ทริปเดินป่า 2 วัน 1 คืน เอาเป็นว่าสวยสุดๆ เดินป่า ชมน้ำตก ดูดอกไม้ ดอกหญ้า กล้วยไม้ เห็ด สถานที่มันช่างแปลกตายิ่งนัก นี่เราอยู่บนโลกหมานุดใช่มั้ย

#เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว

#ลานอเมริกา #บึงกาฬ #น้ำตกถ้ำน้อย



เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตั้งอยู่บ้านดอนจิก ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอบึงกาฬ อำเภอบุ่งคล้า อำเภอเซกา และอำเภอบึงโขงหลง เกือบติดพรมแดนประเทศลาวสามารถมองเป็นทิวทัศน์ที่เป็นป่าได้ โดยรอบ เห็นได้ไกลถึงป่าในฝั่งลาว เช่น ภูควาย ภูงู ภูหมาก่าวของลาวได้ชัดเจน

สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น บางส่วนเป็นสันเขาหินทราย ลานหินและทุ่งหญ้าโดยสถานที่แห่งนี้ยังคงความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของระบบนิเวศน์วิทยา



สภาพธรณีวิทยาที่นี่สวยงามและหลากหลาย มีลานหินที่กว้างใหญ่มาก ลานหินเคยถูกใช้เป็นที่จอดเฮลิคอปเตอร์ของทหารอเมริกาในช่วงสงคราม จึงเป็นเหตุเรียกชื่อว่า “ ลานอเมริกา ”

-ต้องทำหนังสือขออนุญาต

-ไม่มีอาหารต้องนำไปเอง

-ต้องค้างในป่า 1 คืน

-ระยะทางเดิน ไปกลับ 7 กม.

-ไม่มีห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ



ปล.เป็นทริปเดินป่าที่ลื่นมากเพราะหินมีแต่ขี้ตะไคร่

ทริปนี้เรานัดเจอกันที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว วันที่ 14 กค.61 โดยพี่ปูเป็นคนจัดการทำหนังสือขออนุญาต เช ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 12 แวะเที่ยวไปเรื่อยๆ จนคืนวันที่ 13 ได้มาอาศัยนอนที่บ้านของน้าอู้ด นราชัย คำภักดี กับพี่หมวย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เรานัดหมาย ระหว่างการเดินทางฝนตกปรอยๆ ทุกวันน้าอู้ดบอกว่ายางกรีดไม่ได้เลย น้าอู้ดต้อนรับพวกเราอย่างดี แถมตอนเช้าขับรถนำไปส่งพวกเราก่อนเดินทางด้วย

พี่หมวยและน้าอู้ดต้อนรับด้วยอาหารท้องถิ่น และห่อปลาเผาให้เราแบกเข้าป่าไปอีก 1 ตัว (เดี่ยวนะไม่ถง ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ จะให้แบกปลาเผาเข้าป่า) ทริปนี้เช เตรียมอาหารไปเสริมอีกสองสามอย่าง มีไก่คั่วตะไคร้ 1 ตัว ไก่คั่วเกลืออีก 1 ตัว แล้วแม่ใหญ่ก็ห่อข้าวเหนียวให้อีก 4 ห่อใหญ่

จ่ายค่าธรรมเนียม ฟังบรรยายเกี่ยวกับเส้นทางและจัดกระเป๋าเตรียมเดินป่า

เป็นธรรมเนียมที่ก่อนออกเดินทางต้องถ่ายรูปคู่ รูปหมู่ โดยมีน้าอู้ดตามมาส่งถึงปากทางเข้าป่า ดูๆ แล้วเหมือนพ่อมาส่งลูกไปเข้าค่ายเลย 555

เริ่มออกเดินทาง เวลา 11.40 น. โดยจุดหมายจะอยู่ที่ลานอเมริกา เจ้านหน้าที่นำทางชื่อพี่ต้อ บอกว่าต้องระวังช้างและทางทางลื่นมาก

พอเริ่มเดินฝนก็ตกลงมาปรอยๆ ที่นี่เราแบกของและสัมพาระกันเอง อาหารก็ช่วยกันทำ ดูแลตัวเองและสมาชิกในทีม ทุกคนรู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร สายป่าไม่พูดเยอะ เจ็บคอ

ถ้ามาเดินป่าที่นี่ จะได้พบดอกพิศวงบึงกาฬ แต่ต้องสังเกตุดีๆ นะเพราะดอกเล็กมากๆ

ระหว่างทางเป็นดินทรายและหินลื่นๆ ทางช่วงแรกจะค่อยๆ ดันขึ้นไป

บันไดไม้อีกอัน

และอีกอัน

ทางช่วงนี้จะเป็นป่าไผ่และป่าเบญจพรรณ มีดอกไม้เยอะในช่วงหน้าฝน

เดินมาถึงผานางคอยแล้ว อีกไม่ไกลป่าก็เปลี่ยน

หลุงจากมุดออกมาจากป่า ก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะเป็นทุ่งโล่งกว้าง มีดอกไม้ พรรณไม้ต่างๆ ดูแปลกตา ทางเดินเป็นลานหินกว้างใหญ่ มีธารน้ำแอ่งน้ำ ตลอดสองข้างทาง บรรยากาศเหมือนอยู่ด่านใหญ่ โบโเว่น ที่ลาวใต้เลย

บวกกับฝนที่ตกลงมา ทำให้ดูลึกลับ บรรยากาศชวนตื่นเต้น

ดอกไม้ต่างๆ ที่พบเจอระหว่างทาง

ระหว่างทางเดินเจอสนทรายขึ้นอยู่ทั่วไป ต้นเล็กๆ ใบน้อยๆ น่ารักมากค่ะ

ต้นหญ้าแปลกๆ ที่เจอระหว่างทาง

ระหว่างทางเดินลื่นมาก เพราะมีน้ำไหลซึมออกมาจากหินตลอดเวลา

จะต้องข้ามธารน้ำลื่นๆ และก็เดินผ่านเนินหินลื่นๆ

หลังจากนั่งพักชมวิว แล้วก็เดินทางต่อ ที่นี่เดินไม่ไกล แต่เดินลำบาก

ต้องขอบคุณน้าหนวดที่ช่วยดึง ช่วยฉุด

ช้างที่ภูวัวเขาว่าดุมาก แต่เราไปเจอแต่รอยเก่า

ลื่นทุกจุด เอาวิวระหว่างทางมาฝากค่ะ

ช่วนี้ต้องระวังช้าง พี่ต้อบอกว่าปีนี้เท่าที่ดูจากรอยช้างออกมาหากินไกลกว่าปกติ

ทางเดินก่อนถึงแค้มป์ ความจริงลานอเมริกาจะอยู่ก่อนถึงที่ตั้งแค้มป์ แต่พี่ต้อให้นอนตรงจุดนี้

บริเวณที่ตั้งแค้มป์

ทานข้าวเย็น และก็เข้านอน ในตอนเช้าจะเดินไปน้ำตกถ้ำน้อย

ในตอนเช้า หลังจากทานอาหารเช้า เราออกเดินทางไปน้ำตกกัน เพราะเป็นทางผ่านในวันกลับ

ทางเดินไปน้ำตก เดินบนหินทรายลื่นๆ

แช่น้ำเล่นได้ตลอดทาง ถ้าจะมาควรมีเวลาอย่างน้อย 2 คืน

น้ำตกถ้ำน้อย ตรงทางมาน้ำตกถ้ำน้อยน่าแค้มป์กว่าลานอเมริกา หลังจากเที่ยวน้ำตกเสร็จก็เดินทางกลับค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ความคิดเห็น