ฝนตั้งเค้า
ออกเดินทางอีกครั้ง เปิดหัวใจอีกครั้ง ~ ทริปนี้มีระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ; และที่พัก 2 ที่ ซึ่งแตกต่างอย่างลงตัว (ปล.พกกล้องไปแต่ไม่ได้ใช้ รูปที่แนบมาใช้กล้อง iPhone7Plus + แอป HUJI)
เริ่มต้นการเดินทาง
- วันที่ 1 ออกจากกรุงเทพ ตี 4
คิดว่ารถน่าจะติดเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวเลยออกเช้าหน่อย ,, ถึงสังขละบุรีประมาณ 10 โมง หลังจากนั้นก็แวะกินข้าว ที่ร้านมีให้เหมาเรือพาเที่ยวชมวัดทั้งหมด 3 วัด เราไปกัน 7 คน จ่ายคนละ 80.-
วัดใต้น้ำ หรือวัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม ; ช่วงที่เราไปฝนตกทุกวัน ทำให้น้ำท่วมสูง ไม่สามารถลงไปเดินชมวัดได้
วัดสมเด็จ (เก่า) ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ตรงข้ามเมืองบาดาล ; ลงจากเรือจะมีเด็กๆที่เป็นไกด์นำทาง เล่าประวัติ และบอกวิธีการไหว้พระขอพรจากที่นี่ด้วย
ส่วนวัดสุดท้าย จมน้ำไปแล้วจ้า มองเห็นแต่เสาที่ผูกธงไว้
- เข้าที่พัก "แพแสงจันทร์ฉาย"
บรรยากาศดีมาก อากาศเย็นสบาย ไม่มียุง อยู่ใกล้กับสะพานมอญ สามารถออกไปเดินเล่นถ่ายรูปได้ ,, ที่พักจะมีฟูก หมอน ผ้าห่ม พัดลมตั้งพื้น 2 ตัว มีครัวให้ทำอาหารกินเอง โดยรวมถือว่าดี แต่ติดที่น้ำในห้องน้ำไม่ค่อยสะอาด ออกไปทางขุ่นๆ อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ฝนตกด้วยมั้ง ราคาที่พักคืนแรกตกคนละประมาณ 500.- (500 * 7)
- วันที่ 2 ตักบาตรตอนเช้า
06.00 น. ต้องตื่นแล้วจ้า นี่ไปเที่ยวหรือไปเข้าค่าย, เช้าวันนี้ได้เดินข้ามสะพานมอญเพื่อไปตักบาตรเนื่องจากตรงกับวันเข้าพรรษาพอดี ; ฝนก็ตก ตกเก่ง ตกทั้งวันทั้งคืน แต่ผู้คนก็ยังเนืองแน่น
ระหว่างทางมีน้องมอญนั่งตามพื้น หรือเดินไปมาเพื่อชวนให้เราทาแป้งที่หน้า ; เมื่อเราเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม โดนไปค่ะ / น้องไม่คิดเงินนะคะ แล้วแต่เราจะให้น้อง
ที่นี่จะมีชุดตักบาตรขายในราคาชุดละ 99.- และมีชุดมอญให้ใส่ฟรีด้วย
ระหว่างที่รอพระก็หาอะไรกินไปก่อน ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร ,, แต่เราเรียกมันว่าผักที่ผสมแป้ง ราคา 20.- รสชาติก็อร่อยดี กินเล่นได้ เพลินไปอี้กกก
พระมาแล้วจากหลังจากเปียกฝนจนจะไม่สบาย ,, ได้ยินคนเขาคุยกันว่าพระมอญห่มจีวรสีอะไร ก็สีแบบพระทั่วไปนี่แหละจ้า ; สาธุ ทริปนี้เอาบุญมาฝาก
จากนั้นก็แวะซื้อข้าวเช้าไปให้เพื่อนร่วมทริปทั้งหลายที่ไม่ยอมมาตักบาตรด้วยกัน ; ร้านอาหารส่วนใหญ่จะขายโจ๊ก แกงฮังเล+ข้าว หรือแกงฮังเล+โรตี ปาท่องโก๋ เครื่องดื่มต่างๆ ราคาไม่แพง
- ย้ายที่พัก " แพพี่โกร่ง รีสอร์ท "
ที่พักใหม่ของเราตั้งอยู่ในทะเลสาบเหนือเขื่อนศรีนครินทร์, ใช้เวลาเดินทางจากที่พักเดิมมายังที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมง มีเรือรับส่งระหว่างท่าเรือบ้านท่ากระดาน-แพพี่โกร่งรีสอร์ท มีอาหาร 5 มื้อ สำหรับการพัก 2 วัน 1 คืน บุฟเฟ่ต์ส้มตำขณะล่องแพชมทิวทัศน์หน้าเขื่อนศรีนครินทร์ บรรยากาศดี ห้องพักดี ห้องน้ำดีแต่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แบบ no service ไปเลยจ้า แล้วก็จ่ายไฟเป็นเวลาอีกด้วย ราคาที่พักคนละ 1500.-
- วันที่ 3 เดินทางกลับ
เรือที่จะไปส่งที่ท่ามีตั้งแต่ 8.00 - 11.00 น. ใครรีบก็กลับก่อนเลย เราไม่รีบ เราไปเที่ยวสุดท้าย 5555, ระหว่างเดินทางกลับก็ได้แวะร้าน The Village Farm to Café ที่นี่ตกแต่งได้เก๋เว่อร์ โดนใจสายคาเฟ่สุดๆ บรรยากาศชิคๆ ชิลๆ
เนื่องจากพรุ่งนี้จะถึงวันเกิดผู้ร่วมทริปของเรา เลยทำการสั่งเต่างอยมาแฮปกันสักหน่อย ; ทุกอณูของน้องเต่างอยนี้ล้วนเป็นเมล่อนทั้งปวง
และนี่คืออีกเมนูที่ได้ลองคือสปาเก็ตตี้ สั่งมาจานเดียว มีกัน 7 คน , ม้วนกันคนละทีก็หมดจานแล้วจ้า
กินเสร็จก็จับคุณชายทั้งหลายมาถ่ายรูป ,, ไม่แนะนำให้นอนแบบนี้นะคะ เพราะโดนหญ้าทิ่มค่ะ คัน 5555
สำหรับทริปกาญจนบุรีในครั้งนี้ถือว่าเป็นทริปที่สนุกมากอีกทริปนึงเลย อาจเพราะเราพัก 2 ที่ เลยได้เจอกับบรรยากาศหลายแบบ มีกิจกรรมให้ทำต่างกัน ทริปนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ด้วยสภาพอากาศและมีกิจกรรมในน้ำเลยไม่ได้พกกล้องหรือโทรศัพท์ติดตัว ,, ไว้มีทริปครั้งหน้าเรามาเล่าให้อ่านอีกนะ : )
bbalabeam
วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 23.12 น.