สวัสดีค่ะเพื่อนๆ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเราใน Readme.me ฝากติดตามและให้กำลังใจด้วยนะคะ ^^
การออกเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางไปเป็น "อาสาสมัครปักกล้าข้าวลงนา" กับคณะโรงบ่มอารมณ์สุข เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วค่ะ เราและเพื่อนตั้งใจไว้ว่ากลับมาจากค่ายจะนำสิ่งที่ได้พบเจอ และเรียนรู้ มารีวิวแชร์ประสบการณ์การเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวปกาเกอะญอในพื้นที่
"บ้านป่าบงเปียง" จ.เชียงใหม่ ค่ะ ^^
ในการรีวิวครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ส่วนค่ะ
- การเดินทางและที่พัก -
- ถอนกล้าและการปักดำ -
- อาหารการกิน -
พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยค่า ^^
- การเดินทางและที่พัก -
> การเดินทาง <
บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ใน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ทำนาขั้นบันไดของชาวปกาเกอะญอค่ะ
ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่ชาวบ้านเริ่มปักดำข้าว ที่นี่จะมีการปลูกข้าวเพียงปีละครั้งเท่านั้น
โดยจะปลูกไว้กินเองเป็นหลัก และที่เหลือจะส่งลงมาขายในตัวเมือง
การเดินทางในครั้งนี้เราเริ่มต้นที่ดอยอินทนนท์ โดยการนั่งรถสองแถวสีเหลืองมากับชาวคณะ มาลงที่ลานจอดรถน้ำตกแม่ปาน เพื่อเปลี่ยนรถไปขึ้นกระบะโฟรวิวของทางที่พัก (เราสามารถติดต่อให้ที่พักมารับ โดยการแจ้งวันเวลาให้ชัดเจนค่ะ) เวลาการเดินทางจากลานจอดรถไปยังบ้านป่าบงเปียงใช้เวลาประมาณ 25-40 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสภาพถนนค่ะ
ช่วงเดือนกรกฎาคมมีฝนตกชุก ทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบากค่ะ เพราะถนนขึ้นไปบ้านป่าบงเปียงเป็นดินลูกรัง ต้องให้คนที่ชำนาญในพื้นที่พาขึ้นไป
ดอยอินทนนท์ในวันที่หมอกลงจัดตอน 7 โมงเช้า มุ่งหน้าไปยังน้ำตกแม่ปาน
วิวระหว่างทางบนกระบะโฟรวิวยังเป็นถนนราดยางนั่งสบายๆค่ะ
ขับมาได้ไม่นานถนนก็เปลี่ยนเป็นดินลูกรัง
ช่วงที่ฝนตกหนักชาวบ้านต้องเอาโซ่พันล้อเพื่อเพิ่มความหนืดในการเคลื่อนที่ค่ะ
...............................................................................................................................
> ที่พัก <
บ้านป่าบงเปียงมีบ้านพักจำนวนหลายหลัง ซึ่งมีทั้งบ้านที่ตั้งอยู่ริมเขามองเห็นวิวนา และบ้านที่ตั้งอยู่กลางนาขั้นบันได ข้างบนนี้ "ไม่มีไฟฟ้าใช้" นะคะ ใช้วิธีการจุดเทียนในตอนกลางคืนเอาค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าร้อน เพราะที่นี่อากาศเย็นเกือบตลอดทั้งปี บ้านพักมีมุ้งและเครื่องนอนให้ครบ ส่วนห้องน้ำจะอยู่นอกบ้านบริเวณใต้ถุน
บ้านพักสามารถรองรับนทท.ได้ตั้งแต่ 2 คนจนถึง 10 คนเลยค่ะ
กลุ่มบ้านพักริมเขามองเห็นวิวนา นั่งห้อยขาก็ยังได้ ในเครือของมาฉิโพค่ะ
บ้านพักกลางนาขั้นบันได เปิดประตูออกมาก็เจอนาข้าวเลย
วิวหน้าบ้านมาฉิโพ (อยากตื่นมาเจอวิวแบบนี้ทุกวันเลยค่ะ)
- ถอนกล้าและปักดำ -
อาสาด้วยใจ ช่วยชาวบ้านถอนต้นกล้าและปักดำ
9 โมงตรงชาวคณะอาสามุ่งหน้าไปยังแปลงนาที่ว่างเพื่อปักดำข้าว ก่อนที่เราจะได้ไปปักดำเราต้องไปเรียนรู้จากชาวบ้านกันก่อนนะคะ อยู่ดีๆจะไปปักดำเลยก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครเคยทำมาก่อน การเป็นอาสาสมัครที่ดีต้องฟังและทำความเข้าใจในกฎกติกาของคณะ และกฎระเบียบในพื้นที่ค่ะ เคารพซึ่งกันและกัน พร้อมใจกันทำงานอย่างสามัคคี เรียนรู้อย่างเต็มที่และเต็มกำลังไปในตัว ^^
เตรียมพร้อมเดินไปหาแปลงนาที่ว่างค่ะ การแต่งตัวต้องให้ง่ายต่อการเดินบนคันนา
แปลงต้นกล้าเขียวขจี ที่รอการถอนระหว่างทางค่ะ
...............................................................................................................................
> งานแรก "การไถหน้าดิน" หรือการไถนา <
การไถหน้าดินในสมัยก่อนจะใช้คันไถไม
ชาวบ้านใช้เครื่องไถ ส่วนชาวคณะใช้คันไถไม้
ชาวคณะให้กำลังเพื่อนที่กำลังลองใช้คันไถไม้ค่ะ
...............................................................................................................................
> งานสอง "การถอนกล้า" ก่อนการปักดำ <
สิ่งแรกที่ชาวบ้านบอกเราคือ "ต้องรู้วิธีถอน ถอนยังไงให้ใช้เวลาน้อยที่ส
ชาวคณะช่วยกันถอนกล้าคนละไม้คนละมือนั่งทำเพลินๆ เกือบ 2 ชั่วโมง
ชาวบ้านมัดเป็นกำ เตรียมไปปักดำต่อค่ะ
...............................................................................................................................
> งาน "การปักดำ" หรือการดำนา <
การปักดำ หรือการดำนา เป็นการเอากล้าที่เล็มปลายยอดแล้วมาปักในนา วิธีการที่ทุกคนทำเหมือนกันคือ การใช้นิ้วโป้งกดรากลงในดิ
ฝนตกหนัก และปักกล้าไม่จม กล้าลอยตลอดไม่ลงดิน ต้องปักใหม่ และปักให้ความห่างเท่า
แปลงนี้กล้าเต็มแปลง (ชาวบ้านทำไว้)
ชาวคณะเดินบนคันนาไปยังแปลงนาที่ว่าง ต้องถอดรองเท้าเดินเพราะพื้นลื่นมาก
ฝนตกก็ไม่หวั่นค่ะ ลองดำนาสักครั้งในชีวิต แล้วจะรู้ว่าข้าวไม่ได้เกิดมาเป็นเม็ดให้เรากินง่ายๆเลย
- อาหารการกิน -
> อาหารการกินมีบริการพร้อมที่พัก <
แต่ละบ้านก็จะจัดสรรแตกต่างกันไป ที่บ้านมาฉิโพจะมาเสิร์ฟแบบเป็นปิ่นโต
ประกอบไปด้วย
น้ำพริกกระเหรี่ยงปลากระป๋อง ไข่เจียว และผักที่ปลูกข้างบนออร์แกนิกและปลอดสารแบบ 100% ค่ะ
ทริป 2 วัน 1 คืน บ้านพักจะบริการอาหาร 2 มื้อคือ มื้อเย็นในวันแรก และมื้อเช้าในวันที่สอง
อาหารการกินบ้านมาฉิโพ อยู่ง่าย กินง่าย
"การเป็นอาสาครั้งนี้ เป็นการทำอาสาที่เหนื่อยที่สุดค่ะ
แต่ความเหนื่อยทำให้เราเรียนรู้ เข้าใจ และเห็นคุณค่าของข้าวจริงๆ
ไม่ใช่แค่ข้าวมีวิตามิน หรือมีสารอาหาร เป็นแหล่งพลังงานชั้นดี
แต่การที่กว่าจะมาเป็นข้าวที่อยู่บนจานเรา มันมีขั้นตอน และพิธีกรรม
การปลูกข้าวเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ที่ต้องเรียนรู้ฝึกฝน
และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็น "วัฒนธรรมข้าว" ทั่วทุกภาคของเมืองไทย"
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่ะ" ขอบคุณนะคะที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ ^^
ขอจบการรีวิวด้วยภาพ แสงสุดท้ายที่บ้านป่าบงเปียง
You travel (Around the world)
วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.37 น.