ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านที่ขอบภูผา แสงสีทองสาดส่องลงบนผืนหมอก
	
	ความสว่างไสวในยามรุ่งอรุณกำลังคืบคลานเข้ามา
	
	น้ำค้างหยดไหลคล้อยบนปลายกรีบหมู่มวลบุปผา
	
	ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือความสุขที่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัส
	
	และนี่คงเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตของการเดินทางที่ยากยิ่งจะลืมเลือน...
	
	 
	อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL 
	https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP/
	
	ผืนหมอกบนดอยสูงในความทรงจำยามเมื่อต้องแสงอรุณ
ดูแตกต่างจากภาพในวันนี้ ด้วยองค์ประกอบที่นอกเหนือไปจากความรู้สึก
	 
ดอกไม้หลากสีสันผลิบานช่วยเติมแต่งให้ภาพฝันดูสมบูรณ์
	ทิวเขาสูงตระหง่านโอบล้อมไปด้วยความสุขจากผู้คนที่มาเชยชมสายหมอก
	
	ณ ดินแดนเทพนิยาย  “ห้วยน้ำดัง"
	
	 
เรื่องราวของผมเริ่มต้นในตอนเช้ามืดก่อนตะวันขึ้น
	จากจุดกางเต็นท์ ผมเดินทางมายังจุดชมวิวหลักที่อยู่ห่างออกไปราว 1 กิโลเมตร
	
	ผ่านศาลาเพิงพักริมทางกับนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งที่กำลังจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
	
	ท่ามกลางความเงียบสงบที่มีแค่เพียงเสียงหรีดหริ่งเรไร
	
	 
จากบทบันทึกการเดินทางครั้งก่อนที่จบลงที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
	ผมใช้เส้นทาง อ.ปางมะผ้า – อ.ปาย สู่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่
	
	มันเป็นช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลหลั่งไหลกันมาที่นี่
	
	และผมก็มาถึงค่อนข้างเย็น โซนกางเต็นท์ใกล้กับจุดชมวิวเต็มหมด เหลือแต่จุดกางเต็นท์ที่ห่างออกไปไกล
	
	จึงเป็นเหตุผลที่ผมต้องเดินไกลพอสมควร เพื่อมายังจุดชมวิวในเช้ามืดวันนี้
	
	ในภาพเป็นวิวระหว่างทางเดิน มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุดเมื่อเห็นภาพลางๆ
	
	 
ผมมาถึงจุดชมวิวก่อนตะวันจะขึ้น และคิดว่ามาเร็วเกินไป
แต่ก็ไม่ได้เร็วไปกว่านักท่องเที่ยวคนอื่นๆ
	 
ภาพในความฝันที่เหมือนจะยังไม่เด่นชัดนัก เพียงรอเวลาที่ดวงตะวันสาดแสง
	กับผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มารอคอยความสุขเหมือนกับผม 
	
	 
ผืนหมอกขนาดใหญ่ในอ้อมกอดของขุนเขา
	ผืนหมอกที่ดูนุ่มนวลน่าสัมผัส 
	
	และเพียงสัมผัสแรกผมก็ตกหลุมรักขึ้นมาเสียแล้ว
	
	 
ผมเคยได้ยินเรื่องราวความสวยงามของที่นี่มาพอสมควร
	คำบอกเล่ารวมไปถึงรีวิวและรูปภาพต่างๆ บนโลกออนไลน์
	
	แต่กับความเป็นจริงที่ผมเห็น มันสวยงามอลังการกว่านั้นหลายเท่าตัวนัก
	
	 
ดวงตะวันเริ่มทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นและเพิ่มความเด่นชัดของวิวทิวทัศน์
	ภาพของดอกไม้นานาพันธุ์ดูงดงามสมกับคำกล่าวขานนาม “ห้วยน้ำดัง"
	
	 
เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย รวมถึงตัวผม
	ภาพของผู้คนที่มองไปยังจุดเดียวกัน  พร้อมกับเสียงลั่นชัตเตอร์
	
	ภาพของดวงตะวันที่โผล่พ้นทิวเขาสาดแสงส่องไปบนผืนหมอกที่นอนสงบนิ่ง
	
	 
สำหรับเรื่องราวของการเดินทางในครั้งนี้
	ตั้งแต่วันแรกที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย จ.ตาก
	
	ลัดเลาะเลียบตะเข็บชายแดนฝั่งตะวันตกผ่านแม่สะเรียง ขุนยวม 
	
	จนมาสุดทางที่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน ในคืนที่สอง
	
	 
จากบ้านรักไทย ใช้เส้นทางปางมะผ้า – ปาย
	เข้าเขต จ.เชียงใหม่ และมาลงเอยที่ห้วยน้ำดังแห่งนี้
	
	ผมผ่านตัวเมืองปาย และผมก็ไม่ได้แวะสัมผัสบรรยากาศของปายแม้แต่น้อย
	
	ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
	
	 
ลานกางเต็นท์ที่มีทั้งหมด 7 จุดเกือบจะเต็มทั้งหมดเมื่อผมมาถึงที่นี่ในช่วงเย็นย่ำ
	กับอุณหภูมิในยามรัตติกาลที่หนาวเย็น และน้ำค้างที่ค่อนข้างแรงจนเต็นท์เปียกไปหมด
	
	 
ตั้งแต่วันแรกจนถึง ณ ช่วงเวลานี้ มีเรื่องเรื่องราวให้ผมได้จดจำมากมาย
	และผมคงต้องจำเรื่องราวบทสุดท้ายของดินแดนที่สวยงามแห่งนี้ไปอีกนาน
	
	 
นอกจากแสงสีทองที่อาบไปบนผืนทะเลหมอก
	ยังอาบไปในความประทับใจของใครอีกหลายคน
	
	 
บางคนเลือกที่จะเก็บความประทับใจลงบนภาพถ่าย
	บางคนเลือกที่จะเก็บความประทับใจลงในความทรงจำ
	
	 
นอกจากแสงสีทองที่สาดส่องขับไล่ความมืดมิด
	และให้ความอบอุ่นของขุนเขาแล้ว
	
	ยังก่อให้เกิดความอบอุ่นในใจของใครบางคน
	
	 
แสงแดดเริ่มเพิ่มความร้อนควบคู่ไปกับจำนวนนักท่องเที่ยว
	ที่เริ่มเดินทางมาเชยชมทะเลหมอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
	
	 
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใครหลายๆ คน
	คงเป็นการค้างแรมที่ปายแล้วเช้ามืดค่อยเดินทางขึ้นมาเชยชมทะเลหมอก
	
	ที่จะใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง
	
	 
ถ้าจะมีซักภาพที่คุ้นตาบนสื่อต่างๆ
ก็คงต้องเป็นภาพใบนี้ ภาพของจุดชมวิวในมุมสูงที่หลายคนคุ้นตา
	 
การได้มายืนในที่แบบนี้ เวลาดูจะเดินช้าลง
	ไม่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลา
	
ทำให้เราได้มีโอกาสหยุดมองสิ่งต่างๆ รอบตัวเรามากขึ้น
	 
นอกจากทะเลหมอกที่งดงามตระการแล้ว
จุดเด่นสำหรับที่นี่คือดอกไม้จำนวนมาก
ที่จัดทำเป็นสวนปลูกไว้โดยรอบบริเวณ
	 
ตะวันเริ่มคล้อยสูงขึ้น อีกไม่นานผืนหมอกคงระเหยจางไป
เหลือไว้เพียงฉากหลังของภูผาดอยหลวง และความทรงจำที่งดงาม
	 
บางครั้งความสุขก็หมุนเวียนอยู่รอบตัวเรา
แต่บางทีความสุขก็อยู่ไกลแสนไกล
	 
และบางครั้งเพื่อนร่วมทางที่ไม่รู้จักกันมาก่อนกับบทสนทนาที่มีแต่เรื่องท่องเที่ยว
บางทีก็ดีกว่าคนรู้จักที่มีแต่เรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง
	 
เหมือนกับการเดินทางในครั้งนี้ที่ผมร่วมทางมากับเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันเป็นครั้งแรก
	เนื้อหาเรื่องราว บทสนทนาที่พวกเราพูดคุยกันเป็นเพียงแค่เรื่องเที่ยวและก็เที่ยว
	
	ไม่มีเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว และไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวาย
	
ทำให้การเดินทางในครั้งนี้อิ่มเอมไปด้วยความสุข
	 
ระยะทางกว่า 1200 กิโลเมตรที่ผมเดินทางมา
	กับวิวที่เห็นอยู่ตรงหน้า 
	
ก็ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหายเป็นปลิดทิ้ง
	 
ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่จนสาย เดินไปมาขึ้นลงอยู่หลายรอบ
	ไม่ต่างจากเด็กน้อยที่กำลังได้ของเล่นชิ้นใหม่
	
และคงได้เวลาที่ต้องกลับไปเก็บเต็นท์เพื่อออกเดินทางต่อ
	 
ศาลาหลังเดิมกับทางเดินกลับเส้นเดิมเหมือนเมื่อตอนเช้ามืด
	แต่ความรู้สึกที่มีเข้ามากลับดูว่ามีอะไรใหม่ๆ 
	
อาจเป็นเพราะความมืดในตอนเช้าที่มองอะไรไม่ถนัดนัก
	 
จริงๆ แล้วตลอดเส้นทางที่เดินมาจะถูกปูพรมไปด้วยผืนหมอกตรงเบื้องล่าง
ในขณะที่ตัวเรากำลังอยู่บนที่สูง
	 
ไม่เว้นแม้แต่บริเวณกางเต็นท์ที่ถูกล้อมรอบด้วยผืนหมอก
และนี่แหละคือมนต์เสน่ห์ของห้วยน้ำดัง
	 
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงปีใหม่
หากแต่ดอกนางพญาเสือโคร่งบริเวณลานกางเต็นท์เริ่มผลิบานบ้างแล้ว
	 
คงเพราะบนยอดดอยสูงแห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยลมหนาวและอากาศที่บริสุทธิ์
ทำให้ดอกนางพญาเสือโคร่งผลิบานเร็วกว่าหลายๆ แห่ง
	 
ห้วยน้ำดังอาจจะไม่ใช่หนึ่งในเป้าหมายสำหรับเชยชมเจ้าดอกซากูระดอย
ถึงกระนั้นความสวยงามก็มีให้เห็นตลอดสองข้างทางจากจุดชมวิวมายังลานกางเต็นท์
	 
ผมกลับมายังจุดชมวิวอีกครั้งในช่วงสายหลังจากจัดการเก็บเต็นท์เรียบร้อยก่อนเดินทางต่อ
เพราะอยากเห็นภาพในฝันให้ชัดเจนมากขึ้นอีกครั้งก่อนจะจากลา
	 
แสงแดดแรงกล้าจนเริ่มรู้สึกร้อน ตอนนี้เกือบ 10 โมงเช้า
แต่ผืนหมอกก็ยังคงนอนสงบนิ่งไม่จางหายไปไหน
	 
สีเหลืองสลับแดงแซมด้วยใบสีเขียว
	โดยมีผืนหมอกและดอยหลวงเชียงดาวเป็นฉากหลัง
	
ความงามที่ไม่อาจบรรยายได้ด้วยตัวหนังสือและภาพถ่าย
	 
ดอกคอสมอสสีชมพูเรียงเป็นทิวแถวสลับไปกับดอกไม้อื่นๆ
นอกจากความสวยงามแล้วยังแสดงให้เห็นถึงการเอาใจใส่ดูแล
	 
ภาพในมุมสูงที่ลาดเอียงลดหลั่นกันลงไป
	แซมไปด้วยสวนดอกไม้ระหว่างทางเดิน
	
	นี่คือเส้นทางแห่งความสุข
	
เส้นทางที่มีเรื่องราวให้เราได้เก็บเกี่ยวความสวยงามตลอดทางเดิน
	 
การเดินทาง...ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเดินไปในทิศทางนั้นๆ
	แต่เราได้อะไรจากทางที่เราเดินต่างหาก
	
...เราสามารถเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากทุกย่างก้าวได้เสมอ...
	 
มุมมองด้านกว้างสุดลูกตาในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนสายหมอกจะจางหาย
	 ผมไม่แน่ใจนักว่าจะมีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีกครั้งเมื่อไหร่
	
แต่ผมแน่ใจว่าความทรงจำดีๆ จะอยู่กับผมตลอดไป...
	 
จากห้วยน้ำดังผมใช้เส้นทางสู่ จ.เชียงใหม่ ไปยัง อ.ดอยสะเก็ด
อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย สู่ จ.เชียงราย ตามแผนที่ครับ
	 
ผมเดินทางมาสัมผัสกับบรรยากาศของงานที่มีชื่อว่า มหกรรมดอกไม้อาเซียน
ที่จัดขึ้นบริเวณริมแม่น้ำกก ในตัวเมืองจังหวัดเชียงราย
	 
ผู้คนจากทุกสารทิศเดินทางมากันอย่างหนาแน่น
ด้วยจุดหมายที่ไม่ต่างกัน คือชมความงดงามของดอกไม้นานาชนิด
	 
พระเอกของงานไม่ว่าจะเป็นปีนี้หรือปีก่อนๆ
คงหนีไม่พ้นดอกทิวลิปหลากสีสันที่สวยงามตระการตา
	 
ภายในงานจะประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลายชนิดระหว่างทางเดิน
มีมุมสวยๆ ให้ได้เก็บภาพกันอย่างมากมาย
	 
มีสระน้ำเล็กๆ ที่ตกแต่งไปด้วยดอกไม้
กับบรรยากาศที่เย็นสบายภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ระหว่างทางเดิน
	 
ผมมาที่นี่ 4 ปีติดต่อกัน แม้ภายในงานจะจัดคล้ายกันทุกปี แต่ผมก็ยังอยากมาอยู่ดี
	หลายคนยังเข้าใจผิดว่างานนี้กับงานเชียงรายดอกไม้งามคืองานเดียวกัน
	
ซึ่งไม่ใช่ เพราะจัดกันคนละที่ แต่ก็ไม่ไกลกันนัก และรูปแบบของงานก็แตกต่างกัน
	 
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามบันทึกการเดินทางในชุดนี้ของผม แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ
	 
อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP
ม่วงมหากาฬ
วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.25 น.

 Readme before you journey
Readme before you journey












