หลังจากไปส่งแม่ให้พักผ่อนที่โรงแรมเรียบร้อย ก็ถึงเวลาออกไปเที่ยวได้ แต่ไปได้ไม่ไกลนัก เผื่อเธอตื่นมาก่อนแล้วหิว หรืออยากไปงาน Sea food Eat Local Meet Local ที่หาดแหลมสิงห์ก่อน เพราะเขาเริ่มงานกันตั้งแต่ 11 โมงเช้า เราจะได้กลับไปรับทัน โดยไม่ต้องให้แม่รอนาน

เห็นคุกขี้ไก่ ที่ตั้งอยู่กลางเมืองแหลมสิงห์ ผ่านไปผ่านมาหลายรอบ เลยมองหาที่เหมาะ ๆ จอดรถลงไปดูกัน

ทางเข้าคุกขี้ไก่ ต้องถอยหลังเข้าใช่มั้ย เขาถือกันแบบนี้

คุกขี้ไก่ เป็นคุกโบราณ เมื่อปี พ.ศ. 2436 ฝรั่งเศสได้เข้ามายึดครองจังหวัดจันทบุรี และได้สร้างคุกขี้ไก่นี้ขึ้นมาเพื่อกักขังนักโทษชาวไทยที่ได้ต่อต้านกับชาวฝรั่งเศส ที่มาอยู่ในประเทศไทยนี้ แต่ไม่เคยได้ใช้ พร้อมกับการสร้างตึกแดง ชั้นบนเป็นที่เลี้ยงไก่สำหรับถ่ายมูลใส่หัวนักโทษข้างล่าง

ผนังด้านนอกและช่องลม

คุกขี้ไก่มีลักษณะเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจุตรัสลบเหลี่ยม มีขนาดกว้าง 4 เมตร สูง 10 เมตร ที่ตั้งของคุกขี้ไก่อยู่หมู่ที่ 1 ตำบลปากแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

ช่องลมด้านใน

ปัจจุบันคุกขี้ไก่ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

เลยจากคุกขี้ไก่ไปไม่ไกล เราจะเห็นสิ่งก่อสร้างแปลกตา นั่นก็คือ "ตึกแดง" เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เมื่อฝรั่งเศสเข้ามาในจังหวัดจันทบุรี ไทยเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส ใน วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ตึกแดง ตั้งอยู่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เกือบสุดทางที่ท่าเรือปากน้ำแหลมสิงห์

"ตึกแดง" หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เมื่อฝรั่งเศสเข้ามาในจังหวัดจันทบุรี

ตึกแดง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 โดยชาวฝรั่งเศส ตึกแดงตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นป้อมพิฆาตปัจจามิตร ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองจันทบุรี ได้สั่งให้รื้อป้อมพิฆาตปัจจามิตร แล้วนำอิฐมาสร้างเป็นตึกแดงแทน

ด้านนอกของตึกแดง

ตึกแดง เป็นอาคารชั้นเดียว ยกพื้นสูงจากขอบถนนนิดหน่อย สร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบก่ออิฐถือปูน ขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 32 เมตร ทาสีแดงทั้งหลัง หลังคามุงกระเบื้องที่นำมาจากฝรั่งเศส ส่วนโครงสร้างหลังคาทำจากรางรถไฟที่นำมาจากเวียดนาม รอบอาคาร มีแนวระเบียง กั้นด้วยไม้แบบโปร่ง บานประตูหน้าต่าง เป็นบานเกล็ดไม้ ภายในอาคารแบ่งเป็น 5 ห้อง มีประตูทะลุถึงกันได้หมด

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการที่รถยนต์เข้าชนตึกแดง

ตึกแดงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของทหารฝรั่งเศส ที่รักษาการณ์อยู่บริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ เมื่อฝรั่งเศสได้ถอนกองกำลัง และออกไปจากเมืองจันทบุรีไปจนหมด หลังปี พ.ศ. 2447 ตึกแดงได้ถูกทิ้งร้างไว้ และได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2527 เพื่อใช้เป็นห้องสมุด และศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ของอำเภอแหลมสิงห์ ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของตึกแดง

ด้านในของตึกแดง และปืนใหญ่ของฝรั่งเศสที่จมน้ำอยู่บริเวณนั้น

ปืนใหญ่หล่อสำริด น้ำหนักประมาณ 4 ตัน

ภายในอาคารห้องโถง มีปืนใหญ่หล่อสำริด น้ำหนักประมาณ 4 ตัน ลูกเหล็กกลม พร้อมโซ่เหล็กขนาดใหญ่จำนวนหนึ่ง เป็นปืนใหญ่ของฝรั่งเศส ซึ่งบนกระบอกปืนมีตราประทับรูปนกอินทรี ที่เป็นตราสัญลักษณ์ของนโปเลียนโบนาปาร์ต จักรพรรดิฝรั่งเศส ปืนกระบอกนี้ จมอยู่ในแม่น้ำจันทบุรี ได้ค้นพบหลังจากที่ฝรั่งเศสได้ถอนกำลังออกจากไทยจนหมดแล้ว

ส่วนของนิทรรศการเมืองจันท์ในอดีตที่ตึกแดง

ออกจากตึกแดง เรียกว่าได้เห็นสิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่เราเคยเรียนมาสมัยเด็ก ๆ กันเลยทีเดียว ทั้งของเก่า ของใหม่ ที่ผสมกลมกลื่นอยู่ด้วยกัน ว่าแล้วก็ไปต่อดีกว่า ยังพอมีเวลา

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

พาแม่เที่ยวจันท์ 3 วัน 2 คืน :: โรงแรมแหลมสิงห์ เนเชอรัล บีช รีสอร์ท

พาแม่เที่ยวจันท์ 3 วัน 2 คืน :: เจ๊ลักษณ์ ส้มตำ ของดีแหลมสิงห์ จันทบุรี มาที่นี่ ไม่กินไม่ได้

พาแม่เที่ยวจันท์ 3 วัน 2 คืน :: คุกขี้ไก่ และตึกแดง ในวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112

พาแม่เที่ยวจันท์ 3 วัน 2 คืน :: สะพานตากสินมหาราช - วัดเขาแหลมสิงห์ - ศาลเจ้าพ่อแหลมสิงห์