เช้านี้กับอากาศเย็นๆที่ ' ปางห้า '
กับการมาเที่ยวเชียงรายแบบชุมช๊น ชุมชน
----------
เมื่อจุดเริ่มต้น พาให้เราต้องเก็บกล้อง จัดกระเป๋า ขับรถไปถึงจุดเหนือสุดของสยาม
อย่าง จ.เชียงราย โดยที่จุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ คือ #ชุมชนปางห้าโฮมสเตย์
----------
ใครจะไปรู้ล่ะคะ ว่าการที่เราลองออกมาเที่ยวในชุมชนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ
สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านแบบนี้ จะมีความสุข.. มากที่สุด
เราไม่สามารถที่จะตีมูลค่าของเงินกับสิ่งเหล่านี้ได้เลย แม้ว่าเราจะหมดกับการเดินทางครั้งนี้ไปมาก
นั่นก็คือ ความสุขของคนที่นี่ รอยยิ้มน้อยๆของเหล่าลุงๆป้าๆ ที่ทำให้เราสองคนอบอุ่นมากๆ
จนรู้สึกว่า วันนึง .. เราจะกลับไปที่นั่นอีกแน่นอน ..
#ไปกับใคร #ท่องเที่ยวชุมชนปางห้าโฮมสเตย์
บ้านปางห้า .. ตั้งอยู่ที่ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ..
ภายในชุมชนก็จะมีโฮมสเตย์ และกิจกรรมต่างๆให้ทำ ไม่ว่าจะเป็น การทำขนมพื้นบ้าน การตีมีด
ผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา การทำเทียน รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตร อย่างเช่นสวนฝรั่งกิมจู
มาถึงปุ๊บ ขอหาอะไรลองท้องกันก่อนดีกว่า
ความน่ารักของห้องอาหาร สไตล์บ้านๆ เล็กพริกขี้หนูจริงๆ
เพราะว่าในที่นี้นั่นหมายถึง ดูผิวเผินเหมือนไม่มีอะไร แต่อันที่จริงแล้ว มุมถ่ายรูปเยอะมาก!
จะเชื่อได้ยังไงว่าเยอะ ไปตามดูที่
นี่เป็นเพียงเศษ 1 ส่วนร้อยจริงๆนะ !
บอกได้เลยว่า มาที่นี่รับรอง มีรูปลงยันปีหน้ากันเลยล่ะค่ะ 55555
----------
เอาล่ะๆ .. เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ..
วันแรกของการเรียนรู้ ว่าด้วยเรื่องของการทำกระดาษสา
เริ่มจาก " ต้นปอสา " .. ที่เป็นปัจจัยหลัก และสำคัญมากๆในการเริ่มต้นทำกระดาษสา
ต้นปอสา จะไม่นิยมนำมาปลูกเอง เพราะต้นปอสา สามารถเกิดได้เองตามธรรมชาติ
ชาวบ้านมักจะเข้าไปเก็บกันในป่า ในเขา
สำหรับการทำกระดาษสา จะนิยมนำส่วน เปลือกของ ลำต้นและกิ่ง มาทำ เพราะมีความเหนียวและทน
ขั้นตอนการทำก็คือนำเปลือกไม้ ไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้นจึงนำไปต้ม ใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง
เมื่อต้มเสร็จแล้วก็จะมีลักษณะเปื่อยๆ
หากต้องการให้เป็นสีก็สามารถนำไปต้มแล้วใส่สีลงไปได้เลย
ก่อนที่จะทำการตีเยื่อลงในบล็อก จะต้องทำการโม่และนำที่โม่แล้วมาชั่งก่อน
เพื่อให้กระดาษมีน้ำหนัก และความหนาบางที่เท่ากัน
จากนั้นก็เริ่มเกลี่ยกระดาษลงในบล็อก และออกแบบลายในนี้ได้เลย
หลังจากทำเสร็จแล้ว ก็จะนำมาผึ่งหรือตากแดดให้แห้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หลังจากที่ยืนทำกระดาษมานานพอสมควร เราก็จะมาผ่อนคลายด้วยการแช่เท้า
โดยใช้น้ำสมุนไพรต้มสุก ที่นำสมุนไพรกว่า 10 ชนิด ลงไปผสมกัน
นี่ก็จะเป็นตัวอย่างกระดาษสาแผ่นใหญ่ ที่ออกแบบแล้วและนำมาตากแดด
การทำกระดาษสา ไม่ได้มีแต่แค่แบบแผ่น เราสามารถนำมาทำเป็นรูปต่างๆเพื่อนำไปประดิษฐ์ได้อีกด้วย
หลังจากเรียนรู้การทำกระดาษสาเสร็จเรียบร้อย ฝนก็เทลงมาอย่างแรง
เลยต้องหลบฝนไปหาอะไรหวานๆทานกันก่อน
----------
เมนูนี้ มีชื่อว่า " ซาโมซ่ากล้วย "
ทำมาจากแผ่นแป้งที่ใช้ทำปอเปี๊ยะ ห่อใส่กล้วยหอม แล้วนำไปทอด
ราดด้วยช็อคโกแลตและนมข้นหวาน ทานคู่กับไอศกรีม
ที่นำมาเสริฟพร้อมกับ " ชาเขียวมะลิ " เย็นๆ
** เดี๋ยวนี้มีแบบสำเร็จรูปแล้วนะ หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า **
ทานไปทานมาตะวันตกดิน ฝนก็ยังตกไม่ยอมหยุด
ในส่วนของค่ำคืนนี้ ทางโฮมสเตย์ก็มีอาหารพื้นเมืองจัดเป็นขันโตกนำมาให้กันถึงห้องพักเลยทีเดียว
หมดไปแล้วกับวันแรกของเรา ..
----------
เช้าวันต่อมา ฝนก็ยังคงตก..
ตื่นเช้ามาสูดอากาศที่ระเบียงบ้าน แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวไปทานมื้อเช้ากัน
แล้ววันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชุมชนกันด้วย " รถอีต๊อก "
ที่แรกที่เราไป ก็คือ บ้านตีมีด
มาถึงแล้วจะไม่ลอง ก็คงจะไม่ใช่ตัวแสบของเราคนนี้
คุณลุงให้ปั่นเตาไฟ ก็เล่นซะสนุกเชียว 555
เล่นกันจนเหนื่อย คุณป้าก็ชวนให้มาทำ " ข้าวซอยน้อย "
วิธีทำก็ ง๊ายยย ง่าย .. ขั้นตอนแรก นำข้าวสารไปแช่น้ำ 1 คืน แล้วนำมาโม่
หลังจากนั้นก็นำน้ำข้าวที่โม่เสร็จเรียบร้อย มาผสมกับวัตถุดิบที่พอจะหาได้ ณ ตอนนั้น
คนวัตถุดิบให้เขากันแล้วตักใส่ลงบนแม่พิมพ์ แล้วก็นำไปนึ่งในหม้อที่ต้มน้ำจนเดือด
รอประมาณ 5 นาที นำแม่พิมพ์ออกมาจากเตา
นำแผ่นแป้งมาพับเป็นเส้นยาวๆ แล้วตัดเป็นชิ้นพอดีคำ
ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดพิเศษของคุณป้า อร่อยมาก! ทานกันจนอิ่มไปเลย
เสร็จแล้วเราก็ไปต่อกันที่ " บ้านเทียน "
มาชมวิธีการหล่อเทียน ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงการเก็บกันเลย
จากนั้นพี่ๆก็พาเรามาทำ " ผางประทีป " และให้เป็นของที่ระลึกจากฐานนี้
ถึงแล้ว! สวนบ๋ะก้วยก๋า หรือภาษากลางที่เรียกว่า ฝรั่ง .. ฝรั่งกิมจู !!
รสชาติของฝรั่งชนิดนี้ จะหอม หวาน กรอบ อร่อยมากๆ ยิ่งถ้าจิ้มพริกเกลือด้วยแล้ว ฟินสุดๆ
เราสามารถนำฝรั่งมาคั้นเป็นน้ำ รสชาติดีงามมาก ยิ่งถ้าใส่น้ำแข็งลงไปด้วย
จิบน้ำเย็นๆ ถ่ายรูปเล่นกันกลางสวนฝรั่งแบบนี้ .. ต้องมาโดนแล้วล่ะค่ะ
หลังจากที่เราถ่ายรูปเล่น นั่งพักผ่อนกันจนหายเหนื่อย
เราก็นั่งรถอีต๊อกไปชม " จุดผ่อนปรนการค้าบ้านปางห้า "
แม่น้ำสายนี้ คือแม่น้ำรวก ที่จะไหลไปเจอแม่น้ำสาย และไปบรรจบที่ แม่น้ำโขง
จะเป็นเส้นทางข้ามไปยังฝรั่งพม่า โดยใช้เรือข้ามฟาก ไม่ถึง 5 นาที ก็ข้ามไปอยู่ พม่าได้แล้ววว!
ก่อนจะกลับไปทานอาหารกลางวัน ก็แวะถ่ายรูประหว่างทางกลับ
จะมีต้นสัก เรียกันยาวริมถนนไปจนสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว
แวะทานอาหารกลางวันกันที่ พันธ์ริศา ฟาร์ม
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ฝนก็เทกระหน่ำมาก เลยอดเที่ยววัดต่อเลย
----------
เปลี่ยนแพลนมามาร์กหน้า ด้วยแผ่นมาร์กที่ทำมาจากใยไหมทองคำ
ถึงแล้วก็ จิบชาเก็กฮวยอุ่นๆกันก่อน บรรยากาศฝนพรำแบบนี้ น่านอนซะเหลือเกิน
สำหรับการมาร์กหน้าด้วยแผ่นมาร์กนั้น วิธีการไม่ยากเลยค่ะ
ขั้นตอนแรกคือการล้างหน้าให้สะอาด จากนั้น นำแผ่นมาร์กวางลงบนจานกระเบื้องแล้วเทน้ำร้อนลงไป
กดแผ่นมาร์กให้น้ำซึมเข้าไป แล้วทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที ให้พออุ่น
หลังจากนั้นก็สามารถนำมาวางบนหน้าเราได้เลย
( แผ่นมาร์กสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ 2-3 ครั้ง )
สุดยอดนวัตกรรมของโลก แผ่นใยไหมทองคำ ที่ทำมาจาก น้ำลายของตัวหนอนกว่าหลายร้อยตัว
น้ำลายของไหม จะมีโปรตีน มีคุณสมบัติ ช่วยเสริมสร้างผิวของเรา
และบางผลการวิจัยนั้น สามารถที่จะนำไปใช้สำหรับสมานแผล อย่างเวลามีดบาด ได้อีกด้วย
----------
เอาเป็นว่า .. ของเค้าดีจริงๆ ต้องลองมาสัมผัสประสบการณ์อย่างพวกเรา
แล้วคุณจะหลงรักที่นี่ โดยไม่รู้ตัว :) #ชุมชนปางห้าโฮมสเตย์
วันนี้ เราต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วทริปหน้าเราจะไปที่ไหนนั้น ติดตามพวกเราได้ที่
Facebook Fanpage >> ไปกับใคร : pai kub krai
----------
สำหรับใครที่อยากจะมาสัมผัสบรรยากาศ และประสบการณ์ใหม่ๆ
สามารถกดลิ้งค์ด้านล่างได้เลยนะคะ
ไป กับ ใคร
วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.09 น.