"เขาโปกโล้น แห่ง...ร่องเขาแห่งนครชุม"
ณ หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางขุนเขา ที่ตั้งตระหง่านทางภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน
มีร่องเขาที่ได้ชื่อว่า ทะเลบนภูเขาอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย
บ้างก็เคยได้ยินชื่อ บ้างก็แปลกใจกับชื่อที่เรียกขานนี้
แต่สำหรับข้า เขาลูกนี้ เป็นชื่อที่ใหม่สำหรับข้า เพราะข้าเพิ่งจะเคยได้ยิน
......................................................
เขาโปกโล้น ร่องเขานครชุม แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
......................................................
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ มีหลากหลายวิธี ดังนี้
01 นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินพิษณุโลก จากนั้นก็ เช่ารถขับมาเอง หรือนั่งรถทัวร์มาลงที่นครไทย หรือโบกรถก็ได้นะ สนุกไปอีกแบบ แต่สำหรับข้าคือ เช่ารถดีกว่า เพราะค่อนข้างมีเวลาน้อย
02 นั่งรถทัวร์จากขนส่งหมอชิต จากนั้นก็ เช่ารถขับมาเอง หรือนั่งรถทัวร์มาลงที่นครไทย หรือโบกรถ แบบข้อ 01 ได้เลยนะ แล้วแต่ที่สะดวก
03 ขับรถมาเอง สำหรับอันนี้คือ ง่ายที่สุด จากกรุงเทพฯ มาจังหวัดพิษณุโลก ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ประมาณ 350 กิโลเมตร และจากตัวเมืองมาหมู่บ้านนครชุมแห่งนี้ก็ประมาณชั่วโมงกว่าๆ ได้
......................................................
ที่พัก เป็นแบบ HomeStay
ที่นี่ไม่ได้มีโรงแรม 5 ดาว รอต้อนรับนะ แต่มีชาวบ้านที่น่ารักรอต้อนรับแทน ถ้าไปช่วงไม่ใช่เทศกาล คนก็จะน้อย มาถึงก็ไปติดต่อที่ อ.บ.ต. นครชุมได้เลย สำหรับข้าพักที่บ้านสวนตาทอน ตาทอนดูแลดีมากกกก ราคาคนละ 600 บาท คือคุ้มสุด มีข้าวให้กิน 2 มื้อ มีที่นอนดีๆ ห้องน้ำสะอาดๆ ปลื้มมาก ครั้งหน้าถ้าไปก็จะไปนอนบ้านตาทอนอีก
......................................................
จะขึ้นเขาโปกโล้นต้องทำอย่างไรบ้าง?
บอกโฮมสเตย์ที่เราพักเล้ย ว่าจะไปขึ้นเขาโปกโล้นนะ ทางนั้นก็จะจัดการรถแต๊กแต๊ก หรือรถอีแต๊กไว้ให้ แต่ถ้าทางดีฝนไม่ตก ก็ปั่นจักรยานของหมู่บ้านกันไปได้เล้ย คันละ 30 บาทเท่านั้น แต่วันนั้นข้าไปฝนตกจ้า ตกตลอดเลยนะ ตกๆ หยุดๆ ตกแบบเบาๆ ด้วยแหละ เลยต้องนั่งแต๊กๆ ไป เพราะทางเป็นโคลนทั้งนั้นจ้า ค่าบริการแต๊กแต๊ก 200 บาทนะ
......................................................
พร้อมกันยัง? พร้อมแล้ว ลุยเล้ย!
การเดินทางของพวกข้าเริ่มต้นขึ้น...
การนั่งแต๊กแต๊ก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างทางคือดีมากกกก
จากนั้นก็เดินขึ้นไปจากที่ข้าเดินคือ ประมาณ 30-40 นาที เส้นทางการเดินไม่ยาก ไม่ลื่นมาก ไม่มีทาก ที่สำคัญต้นไม้ตรึมจ้า
และแล้วก็ถึงละว้อย ซะที่ไหนหล่ะ! ยังเดินต่อไปอีก
จุดที่เป็นไฮท์ไลด์คือ สันหลังมังกร คือดีมากกก แต่ก่อนขึ้นไปต้องผ่านจุดเสียวๆ ตรงนี้ไปให้ได้นะ
คือฝนตก หมอกลงฟุ้งไปหมด จะเห็นอะไรมั้ยเนี้ย ข้ากับเพื่อนๆ ก็แอบบ่นเบาๆ จนพี่ตั้ม ไกด์ที่พาขึ้นบอกว่า ใจเย็นๆ นั่งให้หายเหนื่อยนะ แล้วรอดู
ในที่สุดคือ ฟ้าเปิด แต่ไร้ซึ่งหมอกใดๆ แต่ข้าว่ามันสวยไปอีกแบบนะ
มีองค์พระให้กราบไหว้ด้วยแหละ สีทองอร่ามสุด บวกกับเม็ดฝน ก็สวยไปอีกแบบ
เขาโปกโล้นจะเป็นสันเล็กๆ ให้ยืนเรียงหนึ่งเท่านั้นนะ แต่ถามว่าอันตรายมั้ย สำหรับข้าไม่เลยนะ เพราะหินหนึบมาก และจะค่อยๆ ลาดลง ไม่ได้ตัดชันลงไปสะทีเดียว แต่เวลาถ่ายรูปออกมาก็หวาดเสียวไม่น้อย
ในวันนั้นมีแค่กรุ๊ปข้าขึ้นไปกรุ๊ปเดียว ทำให้เขาโปกโล้นกลายเป็นของข้า55+
จะถ่ายมุมไหนก็คูลๆ ไปหมด แน่ซิ ก็ฝนตกจนคูล ตกเม็ดเล็กๆ บางทีก็หยุดบ้าง ทำให้ไม่เห็นพระอาทิตย์เลย
เข้าป่าสายพร๊อปไม่ใช่ใครที่ไหน ข้าเอง อิอิ พวกเราอยู่ที่ไหนน้า? ใช่ตรงนี้มั้ย?
ใช้เวลากับการนั่งมองเบื้องล่าง เป็นอะไรที่ฟินมากกกก
แต่ๆ ก็ถึงเวลาต้องลงแล้วจ้า เพราะหิวสุดๆ จนจะไม่ไหวละเนี้ย 555+ ตอนลงใช้เวลาประมาณ 25 นาทีได้ ลงไวมาก เพราะหิว
แต่ก็ยังจะแช๊ะภาพคู่กับแต๊กแต๊กคู่ใจนะ
มากรุ๊ปช๊อตหน่อยมั้ย?
ตาทอนน่ารักเตรียมข้าวไว้ให้พวกข้าด้วย นี่ไง
นั่งกินชิลๆ แต่ละอย่างคืออร่อยมาก
จากนั้นก็จ่ายเงิน เช็คเอ้าท์ (บ๊ายบ่ายตาทอนนั่นเอง555+) ระหว่างทางก็ดีอีกแล้ว
นาข้าวเหลืองทองอร่ามทำให้พวกข้าไม่พลาดที่จะลงไปเก็บภาพความประทับใจ
ลากันไปด้วยภาพนี้
ป.ล. สงสัยตรงไหนทักมาถามข้าได้นะที่ www.facebook.com/pommapartiew น้า
แล้วเจอกันนะ...โปกโล้น
ผมม้าพาเที่ยว
วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.54 น.