....หน้าฝนของทุกปี ผมมักเดินทางไปเลาะลาวใต้เพื่อเก็บภาพความงดงามตามธรรมชาติบนที่ราบสูงโบโลเวนอยู่เสมอ แต่มาปีนี้อยากจะขอเปลี่ยนแนวดูบ้าง จะลองลุยเดี่ยวตามรอยบรรดา Reviewer ทั้งหลายที่ได้ไป survey กันมา โดยเป้าหมายคือหาสถานที่ถ่ายภาพที่ไม่ต้องลุยอะไรมากนัก วางแปลนไว้ว่าหาเช่ามอไซด์แว๊นซ์เที่ยวแวะตามจุดที่อยากไป ขับไไปเรื่อยๆ แต่บังเอิญเพื่อนร่วมแก็งค์ที่นัดแนะกันว่าจะไปลาวเหนือ ช่วงปลายปีนี้ทราบข่าวเลยอยากให้ผมจัดทริปแก้ขัดพาไปลาวใต้ก่อน เลยพับแผนจากแบกเป้ลุยเดี่ยว เป็น ยกก๊วนชวนกันเที่ยว รีวิวนี้ค่าใช้จ่ายอาจจะดูเยอะสักหน่อยเพราะเราซื้อความสะดวกสบาย แต่หารเท่ากันหมด เนื้อหาก็จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางและขั้นตอนการเดินทางที่ใช้วิธีการเหมาทั้งหมด ตั้งแต่สนามบินดอนเมืองเรื่อยไปจนข้ามแดน ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่พัก ที่กิน ค่าเช่ารถ ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอย่างละเอียดๆว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า ไปชมเรื่องราวกันได้เลย
![gk4mgsafmypo](/f/17566/5b2b87bf16b13c6683c0e2e4.jpg)
![a8lbohrw4gq1](/f/17566/5b2b87ae16b13c6683c0e2e3.jpg)
![5oy0xzx82uz8](/f/17566/5b2b87d0148edc7c5f5f41a7.jpg)
พวกเราพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง ออกเดินทางด้วยเที่ยวบินหางแดง FD 3373 เวลา 7:45 ถึงท่าอากาศยานอุบลราชธานีตอน 9 โมงตรงเป๊ะ ตามรายแทงของนักรีวิวทั้งหลายบอกให้เดินมาขึ้นแท็กซี่หน้าสนามบิน ไปลงบขส.แล้วไปที่คิวรถตู้ นั่งไปลงช่องเม็กในราคา 100 บาทหรือจะนั่งรถทัวร์ข้ามประเทศ อุบล-ปากเซ ราคา 200 บาท ซึ่งมีวันละ 4 เที่ยวตอน 7:30, 9:30, 14:30, 15:30 แต่พวกเรามากัน 9 คนมีตัวหารเยอะเลยลองถามราคารถตู้หน้าประตูทางออกสนามบินว่าไปช่องเม็กเท่าไหร่ พนักงานบอก 2,000 ต่อไปต่อมาจนเหลือ 1,500 ตกคนล่ะ 167 บาทซื้อความสะดวกสบายถือว่าราคาพอๆกันกับการเดินทางปกติ รถใช้เวลาวิ่งประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงด่านช่องเม็ก ใครอยากลองใช้บริการดูแค่เดินออกมาด้านหน้าประตูทางออกเลี้ยวซ้ายก็จะเจอเคาน์เตอร์รถเช่าทั้งหลายแหล่บริเวณนั้น
![2uklpthod9sf](/f/17566/5b2ce91816b13c6683c0e397.jpg)
![bmq7fzs08c01](/f/17566/5b2ce8b316b13c6683c0e396.jpg)
![tkwc281qrs67](/f/17566/5b2ce8c4148edc7c5f5f42d8.jpg)
มาถึงด่านช่องเม็กประมาณ 11 โมง ผมนัดเพื่อนไว้อีก 2 คนที่นี่ ซึ่งขับรถจากโคราชมานอนรออยู่ที่โรงแรมคืนนึงก่อนแถวด่านช่องเม็ก ชื่อโรงแรมเพลินทัวร์ เพื่อนบอกว่าห้องพักคืนล่ะ 400 ค่าฝากรถวันล่ะ 100 เผื่อใครจะฝากรถทิ้งไว้แล้วไปเที่ยวฝั่งลาวสามารถนำรถมาจอดที่นี่ได้ ส่วนร้านอาหารตามสั่งที่ผมมักมาฝากท้องอยู่เรื่อยๆ ชื่อร้านเจ๊ยุพินเมื่อหันหน้าเข้าอาคารสีม่วงของด่านศุลกากร ร้านจะอยู่ซ้ายมือซอยแรก เราจะกินข้าวมื้อล่ะ 40-50 กันเป็นมื้อสุดท้ายก่อนที่จะไปกินกันอย่างราชาที่ฝั่งนู้นจ่ายแต่ละมื้อเป็นแสน (กีบ)! และตรงจุดนี้เจ๊แกหารถตู้นำเที่ยวลาวให้ได้ สอบถามราคาแกบอกว่าอยู่ประมาณ 1,800 ไม่รวมน้ำมัน ถ้ารวมแล้วก็ประมาณ 3,000-3,500 ต่อวันซึ่งก็ใกล้เคียงกับข้อมูลที่ผมหาไว้ เจ๊เลยให้คุยและตกลงราคากันเองกับผู้สาวชาวลาวที่ให้บริการรถตู้ทางฝั่งนู้น บอกสถานที่ไปว่าจะไปปราสาทหินวัดพู เที่ยวเมืองจำปาสัก กลับมาดูพระอาทิตย์ตกที่วัดพูสะเหลา แล้วไปนอนในเมืองปากเซ ตกลงราคากันที่ 3300 บาทหารกัน 11 คนก็ตกคนล่ะ 300 คิดว่าราคารับได้และไม่กำหนดเวลาด้วยแล้วแต่ทางเราเลย รถจอดรอพวกเราอยู่หน้าด่านฝั่งลาว
![7q5i39u0161d](/f/17566/5b3249b4662f0e4420e44217.jpg)
![8oolbm00a0f4](/f/17566/5b30976171a03c28ac84e271.jpg)
![t66b41kws5w3](/f/17566/5b30941071a03c28ac84e26e.jpg)
![mjdu8e3jb7nc](/f/17566/5b30941b71a03c28ac84e26f.jpg)
ทำเรื่องผ่านแดนฝั่งไทย ตอนนี้ไม่ต้องเขียนใบผ่านแดนแล้ว ยื่นแค่ passport อย่างเดียวเท่านั้น เสร็จแล้วลอดอุไมงค์ข้ามมายังฝั่งลาวเดินมายังอาคารศุลกากรฝั่งลาวที่อยู่ตรงข้าม ธ.พงสะหวัน (Phong Sawanh Bank) เดินไปด้านหลังช่องหมายเลข 6 เสียค่าเหยียบแผ่นดินแบบไม่มีใบเสร็จ 100-200 ซึ่งมันจะเป็นอยู่ด่านเดียวตรงนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าหงุดหงิดมาก ตลอด 5-6 ปีหลังผมมาทุกปีเสียตั้งแต่ 20 บาท ขึ้นมาเรื่อยจน 2 ปีหลังนี่เขยิบมายืนที่ 100 บาท และราคาไม่เท่ากันแล้วแต่ใครจะเจอแจ็คพอต ต่อแถวเสียเงินกันอยู่ดีๆ คนหน้าเก็บ 100 คนหลังเก็บ 200 อ้างว่าถ้ามาครั้งแรกจะเสีย 200 แต่บางคนถึงมาครั้งแรกก็เสีย 100 เดียว สรุปแล้วคือ แล้วแต่อารมณ์ของเจ้าหน้าที่ เถียงไปก็เท่านั้นเขาไม่แคร์ด้วย เที่ยวลาวใต้ด่านแรกที่ต้องทำใจคือ ตม.นี่แหละ
![ojoc503ok4lw](/f/17566/5b309ca371a03c28ac84e278.jpg)
![25iafxk41pa3](/f/17566/5b309d1371a03c28ac84e27c.jpg)
![xow5gx0bsi73](/f/17566/5b324a403890534428775bd8.jpg)
![m3s2he3kqh3e](/f/17566/5b309c168daf1a279b56450f.jpg)
หลังจากผ่านขั้นตอนแสกนกรรมจาก ตม.ฝั่งลาวเสร็จเดินมามองหารถตู้ที่นัดไว้หน้าธ.พงสะหวัน เห็นสภาพรถอึ้งไปนิด ด้วยตัวถังรถที่เล็ก และจากจำนวนผู้โดยสาร 11 คนถึงมันจะมีที่นั่งพออยู่แล้ว แต่รถตู้ยอดนิยมยี่ห้อฮุนไดทางฝั่งลาวนี้มันไม่มีพื้นที่ว่างมากพอที่จะวางสัมภาระได้เยอะ มันเหมาะสำหรับเที่ยวแบบไม่มีสัมภาระมากกว่า ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าออกจากด่านค่อยมาเลือกดูรถตู้แถวด่านวังเต่าทางฝั่งลาวจะดีกว่า เพราะจะมีบรรดาพวกรถเช่ามาสอบถามเราว่าต้องการเช่ารถตู้ไหม เราจะได้เห็นสภาพรถด้วยมันเป็นไปตามที่เราต้องการหรือไม่ ก่อนที่เราจะออกเดินทาง พวกเราแวะเข้าไปแลกเงินในธนาคารก่อน rate จะอยู่ที่ 1 บาท = 263.14 กีบซึ่งทางโชเฟอร์มาบอกทีหลังว่าผมหาร้านที่แลกได้ถึง 265 ซึ่งผมว่าผลต่างมันไม่มีผลเท่าไหร่หรอกถ้าเราแลกไม่ถึงแสน เพราะฉะนั้นแลกไปเถอะ เพราะถ้าไม่แลกไว้ไปแลกตามร้านอาหาร หรือแหล่งท่องเที่ยวเขาจะกดเราต่ำกว่านี้
![ok4jrngyshx8](/f/17566/5b30a5358daf1a279b56452c.jpg)
![c0ssfpz63svd](/f/17566/5b57053484dfed7fde4b170a.jpg)
![yj9ph528p66i](/f/17566/5b30f973e93fff7eee5064d5.jpg)
วันที่ 1 ช่องเม็ก - จำปาสัก
กว่าจะออกจากด่านได้ก็เที่ยงครึ่ง มีเวลาเที่ยววันแรกแค่ครึ่งวัน วันแรกผมตั้งจุดหมายปลายทางที่แรกไว้ที่ปราสาทหินวัดพู ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองจำปาสักห่างจากด่านช่องเม็ก-วังเต่าไปทางทิศตะวันออกประมาณ 75 กม. แต่ห่างเมืองปากเซแค่ 45 กม.เท่านั้น รถตู้ฮุนไดวิ่งผ่านเมืองโพนทอง ก่อนข้ามสะพานลาว-ญี่ปุ่นที่จะไปปากเซ เราเลี้ยวขวาไปยังเมืองจำปาสัก วิ่งเรื่อยๆเอื่อยๆ จนผมอดกังวลไม่ได้ว่าจะทำเวลาได้ตามกำหนดหรือเปล่า เลยถามทางคนขับให้ทำความเร็วเพิ่มอีกหน่อยได้ไหม ทางคนขับบอกว่าขับรถในลาวขับเร็วไม่ได้เพราะต้องระวังอยู่ 2 เรื่องคือ 1. รถที่ส่วนมากขับตามใจฉัน ไม่ค่อยขับชิดขอบทาง ขับคร่อมเลน ไม่ค่อยให้สัญญาณไฟ 2.เด็กเล็กๆที่มักวิ่งเล่นตามข้างถนน ถนนที่ลาวจะไม่มีฟุตบาทหรือไหล่ทาง 3.สัตว์จำพวกวัวควายที่ชาวบ้านเลี้ยงอยู่ตามข้างทางมักเดินข้ามถนนตัดเส้นทางอยู่ให้เห็น
![x1hsgifof9bq](/f/17566/5b30fc74de8e797e40e28302.jpg)
![n3bdm74z4mie](/f/17566/5b31b393e6872e074efbd619.jpg)
![knfsdam84s49](/f/17566/5b31b3b7e6872e074efbd61a.jpg)
ปราสาทหินวัดพู
เริ่มเข้าสู่แขวงจำปาสัก จะเห็นบ้านเรือนเก่าๆเหมือนตามชนบทของเรา นั่งมองวิถีชีวิตของชาวลาวสองข้างทางเพลินๆ สายตามองเห็นยอดเขารูปทรงแปลกประหลาด ลักษณะเป็นเหมือนนมสาวอยู่ทางขวามือ ชาวบ้านแถบนี้เรียกว่าภูเก้า หรือภูเกล้า ในภาษาไทย (ภาษาลาวจะไม่มีคำควบกล้ำ) เก้าในความหมายของชาวลาวลุ่มหมายถึง เกล้ามวยคือตามลักษณะของยอดเขาที่มีลักษณะเหมือนมวยผม "ซึ่งตามตำนานย้อนหลังไปในอาณาจักรเจนละจากจดหมายเหตุจีน สมัยราชวงศ์สุย (Sui Dynasty พ.ศ. ๑๑๓๒-๑๑๖๑) กล่าวถึงเมืองเศรษฐปุระ ซึ่งเป็นเมืองหลวงตั้งอยู่ใกล้ภูเขาซึ่งมีนามว่าลิงคปรวตา ซึ่งน่าจะตรงกับภูเขา “ลิงเจียโปโป” ที่ชาวจีนกล่าวถึง นักวิชาการชาวฝรั่งเศสตีความต่อว่า คำว่า “ลิงเจียโปโป” น่าจะเป็นการออกเสียงของชาวจีนที่พยายามกล่าวคำว่า “ลิงคปารวตา” (ลิงคบรรพต) ซึ่งเป็นนามภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าคือภูเก้าในปัจจุบัน และที่ยอดเขามีทหารเฝ้าทั้งวันทั้งคืนถวายแด่เทพเจ้าที่สันนิษฐานว่าชื่อเทพเจ้า “โพโตลิ” ก็น่าจะตรงกับภาษาสันสกฤตว่า “ภัทเรศวร” ซึ่งเป็นชื่อของศิวลึงค์ที่ประดิษฐานที่ปราสาทวัดพูแห่งนี้อีกด้วย ดังนั้นปราสาทวัดพูจึงน่าจะสร้างขึ้นและได้รับการเคารพบูชาเป็นพิเศษมาตั้งแต่ช่วงก่อนพุทธศตวรรษที่ 12 แล้ว" หรือเมื่อ 1,300 ปีมาแล้ว แต่ตัวปราสาทจะตั้งอยู่เชิงเขาลูกถัดมาซึ่งเรียกกันว่าภูควาย
![gm4fxritscmr](/f/17566/5b31ba84124dca07d08a0003.jpg)
![6a9d5jrfjhon](/f/17566/5b324ae9662f0e4420e4421c.jpg)
ค่าเข้าประสาทหินวัดพูจะอยู่ที่ 50,000 กีบในวันธรรมดาส่วนในวันหยุดจะเป็น 55,000 กีบ จากทางเข้าวัดพู ไปจนถึงทางเดินขึ้นตัวปราสาทระยะทางค่อนข้างไกล จะมีรถกอลฟ์บริการรับส่งซึ่งรวมอยู่ในค่าผ่านประตูแล้ว ปราสาทหินวัดพูถือว่าเป็นมรดกโลกแห่งที่ 2 ของลาว เป็นโบสถ์พราหมณ์ที่สร้างถวายพระศิวะในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ตั้งอยู่เชิงเขาภูควาย ห่างจากตัวเมืองเก่าจำปาสักประมาณ 6 กิโลเมตร ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร ถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ในอดีตที่ตั้งของวัดพู นั้นเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณถึง 3 สมัยด้วยกัน คือ อาณาจักรเจนละในช่วงพุทธศตวรรษที่ 6 – 8 ค้นพบจารึกกล่าวถึงการฆ่าคนเพื่อบูชาแด่เทพเจ้า ต่อมาเป็นยุคของอาณาจักรขอมสมัยก่อนเมืองพระนคร (อังกอร์) ที่เลือกบริเวณนี้เป็นที่สร้างปราสาทหินในราวพุทธศตวรรษที่ 9 และสุดท้ายอาณาจักรล้านช้างได้เปลี่ยนเทวาลัยในศาสนาฮินดูให้เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายเถรวาทในราวพุทธศตวรรษที่ 12
![avba3mqkqqql](/f/17566/5b324d27662f0e4420e44223.jpg)
![zxuibbucxyjo](/f/17566/5b32ee53ef8a8603383ebc46.jpg)
![xf8h5n5hnejb](/f/17566/5b330a60ef8a8603383ebc73.jpg)
![ma7tpuw28cd4](/f/17566/5b324d4b3890534428775bdf.jpg)
![08ywmntkt21p](/f/17566/5b324d59662f0e4420e44224.jpg)
![pensns3zohaf](/f/17566/5b36184c1969ac14a6c3a2fd.jpg)
![naf01d56n4r6](/f/17566/5b46608535ed0a3db132b9b5.jpg)
ถนนทางเข้าสู่ตัวปราสาทปูด้วยพื้นหินทราย ขอบทางเดินมีเสาหินรูปดอกบัวตูมเรียกว่า "เสานางเรียง" ซึ่งเป็นตัวกำหนดขอบเขตทางเดินสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงในสมัยนั้น ตัวเสาจะเรียงรายทอดยาวไปจนถึงเชิงเขาอันเป็นทางขึ้นสู่ตัวปราสาท เมื่อสิ้นสุดทางเดินจะเห็นตัวปราสาทที่หันหน้ามาทางทิศตะวันออก 2 หลังตั้งอยู่คู่กันตามแนวนอน เรียกว่า "โรงท้าว" กับ "โรงนาง"สัณนิษฐานว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่แยกระหว่างชาย (โรงท้าว) หญิง (โรงนาง) สิ่งที่หน้าสนใจของตัวปราสาทตรงจุดนี้อยู่ที่ภาพแกะสลักลวดลายบนหน้าบันและ ทับหลัง ที่เป็นรูป "อุมามเหศวร" หมายถึง พระศิวะประทับนั่งบนหลังโคนนทิโดยมีพระศรีอุมาเทวีประทับนั่งบนพระเพลาพระศิวะเหนือหน้ากาลที่กำลังคายพวงอุบะ ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะแบบบาปวน
![8luxv61tdreg](/f/17566/5b33179d68b8340359efcd64.jpg)
![qqwag1omcsuw](/f/17566/5b3317acef8a8603383ebc8d.jpg)
![hzdftpebuth9](/f/17566/5b331a42ef8a8603383ebc8e.jpg)
![b8tavvwb3i64](/f/17566/5b3618f6d7c5e314ae6bf240.jpg)
ถัดจากตัวปราสาท 2 หลัง จะมีทางเดินขึ้นไปตามแนวลาดชันของภู ซึ่งเสานางเรียงก็สิ้นสุดตรงทางขึ้นบันไดชั้นแรก มองไปด้านหลังของปราสาทหลังซ้ายมือมองเห็นซากปรักหักพังของโบราณสถานหลังนึงซึ่งในยุคสมัยนั้นเรียกว่าโรงวัวอุสุพะลาด หรือ วัวนนทิ ซึ่งเป็นพาหนะของพระศิวะ และจากโรงวัวแห่งนี้ มีเส้นทางโบราณไปทางทิศใต้ ผ่านบ้านธาตุ มุ่งตรงไปยังนครวัด ประเทศกัมพูชาได้ จากนั้นเป็นบันไดหินชั้นที่ 2 มีกองอิฐของปราสาทเก่า และชั้นกำแพงหินป้องกันดินทรุดเป็นระยะๆ ตรงบริเวณเศษซากซุ้มประตูที่ยังหลงเหลืออยู่มีรูปปั้นทวารบาล ในสภาพมือขวากุมไม้เท้า มือซ้ายแนบหน้าอก เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้ผ่านขึ้นไปยังปราสาทเบื้องบน แต่คนลาวเชื่อว่ารูปปั้นนี้คือ "พระยากำมะทา” ผู้ควบคุมการก่อสร้างปราสาทวัดพู กำลังทุบอกตนเองด้วยเสียใจที่การก่อสร้างปราสาทวัดพู เสร็จทีหลังการก่อสร้างพระธาตุพนม จุดนี้จะเป็นจุดที่ชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียนมาจำหน่าย เพื่อสักการะรูปปั้น และมีคนเฒ่าคนแก่ผูกข้อมือนักท่องเที่ยวเป็นการรับขวัญอีกด้วย
![exgkejj4ihxh](/f/17566/5b34c32a68b8340359efcf71.jpg)
![v4dej99hir6i](/f/17566/5b3613f2d7c5e314ae6bf23d.jpg)
![kiooy8ffsnlz](/f/17566/5b338b97ef8a8603383ebd76.jpg)
![2z8o3cuylemt](/f/17566/5b34c11868b8340359efcf70.jpg)
![7c1ftidg3cc5](/f/17566/5b36198bd7c5e314ae6bf241.jpg)
ถัดจากบันไดชั้นที่ 2 ไปมีบันไดทางขึ้นสู่ชั้นที่ 3 เพื่อขึ้นไปยังตัวปราสาทประธาน น่าแปลกที่จุดพักระหว่างชั้นจะมีซุ้มดอกลั่นทมหรือดอกจำปา ในภาษาลาวขึ้นปกคลุมให้ร่มเงาเมื่อยามแวะพักเหนื่อยระหว่างชั้น ตรงบันไดทางขึ้นจุดสุดท้ายนี้จะค่อนข้างชันมากขึ้นลงต้องระวังเป็นพิเศษ
![qxy3c59krr3d](/f/17566/5b34c491ef8a8603383ebecc.jpg)
![v2hwfjnh84kn](/f/17566/5b34c4baef8a8603383ebecd.jpg)
![l8juremnv3vj](/f/17566/5b34c4f9ef8a8603383ebece.jpg)
![m1nqmb3jnv37](/f/17566/5b361b8b1969ac14a6c3a2ff.jpg)
ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงตัวปราสาทประธานหรือหอไหว้ สำหรับปราสาทองค์ประธานนี้ ประกอบด้วยพื้นที่ด้านหน้าและด้านหลัง ฝาผนังส่วนด้านหน้าห้องโถง ก่อด้วยหินทราย มีประตูทางเข้า ๓ ด้าน คือด้านทิศตะวันออก ทิศเหนือ และทิศใต้ ด้านทิศตะวันตกที่ติดกับผาหินเป็นที่ประดิษฐาน ศิวลึงค์ มีน้ำศักดิ์สิทธ์ จากเพิงผาหินน้ำเที่ยง ไหลตามร่องหิน เข้าสู่ปราสาททางด้านหลังไหลเข้ามาอาบรดศิวลึงค์อยุ่ตลอดเวลา แล้วไหลตามร่องน้ำออกมาทางผนังด้านเหนือ ปัจจุบันไม่มีศิวลึงค์อยู่ในห้องนี้แล้ว
![3ngm3tgg151h](/f/17566/5b34c57e68b8340359efcf72.jpg)
![98kbela3rj57](/f/17566/5b361bc5d7c5e314ae6bf242.jpg)
![99nw7qzuiyc2](/f/17566/5b34c5a8ef8a8603383ebecf.jpg)
![4rfut7sjuij4](/f/17566/5b34c5e368b8340359efcf73.jpg)
![030wyr24rbg8](/f/17566/5b34c828ef8a8603383ebed0.jpg)
ภายในปราสาทจะมีภาพแกะสลักนูนสูงทั้งบนผนังหน้าบันและทับหลังเล่าเรื่องเทพเจ้าในศาสนาฮินดู รวมทั้งนายทวารบาลและนางอัปสรา ส่วนพระพุทธรูปมาประดิษฐานภายหลังจากที่อาณาจักรขอมเสื่อมลง เจ้าราชครูโพนสะเม็ก หรือพระยาคูขี้หอม พระภิกษุระดับมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ในอาณาจักรล้านช้างเดินทางมาตั้งเมืองจำปาสักเป็นเมืองหลวงฝ่ายใต้ ราวๆพุทธศตวรรษที่ 23 (ตรงกับสมัยอยุธยาตอนปลาย) ปราสาทวัดพูภายใต้วัฒนธรรมลาวก็ถูกปรับเปลี่ยนจากการเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู มาเป็นวัดในพุทธศาสนา และชื่อเรียกว่า “วัดพู” ก็คงเกิดขึ้นจากชาวลาวแถบนี้ที่เคารพปราสาทแห่งนี้ในฐานะพระอารามในพุทธศาสนาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
![v4uruk7mgjme](/f/17566/5b34cf5268b8340359efcf79.jpg)
![8to0owz1r0gj](/f/17566/5b34ca49ef8a8603383ebed5.jpg)
![6puwuvd5btzc](/f/17566/5b34c8c0ef8a8603383ebed1.jpg)
![sc8kxflaxu20](/f/17566/5b34c8eb68b8340359efcf75.jpg)
![6cnurhdtuvc4](/f/17566/5b34c963ef8a8603383ebed4.jpg)
![7onlueavg5w3](/f/17566/5b34c914ef8a8603383ebed2.jpg)
![9xyrctv7ser6](/f/17566/5b34c938ef8a8603383ebed3.jpg)
จากป้ายบอกทางหน้าปราสาท มีเครื่องหมายบอกทางไปยังจุดรับน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เพิงผาด้านหลังตัวปราสาท ไหลมาจากยอดลึงคบรรพต จากภูเก้า และมีรูปปั้นแกะสลักเป็นรูปรอยพระบาทกับช้าง ซึ่งจุดรับน้ำไม่ได้เก็บภาพมาฝาก ส่วนด้านขวาจะตรงไปยังโขดหินที่แกะสลักรูปช้าง และรูปจระเข้ที่ไว้สำหรับบูชายัญ เสียดายที่เราหารูปแกะสลักจระเข้ไม่พบ จุดนี้จะเต็มไปด้วยโขดหินขนาดใหญ่ และเศษซากอิฐหินโบราณ
![6vjaefzjc981](/f/17566/5b34d52f68b8340359efcf7a.jpg)
![4uz9x067yv6a](/f/17566/5b34d63e68b8340359efcf7c.jpg)
![21sfvxi23eh1](/f/17566/5b34d5f268b8340359efcf7b.jpg)
![itczc4ro9pn4](/f/17566/5b34d73368b8340359efcf7d.jpg)
หากมองจากด้านบนลงไปเราจะเห็นวิวเขียวๆของที่ราบลุ่มยาวไปจนจรดแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านกลางแขวงจำปาสัก บริเวณทางขึ้น เราจะเห็นบาราย (สระน้ำ) ขนาดใหญ่เชื่อว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้น้ำสำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นสถานที่พักเก็บน้ำเพื่อการชลประทานตั้งแต่สมัยนั้นจนงปัจุบัน ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู หมายถึง มหาสมุทรที่ล้อมรอบโลก ชาวลาวเรียกว่า “หนองสระ” สมัยก่อนเคยมีศาลารับเสด็จเจ้ามหาชีวิต (กษัตริย์ลาว) บนฐานหินเดิม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2500 ปัจจุบันถูกรื้อถอนออกไปแล้ว
![zp354lns524k](/f/17566/5b3612c31969ac14a6c3a2fb.jpg)
![mmt9vzkesuhc](/f/17566/5b34dc3668b8340359efcf7e.jpg)
![9k6jba8wblyt](/f/17566/5b34dc6f68b8340359efcf7f.jpg)
วัดพูสะเหล่า
เราออกจากวัดพูราวๆ 4 โมงกว่ากะว่าจะแวะเดินเล่นแถวๆเมืองเก่าจำปาสัก สักหน่อยเพราะยังมีวัดเก่าที่น่าสนใจบริเวณนี้อีก แต่กลัวว่าจะไปเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินบนวัดพูสะเหลาไม่ทัน และสภาพอากาศที่ฝนตกๆหยุดๆทั้งวันคงไม่เหมาะกับการเดินเล่นเป็นแน่ เลยมุ่งหน้าตรงไปวัดพูสะเหลาไปลุ้นดูว่าจะมีแสงอาทิตย์ตกยามเย็นสวยๆมั๊ย เราถึงวัดพูสะเหลาราวๆ 5 โมงกว่าปกติแล้วมีทางรถยนต์วิ่งขึ้นไปถึงยังตัวองค์พระขนาดใหญ่ด้านบนได้โดยไม่ต้องเดิน แต่ด้วยน้ำหนักของผู้โดยสาร รถเลยไม่สามารถส่งเราด้านบนได้ จึงต้องเดินอย่างเดียวเท่านั้น ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวและตอนนี้บันไดที่ชำรุดก็สร้างใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
![dht3hf36yi3f](/f/17566/5b374cc11969ac14a6c3a401.jpg)
![wpe3z1jwfzdc](/f/17566/5b374cd21969ac14a6c3a402.jpg)
![ks8xhvd7g4dz](/f/17566/5b374dad1969ac14a6c3a406.jpg)
![a9umbe8h63wo](/f/17566/5b374e25b122a50df28f68ba.jpg)
![2wik33ihqflw](/f/17566/5b5702dbb2c3376d080f70e8.jpg)
![zcc22l4d0ls8](/f/17566/5b374ce11969ac14a6c3a403.jpg)
![pwol4a0z2ka2](/f/17566/5b361f92d7c5e314ae6bf243.jpg)
![m8858kfzdq51](/f/17566/5b361fa9d7c5e314ae6bf244.jpg)
จุดชมวิววัดพูสะเหลาถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของตัวเมืองปากเซ ตั้งอยู่เชิงสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่นก่อนเข้าเมืองปากเซ
![h53e334z7utc](/f/17566/5b36209f1969ac14a6c3a301.jpg)
![w6zblc0fzv56](/f/17566/5b4710a48c970b34c15c7cff.jpg)
![vx3t14l489nr](/f/17566/5b4710bace53c734c959aca8.jpg)
![u5zqcli1ftsf](/f/17566/5b361fd8d7c5e314ae6bf247.jpg)
![sg1qpkauaicy](/f/17566/5b37478cb122a50df28f68b2.jpg)
อลิสา เกสต์เฮ้าส์
ที่พักของเราคืนแรกตั้งอยู่ในย่าน city center เป็นจุดศูนย์รวมการท่องเที่ยวในเมืองปากเซเลยก็ว่าได้ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร บริษัททัวร์ ล้วนอยู่บนถนนเส้นนี้ ผมจองที่พักผ่านเว็บอโกด้า รู้ว่าถ้า walk in เข้าไปราคาไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่เราไปกันหลายคนไม่มั่นใจว่าจะมีห้องหรือเปล่าหาก walk in เข้าไปเลยจองผ่านเว็บเพื่อความมั่นใจว่ามีห้องแน่นอนและก็คิดถูกวันนั้นที่เราไปห้องเต็มพอดี โรงแรมนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมแสงอรุณ ติดกับโรงแรมลานคำ โรงแรมนี้ไม่มีอาหารเช้าให้ ราคาตกราวๆห้องล่ะ 400-600 เราไปกันหลายคนหารกันแล้วเหลือแค่คนล่ะ 300 และก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย แค่อาศัยหลับนอนชั่วคราวแล้วไปต่อในวันรุ่งขึ้น แต่สภาพโรงแรมต้องยอมรับเลยเรื่องความสะอาด ถึงตัวห้องจะไม่มีของตกแต่งอะไรมากนัก แค่มีแอร์เย็นๆ มีน้ำอุ่นๆให้อาบก็หลับสบายแล้ว
![hr973gmtfgu3](/f/17566/5b55c4d40241ff5bcb009d05.jpg)
ห้องมาตรฐานเตียงใหญ่
![xcg776m3uqkt](/f/17566/5b55c4e30241ff5bcb009d06.jpg)
ห้องสำหรับ 3 คน 1 เตียงใหญ่ 1 เตียงเสริม
![w03pjkjw0lv5](/f/17566/5b55c4f40241ff5bcb009d07.jpg)
ห้องครอบครัว 2 เตียงใหญ่ ห้องนี้อาจมีเสียงรบกวนบ้างเพราะอยู่ติดถนน ไวไฟมีทั้ง lobby และแยกห้องใครห้องมัน
![whdi6hhn7vkw](/f/17566/5b55c8650241ff5bcb009d0d.jpg)
![fep9pt3yhipr](/f/17566/5b55c52b0241ff5bcb009d09.jpg)
ร้านอาหารดาวลิน
เราออกไปหาอาหารค่ำกันหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน มีร้านที่ได้ยินได้เห็นผ่านโลกโซเชียลมาบ้างไม่รู้จะไปร้านไหนดี เห็นบรรยากาศน่านั่งอยู่ 2 ร้านใกล้ๆที่พักชื่อร้านดาวลิน กับ สบายดีปากเซ เราเลยลองร้านดาวลินกันก่อนเพราะเดินถึงก่อน หลังจากนั้นความสนุกก็เริ่มขึ้นเมื่อเราสั่งอาหารเสร็จ แล้วรอดูหน้าตาอาหารแต่ละอย่าง แล้วลองลิ้มชิมรสชาติของแต่ละเมนูที่ยกมาเสริฟ แล้วก็ up รูปลงโซเชียลกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งแต่ละเมนูที่เห็นก็เหมือนอาหารไทยนี่แหละ แต่ที่ต่างออกไปคือ พวกวัตถุดิบ เครืองปรุง และรสชาติที่มันไม่ใช่ รสชาติไม่ค่อยจัดจ้านเหมือนบ้านเรา รสชาติมันอร่อยแบบแปลกๆ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,000 กีบ ตกจานล่ะ 100 ถึงราคาจะดูแรงแต่ จานใหญ่และเยอะมากเช็คบิลมาหมดไป 3 แสนกว่ากีบ
![08cmbutp6mst](/f/17566/5b55cb98c923f85bd31a68df.jpg)
![rtpuabwq7uao](/f/17566/5b55caee0241ff5bcb009d10.jpg)
![4jkmyjamaj11](/f/17566/5b55d5a2c923f85bd31a6911.jpg)
![tei0fr5egrnt](/f/17566/5b55dad80241ff5bcb009d16.jpg)
![ihc8hotl94uq](/f/17566/5b55db3ac923f85bd31a6914.jpg)
วันที่ 2
วัดโพธิ์รัตนศาสดาราม (วัดหลวงปากเซ)
เช้านี้เราเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ของเมืองปากเซรอรถมารับไปยังจุดหมายต่อไป จากที่พักของเรา อลิสาเกสต์เฮ้าส์ เดินไปทางซ้ายอีกไม่ไกลจะเจอวัดหลวงอยู่ตรงเชิงสะพานข้ามแม่น้ำเซโดน บรรยากาศยามเช้าค่อนข้างเงียบสงบประกอบกับฝนที่พรำลงมาเล็กน้อยตลอดทั้งคืน มองดูวิถีชีวิตผู้คนยามเช้าที่ลุกขึ้นมาใส่บาตรเป็นไปอย่างเรียบง่าย ดูมีมนต์เสน่ห์อย่างไรบอกไม่ถูก
![7hcq5dk7yi0k](/f/17566/5b45458b5899ed105342307e.jpg)
![acgf0elmre8f](/f/17566/5b45459a5899ed1053423080.jpg)
![lbkfw2x1qsmf](/f/17566/5b4545a95899ed1053423081.jpg)
วัดหลวงตั้งอยู่ริมฝั่งปากแม่น้ำเซโดนที่กำลังไหลไปลงแม่น้ำโขง เป็นวัดสำคัญที่สุดวัดหนึ่งของเมืองปากเซ ดูได้จากสถูปเก็บอัฐิเป็นของบุคคลมีชื่อเสียง เจ้านายเชื้อพระวงศ์จำปาสัก เช่นท่านกระต่าย โดนสะโลลิดอดีตนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลฝ่ายอนุรักษ์นิยมก่อนการปฎิวัติของฝ่ายซ้ายในลาว
![1nglawrxansi](/f/17566/5b454d665899ed105342308a.jpg)
![qcfpwaq3b5pp](/f/17566/5b454d765899ed105342308b.jpg)
![lqofwa7oaz6c](/f/17566/5b4551495899ed105342308c.jpg)
ถึงแม้ว่าวัดนี้จะไม่ได้เก่ามากเหมือนทางแถบหลวงพระบางหรือเวียงจันทร์ แต่ก็เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางพุทธศาสนามากว่า 100 ปี สิ่งปลูกสร้างที่ดูเก่าแก่ที่สุดในวัดน่าจะเป็นวิทยาลัยสงฆ์ ตัวอาคารสร้างแบบลาวแท้ มีเชิงชาย เครื่องหลังคาประดับประดาอยู่เต็มตามสไตล์ของวัดลาว ปัจจุบันเป็นที่เก็บตำราเก่าไม่เปิดให้เข้าชมเพราะตัวอาคารชำรุดทรุดโทรมมาก
![b4tu1moav1yh](/f/17566/5b455156745048104b436b96.jpg)
![nn4g981dygjy](/f/17566/5b44039678ed845665d3dc09.jpg)
![v40krn213dhz](/f/17566/5b468af35899ed10534232d6.jpg)
หากเดินมาชมวิวบนสะพานด้านหลังวัด จะมองเห็นสายน้ำของแม่น้ำเซโดนไหลลงไปบรรจบแม่น้ำของ หรือแม่น้ำโขงซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ไหลหล่อเลี้ยงผู้คน 2 ข้างฝั่งลำน้ำ พร้อมทั้งก่อเกิดอารยะธรรม ความเป็นอยู่ วิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังสืบทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่ามาจนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งชื่อเมืองปากเซก็มาจากที่ตั้งบริเวณปากแม่น้ำเซโดนนี่เอง
![fkdsquo3d5bb](/f/17566/5b45534b745048104b436b97.jpg)
![r6qoz31i4g2x](/f/17566/5b4553f55899ed105342308d.jpg)
![cc32dytjxb7s](/f/17566/5b49ce4b15023a310f983bdb.jpg)
เฝอลานคำ
ก่อนออกเดินทาง เรามาลองชิมเฝอร้านดังแห่งเมืองปากเซ ร้านนี้ชื่อร้านว่า "เฝอลานคำ" ตั้งอยู่หน้าโรงแรมลานคำ เปิดตั้งแต่ 6 โมงครึ่งไปจนถึงราวๆบ่าย 2 ก็หมดแล้ว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10,000 กีบ นอกจากเฝอแล้วยังมี ข้าวเปียกเส้น, ข้าวจี่ หรือ บาแก็ตต์ (ขนมปังฝรั่งเศสที่ทำเป็นลักษณะแซนด์วิชมีใส้อยู่ตรงกลาง)
![e4g6ctx86v0j](/f/17566/5b57078184dfed7fde4b170d.jpg)
![cvyhbw99sbjz](/f/17566/5b57079383e3a47fad03dcd4.jpg)
![1zmeniu06ih4](/f/17566/5b5707ac83e3a47fad03dcd5.jpg)
![ziuogtz58bzb](/f/17566/5b5708a183e3a47fad03dcd8.jpg)
ใกล้ๆกันมีร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ชื่อดังเมืองปากเซ ชื่อร้าน Miss Noy ไว้เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทาง ที่ราคาย่อมเยากว่าการเหมารถเที่ยว ตกวันล่ะ 200-300 บาท
![3ba6eimdkyhu](/f/17566/5b57098784dfed7fde4b1715.jpg)
หลังจากหาอะไรรองท้องยามเช้าแล้ว มีรถจากบ.ทัวร์ส่งสามล้อมารับพวกเราไปขึ้นรถที่หน้าบริษัทซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรา ขั้นตอนการหารถเช่าไปยังบ้านนากะสัง อันเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังหลายที่ของเมืองจำปาสักให้จองกับทางเคาน์เตอร์โรงแรม แล้วเขาจะติดต่อส่งรถมารับถึงหน้าโรงแรม ส่วนสถานที่ที่เราจะไปวันนี้คือ คอนพะเพ็ง หลี่ผี และนอนที่ดอนคอน 1 คืน ค่ารถรวมค่าเรือไปส่งยังดอนคอนตกคนล่ะ 70,000 กีบหรือประมาณ 266 บาท รถจะจอดที่ท่าเรือบ้านนากะสัง ขอบอกว่าก่อนนั่งรถให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะรถจะไม่แวะที่ไหนอีก และปั๊มระหว่างทางก็ไม่ค่อยมีห้องน้ำ ยกเว้น ปตท ของไทยที่ไปเปิดบริการอยู่ที่นั้น
![sgfhjiedie31](/f/17566/5b4577ca9c6ddf76bcbd0049.jpg)
![mqrj58fyvike](/f/17566/5b4576c49c6ddf76bcbd0045.jpg)
![h5zegp5pkafo](/f/17566/5b570db083e3a47fad03dcd9.jpg)
![0gfn9405aej1](/f/17566/5b4576d19c6ddf76bcbd0046.jpg)
![wzy92mkwrwnd](/f/17566/5b4576de5899ed10534230b9.jpg)
สภาพรถเป็นรถตู้ขนาดใหญ่แต่ค่อนข้างเก่า แอร์ไม่เย็น นั่งแถวล่ะ 4 คนอัดกันไป ต้องทำใจจริงๆเรื่องรถเช่าที่เราต้องไปแชร์กับนักท่องเที่ยวอื่นที่จะไปยังจุดหมายเดียวกัน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงท่าเรือบ้านนากะสัง รถจะมาจอดตรงสุขศาลาแล้วจะมีพวกวินมอไซด์หรือสกายแล็ปมารอรับไปยังท่าเรือ พวกเราขี้เกียจนั่งรถเลยเดินยืดเส้นยืดสายหลังจากที่อัดกันมานาน เดินมาได้ประมาณ 300 เมตรก็เลี้ยวขวาไปสอบถามนายท่าว่าเรือมีตลอดหรือเปล่า เพราะเราจะหารถไปเที่ยวคอนพะเพ็งกันก่อนค่อยกลับมาลงเรือไปดอนคอน เรื่องเรือนั้นมีตลอด แต่รถที่จะไปคอนพะเพ็งนั้นเรากะว่าจะสอบถามแถวท่าเรือ แต่พอดีว่าทางรถที่เรานั่งมาอาศัยช่วงเปลี่ยนกะ มีคนขับรถอีกคนมาเปลี่ยนบอกถ้าไปคอนพะเพ็งคิดคนล่ะ 100 สนใจมั๊ยก็เลยตอบตกลงเหมาไปในราคา 1,100 แต่ทั้งๆที่จ่ายราคาเหมาแล้วทางคนขับบอกขอรับฝรั่งไปส่งที่ด่านพรมแดนลาว-กัมพูชา อีก 2 คนซึ่งอยู่ห่างจากคอนพะเพ็งไม่กี่โล ความจริงเขาจะไปส่งฝรั่ง 2 คนแต่หารายได้พิเศษโดยเอารถบริษัทมารับพวกเราไปคอนพะเพ็งซึ่งเป็นทางผ่าน
![qfxn5dwoxney](/f/17566/5b457ade9c6ddf76bcbd004b.jpg)
![vsubeves1x46](/f/17566/5b457b2b5899ed10534230bc.jpg)
![ie7mse2x59iu](/f/17566/5b468b2c5899ed10534232d7.jpg)
![8x0yum79ix7i](/f/17566/5b49c8bdd95fdc310be90f26.jpg)
![ry6yt4vqqd77](/f/17566/5b4731ce8c970b34c15c7d8b.jpg)
น้ำตกตาดคอนพะเพ็ง
จากท่าเรือบ้านนากะสังนั่งรถไปยังคอนพะเพ็งระยะทางประมาณ 10 กิโล รถแวะส่งเราก่อนจะพาฝรั่งไปส่งยังด่านเวินคาม ซึ่งเป็นด่านชายแดนลาว-กัมพูชา ช่วงที่แวะส่งพวกเราก่อนเลยชวนฝรั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหลังจากที่คุยกันอย่างสนุกสนานตอนนั่งมาด้วยกัน สำหรับราคาค่าเข้าน้ำตกตาดคอนพะเพ็งนั้น โหดไม่ใช่เล่นแพงกว่าวัดพูซะอีก อยู่ที่คนล่ะ 55,000 กีบ เงินไทยก็ 210 บาท ! เข้ามาแล้วจะมีรถกอล์ฟพาเราไปส่งยังจุดชมวิวคอนพะเพ็ง
![c3hwsk7f8j14](/f/17566/5b457e635899ed10534230c6.jpg)
![zgcag2ropthh](/f/17566/5b457ff45899ed10534230c8.jpg)
![yajcf5h9ta0w](/f/17566/5b4580035899ed10534230c9.jpg)
![ih4evmajq3e9](/f/17566/5b4580129c6ddf76bcbd0054.jpg)
![mm92bzfqq1t7](/f/17566/5b4581919c6ddf76bcbd0055.jpg)
วิวเบื้องหน้าที่เห็นต้องบอกว่าอลังการงานสร้างจริงๆ สายน้ำสีโอวัลตินที่ไหลบ่ามาทุกทิศทุกทางเชี่ยวกรากและดุดันได้โยนตัวลงตกกระทบเกาะแก่งชั้นหินต่างๆเกิดเป็นละอองฟุ้งกระจาย และเสียงดังปานฟ้าถล่มอยู่เบื้องหน้านั้นเป็นฝีมือของธรรมชาติที่ได้รังสรรค์ปั้นแต่งขึ้นมาล้วนๆ
![zzu7kper542j](/f/17566/5b4582c25899ed10534230d0.jpg)
![j26437nxpjfm](/f/17566/5b4582d89c6ddf76bcbd0058.jpg)
![npxkxksympmn](/f/17566/5b46898c5899ed10534232d5.jpg)
![qiwp3w8tp42k](/f/17566/5b5017f4657dbe1fa12e5730.jpg)
น้ำตกคอนพะเพ็ง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในภูมิภาคอินโดจีน น้ำตกคอนพะเพ็งเป็นน้ำตกที่มีหลายชั้น ตั้งอยู่บนแก่งหินขนาดใหญ่ขวางกั้นเส้นทางการไหลของแม่น้ำโขงทั้งสาย มีลักษณะต่างระดับกันสูงประมาณ 10 เมตร จัดเป็นน้ำตกที่ได้รับน้ำจากแม่น้ำโขงตอนล่าง น้ำตกแห่งนี้ได้รับฉายาว่า "ไนแอการาแห่งเอเชีย" ตั้งอยู่ในแขวงจำปาสัก ห่างจากเมืองปากเซประมาณ 150 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อและสวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศลาว โดยคำว่า "คอน" หมายถึง "แก่ง" หรือ "เกาะ" "พะเพ็ง" หมายถึง "พระจันทร์วันเพ็ญ"
![iu43h35m1el9](/f/17566/5b45830e5899ed10534230d3.jpg)
![7upg9s7gqcnr](/f/17566/5b466be835ed0a3db132b9b7.jpg)
![15ssdnb267mg](/f/17566/5b466c035899ed10534232d1.jpg)
![1aa0ndsg2vj9](/f/17566/5b4674b75899ed10534232d3.jpg)
![9kttvlajxkby](/f/17566/5b4674d25899ed10534232d4.jpg)
![7jkr0scipchn](/f/17566/5b466c575899ed10534232d2.jpg)
นอกจากวิวที่งดงามแล้ว ยังมีร้านอาหารของที่นี่ชื่อร้าน"ศาลาชมวิว"ที่รสชาติอร่อยไม่แพ้วิวเลย โดยเฉพาะเมนูปลาแม่น้ำโขงทั้งหลาย เสียดายไม่ได้ถ่ายเก็บภาพมาฝาก เพราะหิวกันมาก เราใช้เวลาเก็บภาพและทานอาหารกันอยู่ 2 ชั่วโมงกว่าจึงเดินทางกลับไปยังท่าเรือบ้านนากะสัง จากท่าเรือบ้านนากะสังไปยังที่พักของเราที่ดอนคอนใช้เวลาเดินทางไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ตลอดลำน้ำที่กว้างใหญ่บริเวณนี้มีเกาะแก่งอยู่มากมายยามน้ำลดจึงเป็นที่มาที่เรียกันว่า "สี่พันดอน" ซึ่งหมายถึงมีเกาะแก่งบริเวณนี้ถึง 4 พันเกาะ แต่เกาะใหญ่ที่สุดชื่อว่าดอนโขงซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่มากที่สุดเรียกได้ว่าเป็นเมืองๆนึง นอกนั้นก็เป็นเกาะเล็กเกาะน้อย แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักก็ 2 เกาะคือ ดอนเดด ดอนคอน ในส่วนของดอนเดดจะอยู่ใกล้ท่าเรือมากที่สุด ที่พักหลักๆจะอยู่ที่ดอนเดด ส่วนดอนคอนจะอยู่ลึกเข้าไปแต่จะสงบกว่าและอยู่ใกล้น้ำตกหลี่ผี กับคอนปลาสร้อยมากกว่า ทั้ง 2 เกาะนี้จะมีสะพานเชื่อมถึงกัน ระหว่างทางจะมองเห็นสิ่งปลูกสร้างในยุคล่าอาณานิคมทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์
![ts4ec8oyzb6f](/f/17566/5b468cd835ed0a3db132b9b8.jpg)
![55w588qscwjt](/f/17566/5b468de35899ed10534232d8.jpg)
![47ivl8qazkvv](/f/17566/5b468df035ed0a3db132b9ba.jpg)
![zsky6n6rcird](/f/17566/5b468ced35ed0a3db132b9b9.jpg)
![gb05atjs2krk](/f/17566/5b50199d2747bd1f99984d03.jpg)
ศาลาดอนคอน
เรามาถึงที่พักที่ศาลาดอนคอนราวๆ 3 โมงกว่า ให้เวลาพักผ่อนกันสักชั่วโมงนึง แล้วเดี๋ยว 4 โมงเราจะออกเที่ยวกันต่อ ที่พักที่เราจองไว้เป็น โรงแรมที่สร้างขึ้นในยุคล่าอาณานิคม เมื่อครั้งที่ลาวยังตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1896 หรือราวๆ 122 ปีมาแล้ว ซึ่งสถาปัตยกรรมเป็นแบบ French -Colonial style ซึ่งสมัยนั้นที่นี่เคยเป็น รพ.มาก่อน หลังจากสงครามอินโดจีนสงบลง ทางเจ้าของโรงแรมได้รับสัมปทานพื้นที่บริเวณนี้จึงปรับปรุงมาเป็นที่พักจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ห้องพักแบบ French Heritage Villa ซึ่งเป็นอาคารเก่าที่มีกลิ่นอายสถาปัตยกรรมสมัยนั้นหลงเหลืออยู่บนเกาะแห่งนี้ ใครอยากสัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดห้องนี้ ราคาห้องพักประมาณ 600-900 บาท
![acwo6wbpdj47](/f/17566/5b5802edacecda63661f1892.jpg)
![eqlbdxbaht9h](/f/17566/5b580380acecda63661f1893.jpg)
![9laruy45uty9](/f/17566/5b58038facecda63661f1894.jpg)
![7jc5eifzpn4l](/f/17566/5b5803ca4600e36362cadfff.jpg)
![pnlt27wkrglw](/f/17566/5b58039e4600e36362cadffd.jpg)
![cuaptmn666jt](/f/17566/5b5803ba4600e36362cadffe.jpg)
นอกนั้นก็จะมีบ้านพักอีกหลายสไตล์ทั้งแบบบ้านลาว ห้องสตูดิโอ หรือแบบบ้านดินผสมผสานกันอยู่ในเนื้อที่ที่มีต้นไม้ปกคลุมให้ความร่มรื่นไปทั่วบริเวณ
![nf5ncdr76wj7](/f/17566/5b580721acecda63661f18a4.jpg)
![dn4lnlcqtcac](/f/17566/5b580782acecda63661f18a7.jpg)
![flyxh5fev21s](/f/17566/5b58080f4600e36362cae000.jpg)
นอกจากพื้นที่ที่เป็นสวนแล้วทางโรงแรมยังมีที่พักที่เป็นเรือนแพริมน้ำด้วย และผมก็พักส่วนของเรือนแพ ยอมรับว่าถูกใจมากทั้งห้องพักและบรรยากาศรอบๆ แถมหน้าห้องพักยังมีสระว่ายน้ำ และมีชั้นดาดฟ้าบนเรือนแพไว้ขึ้นไปชมวิวอีกด้วย
![7vr31xlm3208](/f/17566/5b5808b44600e36362cae001.jpg)
![2167oixfk6w8](/f/17566/5b5808c9acecda63661f18a8.jpg)
![o4ltkb6zub0e](/f/17566/5b5808e4acecda63661f18a9.jpg)
![5rgcqymfmxu1](/f/17566/5b580902acecda63661f18aa.jpg)
![e0kcgarjaaf5](/f/17566/5b580919acecda63661f18ab.jpg)
![a6exkvq753pa](/f/17566/5b580b4cacecda63661f18ae.jpg)
![4gsg3lssw9o7](/f/17566/5b580939acecda63661f18ac.jpg)
![crl4uub0b6ld](/f/17566/5b580b32acecda63661f18ad.jpg)
4 โมงแล้ว มาต่อกันทันทีโดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ตาดสมพะมิดหรืออีกชื่อที่รู้จักกันดีคือหลี่ผีนั่นเอง และะอีกที่คือคอนปลาสร้อย แต่ด้วยเรื่องเวลามันอาจจะเก็บได้ไม่หมด ตอนนี้เรามีทางเลือกอยู่ 3 ทางในการจะไปยังจุดหมายปลายทางจากทางรีสอร์ท คือ 1.ใช้จักรยาน 2.มอเตอร์ไซด์ 3.มอเตอร์ไซด์พ่วงข้างพร้อมคนขับ เราเลือกทางเลือกที่ 3 ให้ทางรีสอร์ทหาสารถีพาไปยังจุดหมายปลายทางพร้อมกับแจ้งว่าหากเก็บไม่ทันจะมาต่อที่คอนปลาสร้อยในตอนเช้าอีกที เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้วมีเวลาแค่ประมาณชั่วโมงเดียวก็จะค่ำแล้ว ตกลงราคากันที่คนล่ะ 210 บาทรวมค่าเรือไปส่งขากลับในวันรุ่งขึ้น กว่าจะหาคนขับได้ใช้เวลานานพอสมควรแถมหิ้วลูกมาทำงานด้วยอีก
![p76xsjscrnhb](/f/17566/5b4732f08c970b34c15c7d8c.jpg)
![w4dvnisdnw5v](/f/17566/5b4733028c970b34c15c7d8d.jpg)
![fxyjom7u9x7h](/f/17566/5b49be2415023a310f983bb2.jpg)
![ohc1onb7bp3a](/f/17566/5b4734df8c970b34c15c7d8f.jpg)
น้ำตกตาดสมพะมิด (หลี่ผี)
รถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างพาพวกเราวิ่งออกจากหมู่บ้านไปตามทางดินที่เต็มไปด้วยหลุมโคลน ผ่านวัดคอนใต้ที่ท้ายหมู่บ้าน ผ่านเรือกสวนไร่นา ปลายนาจะมีเจดีย์บรรจุกระดูกของบรรพบุรุษ ซึ่งผมไม่เห็นมานานมากแล้ว จำได้เมื่อตอนเด็กๆที่บ้านก็มีเจดีย์แบบนี้อยู่ปลายนาเหมือนกัน สภาพแวดล้อมรอบตัวดูเขียวไปหมดกลิ่นไอดินไอหญ้าหลังฝนตกใหม่ๆโชยมากระทบ ผมชอบกลิ่นแบบนี้จริงๆ นั่งรถชมวิวไปได้ไม่นานน่าจะสัก 2 กิโลก็ถึง เสียค่าเข้ากันคนล่ะ 35,000 กีบ ราวๆ 140 บาทไทย บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบมีแต่กลุ่มเรากลุ่มเดียวที่เดินเข้าไป มีป้ายบอกทางให้เห็นชัดเจน เดินผ่านดงไผ่ไปไม่ไกลก็จะได้ยินเสียงน้ำดังมาแต่ไกล
![mioealzf5pwy](/f/17566/5b49be5f15023a310f983bb5.jpg)
![04s5hs4ljh5s](/f/17566/5b47363c8c970b34c15c7d90.jpg)
![t4puostdbzg0](/f/17566/5b4738e8ce53c734c959ad11.jpg)
![m5mgxopsf3n8](/f/17566/5b473872ce53c734c959ad10.jpg)
![z22qgkx9hd20](/f/17566/5b48719c15023a310f983a80.jpg)
![d0pxmowpkyu6](/f/17566/5b473ca68c970b34c15c7d92.jpg)
เบื้องหน้าที่เราเห็นตรงบริเวณจุดชมวิวที่อยู่ระนาบเดียวกันกับตัวตาด เป็นมวลน้ำสีแดงขุ่นข้นไหลผ่านเกาะแก่งซอกหลืบของชั้นหินตกลงไปยังวังน้ำด้านล่าง ที่มาของชื่อหลี่ผี นั้นมาจากอุปกรณ์จับปลาประเภทหนึ่งของชาวบ้านไว้สำหรับดักปลา ในช่วงสงครามอินโดจีนมีศพทหารลอยตามน้ำมาติดที่หลี่จำนวนมากเลยเป็นที่มาของชื่อสถานที่แห่งนี้ แต่ความจริงยังมีอีกชื่อนึงที่ส่วนใหญ่คนลาวเรียกกันคือ ตาดสมพะมิด หมายถึงทางเดินของสายน้ำที่ไหลมาตามช่องต่างๆจนมาเจอกัน (สมพาหรือรวมหลายสายมาเป็นมิตรกัน)
![xwympebs00k0](/f/17566/5b473cdc8c970b34c15c7d93.jpg)
![csvds6a29ob4](/f/17566/5b473cf48c970b34c15c7d94.jpg)
![6jyg29gbcy83](/f/17566/5b49c58515023a310f983bd6.jpg)
เราเดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อที่จะไปยังชายหาด แต่เดินเข้าไปรู้สึกว่ายังไม่มีวี่แววจะเจอประกอบกับฝนก็เริ่มตกพรำๆมาแล้ว เลยตัดทางหามุมมองที่จะมองเห็นตัวตาดเต็มๆ ซึ่งเป็นมุมที่เขากำลังจะสร้างเป็นจุดชมวิวอีกจุด ซึ่งมุมนี้เป็นมุมกว้างจะเห็นตัวตาดในมุมที่สูงกว่า จริงแล้วช่วงเวลาที่เหมาะที่จะมาเที่ยวแถบนี้ควรจะเป็นช่วงธันวา - มีนา มากกว่าเพราะเป็นช่วงน้ำน้อยจะมองเห็นแก่งหินโผล่ขึ้นมามากมาย และน้ำจะใสมากกว่าช่วงน้ำหลาก
![l6u2m7dyo4ie](/f/17566/5b49bea1d95fdc310be90f15.jpg)
![7qcyrlt4da1x](/f/17566/5b49bed715023a310f983bb9.jpg)
![hg9fqzgdgx4t](/f/17566/5b4870ba15023a310f983a79.jpg)
![zbzmgcx93brx](/f/17566/5b4870cb15023a310f983a7b.jpg)
![zxyy4ezjw2na](/f/17566/5b4870e315023a310f983a7d.jpg)
![re170dtk9xbn](/f/17566/5b49bf05d95fdc310be90f16.jpg)
ฝนไล่หลังเรามาแล้ว เราเดินทางกลับแบบเปียกๆแบบนั้นแหละได้บรรยากาศดี ต่างคนต่างแยกย้ายกันขึ้นรถ ผมล่วงหน้ามาก่อนถึงที่พัก แต่แปลกใจว่าเพื่อนบางคนทำไมยังไม่ตามมา พอเขามาถึงเล่าให้ฟังว่าคนขับที่พาลูกซ้อนไปด้วยทิ้งไปหลบฝนกันดื้อๆปล่อยให้เพื่อนผมนั่งคอยอยู่บนรถแถมไม่เอาลูกลงไปหลบฝนด้วยปล่อยให้นั่งเปียกอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์ เพื่อนต้องอุ้มเด็กมาหลบฝนบนนที่นั่งผู้โดยสารแทน เป็นอีกเรื่องที่ต้องทำใจกับเรื่องการบริการนักท่องเที่ยวของคนในชุมชน ซึ่งทางผู้จัดการรีสอร์ทก็ขอโทษพร้อมบ่นให้ฟังว่า กว่าจะหารถได้บางคนรับปากแล้วก็ไม่ยอมมา บางคนก็นอนอยู่ยังไม่ตื่น เลยต้องหาคนที่พอจะขับรถพานักท่องเที่ยวไปได้ ผู้คนที่นี่อาจจะเคยชินกับวิถีชีวิตแบบเดิมๆที่ไม่เร่งร้อนอะไร แม้แต่ตอนกลางคืนไฟบนเกาะดับ เขาก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เพราะเมื่อก่อนเขาก็อยู่กันแบบไม่มีไฟฟ้าใช้ ทางรีสอร์ทก็แจ้งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ แต่ก็ไม่เข้าไปจัดการ ผมเองก็พยายามไม่ถือสาอะไรมาก เพราะเคยมาเที่ยวลาวใต้หลายครั้ง ค่อนข้างเข้าใจอุปนิสัยของคนลาว อะไรผ่านได้ก็ผ่าน ไม่งั้นจะเที่ยวไม่สนุก
ร้านอาหารศาลาดอนคอน
ไม่ต้องไปหาร้านอาหารที่ไหน ในตัวของโรงแรมมีร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศชิลๆ สบายๆไว้สำหรับนั่งทานอาหารหรือจะนั่ง drink รสชาติอาหารก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว เป็นรสชาติของคนพื้นที่จริงๆในส่วนเมนูบ้านๆอย่างเมนูจำพวกปลาทั้งหลาย อย่างลาบปลาแม่น้ำโขง ต้มยำปลาคัง ปลาเผาจิ้มแจ่ว ส่วนอาหารเช้าจะรวมอยู่ในราคาห้องพักแล้ว ก็จะเป็นเมนูให้เลือกอยู่ 3 เมนูคือ ข้าวต้ม, ขนมปัง-ไข่ดาว ออมเล็ท, ไข่กระทะ เลือกอย่างใดอย่างนึงแต่ไปๆมาๆเราขอเพิ่มเมนูอื่นๆก็ยกมาเสริฟให้เรื่อยๆ
![yyna7f2rt6ns](/f/17566/5b5a95b64706140306d95256.jpg)
![t407rot8u4t7](/f/17566/5b5a923f4706140306d95255.jpg)
![q7tl62gfl14f](/f/17566/5b5a9257d5299002ff6204fd.jpg)
เช้าวันที่ 3
ปั่นจักยานชมวิวดอนคอน
เช้านี้ผมลุกขึ้นมาตอนประมาณตี 5 ครึ่งที่นี่สว่างเร็วมาก ยืมจักรยานทางรีสอร์ทปั่นเที่ยวบนเกาะดอนคอนสูดอากาศยามเช้า ดูวิถีชีวิตผู้คน ชมเศษซากของสิ่งปลูกสร้างที่ยังหลงเหลืออยู่เมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสยึดครองบริเวณนี้ ผมเข็นจักยานขึ้นไปบนสะพานฝรั่งเศษที่เชื่อมระหว่างเกาะดอนเดด และดอนคอน ยืนมองทัศนียภาพรอบๆตัว ไอหมอกลอยปกคลุมภูเขาอยู่เบื้องหลังเกสต์เฮ้าส์ที่เงียบสงบในช่วงโลว์ซีซั่น สายน้ำที่ไหลเอื่อยๆนานๆจึงจะมีเรือสักลำแล่นผ่านมา ชาวบ้านลอยเรือไปปลดปลาที่วางอวนไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ร้านอาหารตรงเชิงสะพานมีเสียงทำกับข้าวลอยมาให้ได้ยิน ภาพเหล่านี้คือวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่กำลังปรับตัวเข้ากับกระแสการท่องเที่ยวที่กำลังไหลบ่ามายังที่แห่งนี้ อีกไม่นานคงจะเหมือนที่ท่องเที่ยวอื่นๆทีเมื่อความเจริญย่างกรายเข้ามา วิถีชีวิตของคนท้องถิ่นก็จะค่อยๆเลือนหายไป
![67zhh0y47nk5](/f/17566/5b49ba67d95fdc310be90f11.jpg)
![s3orsrg5duy1](/f/17566/5b487b4815023a310f983aaa.jpg)
![mc0yjn24jbxo](/f/17566/5b487b9f15023a310f983aab.jpg)
![uc8tp96aextm](/f/17566/5b49caa8d95fdc310be90f29.jpg)
![dh045azz1n0z](/f/17566/5b49ca92d95fdc310be90f28.jpg)
![oscw0znv4sdx](/f/17566/5b487e5cd95fdc310be90e34.jpg)
![50pyeuhk35v4](/f/17566/5b50247d2747bd1f99984d0a.jpg)
![9q5fg0l2c4c5](/f/17566/5b488560d95fdc310be90e38.jpg)
![f46rimmrhhhu](/f/17566/5b487e2ad95fdc310be90e33.jpg)
![2519m2m5co1q](/f/17566/5b487e7215023a310f983ab1.jpg)
น้ำตกคอนปาส้อย (คอนปลาสร้อย)
เรานัดมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างไว้ตอน 8 โมงเช้าเพื่อมาเก็บตกน้ำตกคอนปลาสร้อยหลังจากที่เมื่อวานเราทำเวลาไม่ได้ รถมารับเราแค่ 3 คัน อีก 2 คันยังไม่ตื่นทางรีสอร์ทเลยให้มอเตอร์ไซด์เราขับไปเองอีก 2 คัน เราไปทางเดิมกับเส้นหลี่ผี แต่ก่อนถึงสะพานฝรั่งเศสจะมีทางเลี้ยวซ้ายออกหลังหมู่บ้านขับลัดเลาะไปตามเส้นทางที่สองข้างทางเป็นป่าละเมาะค่อนข้างเปลี่ยว ระยะทางสัก 3-4 กิโลได้จะมีป้ายบอกทางเล็กๆตามแยกต่างๆถ้าไม่สังเกตุให้ดีอาจมีหลงได้ ในที่สุดก็มาถึงคอนปลาสร้อย น่าแปลกใจที่ตรงนี้กลับไม่เสียค่าเข้า
![wdsbdfs3clp5](/f/17566/5b488bdad95fdc310be90e43.jpg)
![cvvtipinylek](/f/17566/5b49cc22d95fdc310be90f2b.jpg)
![dt3908790cji](/f/17566/5b49cc0d15023a310f983bd8.jpg)
![gfcchfn9b48b](/f/17566/5b49b84915023a310f983b9d.jpg)
![4bryu8slboby](/f/17566/5b49bd7cd95fdc310be90f14.jpg)
![mnll3uabpvku](/f/17566/5b49cc53d95fdc310be90f2c.jpg)
เราเดินผ่านเข้ามาในรัั้วบ้านเหมือนเป็นบ้านคนและทำเป็นร้านอาหารตรงเชิงสะพานแต่ไม่เห็นมีใครอยู่ ใกล้ๆมีสะพานแขวนข้ามลำน้ำที่ไหลเชี่ยวอยู่เบื้องล่างดูน่าหวาดเสียวนัก เราเลยหยุดถ่ายภาพหวาดเสียวกันสักหน่อย เดินมองไปมองมา ภาพในหัวบอกผมว่าคอนปาสร้อยไม่ได้มีแค่นี้ ผมเลยเดินข้ามสะพานเข้าไปในป่าฝั่งตรงข้าม ตอนนี้เราเริ่มแตกเป็น 3 กลุ่ม แต่เส้นทางไม่ได้ชวนหลงมากนัก เดี๋ยวก็วนมาเจอกันเอง ผมเดินลึกเข้าไปจนสุดชายน้ำ ภาพเบื้องหน้าคือแหล่งทำประมงของชาวบ้านมาหลายชั่วอายุคน ชาวบ้านกำลังวางหลี่ดักปลาไว้แทบทุกจุดของลำน้ำที่ไหลเชี่ยวรอฤดูกาลจับปลาในช่วง กรกฎาคม-สิงหาคมที่จะมาถึงนี้ หากเจ้าปลาเคราะห์ร้ายตัวใดที่ว่ายน้ำขึ้นเหนือมาวางไข่ที่อยู่ต้นน้ำหากมาเจอเกาะแก่งที่ขวางกั้นก็จะพากันกระโดดข้ามไป แต่หากตัวใดหมดแรงก็จะตกลงไปยังหลี่ที่ดักไว้อยู่มากมาย ซึ่งภูมิปัญญาของชาวบ้านที่สามารถจับปลาได้ปีละจำนวนมากๆที่เราเห็นนี้อาจจะหายไปจากการมาของเขื่อนดอนสะโฮง ที่กำลังก่อสร้างอยู่แถวบ้านดอนสะดำ ไม่ไกลจากจุดนี้มากนัก ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบถึงวิถีชีวิตชาวประมง ยังมีผลกระทบไปถึงแหล่งท่องเที่ยวอย่างคอนพะเพ็งที่ระดับน้ำอาจลดต่ำลง นอกจากนี้ยังมีฝูงปลาโลมาอิรวดีที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ที่เหลืออยู่อีกไม่ถึง 10 ตัวด้วย
![cduyuhqz3wxn](/f/17566/5b5021e12747bd1f99984d09.jpg)
![v0i4t2oum07s](/f/17566/5b49ccc9d95fdc310be90f30.jpg)
![7ypyiyah91ep](/f/17566/5b501dae2747bd1f99984d06.jpg)
![y55ktyv6c8c5](/f/17566/5b501d902747bd1f99984d05.jpg)
![q4nj3zr85hem](/f/17566/5b5025082747bd1f99984d0b.jpg)
เราออกเดินทางกลับเข้าฝั่งท่าเรือบ้านนากะสังอีกครั้งตอน 10 โมงเช้า วันนี้เราจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปทางเมืองปากซอง โดยเราได้นัดรถมารับตอน 10 โมงครึ่งกับบริษัททัวร์เจ้าเดิมที่ตอนขามา ในราคาเหมา 2 วันราคา 2,200,000 กีบ ตีเป็นเงินไทยตก 8,800 บาทหาร 11 คนตกคนล่ะ 800 โดยรับจากท่าเรือบ้านนากะสังแวะเที่ยวตามรายทางไปเรื่อยๆแล้วไปพักเมืองปากซองคืนนึงอีกวันก็เที่ยวต่อและมาส่งพวกเราที่ด่านชายแดนวังเต่า-ช่องเม็กในตอนเย็น
น้ำตกตาดฟาน
ช่วงนี้เมืองปากซองกำลังขยายถนนต้อนรับนักท่องเที่ยว(ทำทุกปีไม่เสร็จสักที)ที่กำลังหลั่งไหลกันมาตลอดหลายปีที่ลาวได้เริ่มเปิดประเทศ เราใช้เวลาเดินทางจากบ้านนากะสังมาถึงเมืองปากซองราวๆบ่ายโมงกว่ารถพาเราไต่ระดับความสูงขึ้นไปโดยไม่รู้ตัว จนหูเริ่มอื้อถึงได้รู้ว่าตอนนี้เราขึ้นมาบนที่ราบสูงแห่งเมืองปากซองแล้ว ภาพความทรงจำเก่าๆผุดขึ้นมากมายตลอดช่วงเวลาหลายปีบนเส้นทางนี้.. ที่แรกที่จะไปต่อจากนี้คือ น้ำตกตาดฟาน ซึ่งตั้งอยู่หลักกิโลเมตรที่ 38 มีทางแยกเข้าขวามือเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตรเราจะแวะกินข้าวกลางวันกันที่นี่หลังจากเลยเวลาอาหารกลางวันมาเกือบ 2 ชม. เสียค่าเข้าคนล่ะ 10,000 กีบ
![fukk5mo38skj](/f/17566/5b5031582747bd1f99984d18.jpg)
![pldz4th4rl3l](/f/17566/5b5030a22747bd1f99984d17.jpg)
![7825p6ymx3hl](/f/17566/5b5039f32747bd1f99984d1c.jpg)
![h9bdfhqzf80h](/f/17566/5b503270657dbe1fa12e5746.jpg)
![sof5yi7rkjlh](/f/17566/5b5034032747bd1f99984d1b.jpg)
น้ำตกตาดฟาน เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในแขวงจำปาสัก จากจุดชมวิวมองลงไปจะเห็นสายน้ำ 2 สายไหลมาตกลงหุบเหวเบื้องหน้า สายน้ำด้านซ้ายไหลมาจากห้วยผักกูด ส่วนด้านขวาจะไหลมาจากอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวบนที่ราบสูงบอละเวน ความรุนแรงของสายน้ำผนวกกับความสูงที่มวลน้ำไหลตกลงไปยังด้านล่างทำให้เกิดละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ที่นี่นอกจากจะมีรีสอร์ทให้พักแล้ว ยังมี zipline ซึ่งตอนนี้กำลังโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยใครอยากลองมาสัมผัสลองได้น่ะครับราคาไม่แรงเหมือน ตาดเสือตาดขมึด ซึ่งปีก่อนผมเคยมาลองความเสียวดูแล้วปีนี้เลยขอผ่าน
![qpmfgigkg52w](/f/17566/5b51a289b1168856955bb3c9.jpg)
![1939cfdlzh4r](/f/17566/5b51a096fe7cd3568d05e313.jpg)
![hxlzl9tnjhrv](/f/17566/5b5032862747bd1f99984d1a.jpg)
ภาพจากปีที่แล้วที่ผมได้มาลองความเสียว
![q94qlhyxdzqt](/f/17566/5b519e68b1168856955bb3c8.jpg)
ตาดอีตู้รีสอร์ท
เราใช้เวลาที่ตาดฟานกันค่อนข้างนานสัก 2 ชม.เห็นจะได้ เลยเปลี่ยนแผนจากการที่จะไปตาดเยืองต่อ มุ่งหน้าเข้าที่พักกันดีกว่า จะได้มีเวลาเล่นน้ำให้ชุ่มปอดกันเลยทีเดียว เราออกจากตาดฟานมาที่ตาดอีตู้รีสอร์ทใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ตาดอีตู้รีสอร์ทตั้งอยู่หลัก 35 จากแยกปากทางเข้าบนถนนสายปากเซ-ปากซอง เข้าไปประมาณ 1 กม.ตัวรีสอร์ทเป็นแบบบังกาโลตั้งลดหลั่นลงมาจากเนิน มีความร่มรื่นและความชื้นสูงเช้าๆบางวันจะมีไอหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 - 1,300 บาท
![snkh3qpk2k35](/f/17566/5b585c2415433e06b0ba0df6.jpg)
![r4lhd80yetkg](/f/17566/5b585c3515433e06b0ba0df8.jpg)
![px888h65bs7z](/f/17566/5b585c5b3dbeb006b440de0e.jpg)
![zq4xzj0fdsun](/f/17566/5b585c6b15433e06b0ba0df9.jpg)
![f4p0ytopo5rm](/f/17566/5b585c7815433e06b0ba0dfa.jpg)
![f0ab7abvk1sk](/f/17566/5b585c843dbeb006b440de0f.jpg)
![504klag0ck7n](/f/17566/5b585c913dbeb006b440de10.jpg)
น้ำตกตาดอีตู้
หลังจากจัดแจงเก็บของไว้ในห้องพักแล้ว พวกเรารีบลงไปสำรวจตาดกันทันทีเพราะอีกไม่นานก็ใกล้จะค่ำแล้ว แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจซะงั้น ประกอบกับทางเดินลงค่อนข้างลื่นและสูงชันเอาเรื่องอยู่ เราเลยมานั่งหลบฝนกันในศาลาริมทางเดินรอฝนหยุดและตัดสินใจว่าจะลงวันนี้หรือพรุ่งนี้เช้าดี แต่ไหนๆก็มองเห็นน้ำตกอยู่ข้างหน้าใกล้ๆแล้ว จะมานั่งจับเจ่าเป็นนกเขาคอตกก็ใช่เรื่อง ไม่ลงไปก็คงเสียดายแย่ เพราะพรุ่งนี้เช้าเราต้องรีบทำเวลาไปเก็บตกตาดอื่นๆอีก (ที่นี่ถ้าเป็นคนนอกที่ไม่ได้พักในรีสอร์ทจะเสียค่าเข้ามาชมน้ำตกคนล่ะ 5,000 กีบ)
![jcv3e8wauzru](/f/17566/5b51a68dfe7cd3568d05e31d.jpg)
![xsduv92gbp3o](/f/17566/5b51a790b1168856955bb3cc.jpg)
![psppk7kcl7x4](/f/17566/5b52ed1fb1168856955bb4e0.jpg)
ทางลงที่สูงชันไม่เป็นอุปสรรคมากนัก เป็นบันไดปูนมีราวจับดูมั่นคงแข็งแรงดี แต่ขาขึ้นคงเหนื่อยหน่อยเพราะขึ้นสุดลงสุด ภาพเบื้องหน้าที่เราเห็นในระยะใกล้ คือความงามของตัวน้ำตกตาดอีตู้ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ไร้สิ่งรบกวน ความสดชื่นเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้ากับละอองน้ำที่เย็นเฉียบกระเซ็นมาสัมผัสผิวกายเรียกให้เราเดินเข้าไปใกล้ๆ หลังจากนั้นเราก็ดื่มด่ำเพลิดเพลินไปกับสายน้ำกันอย่างเต็มที่
![80r8ve9whh04](/f/17566/5b52ecd9b1168856955bb4df.jpg)
![3l5u0jmvi7u9](/f/17566/5b51acd7b1168856955bb3d0.jpg)
![zq92tqb8iezw](/f/17566/5b51aaa2fe7cd3568d05e31f.jpg)
![ccho2yvuzjav](/f/17566/5b51af07fe7cd3568d05e324.jpg)
![mi7tguo8lpdp](/f/17566/5b51abd2b1168856955bb3cf.jpg)
![o78ez2uoqt5x](/f/17566/5b51aee5fe7cd3568d05e323.jpg)
![ss379pft2yqg](/f/17566/5b51ae58b1168856955bb3d5.jpg)
![98sn67ibqmte](/f/17566/5b51ae46b1168856955bb3d4.jpg)
![shipu1ifafh4](/f/17566/5b51af28fe7cd3568d05e326.jpg)
วันที่ 4
ตาดเยือง
หลังจาก check out เรานัดรถมารับประมาณ 9 โมงตรง มุ่งหน้าสู่ตาดเยืองซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก ตั้งอยู่บ้านหลักที่ 40 มีทางแยกเข้าขวามือเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ฝนฟ้าก็ยังคงตกๆหยุดอยู่เช่นเคย แถบนี้ขึ้นชื่อเรื่องฝนชุกทีเดียว เที่ยวหน้าฝนต้องทำใจอาจะไม่สะดวกเฉอะแฉะไปบ้าง แต่สิ่งที่คุณจะได้รับคือธรรมชาติอันแสนสดชื่นในช่วงฤดูฝนและเป็นช่วงที่ปลอดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ตาดเยืองในวันนี้ดูเปลี่ยนไปจากหลายปีก่อนที่เคยมา มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆเกิดขึ้นอีก 2-3 จุด ดูเป็นระเบียบมากขึ้น เสียค่าเข้าคนล่ะ 10,000 กีบ
![kkcvaf5hq4r9](/f/17566/5b52efc7b1168856955bb4e1.jpg)
![z4iwdyegv1ji](/f/17566/5b544b8b420f063c06626879.jpg)
![5gzp7k6yzpld](/f/17566/5b51b1deb1168856955bb3d9.jpg)
![pblta6t7cg50](/f/17566/5b51b34afe7cd3568d05e329.jpg)
![006b29okrjqs](/f/17566/5b53f7c0420f063c0662683f.jpg)
![eklp45upde61](/f/17566/5b51b359b1168856955bb3db.jpg)
![k9y5b7x57xh1](/f/17566/5b544b5d420f063c06626878.jpg)
![b5e4aq3fn7wc](/f/17566/5b51b36afe7cd3568d05e32a.jpg)
![ge6pti32x84m](/f/17566/5b544ba1420f063c0662687a.jpg)
ตาดถ้ำจำปี
ตั้งอยู่หลัก 38 เช่นเดียวกับตาดฟานแต่คนละฝั่ง จะเห็นว่าแถบนี้มีน้ำตกมากมาย ตั้งอยู่เรียงราย 2 ข้างทาง จากปากทางเข้าไปค่อนข้างลึกพอสมควร ตลอดรายทางล้วนเต็มไปด้วยไร่กาแฟของชาวบ้าน แทบจะเป็นพืชประจำบ้านของที่นี่เลยก็ว่าได้ นอกนั้นก็ยังมีผลไม้เมืองหนาว ทั้งอะโวคาโด และแม็คคาดาเมีย เป็นต้น ส่วนค่าเข้าที่นี่คนละ 5,000 กีบ เราเดินลัดเลาะเข้าไปในไร่กาแฟที่ปลูกอยู่ข้างน้ำตกไม่ไกลก็จะเห็นตัวน้ำตกจากมุมสูง มีทางลงอยู่ 2 ทาง ทางแรกอยู่ตรงจุดชมตัวน้ำตกมุมสูงลงบันได้ไม้แคบๆและค่อนข้างชัน กับอีกทางเดินไปท้ายไร่ไม่ไกลมากแล้วเดินเรียบลำธารย้อนมา เดินข้ามสะพานข้ามห้วยไปยังฝั่งตรงข้าม
![6achyqgpm87t](/f/17566/5b52f63e420f063c06626793.jpg)
![d2nzu6n374ic](/f/17566/5b52f71db1168856955bb4ee.jpg)
![khxx69gq3zwt](/f/17566/5b52f732420f063c06626794.jpg)
![np41fia1cqt7](/f/17566/5b52f79a420f063c06626795.jpg)
![fuuo10ffe3j0](/f/17566/5b52f7ebb1168856955bb4f0.jpg)
ตัวน้ำตกตาดถ้ำจำปีมีความสูงราวๆสัก 5 เมตรได้ สามารถเล่นน้ำได้ แต่พวกเราไม่ได้เล่นน้ำกัน เพราะต้องรีบทำเวลากลับเข้าด่านไปขึ้นเครื่องตอนประมาณ 6 โมงเย็น
![f3i1a83923of](/f/17566/5b52fb5ab1168856955bb4f1.jpg)
![zh6tbi3bzd2b](/f/17566/5b52fde7420f063c06626798.jpg)
![s2c672vyc4pi](/f/17566/5b52fdf6b1168856955bb4f2.jpg)
![oyqmoh1le9fu](/f/17566/5b52fb6d420f063c06626796.jpg)
![ttj4czjeprhs](/f/17566/5b52fe1eb1168856955bb4f4.jpg)
![lesxrfz8sp2l](/f/17566/5b52fe0eb1168856955bb4f3.jpg)
ขึ้นมาจากตัวน้ำตกนั่งแวะกินน้ำกินท่าร้านค้าตรงบริเวณทางลงน้ำตก และช่วยอุดหนุนผลิตผลจากไร่อะโวคาโดลูกโตๆของชาวบ้านเสียหน่อย รสชาติมันๆนัวๆโรยน้ำผึ้งหน่อยอร่อยเหาะไปเลย
![amhdjp4eafca](/f/17566/5b53001c420f063c0662679a.jpg)
![aer5uwnwd6w0](/f/17566/5b530031b1168856955bb4f5.jpg)
![w2knj82vvngh](/f/17566/5b530048b1168856955bb4f6.jpg)
![bw7iqku0k70r](/f/17566/5b52feb1420f063c06626799.jpg)
เฝอแม็กกี้
จริงๆแล้วยังเหลือตาดผาส้วมอีกแห่งนึงที่เป็นที่สุดท้ายซึ่งดูเวลาแล้วเพิ่งจะเที่ยงครึ่งก็ยังทัน แต่เราไม่อยากกลับเข้าด้านแบบรีบเร่งฉิวเฉียด และอีกอย่างตาดผาส้วมมันค่อนข้างกว้างมีหลายจุด ทั้งตัวตาดผาส้วมเอง และน้ำตกบักแงว รวมทั้งหมู่บ้านชนเผ่าซึ่งคงใช้เวลากันนาน และยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันกัน เลยยกเลิกเข้าไปกินเฝอร้านดังอีกร้านของเมืองปากเซ ร้านเฝอแม็กกี้ผมเคยมาทานแล้วครั้งนึงยังติดใจรสชาติและปริมาณมาจนถึงทุกวันนี้ ครั้งนี้เลยพาเพื่อนๆมาลองกัน ร้านนี้ตั้งอยู่หลัก 2 ของเมืองปากเซ เปิดตั้งแต่เช้าไปจนถึงบ่ายๆก็หมดแล้ว ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 กีบไปจน 50,000 กีบที่เป็นถ้วยเกือบเท่ากาละมังย่อมๆใบนึงมีทั้งเนื้อวัว และเนื้อหมู ผมชอบที่ร้านี้ให้เครื่องมาหลากหลายมีทั้งหมูยอ เครื่องใน เนื้อตุ๋น เนื้อสด แถมเจ๊แม็กกี้เองแกก็มักแถมเนื้อเปื่อยมาให้กินเล่นทุกครั้ง บนโต๊ะจะมีผักสด ครื่องปรุง และที่ขาดไม่ได้คือซอสพริกกับกะปิ ที่คนลาวชอบทานเฝอแล้วใส่ซอสพริกกับกะปิเข้าไปด้วย ผมลองทานแล้วท้องใส้ปั่นป่วนไปหมด ขอแบบน้ำซุปธรรมดาไม่ต้องใส่อะไรเลย กินกับผักสดๆก็แซ่บหลายแล้ว
![ui2s7lqqmv0m](/f/17566/5b5968e0c0c24a4aa0ec64e8.jpg)
![ubxi4vpmtv9s](/f/17566/5b5968f45485624aa8f26c51.jpg)
![lyk7l7zomhs7](/f/17566/5b596aa2c0c24a4aa0ec64e9.jpg)
![4cok39ybhol5](/f/17566/5b59683ac0c24a4aa0ec64e5.jpg)
![dbkuas0x26lt](/f/17566/5b596abc5485624aa8f26c56.jpg)
กินกันอิ่มหนำสำราญ ก็ถึงเวลาต้องอำลาเมืองปากเซอีกครั้ง รถตู้พาเราไปส่งที่ด่านวังเต่า ตอน 4 โมงเย็นแวะซื้อของฝากที่ duty fee ดาวเรืองตรงด่านก่อนกลับเข้าไทย หารถเช่าเหมาไปสนามบินในราคา 1,500 เหมือนตอนขามา.. รีวิวของผมภาพอาจจะเยอะ กระทู้อาจจะยาวไปหน่อย แต่อยากให้เพื่อนๆได้เห็นหลายๆมุมจะได้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเดินทางท่องเที่ยวลาวใต้กันอย่างสนุก
: ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากเพื่อนร่วมทริปด้วยครับ
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆของทริปปากเซ 4 วัน 3 คืน แปลงเป็นเงินไทยเทียบอัตรา 1 บาท = 260 กีบ ตกคนละ 6,102 บาทไม่รวมค่าอาหารน่ะครับ
![kaeoi082wqqb](/f/17566/5b53eb69b1168856955bb58d.jpg)
ยังมีเรื่องลาวๆอีกหลายเรื่องที่น่าติดตามเข้าไปชมได้ตาม link เหล่านี้
3 คืน 4 วันเที่ยวแบบมันส์ๆในลาวใต้ : ตะลุย จำปาสัก ปากซ่อง หนองหลวง อัตปือ
ยกก๊วน ชวนเที่ยว หลวงพระบาง-หนองเขียว ไปกัน
บ๊ายบายท้องฟ้า บ๊ายบายสายลม @ Zipline ตาดฟานรีสอรท์ ลาวใต้
อันซีน อัตปือ สำรวจตาดแซพะ - ตาดแซป่องไล เพชรเม็ดใหม่แห่งที่ราบสูงโบโลเวน
รีวิวที่พัก : The Elephant Crossing Hotel วังเวียง สปป.ลาว
รีวิวที่พัก : Mountainview Riverside Boutique Hotel วังเวียง สปป.ลาว
รีวิวที่พัก : เวียงธาราวิลลา วังเวียง สปป.ลาว
ออกไปใช้ชีวิตมันส์ๆ ที่วังเวียง สปป.ลาว กันเถอะ
ปีนป่ายหุบเหวน้ำตกยักษ์ ชมความงาม ตาดนางนี - ตาดน้ำพาก แห่งที่ราบสูงบอละเวน สปป.ลาว
ด่านใหญ่ - ตาดเสือ - ตาดขมึด อัญมณีแห่งที่ราบสูงบอละเวน สปป.ลาว
สำรวจตาดเซคำพอ ที่ราบสูงบอละเวน ลาวใต้
-ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้เข้ามาชม และ กด like กด share เป็นกำลังใจน่ะครับ
-แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือพูดคุย สอบถามข้อมูลการเดินทาง สตั๊ดดอยร้อยเรื่องราว
-ติดตามบทความเก่าๆ ได้ที่นี่ครับ ทริปเดินทางทั้งหมด
สตั๊ดดอย ร้อยเรื่องราว
วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09.40 น.