สวัสดีครับ เพื่อนๆ นี่ก็เป็น บันทึกการเดินทาง เล่มที่ 4 ของ Number6 แล้วนะครับ
รอบนี้ผมจะพาไป แอด-เวน-เจอ หนักๆ กันเลยทีเดียวครับ เพราะเกือบตลอดการเดินทาง มีแต่ ฝน และ ฝน แล้วก็ ฝน อีกทั้งยังเจอเส้นทางที่สูงและชั่นระดับปราบเซียนก็ว่าได้ อ่ะๆ โม้มาสองบรรทัดละ ลงรายละเอียดนิดนึงนะครับ
"อุทยานแห่งชาติรามคำแหง" หรือ “เขาหลวง” ประกอบด้วยเขานารายณ์ สูง 1,160 เมตร เขาพระเจดีย์ สูง 1,185 เมตร เขาภูคาและเขาพระแม่ย่า สูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล . . .
* * * ปล. หลายๆคนอาจจะไปสัมผัสความยากมาแล้ว สำหรับผมครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ฮ่าๆ (เพราะครั้งแรกไปไม่เจออะไรเลย เหมือนไปไม่ถึง เลยต้องมาซ้ำ)
ต่อมาจะพูดถึงจุดเริ่มต้น ทริป #เขาหลวงสุโขนั้นโก้จริงๆ (มีรูปอวดบนเฟสครับ)
การเดินป่าหรือการผจญภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะว่า ผมได้กดไลท์และติดตามเพจ #จ่าพาเที่ยว และได้เห็นการแชร์เชิญชวนหรือการตั้งกลุ่มเพื่อจะเดินป่า ณ เขาหลวงแห่งนี้ ผมจึง Inbox ถามราคาเลยครับ ฮ่าๆ อ่ะล้อเล่น ผมพิมพ์ไปขออนุญาติร่วมทริปด้วย และคำตอบที่ได้นะคือ . . . "รอก่อนนะครับ ใกล้ๆทักมาอีกที จ่าขี้ลืมมมมม"
เมื่อเวลาผ่านไป เพจ #จ่าพาเที่ยว ก็พิมพ์กลับมา เพื่อแจ้งวันเดินทางครับ สรุปออกมาคือ 9-10 มิ.ย 61 และซึ้งได้สร้างกลุ่มขึ้นมา มีจำนวนสมาชิก ไม่น้อยไม่มาก ประมาณ 2 คน คือผมกับจ่า โถ่ววววว ฮ่าๆๆ และเมื่อใกล้ๆถึงวัน ก็มีสมาชิคเพิ่มมาครับ รวมๆ ได้ประมาณ 11 คน เพื่อจะไปพิชิตเขาหลวงแห่งนี้ พวกเราจะต้องเตรียมตัวและแบ่งหน้าที่กันเพื่อทำงานเป็นทีม ฮ่าๆๆ แต่ความจริงคือ ไม่มีอะไรเลย แม้กระทั่งสถานที่หรือเวลาที่จะนัดเจอกัน ต่างคนต่างไป "ใครถึงก็ก่อนก็หาที่นอนก่อน ใครถึงที่หลัง ก็เดินตามขึ้นไปแล้วกัน" จ่าพูด . . . .
ระหว่างทางเจอวิวสวยๆ ก็แวะถ่ายตามทำเนียม ครับ ภูเขาไกลๆ ริบๆ นั้นแหละ เขาหลวง
ก่อนเข้าอุทยานแห่งชาติ ผมก็มาแวะ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เดินเล่นชิวๆ ระหว่างรอทีมงานมากันครบ
พวกเราเดินเล่นกันที่ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ได้ไม่นานนัก ฝนก็ดันตกลงมาอย่างหนัก เลยตัดสินใจไปหาอะไรกินกันก่อนจะเข้าอุทยานและซื้อเสบียงที่ BigC หลังจากเสร็จภาระกิจต่างๆ พวกเราก็ออกเดินทางจาก BigC มาไม่นานนักก็ถึง อุทยานแห่งชาติรามคำแหง และเมื่อลงทะเบียนเข้าพักกับทางอุทยานเสร็จ ผมก็งัดกล้องออกมาเดินถ่ายดาวเล่น (ลุ้นๆ เพื่อจะเห็นช้างเผือกในตำนาน ฮ่าๆ) และเป็นการฆ่าเวลาเพื่อที่จะรอเพื่อนรวมทริปมาถึงกันจนครบ และเข้านอนตอน เที่ยงคืน เพื่อจะเดินขึ้นเขากันในตอนเช้า
สวัสดีเช้าอันสดใส ตามตัวก็จะมี ตุ่มแดงๆ ขึ้นเยอะหน่อย เพราะที่ อุทยาน ยุงดุกว่าหมา และแมลงเฮี้ยนกว่าผี พวกเราแยกย้ายกันทำภารกิจส่วนตัวและเตรียมตัวเพื่อลงทะเบียนขึ้นเขา ในวันนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมดเกือบๆ 50 คนได้ (พื้นที่ด้านบนรองรับนักท่องเที่ยวได้เกือบๆ 200 คน โดนประมาณนะครับ) และเมื่อทุกอย่างพร้อม จะรออะไร เริ่มเดินกันเลยครับ ก่อนเข้าก็มีรูปประวัติศาสตร์ เพื่อยืนยันว่า เราได้ถึงแล้ว กลับได้ ฮ่าๆ
เมื่อเดินขึ้นมาได้พักใหญ่ๆ ใหญ่มากๆ ก็ถึงจุดพักจุดแรก และมีก๊อกน้ำธรรมชาติให้เติมน้ำไว้กินระหว่างทางด้วยครับ ผมลองดื่มดูแล้ว น้ำเย็น รสชาติมันหวานนิดๆ หรืออาจเป็นเพราะผม เหนื่อย มาก ก็ได้มั้ง ฮ่าๆ
เอาภาพมาให้ดู เดี๋ยวจะหาว่า กินไม่จริง !!
ตรงนี้เป็นจุดชมวิว มีที่ให้นั่งพักและเติมน้ำ เพื่อเดินทางต่อ ผมก็งัดกล้องออกมาถ่ายแบบ งูๆปลาๆ แล้วก็เข้ากล้อง โดรนตัวเก่งของ จ่า ไปหนึ่งรูป สักไม่นานนักผมก็ออกเดินต่อ
หลังจากพักที่จุดชมวิว ที่ผมแวะเติมน้ำและนั่งพักแล้ว ต่างคนก็ต่างเดินขึ้นมาโดยไม่เกาะกลุ่มแต่อย่างใด และมาหยุดที่ ต้นไทรใหญ่ ซึ้งเป็นสัญลักษณ์ว่า เรามาได้กันเกือบครึ่งทางแล้ว
หลังจากต้นไทรใหญ่ อีกไม่ไกลมากก็ถึงยอดเขา ที่เป็นจุดกางเต๊นท์ บนยอดเขามีความสะดวกสบาย คล้ายๆ ภูกระดึง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่มี หมูกะทะ บริการบนนั้น ส่วนพื้นที่กางเต๊นท์ก็สะอาด ห้องน้ำก็สะอาด อาจมีสัตว์เล็กใหญ่นิดหน่อย ระวังเอาเอง นะครับ พวกผมก็เริ่มเลือกพื้นที่และกางเต๊นท์ เพื่อที่จะรีบขึ้นไปดู พระอาทิตย์ตกที่ เขาเจดีย์และเขาแม่ย่า
เมื่อจัดการกับที่พักเสร็จ พวกเราก็ออกเดินต่อเพื่อไปชม พระอาทิตย์ตก ที่เขาเจดีย์และเขาแม่ย่า
หลังจากชื่นชมบรรยากาศและรับอากาศบริสุทธิ์แล้ว พวกเราก็เริ่มเดินต่อเพื่อไปอีก จุดหนึ่ง คือ เขาแม่ย่า เพื่อชมพระอาทิตย์ตก เพราะได้ยินมาว่า เขาแม่ย่า คือจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบน เขาหลวง สุโขทัย
สุดท้าย พระอาทิตย์ ขี้อายไม่ตกให้เห็น แถมยังโปรยฝนมาไล่พวกเราอีกด้วย เนื่องจากไม่มีที่ให้หลบฝน พวกเราเลยตัดสินใจ เดินกลับที่พัก กลางสายฝน !!
และอาหารมื้อค่ำของพวกเราก็คือ "หมีกระทะ" ต้องขอบคุณ จ่าและพวกพ้อง ที่เตรียมการมาอย่างดี
หลังจากได้ยินเสียงเครื่องเรือไม่นาน (นอนกับจ่า จ่านอนกรน สุดๆ) ก็เริ่มมีแสงเช้าที่ท้องฟ้า และมีหมอกลงหนามาก ผมคิดในใจ สงสัยไม่มีแล้วล่ะ ทะเลหมอก อดดูแล้วละ พระอาทิตย์ขึ้น มาทริปนี้ไม่ค่อยคุ้มเลย และหลังจากคิดอยู่คนเดียวไม่นาน เสียงก็ดังขึ้นว่า "จะไปดูกันมั้ย ไหนๆ ก็มาแล้ว" จากนั้นทุกคนก็ลุกออกมา ทำภาระกิจส่วนตัว แล้วออกเดินเพื่อไปที่ ผานารายณ์ เพื่อลุ้นว่าจะได้เห็น พระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอก หรือไม่ เดินไม่นานก็ถึง ผานารายณ์ และภาพที่ได้คือ หมอกเต็มๆ ขาวๆ ไม่มีแม้แสงพระอาทิตย์ ฮ่าๆ
พวกเรานั่งคอยกันอยู่นาน ถึงนานมาก จนคนกลุ่มอื่นๆ ลงไปกันเกือบหมด และพวกเราก็ตัดสินใจที่จะเดินลง เพื่อไปเก็บสัมภาระและเดินทางกลับกัน แต่ครับ แต่ เพียงเสี้ยวนาที ฟ้าก็เปิดออก แล้วที่เราได้เห็นก็ คือ ทะเล หมอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กดมาไม่ยั้งครับ สุดท้าย ผมเอาภาพมาแต่งสีแบบ สดๆ แรงๆ แบบที่ผมชอบ เดี๋ยวผมลงให้ดู แล้วกันครับ
ปล... ไม่สวย ห้ามพูด เก็บไว้ในใจ นะ รักษาน้ำใจกันหน่อยยยยย ฮ่าๆๆ
หลังจาก เต็มที่ เต็มอิ่ม กันแล้ว พวกเราก็เดินลงไปเก็บสัมภาระแล้วเดินทางกลับครับ
ปล. รูปเดินทางกลับไม่ได้ถ่ายนะครับ กล้องแบตหมดเกลี้ยง ฮ่าๆ รายละเอียดการเดินผมไม่บอกนะ ไปสัมผัสกันเอาเอง เพื่อเป็นความท้าทายสักครั้งในชีวิตของพวกคุณ
ก่อนจากกัน ผมจะลงรูปครั้งแรกที่ผมไปมาให้ชมกัน นะครับ
ครั้งแรกที่ไป ไม่เจอฝน ไม่เจอหมอก บรรยากาศก็สวยไปอีกแบบนะครับ
ฝากไว้ก่อนลาไปด้วย บันทึกเล่มนี้นะครับ
- ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอนครับ ควรมีสติ ทุดครั้งในการออกเดินทาง หรือท่องเที่ยว ไม่ว่าคุณจะไปกับคนที่ไว้ใจได้หรือไม่ได้ สิ่งที่จะปกป้องคุณได้ คือตัวคุณเอง
ขอบคุณ . . !
[TKz Travel] เขาหลวง สุโขทัย หรือ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง อย่า ืม กด HD นะครับ !!
อาร์ม ทำมาก่อน [ARM TUMMAKORN]
วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 21.12 น.