ทริปนี้เมื่อ กรกฎาคม ๒๕๖๑ มีเวลาว่างไม่มากแต่ก็อยากไป
#การเดินทาง
ใช้บริการแอร์เอเชีย กทม. - เชียงราย - กทม.
ไฟลท์แรกสุดของวันเสาร์ในขาไป และไฟลท์หลังสุดของวันอาทิตย์ในขากลับ
ใช้บริการรถเช่าของ AVIS
#แผนการเดินทาง
วันแรก จากเชียงรายมุ่งหน้าเส้นทางหลวง 1020 ผ่านอำเภอเทิง เลี้ยวเข้า อ.เชียงคำ จ.พะเยา
แวะโครงการหลวงปังค่า ขึ้นวนอุทยานภูลังกา กลับลงมาเข้าที่พัก เมจิกเมาท์เทน
วันที่สอง ไปอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ย้อนกลับเส้นเชียงคำ แวะวัดนันตาราม ก่อนกลับเชียงราย
ร่วมเดินทางด้วยกันค่ะ
เส้นทางเชียงคำสวยงามทีเดียว เขียวทั้งเส้น ท้องทุ่งนาสุดสายตา
เมื่อเข้าเขต อ.ปง ก็เริ่มเข้าสู่บรรยากาศขึ้นดอยขึ้นเขา
เส้นทางขึ้นวนอุทยานภูลังกาต้องผ่านโครงการหลวงปังค่า
แวะทานมื้อเที่ยงที่นี่ค่ะ เรามาถึงเที่ยงพอดี
ทีแรกนึกว่าร้านอาหารโครงการหลวงฯปิดเสียอีก เพราะเงียบมาก
ก็อย่างว่าแหละ ช่วงโลว์ซีซัน ไม่มีใครมาเที่ยวเลย มื้อเที่ยงวันนั้นมีแต่เรา ดีค่ะ เงียบดี ชอบ
อาหารโครงการหลวง ที่ไหนก็อร่อย
ตรงนี้เป็นบ้านพักของโครงการหลวง เมื่อก่อนก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักได้
แต่ปีนี้เห็นว่า โครงการหลวงทุกที่ไม่ได้เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าพักแล้ว เสียดายจัง
อิ่มหนำสำราญก็ขึ้นไปภูลังกากัน
จากโครงการหลวง ขึ้นไปอีกนิดเดียวก็ถึงที่ทำการวนอุทยานภูลังกา
ติดต่อ จนท.ปรากฎว่า ยอดภูปิดจ้า เนื่องจากมีฝนตก ถนนลื่น
โธ่ เราอุตส่าห์เช่าโฟร์วิลมาเพื่อขึ้นยอดภู อดเลย
จนท.บอกว่า ตอนขึ้นน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ตอนลงจะอันตราย ทางมันเละ ลื่น
ก็โอเค ตามนั้น ไว้โอกาสหน้ามาใหม่
สำรวจรอบ ๆ ที่ทำการนิดหน่อย มีกระท่อมพัก มีลานกางเต๊นท์
จนท.บอกให้ขึ้นไปดูจุดชมวิวเหนือที่ทำการ เอารถวนขึ้นไปจอดตรงลาน
แล้วเดินขึ้นไปอีกหน่อย
วิวดีงามมาก อากาศสด สดมากจริง ๆ ชื่นเข้าไปในอกในใจ
บนนี้เป็นลานกางเต๊นท์ แต่ช่วงนี้ไม่มีใครมาเที่ยวเลย เงียบนิ่งจริง ๆ
บนนี้ตอนกลางคืนน่าจะเต็มได้ด้วยดาวพราวพร่าง ไว้มีโอกาสจะลองมากางเต๊นท์บ้าง
ลงจากภูลังกาก็ตรงเข้าที่พัก
เมจิกเมาท์เทน อยู่ใกล้ภูลังการีสอร์ทอันโด่งดัง ห่างจากภูลังกาประมาณ ๓๐ กิโล (ไม่แม่นตัวเลขนะคะ)
วิ่งลงไปเส้น ทางหลวง ๑๑๔๘ ค่ะ เป็นเส้นที่ไปน่าน เมจิกเมาท์เท่นอยู่ริมถนนบนรอยต่อระหว่างน่านกับพะเยา
อยู่ริมถนนแบบนี้เลย จอดรถอีกฝั่งถนนแล้วเดินข้ามมา
ใช่ค่ะ เมจิกเมาท์เทนคือร้านกาแฟดัง ๆ นั่นหละค่ะ เขามีห้องพักสองห้อง
วันนั้นก็มีแต่เราที่เข้าพัก ความเงียบที่ได้ดั่งใจปรารถนามันดีจริง ๆ
และนี่คือส่วนของห้องพัก
เปิดประตูเข้าไปก็เป็นแบบนี้ วิวนี้ คือดีงาม
มีระเบียงหน้าห้องให้นั่งนั่งชิลนอนชิล
มีลานนั่งเล่นส่วนตัว ที่ตรงนี้เฉพาะลูกค้าเข้าพัก
มีห้องน้ำในตัว แต่อ่างล้างหน้าอยู่นอกห้อง
ห้องพักขนาดเล็กกะทัดรัด มีมุ้ง มีพัดลมแต่แทบไม่ได้ใช้ อากาศเย็น
มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีทีวีตู้เย็น ซึ่งสำหรับเราไม่มีปัญหา ทีวีตู้เย็นไม่สำคัญ ก็ฉันมาเสพบรรยากาศ
ออกไปเดินสำรวจรอบ ๆ สักหน่อย ผู้คนหายไปไหนหมดนี่
มีแต่นก นกเยอะมากเลย แต่เราถ่ายรูปไม่ทัน ไม่ถนัดถ่ายนกเอาเสียเลย
ได้มาแค่นี้เอง โถ...อ่อนด้อยเสียนี่กระไร
ตรงนี้สำหรับลูกค้าเข้าพักทานอาหารเย็น ราคาค่าห้องของที่นี่รวมอาหารเย็นและเช้า
อาหารเย็นของเราก็นี่เลยค่ะ หมูจุ่ม เข้ากับบรรยากาศไปอีก
แต่เคยเห็นรีวิวคนอื่นอาหารเป็นอย่างอื่นนะ หรือเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลก็ไม่รู้แฮะ
อิ่มค่ะ สำหรับสองคน เหลือด้วยนะ
ตอนค่ำก็หวังใจจะมีดาวพราวพร่างให้ชม ว่างเปล่าค่ะ ไม่มีดาวโผล่ให้เห็น
แต่ แต่พระจันทร์ขึ้นดวงใหญ่โตมโหฬารมาก
ทีแรกไม่รู้ เห็นแสงเหลืองนวลเหนือยอดเขาอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน
(คือจากเมจิกฯเนี่ย วิวที่เห็นนั่นคืออุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน)
เห็นแสงก็แปลกใจ เอ๊ะ แสงอะไรอยู่เหนือยอดเขา แสงจากหมูบ้านข้างล่างก็ไม่น่าใช่
หรือบนยอดดอยนั่นมีเมือง ถึงได้สว่างขนาดนั้น ยืนจ้อง ๆๆ แสงสว่างขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งขอบโค้งมนสีเหลืองนวลโผล่พ้นยอดดอย กรี๊ดมาก พระจันทร์นี่
คว้ากล้องมาถ่ายแทบไม่ทัน คือทันแบบดี ๆ รูปเดียวนี่หละ
เพราะพอโผล่มาแล้วก็ขึ้นเร็วมาก แป๊บเดียวหายเข้าม่านเมฆ
แต่ก็ดีใจนะที่ได้รูปนี้ ตั้งแต่จำความได้เคยเห็นพระจันทร์ดวงใหญ่ขนาดนี้ครั้งเดียวที่หาดทรายแก้ว สงขลา
แต่นั่นมันเมื่อครั้งวันก่อนกาลนานมา น่าจะสามสิบปีผ่านหละ
ได้มารูปเดียว ดีใจประหนึ่งถูกหวยสักแสน เว่ออะไรปานนั้น
แค่นี้ก็นอนหลับฝันดีหละ รอลุ้นหมอกตอนเช้า จะมาให้ยลโฉมไหมนะ
ยามเช้า
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมานั้น
โอ๊ะโอ หมอกมา น้อย ๆ ค่อย ๆ คลี่กระจาย
ไม่ใช่ทะเลหมอกเหมือนที่เคยเห็นในรูป เป็นเพียงธารหมอกบางเบา
เอาเถิด แค่นี้ฉันก็ชื่นใจหละ ฉันเป็นคนมักน้อย ได้แค่ไหนก็แค่นั้น
พระอาทิตย์ก็มา
ส่องไปไกล ๆ โน่น อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน
วิ่งหามุมถ่ายรูปกันไป ค่อนข้างดีที่ไม่มีคนอื่นเลย ปกติแถวนี้คนเยอะนี่นา
ดื่มด่ำกับแสงอาทิตย์ที่ฉายส่อง
ได้เวลาอาหารเช้า มื้อเช้านี้ขึ้นมาทานบนร้านกาแฟ
อาหารเป็นข้าวต้มกับเครื่องเคียง ชาร้อน กาแฟ อิ่ม อุ่น อร่อย
หมอกมาเร็วไปเร็ว แป๊บเดียวลอยหายไปหละ
อุทยานแห่งชาติถ่ำสะเกินรอเราอยู่ ข้างล่างนั่นไง ไปกันเถอะ
บ๊ายบายเมจิกเมาท์เทน
อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน อยู่ในเขต จ.น่าน
ขับรถลงไปตามทางหลวง ๑๑๔๘ จากเมจิกเมาท์เทนประมาณ ๑๐ กิโล
เส้นทางละแวกนี้สวยจังเลย
นี่ภูเขาหินปูนที่เรามองลงมาจากที่พักไง
อันนี้ฝายใช่ไหม สวยดี น่าสไลค์ลงมาจากข้างบนจัง
ผ่านตรงนี้ คืออะไรไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีป้าย แต่สวยงามดีเลยถ่ายรูปมาสักหน่อย
เข้าเขตอุทยาน เห็นถ้ำอยู่บหน้าผา เข้าทางไหนหนอ
ริมถนนที่ผ่านมีแต่ความฉ่ำชื่น ฉันชอบจัง
ในอุทยานเงียบอีกแล้ว มีแต่เราสองคน จนท.บอกว่าเขาเที่ยวกันช่วงหน้าหนาว
แต่เราชอบหน้าฝนนี่นา เราคือหอยทาก เราชอบความฉ่ำ
อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกินมีอะไร ก็มีอะไรให้ชมเยอะนะ ต้นไม้หนาแน่นทีเดียว
แต่เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติปิดเพราะเป็นฤดูฝน ขึ้นได้แค่เส้นน้ำตก
น้ำตกผาธาร มี ๖ ชั้น แต่เราได้แค่ชั้นแรก สังขารไม่เที่ยงก็งี้
จากที่จอดรถ ชั้นแรกนี่เดินเข้าป่าไปตั้งเกือบกิโลนะ
กว่าจะถึงหกชั้น อิฉันมิตายก่อนฤๅ กลับมาฟิตร่างกายก่อน ค่อยไปใหม่
จอดรถตรงนี้ แล้วเดินเข้าป่าไป
มีต้นไม้ใหญ่
ต้นกล้วยนี่แหงนคอตั้งบ่ากันเลย สูงมาก
ฉันเจอเพื่อนด้วย นั่นไง
ถึงแล้วชั้น๑ ลิ้นห้อยกันเลยทีเดียว
จริง ๆ ก็อยากขึ้นต่อแหละ แต่ไม่มีคนอื่นเลยนี่สิ ก็หวั่นใจกลัวหลงทาง
และฝนก็เริ่มลงเม็ดปรอย ๆ กลัวน้ำป่าด้วย เอาแค่ชั้นเดียวพอเนอะ
ที่อุทยานฯมีบ้านพัก ลานกางเต๊นท์ ห้องน้ำห้องท่าสะอาด
บรรยากาศดี ไม่มีผู้คน แนะนำใครชอบความสงบ ชอบป่าแน่น ๆ จัดเลย อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน
ย้อนกลับทางเดิม เพื่อเข้าสู่เชียงคำ
เส้นทางสีเขียวนี่มันดีต่อใจจริง ๆ
วัดนันตาราม
ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงคำ วัดนี้เป็นศิลปไทยใหญ่ วิหารเป็นไม้สักทองทั้งหลัง
ใหญ่โตอลังการมาก ได้ยินมาว่าเป็นหนึ่งเดียวในไทย
ภายในวิหารสวยงามดูขรึมและขลัง
ด้านในเป็นโซนพิพิธภัณฑ์ มีข้าวของเครื่องใช้โบราณให้ชม
เข้าวัดแต่งตัวให้เรียบร้อยนะทุกคน ไม่นุ่งสั้น ไม่แขนกุด ไม่รัดรูป
แต่ใครเผอิญนุ่งสั้นไปเขาก็มีผ้าถุงให้ใส่ค่ะ
ถ้าหากใครไปเที่ยวแค่เชียงรายก็แวะไปได้นะ
เพราะเชียงคำอยู่ติดกับเชียงราย ไปมาง่ายดายทีเดียว
เพิ่งจะบ่าย ออกจากวัดก็เริ่มหิว วันอาทิตย์ทำไมร้านรวงแถวนี้ไม่เปิดเลย
เป็นเมืองที่เงียบมากมาย แต่เราชอบนะ แลดูสงบดี
วนไปวนมาหาของกิน เจอร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก ๆ
ชื่อร้าน กิมเฮียง หรือ กิมเอียงอะไรสักอย่างนี่หละ
ลองดูคนละชาม น้ำบริการตัวเอง
อร่อยแฮะ อร่อยเลยหละ จัดไปคนละสองชามเลยทีนี้
อิ่มหนำสำราญ กลับเข้าเชียงรายค่ะ
ความที่จองตั๋วไว้ไฟลท์ดึกสุด มาถึงเชียงรายเหลือเวลาอีกมากมาย
จะไปเที่ยววัดต่าง ๆ ในเมืองก็ไปมาหมดแล้ว
อย่ากระนั้นเลย สายกินอย่างเรา หาอะไรกอนฆ่าเวลาก่อนเข้าสนามบินเถอะ
จ.เจริญชัย เช่นเคย ใกล้สนามบิน ละเลียดกันไป
งอ้อยสร้อยจนสมควรแก่เวลา ก็เข้าสนามบิน คืนรถเรียบร้อย
เช็คอินเข้าไปนั่งรอ... เป็นอันจบทริปพะเยา เจอกันใหม่ทริปหน้า
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ค่ะ
Paramee Na Prasri
วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.09 น.