นิยามคำว่า "พักผ่อน" ของแต่ละคนคงจะไม่เหมือนกัน สำหรับอ้อม การพักผ่อน คือ การได้ออกเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ เพื่อให้เวลากับตัวเองได้คิด ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ

เหมือนกับการออกเดินทางของอ้อมในครั้งนี้.....ที่ ดีวารี จอมเทียน บีช พัทย


ดี วารี จอมเทียน บีช โรงแรมหรูติดทะเล ใจกลางหาดจอมเทียน,พัทยา

มีขนาด 480 ห้อง กับความสูงถึง 38 ชั้น ตัวอาคารถูกออกแบบคล้ายทรงพระจันทร์เสี้ยว จึงทำให้ผู้เข้าพักสามารถมองเห็นวิวทะเลและบรรยากาศเมืองพัทยาได้แบบ 180 องศาจากระเบียงห้องทุกห้อง

ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนต สปา และ Kid's Club

ในส่วนของอาหารมีบริการทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น ซีฟู๊ด หรือร้านอาหารสไตย์บาร์บนชั้น 38

- ทำเลดี -บรรยากาศดี -สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน -กับราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นเพียง 1,xxx บาท

ทั้งถูก ทั้งดี นี่แหละเหตุผลที่อ้อมเลือกที่นี่ คู่ควรกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง


การเดินทางมายังโรงแรมดีวารี จอมเทียนบีชนั้น ก็ง่ายแสนง่าย ขับรถมาตามถนนเลียบชายหาดจอมเทียน จนถึงซอยจอมเทียน 14 เลี้ยวเข้าซอยมาประมาณ 100 เมตร จะเจอกับที่จอดรถของโรงแรม ทางเข้าเพื่อเช็คอินก็อยู่ด้านหลังนี้เช่นกัน


จอดรถเสร็จเรียบร้อยก็เข้าไปเช็คอินกันเลย

ล็อบบี้ ที่นี่กว้างขวางมาก หลังจากเช็คอินแล้วเราก็ขึ้นไปสำรวจห้องกัน


ห้องพักของเราเป็นห้อง Deluxe Room อยู่ที่ชั้น 25


เปิดประตูเข้าห้องมาสิ่งแรกที่ทำให้ต้องร้อง ว้าว!! ดังๆเลยคือ วิวทะเลที่ระเบียยงไง สมคำร่ำลือจริงๆ


เพลิดเพลินกับบรรยากาศวิวทะเที่มาพร้อมกับลมแรงๆที่ปะทะหน้าแล้ว เราหันกลับมาสนใจกับห้องนอนของเรากันบ้าง ห้องที่อ้อมพักเป็นห้องเตียงเดี่ยวแบบ Double bed ซึ่งเราสามารถเลือกได้นะว่าต้องการแบบเตียงเดี่ยว หรือเตียงคู่ โดยแจ้งกับพนักงานที่จุดเช็คอินได้เลย


ในส่วนของห้องน้ำ มีขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ด้านในมีอ่างอาบน้ำไว้นอนแช่พร้อมกับกำแพงที่เป็นกระจกใส สามารถนอนแช่น้ำ มองดูวิวพระอาทิตย์ตกดินได้เลย


เรามาดูสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องกันบ้างดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากตู้เซฟ ไดร์เป่าผม ชา กาแฟ น้ำดื่ม และทีวีแบบสมาร์ททีวี



บ่ายแก่ๆเริ่มหิวกันแล้ว เมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้องเราเลยออกมาหาอะไรกินกันที่ ร้านดาเระ ร้านอาหารญี่ปุ่นของโรงแรมดีวารีจอมเทียน

"DaRe Japanese restaurant"

ร้านดาเระ ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงแรมดีวารี ติดถนนเลียบหาดจอมเทียน ปากซอยจอมเทียน 14

ในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00-18.00น. จะเปิดให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบทั่วไป

ส่วนตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. จะเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่


บรรยาการศภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย คนจะเยอะในช่วงเที่ยง และช่วงเย็นที่เปิดบริการแบบบุฟเฟ่ เราเข้ามาทานช่วงบ่ายแก่ๆแบบนี้ก็ดีไปอีกอย่าง คนน้อยดี เลือกที่นั่งได้ตามชอบเลย


หิวแล้วสั่งอาหารกันเลยดีกว่า มาทานอาหารญี่ปุ่นต้องไม่พลาด นี่เลย ชุดเซ็ทซาซิมิรวม มีทั้งปลาแซลม่อน ปลาทูน่า และปลาซาบะ เนื้อหนาๆ แน่นๆ



ต่อมาก็ต้องนี่เลย ยำปลาแซลม่อน เนื้อแซลม่อนนุ่มๆ คลุกเคล้ากับน้ำยำสุดจี๊ด แซ่บอีหลี


อีกอย่างที่พลาดไม่ได้ เมื่อมากินอาหารญี่ปุ่นก็ต้องนี่เลย ข้าวห่อสาหร่ายอโวคาโด้ ข้าวปั้นสอดไส้อโวคาโด้ แตงกวา แล้วเคลือบด้วยไข่กุ้ง ชิ้นใหญ่เต็มคำ


นอกจากนี้ยังมีเมนูต่างๆ ให้เลือกสรรอีกมากมาย


นอกจากอาหารญี่ปุ่นแล้วยังมี สลัดบาร์ ผักสดๆ ทานคู่กับน้ำสลัดหลากรสชาติ ในราคาเบาๆเพียงจานละ 90 บาท



อิ่มท้องกันแล้วเราไปอะไรทำเพื่อย่อยอาหารกันดีกว่า ที่นี่มีสระว่ายน้ำ ถึง 2 สระ สระแรกคือสระว่ายน้ำบริเวณชั้น 5 เป็นสระขนาดเล็ก แต่ก็มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ตรงทางเข้าสระมีบริการสปาด้วยนะ แต่เราไม่ได้ใช้บริการ เพราะอยากเล่นน้ำมากกว่า


ส่วนสระว่ายน้ำอีกสระ อยู่บริเวณชั้น 1 สระนี้เป็นที่นิยมมากกว่าสระชั้น 5 เพราะมีขนาดใหญ่กว่า ที่สำคัญมีสระจากู๊ซชี่เล็กๆด้วย


ที่โซนนี้นอกจากสระว่ายน้ำแล้วยังมี ฟิตเนต และ Kid's Club ไว้ให้บริการสำหรับผู้เข้าพักด้วย



ก็อย่างที่บอกไง ว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังจากทำกิจกรรมต่างๆกันจนหมดแรง เราก็ต้องเติมพลังกันหน่อย กับร้าน D.I.B. Sky Barร้านอาหารสไตย์บาร์ บนชั้น38



ร้านอาหารแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนแรกเมื่อเข้ามาถึงเป็นโซนในอาคาร ด้านซ้ายมือเป็นโซน Outdoor หน้าครัว จะได้สัมผัสกับวิวเมืองสัตหีบ บางเสร่ และโซนสุดท้ายเป็นโซน Outdoor ยอดนิยมได้สัมผัสกับวิวเมืองพัทยา ซึ่งเราก็เลือกโซนนี้เช่นกัน


ด้วยทำเลที่ตั้งเป็นชั้นบนสุดของโรงแรมจึงไม่ต้องห่วงเรื่องบรรยายกาศ หากใครต้องการดูพระอาทิตย์ตกดินก็ควรขึ้นมาประมาณ 17.30น.-18.00 น. เพราะเป็นช่วงที่แสงสวยที่สุด แต่เราขึ้นมาช้าไปหน่อย แสงเหลือแค่นี้แต่ก็ยังสวยอยู่นะ ไม่พูดมาก ให้ภาพเล่าเรื่องแทนละกัน


พอฟ้ามืด เราจะพบกับดาวบนดินที่ พัทยา.........


สำหรับใครที่มีคูปอง Welcome drink ที่ได้รับเมื่อตอนเช็คอินก็สามารถขึ้นมารับได้ที่นี่เลย มีให้เลือกทั้งแบบมีแอลกอฮอร์ และไม่มีแอลกอฮอร์ เพราะฉนั้นเด็กๆ สามารถเข้ามาทานอาหารที่นี่ได้อย่างสบายใจหายห่วง


มาดูทางด้านอาหารกันบ้าง....แต่ละเมนูคือน่ากินทั้งนั้น

ร้าน DIB : Devaree Inspiration Bar เปิดตั้งแต่ 6 โมงเย็น - ตีสอง สำหรับสายชิลนี้นั่งกันได้ยาวๆเลย



เช้าวันใหม่จากร้าน DIB:Devaree Inspiration Bar ที่เฉิดฉายยามค่ำคืน ก็จะกลายมาเป็นจุดทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ สำหรับผู้ที่จองห้องพัก ในระดับ Executive Club Room ขึ้นไป ซึ่งอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบ Asian Breakfast แบบAmerican Breakfast ผลไม้ ขนมหวาน แม้แต่น้ำผักผลไม้คั้นสดๆก็มี ถ้าใครคิดจะจองห้องพักที่นี่อย่าลืมจองแบบ Executive Club Room ขึ้นไปนะ รับรองคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มแน่นอน




หากใครที่กำลังมองหาที่พักดีๆ สำหรับวันพักผ่อน ที่ ดีวารี จอมเทียน บีช พัทยา เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์การพักผ่อนได้แบบเต็ม 100 เลยหล่ะ

*******************************

สำหรับเส้นทางการจองหรือช่องทางสอบถามรายละเอียดต่างๆตามด้านล่างนี้เลยค่ะ

D Varee Jomtien Beach Hotel





Kulkhemson Kalpanachaiwut

อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว Want To Travel

 วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.22 น.

ความคิดเห็น