หลังจากกล่าวคำทักทายมอสโคว์ "พรีเวียต มอสควา" (Привет Москва) กันไปแล้วเมื่อตอนที่แล้ว

https://th.readme.me/p/18002

และแล้วเช้านี้ก็เป็นเช้าแรกของพวกเราที่ใจกลางกรุงมอสโคว์เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย จากการมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็ดูท่าว่าจะต้องสู้แดดกันไม่น้อยเพราะฟ้าใส แดดสวยเหลือเกิน มาฤดูนี้ต้องทำใจกันนิดค่ะ เพราะถ่ายภาพสวยจริงไรจริง แต่แดดแรงไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

เมื่อ Host นำพาสปอร์ตมาคืนเราเป็นที่เรียบร้อย พวกเราก็พากันออกเดินเท้าไปสู่จัตุรัสแดงกันเลย เราสามารถเดินกันไปง่ายๆ จากที่พักเลยเพราะเราพักกันบนถนน Tverskaya (Тверская) ซึ่งถ้าเดินไปตรงๆ ก็จะถึงจัตุรัสแดง หรือ Red Square (Кра́сная пло́щадь) ในที่สุด ถนนเส้นนี้เป็นหนึ่งในถนนสายสำคัญเส้นหนึ่ง พวกเรานี่ก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยที่มาจองที่พักนอนบนถนนเส้นสำคัญเส้นนี้ ได้พักกับที่พักที่ราคาก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร แถมเดินทางก็ค่อนข้างสะดวกค่ะ

ระหว่างการเดินไปบนถนน Tverskaya ร้านรวงต่างๆ ยังไม่ค่อยเปิดค่ะ คงเพราะยังเช้า ร้านส่วนใหญ่จะเปิดทำการเวลาประมาณ 10 โมงเช้า เราก็เลยได้แต่ Window Shopping กันไปตลอดทาง กับได้ชมอาคารบ้านเรือนตึกที่ใหญ่โตมากๆ ของเขา จนอดคิดไม่ได้ว่าทำไมจึงได้สร้างตึกรามบ้านช่องใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้น

mwtq3p66jhes

ตึกสไตล์สตาลินจะมีให้เห็นตลอด

slzxg3yzgnr8

อนุสาวรีย์ใครสักคนที่ริมทาง

zt7qkk3azxr9
lapbqclsyrs3

ตึกจะใหญ่โตไปไหนนักหนา

6czlh8yj8hrc

ตึกแถวนี้สวยๆ ทั้งนั้นเลย

inj5w092p95z

สินค้าที่ระลึกฟุตบอลโลก 2018 ก็มีจำหน่าย

sh6nf5l1ezqx

จัดเป็นสินค้าตามฤดูกาลอย่างหนึ่งค่ะ

และแล้วเราก็เดินไปจนถึงบริเวณลานกว้างซึ่งเขาเรียกบริเวณนี้ว่า Manege Square (Манежная площадь) ที่มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มากมายเต็มไปหมด

l9sfmt5u09o6

ด้านหน้า State Historical Museum (Государственный исторический музей) หรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรัสเซีย ตัวอาคารสีแดงสดที่รูปแบบอาคารเป็นเอกลักษณ์แบบรัสเซียชัดเจน อาคารนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวัตถุมีค่าที่เกี่ยวข้องกับประเทศรัสเซียทั้งหมดนับล้านๆ ชิ้นตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคราชวงศ์โรมานอฟ ว่ากันว่าหากต้องการชมด้านในควรมีเวลาไม่น้อยกว่า 1.30 -2 ชั่วโมงค่ะ เพราะข้าวของเยอะมาก และน่าสนใจทีเดียว พวกเราได้แค่ถ่ายรูปตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ค่ะ ไม่ได้เข้าไป ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์นายพล Georgy Zhukov ผู้มีบทบาทสำคัญช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

il4y64xijr5d

ส่วนอาคารด้านซ้ายสีแดงนั่นก็เป็นพิพิธภัณฑ์เหมือนกันค่ะ นั่นคือ Museum of Patriotic War เป็นพิพิธภัณฑ์สงครามที่จะมีการจัดแสดงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและฝรั่งเศสตั้งแต่ยังมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน จนกระทั่งถึงยุคที่นโปเลียนยกทัพมาตีรัสเซียและพ่ายแพ้กลับไป มีทั้งการจัดแสดงภาพวาดและอาวุธสงครามที่ใช้ในช่วงเวลานั้นได้เก็บรักษาไว้ทั้งหมด

28qlu35hl2sr

ทั้งสองแห่งนี้เราไม่เข้าเลยค่ะ เก็บเงินไว้รอชมสถานที่อื่นๆ ดีกว่าเพราะมีต้องเสียค่าเข้าชมหลายที่เหมือนกัน แม้ว่าจริงๆ แล้วค่าเงิน RUB ช่วงที่เราไปค่อนข้างถูกก็ตาม เมื่อไม่คิดจะชมทั้งสองแห่งจึงพากันเดินเข้าประตู Voskresensky gate เข้าไปด้านในเพื่อไปสู่ Red Square กัน ซึ่งก่อนจะผ่านจุดนี้ไป จะมีหลักกิโลเมตรที่ 0 (Kilometre 0) อยู่ค่ะ เป็นจุดที่ถนนสายสำคัญทุกสายของมอสโคว์จะวิ่งออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้

6ecg843a1lk4

Voskresensky gate

สังเกตได้จากวงกลมสีทองทื่พื้นที่มีคนมุงอยู่เยอะๆ มีความเชื่อกันว่า ถ้ายืนแล้วโยนเหรียญข้ามหัวไหล่ตัวเองแล้วยังตกอยู่ในวงกลม เราจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง บรรยากาศตรงนี้ก็เหมือนเมืองไทยตอนลอยกระทงเลยค่ะ มีคนแก่ยืนถือไม้เท้าติดแม่เหล็กมาคอยเก็บเหรียญ คือพอโยนปุ๊บก็ยื่นไม้เท้ามาดูดเหรียญปั๊บ ต่อหน้าต่อตาเอาเลย แต่เห็นอย่างนี้ก็เลือกนะ เหรียญมูลค่าถูกๆ ไม่เอาค่ะ ไม่ได้รับการใยดีเอาเลย

kgh1o71p1vxg

Kilometre 0

kw964nf44bi2

พวกเรามาเช็คอินกันเรียบร้อย แต่ไม่มีใครยอมโยนเหรียญกันเลย

เมื่อผ่านเข้าไปทางซ้ายมือเราจะพบกับ Kazan Cathedral (Казанский собор) หรือรู้จักกันในชื่อว่า Cathedral of Our Lady of Kazan เข้าชมฟรีค่ะ แต่ด้านในห้ามถ่ายภาพ เราแค่เดินผ่านไม่ได้เข้าชม

jxtaboy80c5v

เพราะมีจุดหมายที่จะไปยัง Saint Basil’s Cathedral (Собор Василия Блаженного) เพราะใกล้เวลาที่เขาจะเปิดให้เข้าชมแล้ว แต่ไม่รู้เดินกันอย่างไรกลายเป็นเราพลัดหลงกัน

kumgxrdfahv2

ร้านริมทางข้างๆ ห้าง GUM

3cov7xx3gpzq

สมาชิกส่วนที่เหลือของเราเดินเล่นกันจนเข้าไปในห้าง Gum (ГУМ) ส่วนพี่ใหญ่กับหนูเล็กมายืนรอเวลาเข้ามหาวิหารกันอยู่สองคน ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเรานัดหมายกันไว้แล้วว่าถ้าพลัดหลงกันก็เจอกันที่ห้าง

a85c6fg16qcb

Saint Basil's Cathedral

k45r9l8dstz0

Spasskaya Tower หอคอยทางทิศตะวันออกของพระราชวังเครมลิน

เมื่อถึงเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ก็มาเปิดแผงเหล็กให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องไปซื้อบัตรที่ห้องจำหน่ายตั๋วที่ด้านข้างกันก่อนค่ะ เมื่อมีตั๋วแล้วก่อนจะเข้าก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระ จากนั้นก็เข้าชมได้เลยค่ะ เจ้าหน้าที่แจ้งเราว่า ด้านในสามารถถ่ายภาพได้แต่งดใช้แฟลช

5omlk0sbvrzn

Saint Basil’s Cathedral ถูกบัญชาให้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอีวานที่ 4 (Tsar Ivan IV) เพื่อฉลองชัยชนะเหนือพวกมองโกลที่ยกทัพมาเมืองคาซาน (Kazan) และอัสทราคาน (Astrakhan) ความพิเศษของที่แห่งนี้ก็คือ รูปทรงที่ไม่เหมือนโบสถ์แห่งอื่น อาคารมีรูปทรงแปดเหลี่ยม มี 9 โดม ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างรัสเซียโบราณ และยุโรปตะวันตก ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นหอคอยสูง รูปแท่งเทียนกำลังลุกไหม้ และมีแสงจากปลายเทียนแม้ว่าจริงๆ มองดูแล้วเหมือนดอกเห็ดมากกว่า เป็นสถาปัตยกรรมที่ดูลงตัวเป็นอย่างมาก สีสันก็เป็นสีลูกกวาด เมื่อสร้างเสร็จพระเจ้าอีวานที่ 4 ได้ถามคำถามกับ ปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) ผู้ซึ่งเป็นสถาปนิกว่าสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างที่สวยงามยิ่งกว่านี้ได้หรือไม่ เขาตอบว่าได้ ดังนั้น พระเจ้าอีวานที่ 4 จึงได้ตอบแทนด้วยการควักลูกตาออกทั้ง 2 ข้าง จะได้ไม่ไปออกแบบสิ่งก่อสร้างที่งดงามแบบนี้ที่ไหนได้อีก จึงเป็นที่มาของชื่อของพระเจ้าอีวานผู้โหดร้าย (Ivan the Terrible) ส่วนด้านหน้าเป็นอนุสาวรีย์นักรบผู้กล้า คอสมา มินิน (Kuzma Minin) และเจ้าชายดมิทริ โปซาร์สกี้ (Dmitry Pozharsky) ผู้นำกองทัพรัสเซียต่อต้านพวกโปล (Poles) ออกจากเขตเครมลินหลังจากได้รับชัยชนะจากกองทัพนโปเลียนซึ่งหล่อด้วยทองสำริด

เมื่อเข้าไปด้านในตัวอาคารของแต่ละโดมตกแต่งลวดลวดและสีสันงดงามแตกต่างกันไป แต่ละโดมมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ทางเชื่อมเป็นภาพลายผนังที่มีลวดลายแปลกตา เมื่อเข้าไปเดินด้านในจะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่ในเขาวงกต

2c73ghe1z42v
bks0x62yzk4b
nixvv4hmf9mx
o7e2spi5ww1x
g1owyqixw16d
7awdfc0gy6y9
3jo5j2jh2wcw

ซึ่งทั้งหมดเป็นหอสวดมนต์ต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันเป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติความเป็นมาและข้าวของต่างๆ ที่เกี่ยวกับมหาวิหารแห่งนี้ นอกจากจะสามารถเดินชมที่ชั้นล่างแล้วยังมีบันไดไม้เก่าๆ ให้เดินขึ้นไปชมที่ชั้นสองด้วย สิ่งที่พลาดไม่ได้คือ ภาพรูปเคารพที่โบสถ์กลาง ซึ่งเป็นภาพพระเยซูและสาวกคนสำคัญเป็นผลงานในสไตล์บาโรคซึ่งมีอายุราว 200 กว่าปี แต่ส่วนอื่นๆ ก็ล้วนน่าชมน่าสนใจและน่าตื่นตาตื่นใจไปหมดค่ะสำหรับศิลปะวัฒนธรรมในรูปแบบนี้ที่เราไม่คุ้นตา

1ib0nbniskz8
7zyh8lx2jlpk
dt16rx7umogw
ajewhelna908
b5m34wdig89n
dzw9pmtnwub9
vixiljo76fo7
ukqdw803b86w
2qjwok89a1mt
t6w9yq7ni1nu
hsambfc25y4d
ier8bqdrajtb
axksxqx05bmi
evlgptfbwfk8
h2li41j41ayl

หลังจากพี่ใหญ่กับหนูเล็กเดินวนชมทั้งด้านใน ด้านนอกจนพอใจเราก็กลับไปหาพรรคพวกของเราที่นัดหมายกันไว้ที่ห้าง GUM ซึ่งนอกจากต้องการมาชมความงดงามของห้างแล้วยังมีเป้าหมายคือการมากินไอศกรีมอันเลื่องชื่อว่าเป็นสูตรเมื่อร้อยปีที่แล้วตอนห้าง GUM เปิดใหม่ๆ เลยทีเดียว

ห้างสรรพสินค้า GUM เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในกรุงมอสโคว์ ได้ถูกสร้างในปีค.ศ.1895 สร้างขึ้นบนพื้นที่ตลาดขายของในสมัยยุคจักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2 ออกแบบโดย Alexander Pomerantsev ในรูปแบบที่เรียกว่า Russian Revival คือมีหลังคากระจกโค้ง โครงเหล็กให้แสงสว่างส่องเข้ามาให้ความสว่างแก่ตัวอาคาร ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานให้แก่ตัวอาคารเป็นอย่างดี ตัวอาคารได้มีการปรับปรุงมาตลอดจนกระทั่งหลังการปฏิรูปรัสเซียกลายมาเป็นสหภาพโซเวียต ห้างแห่งนี้ก็ถูกเรียกว่า GUM ซึ่งย่อมาจาก Glávnyj Universáľnyj Magazín, (main universal store) ถ้าให้แปลแบบไทยๆ ก็แปลได้ว่า ห้างครอบจักรวาลแค่ชื่อก็บอกได้ถึงความใหญ่โตและสินค้าที่มีให้เลือกมากมายแล้วค่ะ

h0e97nponj98
uv4jxop7g12w
0kjl2hbl0h29

ตัวห้างเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ที่มีความสวยงามและโดดเด่นมาก มีร้านค้าแบรนด์เนมจากประเทศต่างๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อิตาลี ให้ผู้รักการช้อปปิ้งถึง 1,000 ร้าน มีสินค้าทุกประเภททั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ น้ำหอม กระเป๋า รองเท้า ของที่ระลึก ของฝาก รวมทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และภัตตาคาร และถึงแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ห้างแห่งนี้ก็ยังคงดูร่วมสมัยแต่คงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความเก่าแก่ สินค้าก็ราคาอลังการไม่แพ้กัน ซุปเปอร์มาร์เก็ตของที่นี่สินค้าจะราคาแพงกว่าที่อื่นทั่วๆ ไปประมาณ 10-15% แต่ของที่ขายทำได้น่ากิน น่าซื้อมากค่ะ

เก็บภาพบริการขัดรองเท้ามาฝากค่ะ ไม่มันดูท่าคงจะไม่เลิกขัด

pqlckula5jzs
70353dckp55n
aiftkf23jx1m

เมื่อเข้ามาถึงก็ขอจัดไอศกรีมกันเป็นอันดับแรกเลยค่ะ มีอยู่หลายร้าน เรียกว่าดักทุกมุมของห้างเลย ใครมาเดินห้างนี้ไม่หวั่นไหวกันบ้างก็ให้มันรู้ไป เป็นสูตรเดียวกันทุกจุด ราคา 50 RUB ถูกและดี เนื้อแน่น เนียน ละลายช้า ไม่หวานจัด มีหลายรสชาติมากค่ะ ไม่ต้องรอนานด้วยเพราะเขาตักใส่กรวยวางไว้ พอสั่งไปก็หยิบส่งมาให้อร่อยได้ทันทีเลยค่ะ

1x9hrhcpycru
d2wk0okqb1eb

รสคาราเมลค่ะ

zccmlmtt4j1h

อีกอย่างที่แนะนำว่าอย่าพลาดไปชมก็คือห้องน้ำเก่าที่เขาอนุรักษ์ไว้ทั้งชายและหญิง ค่าเข้าใช้บริการก็จะแพงหน่อย แต่ถ้าแค่เข้าไปชมก็ไม่ต้องเสียอะไรค่ะ ไปเดินดูๆ ก็ได้ค่ะ

v71512w3cdt7

เข้าไปชมห้องน้ำสวยๆ กัน

v4pn6a433gke
582stzl6vjlz
43ohtgq7hee4

หลังจากเดินเล่นดูของแพงๆ ในห้างให้หายอยาก ก็ได้เวลาไปหาอาหารกลางวันรับประทานกันแล้ว เรามุ่งหน้าไปที่ Okhodny Ryad Shopping Center ไปหาดูว่าจะทานอะไรที่นี่ได้บ้าง

647hr3m0h8i5

สายตาไปประสบกับร้าน My My ซึ่งจริงๆ ก็คือร้าน Mu Mu ที่แปลว่า วัว นี่ละถ้าสังเกตจะเห็นรูปปั้นวัวอยู่หน้าร้าน

nxsc732wgzcv
mza4fink6lxf
9uowfa8rdhx9

เข้าไปในร้านก็จะมีรูปหัววัวติดอยู่ที่ข้างฝา เป็นร้านอาหารบริการตนเองสไตส์รัสเซีย-ยูโรเปียน มีแฟรนไชส์กระจายอยู่ทั่วเมืองค่ะ ราคาอาหารไม่แพงนัก เลือกรับประทานตามใจชอบได้

b2ybdel1f24p
42ujgwvcz7re
65d3x46v1gtt

วิธีการก็คือ ไปที่เคาน์เตอร์เข้าแถวแล้วหยิบถาด แล้วก็เลือกอาหารที่ต้องการวางในถาด ส่วนอาหารจานหลัก (Main Couse) ต้องชี้ให้พนักงานตักให้ อย่างสเต็ก หรือซี่โครง หรือไก่บาร์บีคิวที่เป็นไม้ๆ หลังจากเราเลือกแล้วเขาจะถามว่าเราจะกินคู่กับอะไรเช่น มันบด หรือมันฝรั่งทอด จากนั้นเราก็สามารถเลือกหยิบของหวานอย่างเค้กต่างๆ และเครื่องดื่มได้เอง ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ต่างๆ ที่เขารินใส่แก้วไว้ให้หยิบ แต่ถ้าเป็นกาแฟหรือชาก็สามารถกดเลือกชงจากเครื่องชงได้ตามความต้องการ เมื่อได้ทุกสิ่งที่ต้องการครบแล้ว ก็จะเดินต่อไปยังจุดสิ้นสุดของเคาน์เตอร์คือจุดชำระเงิน ซึ่งเมื่อแคชเชียร์รับชำระเงินเรียบร้อยจะแถมชอคโกแลตให้คนละหนึ่งชิ้นด้วยค่ะ

kdmf90yuonvk
76fv2c7q60fa
43kuvrzu19pe
if44dsl27wtj

มื้อกลางวันของหนูเล็กค่ะ

เมื่อจัดการกับมื้อกลางวันเรียบร้อย ทีนี้ก็เดินไปเลียบๆ เคียงๆ ชมบรรยากาศแถวพระราชวังเครมลินกันเสียหน่อย ไม่กล้าจะคิดว่าคิวน้อยแล้วจะซื้อบัตรเข้าไปดูกันได้ในวันนี้หรอกค่ะ เพราะนี่ก็บ่ายแล้ว การเข้าชมต้องใช้เวลามากพอดูเสียด้วย ขอมาเก็บบรรยากาศเพื่อการเตรียมตัวดีกว่า

oblepkqx6xjv

ตัวอาคารของ Okhodny Ryad Shopping Center

ระหว่างทางเดินผ่านไปทาง Alexander Garden ของพระราชวังเครมลิน เราจะผ่านบริเวณที่เรียกว่า สุสานทหารนิรนาม (Tomb of the unknown soldier) เป็นอนุสรณ์สงคราม

w0w8jkb3yaav

ด้วยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับทหารโซเวียตที่เสียชีวิตใน สงครามโลกครั้งที่สอง โดยบริเวณตรงกลางของอนุสรณ์ จะมีลักษณะคล้ายๆคบเพลิงที่เรียกกันว่า "เปลวไฟที่ไม่มีวันดับ (eternal flame) และมีแผ่นสลักทำจาก ทองแดงเขียนไว้ว่า "Your name is unknown, your deed is immortal" ไฟสำหรับคบเพลิงนี้ได้มาจาก Field of Mars ที่ Leningrad ส่วนทางซ้ายของสุสานมีข้อความตรงกำแพงว่า "1941 - To Those Who Have Fallen For The Motherland - 1945" ส่วนทางขวาของสุสานมีแท่นหินสีดำแดงที่นำดินจากเมืองต่างๆ มาบรรจุไว้ บริเวณนี้จะมีทหารเกียรติยศเข้าเวรยามและมีการผลัดเปลี่ยนเวรทุกชั่วโมง สามารถมาดูการเปลี่ยนเวรยามได้ค่ะ หนูเล็กก็มายืนดูกับเขาเหมือนกัน

2plp09h6gso7
y9yaq42z7n63
lx542chr2d2k
ypv75ukk6n55

เราเดินไปจนถึง Alexander Garden (Александровский сад) ได้เห็นสภาพของคิวที่ยังรอเข้าชมพระราชวังเครมลินแล้ว ถอดใจเอาเลย

vulq5wq45fjg

จนบ่ายคล้อยแล้ว คนรอเข้าชมยังแน่นมาก

ตั้งใจกันว่า วันที่จะมาชมต้องมาแต่เช้าเท่านั้น เพราะมีจุดที่ต้องชมหลายจุด ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากหรือคงต้องใช้เวลากันทั้งวันทีเดียวงานนี้

8eey85pn309o

จุดจำหน่ายตั๋วใน Alexander Garden เดินเข้าไปด้านในเลยค่ะ

ดังนั้น เราจึงได้แต่เดินชมความงามของสวนและบริเวณรอบๆ เก็บบรรยากาศแถวนี้ไปพลางๆ เพราะวันที่มาชมพระราชวังคงไม่มีเวลาเป็นแน่แต่อย่างไรพรุ่งนี้เป็นวันพฤหัสบดีซึ่งพระราชวังปิดการเข้าชมหนึ่งวัน ดังนั้น เราก็คงต้องเตรียมพบกับคลื่นมหาชนที่จะหลั่งไหลมาในวันศุกร์ที่จะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งอย่างแน่นอน เตรียมทำใจไว้เลย

gdx4yw8d693i
qq1gnyh72jnp
8p6wc5s7w1ni

รูปปั้นเหล่านี้ ดูเหมือนจะเป็นสัตว์ในนิทานอีสป

หลังจากไปนั่งเล่นบริเวณสวน Alexander Garden (Александровский сад) และเดินเล่นที่บริเวณสวนแถว Manege Square (Манежная площадь) และสวนเหนือห้าง Okhodny Ryad Shopping Center ซึ่งจัดพื้นที่บางส่วนต้อนรับบรรยากาศฟุตบอลโลก 2018 ที่กำลังจะมาถึงกันจนเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว ก็กลับที่พักไปพักผ่อนเอาแรงกัน เพราะพรุ่งนี้มีแผนเดินทางออกนอกเมืองกัน

umsnlu4u98na
xjutfezogq42
o5mnlgqdrnqe

มีจุดที่เขาทำไว้สำหรับนับถอยหลังการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่จะมาถึง

แต่ก่อนถึงที่พักเราโฉบไปแวะชมความงามของร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตที่สวยงามที่สุดบนถนน Tverskaya นี้ด้วย ร้านที่ว่าชื่อ Eliseevskiy grocery store ภายในร้านออกแบบเป็นสไตล์นีโอ-บาโรค โคมไฟ แชนเดอเลียร์แขวนระย้า ข้าวของในร้านราคาค่อนข้างสูงกว่าข้างนอกค่ะ

g1jlqljgxhl2

ได้แต่เดินดูเอาบรรยากาศร้านสวยๆ ซื้ออะไรไม่ลง คงเพราะหรูหราตั้งแต่ตัวร้าน และคงเป็นเพราะตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้เพราะเขาว่าทุกร้านย่านนี้สินค้าแพงอยู่แล้ว หากจะซื้อก็ทำใจหน่อย ดังนั้น ถ้าทำใจไม่ได้ก็แค่มาเดินชมบรรยากาศพอค่ะ

38ti9f16f4fo

จะเก็บภาพมาเยอะๆ ก็ไม่ค่อยจะเหมาะเพราะไม่ได้ซื้อสินค้าเขาสักชิ้น แถมในร้านมีการ์ดยืนเฝ้ากันหลายจุด ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว สุดท้ายก็เลยเดินกลับออกมามือเปล่ากับความตื่นตาตื่นใจ เท่านี้พอแล้ว

อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือจะแวะไปทักทายกับพี่ใหญ่และหนูเล็กก็ได้ค่ะ ที่ https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/

ความคิดเห็น