อก ซึ่งก็ต้องไปขอกุญแจกับพระมาเปิดเอานะครับ

ลายบุษบกทรงมณฑป 9 ยอด ยอดพรหมพักตร์แบบอยุธยา ฐานประดับครุฑ มีพระพุทธรูปอยู่ด้านใน

การลงเส้นแบบอยุธยา ลายพรรณพฤกษาคล้ายลายก้านคด

ลายดาวประดับบนเพดานที่เหมือนที่วัดหน้าพระเมรุ ที่อยุธยา

ลายบุษบกทรงมณฑป 9 ยอด ยอดพรหมพักตร์

ลายบุษบกทรงมณฑปแบบอยุธยา ฐานประดับครุฑ มีพระพุทธรูปอยู่ด้านใน

พระประธานในวิหาร

ภายนอกของวิหาร

สำหรับ วันที่ 4 เป็นวันของการพักผ่อนครับ ก่อนที่จะกลับไทยไฟวส์เที่ยง เป็นอันจบทริปตามรอยโยเดีย


ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

Instagram : instagram.com/hairoowamalaew
Facebook : facebook.com/hiroowamalaew
Youtube : youtube.com/c/hairoowamalaew
Twitter : twitter.com/hairoowamalaew

#ให้รู้ว่ามาแล้ว #Hairoowamalaew


ความคิดเห็น