บางครั้งเราก็อยากไปเที่ยวทะเลแบบไม่เล่นน้ำทะเล หมายถึงแค่ไปนั่ง Chill มองทะเลสีฟ้า กิน Seafood หาที่นอนสบายๆ และถ้าพูดถึงทะเลใกล้กรุงฯ "พัทยา" คงเป็นสถานที่อันดับต้นๆ ที่นึกถึง ทริปนี้เราจึงใช้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เดินทางไปพักผ่อน กินบุฟเฟ่ต์ Seafood นั่งดื่มกาแฟแบบ Sea view เที่ยวตลาดน้ำที่พัทยากันแบบไม่มีรถส่วนตัว พร้อมแล้วไปกันเลย!
สถานที่ที่เราไปในทริปนี้ ได้แก่...
- ดื่มกาแฟพร้อมชมวิวทะเล @The Sky Gallery
- พักผ่อนและกินบุฟเฟ่ต์ Seafood @A-One The Royal Cruise Hotel Pattaya
- ร้านอาหารเจ้จุกสาขา 1
- ตลาดน้ำ 4 ภาค
การเดินทาง
เริ่มจากท่ารถตู้หมอชิต จุดขึ้นรถตู้เปลี่ยนใหม่แล้วนะคะ พอลงจากรถเมล์ให้เดินข้ามสะพานลอยมาจะเจอกับ “สถานีขนส่งผู้โดยสารขนาดเล็ก” ให้เดินเข้าไปซื้อตั๋วที่อาคาร C เคาเตอร์อยู่ทางขวามือมีรถตู้ไปพัทยาหลายเจ้าเลยค่ะ ถ้าไม่ได้ทำการบ้านมาว่าคุณจะไปเจ้าไหน การที่คุณไปยืนอ่านป้ายคุณจะโดนเรียกจากบรรดานายท่าอย่างกดดัน Trick: เมื่อคุณเดินเข้าไปในอาคารให้หาที่นั่งทางฝั่งขวา แล้วเนียนนั่งเลือกนั่งอ่านป้ายไปก่อน ส่วนเราคือผู้ที่ไม่ได้ทำการบ้านมาสุ่มเดินเข้าไปได้ตั๋วรถของ “สหรัถ” บอกว่าลงแยกวัดชัยมงคล คนละ 140 บาท รอเต็มถึงออกซึ่งเรารอประมาณ 15 นาที ล้อหมุน 07.45 น. ขับดี ให้ขาดเข็มขัดตลอดและแวะเติมก๊าซที่บางละมุงประมาณ 20 นาที
หลังจากที่รถตู้ส่งเราลงที่แยกวัดชัย จุดหมายต่อไปคือร้านอาหาร The Sky Gallery ไม่มีรถประจำทางผ่าน เราใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์บริเวณใกล้เคียง หากหาไม่เจอรอโบกตรงแยกก็ได้มาเรื่อยๆ ค่าวินมอเตอร์ไซค์คนละ 60 บาท ทางบางช่วงตรงเข้าพระตำหนักเป็นโค้งขึ้นเขาใครที่ขับรถไปเองระมัดระวังด้วย
The Sky Gallery
ร้านอาหารทะเลตั้งอยู่ใกล้กับโรมแรม Cozy Beach Pattaya และ Chocolate Factory สามารถมองเห็นวิวอ่าวพัทยาได้อย่างชัดเจน พื้นที่ร้านกว้างขวาง ที่นั่งเยอะมาตอนกลางวันไม่ร้อนอย่างที่คิดเพราะร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งทั้งแบบในห้องแอร์เย็นๆ และแบบเปิดโล่งไม่มีหลังคาแต่ร่มรื่นด้วยเงาของต้นไม้ใหญ่ บริการอาหารเครื่องดื่ม เมนูทานเล่นไปจนถึงอาหารจานหลัก
ราคาอาหารค่อนข้างสูงแต่ก็เหมาะสมกับบรรยากาศและวิวทะเลสวยๆ แบบนี้ เมนูที่เราสั่งมาคือ เฟร้นฟรายฟองดู 145 บาท มันฝรั่งทอดโรยชีสมาพร้อมชีสฟองดูส์ จานใหญ่อยู่นะแต่เนื้อตัวฟองดูส์ไม่ค่อยเนียนเป็นเหมือนแป้งข้น, Mix Berry Espresso Frost ราคา 135 บาท กาแฟปั่นใส่กลิ่นมิกซ์เบอร์สีชมพู และเครื่องดื่มแนะนำจากทางร้าน The Sky Gallery Coffee Ice ราคา 115 บาท กาแฟกลิ่นมินต์สีฟ้าสดใส เราไม่ได้คนก่อนดูดส่วนที่เป็นสีฟ้าไปก่อนพอถึงส่วนที่เป็นกาแฟขมอย่างเดียว ข้อแนะนำในการดื่มเครื่องดื่มที่ทำแบบเลเยอร์แยกสีแยกชั้นแบบนี้คือ ยังไงก็อย่าลืมคนก่อนดื่มนะคะเพื่อรสชาติที่อูมามิ
ออกจากร้านเดินไปหน้าร้านสะดวกซื้อมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ค่ะ วินมอเตอร์ไซค์ในพัทยาหาไม่ยาก เปิด google map ดูสถานที่ที่เราจะไปก่อนว่าไกลเหมาะกับราคาที่เราต้องจ่ายให้คุณพี่วินหรือเปล่า ถ้าพอใจก็ไปโลด เราให้ไปส่งที่เดิมคือแยกวัดชัยมงคล ราคา 60 บาท และต่อสองแถวที่เขียนข้างรถว่า "วงเวียนปลาโลมา" ราคาคนละ 10 บาท เพื่อไปยังที่พักของเราในทริปนี้
*ก่อนขึ้นถามราคาและสถานที่ที่จะไปก่อน เพราะสองแถวเหมาก็มีขึ้นผิดคันจะแพงนะคะ
A-One The Royal Cruise Hotel Pattaya
การเดินทาง
รถสองแถววิ่งเลียบถนนพัทยาสายสองเป็นถนน One way เราลงที่พัทยาซอย 3 เดินเข้าซอยไปประมาณ 400 เมตร แต่ถ้ามาจากวงเวียนปลาโลมาวิ่งเลียบถนนชายหาดลงหน้าโรงแรมเลยค่ะไม่ต้องเดินไกล
โรงแรม เอวัน เดอะ รอยัล ครูส โรงแรม 4 ดาว ขนาด 196 ห้อง เป็นโรงแรมหรูรูปเรือที่สะดุดตา เดินข้ามถนนไปเป็นชายหาดเล่นน้ำทะเลได้เลย ใกล้ห้างและแหล่งท่องเที่ยว ยังมีโรงแรมในเครือเดียวกันใกล้ๆ อย่าง A-One Star Hotel โรงแรม 3 ดาว , A-One Pattaya Beach Resort, A-One New Wing Hotel และโรงแรม 5 ดาวน้องใหม่ Mytt Beach Hotel ถูกใจห้องพักแบบไหน งบประมาณเท่าไหร่มีให้ตัวเลือกเยอะเลยค่ะ
วางกระเป๋าตรงเก้าอี้เพื่อจะไป Check in ปุ๊ป Welcome Drink มาเสิร์ฟปั๊บ เป็นผึ้งน้ำมะนาวชื่นใจ Uniform ของพนักงานเป็นกะลาสีเรือน่ารักมาก Lobby กว้างมีที่ให้นั่งรอสบายๆ หรือใครอยากนั่งดื่มกาแฟ มีคาเฟ่ให้บริการ
ประเภทห้องพัก
โรงแรมนี้มีห้องพักจำนวน 196 ห้อง ห้องพักมีทั้งหมด 6 ประเภท ได้แแก่ Deluxe room, Cruise Executive Club, Sea View Mini Suite, Family Suite, Ocean Front Suite และ Panoramic Ocean Suite รีวิวนี้เราจะพาไปชมห้อง Panoramic Ocean Suite และ Deluxe room
- Panoramic Ocean Suite
เป็นห้องพักที่ดีที่สุดในโรงแรมนี้ พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ขนาดห้องพัก 150 ตร. ม. มีเพียง 3 ห้องเท่านั้น สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เตียงนอนหันออกไปทางทะเล เรียกได้ว่าตื่นมาก็เห็นทะเลเลย สามารถเสริมเตียงได้ 1 ท่าน
นอกระเบียงมีที่นั่งเล่นรับลมทะเล ถ้าคุณมีจุดประสงค์ในการมาเหมือนเราคือไม่อยากเล่นน้ำ อยากแค่มานั่งเท่ๆ ดูทะเลกับเครื่องดื่มที่ชอบคุณก็ไม่ต้องออกจากห้องนี้เลยค่ะ
มีมุมทานอาหาร และ Sofa พร้อมทีวีขนาดใหญ่ แยกออกมาจากห้องนอน ทีวีสามารถหมุนจอได้อยากนอนดูก็แค่เปลี่ยนด้านทีวีหันมาฝั่งเตียงนอน
ไม่ได้มีแค่ห้องนอนที่วิวทะเล ห้องน้ำก็มองเห็นทะเลเหมือนกัน แยกพื้นที่ใช้สอยไว้อย่างชัดเจน โซนอ่างล้างหน้า สุขาและที่อาบน้ำมี 2 ส่วนคืออ่างอาบน้ำและห้อง Shower
- Deluxe Room
ห้องพักของเราในคืนนี้ เป็นห้องพักขนาด 32 ตร. ม. หน้าห้องสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้ด้วย การเข้าห้องเป็นระบบ Key Card
ห้องนี้เป็น Twin Bed หากใครอยากนอนเตียงเดียวกันแจ้งพนักงานตอนสำรองห้องพักว่าขอเป็น King Bed เตียงนุ่มนอนสบายมีหมอนให้สองใบ
ใครที่หอบงานมาทำระหว่างการพักผ่อนในห้องมีโต๊ะทำงานพร้อม Welcome Fruit ปลั๊กไฟมีพร้อม เราก็หอบงานมาทำเหมือนกันแต่ไม่ได้แตะเพราะพ้ายแพ้ต่อเตียงนุ่มๆ และแอร์เย็นๆ ใครที่เป็นนักเดินทางสายอุปกรณ์ต้องชาร์จกล้อง มือถือ Power Bank มีปลั๊กไว้ให้อย่างเพียงพอ
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักครบครัน ตู้เย็น, น้ำดื่ม, Minibar, อุปกรณ์กาแฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น, โทรศัพท์, ทีวีจอแบน, Wifi, ตู้เสื้อผ้า, เสื้อคลุมอาบน้ำ, ไดร์เป่าผม, ผ้าเช็ดตัว-หน้า-มือ, Batch Amenities, Slippers อ่อ...รีโมททีวีอยู่ในซองตรงหัวเตียงนะคะ
ห้องอาบน้ำเป็นกระจกกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างชัดเจนระหว่างโซนแห้งและโซนเปียก มีทั้งฝักบัวแบบธรรมดาและ Rain Shower ผ้าเช็ดขนหนูให้คนละ 3 ผืน สำหรับเช็ดตัว เช็ดมือ เช็ดหน้า ใช้แยกกันได้เลย ส่วนผ้าที่พาดอยู่บนชักโครกเป็นผ้าเช็ดเท้า
ผู้หญิงเวลามาเที่ยวด้วยกันพร็อบเยอะกระเป๋าใหญ่ ภายในห้องมีที่วางของและสิ่งที่ให้ 10 10 10 ไปเลย คือ Wifi แรงมากเชื่อมต่อไปทีเดียวอยู่ อัพเดทโซเชียลได้แบบไม่สะดุด
สิ่งอำนวยความสะดวก
- Meeting Room
ห้องประชุมของโรงแรมนี้มีให้เลือกเยอะเลยค่ะ แต่วันนี้เราจะพาไปชม 2 ห้องประชุม ห้องแรกคือห้อง "สมอทอง" เป็นห้องประชุมขนาด 160 ตร. ม. ตกแต่งด้วยไม้สำหรับจัดงานแต่งแบบไทย งานเลี้ยง Cocktail และจัดประชุมขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางสำหรับแขก 70-200 ท่าน พร้อมบริการอาหารว่าง
ตัวอย่างการจัดห้องประชุมแบบ Classroom
ห้องประชุมแบบต่อมาคือห้องประชุม "สุพรรณสงห์" เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ 560 ตร. ม. สามารถรองรับได้ 250-600 ท่าน เหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงและการประชุมขนาดใหญ่ ด้านหน้าห้องมองเห็นวิวทะเลและมีจอ LED ขนาดใหญ่หน้าห้องประชุมวางไลน์อาหารได้
- Roof Top
อยู่บนชั้น 10 สามารถจัดงานเลี้ยงเล็กได้ ส่วนใหญ่เป็นงานแบบ Cocktail และ Event เล็กๆ รองรับได้ประมาณ 200 ท่านหรือประมาณ 15 โต๊ะ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพลุในเทศกาลพลุนานาชาติที่เมืองพัทยาจัดทุกปี รับรองว่าจากตรงนี้มองเห็นได้อย่างชัดเจนแน่นอน
- Avarin Massage
สำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการผ่อนคลายด้วยการนวดหรือการทำสปา ที่นี่มีบริการทั้งนวดไทย นวดน้ำมันและ Body scrub ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ใกล้กับ Lobby สถานที่ตกแต่งได้สวยงามไฟสลัวชวนหลับ ห้องไม่กว้างมาก เท่าที่นับดูมีประมาณ 6 เตียง เดินทางเหนื่อย ออกไปเที่ยวจนเมื่อยตัวก็ไปใช้บริการกันได้
เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-20.00 น.
- Cream Café
ยามบ่ายอยากดื่ม After Noon Tea หรือดื่มกาแฟแก้ง่วงในโรงแรมมีคาเฟ่ไว้บริการ ชา กาแฟ เค้กหน้าตาน่ารัก มี Promotion ด้วยนะ เราสั่ง Espresso Double shot ราคา 177 บาท กาแฟหอมถ้าใครไม่ทานหวานให้สั่งหวานน้อยค่ะ
เปิดให้บริการทุกวัน 11.00-20.00 น.
- Club Lounge
สำหรับผู้ที่จองห้องพักประเภท Cruise Executive Club ขึ้นไปสามารถเข้ามาใช้บริการได้ฟรี แต่มีข้อแม้ว่าผู้ที่จองออนไลน์เข้ามาต้องจองแบบรวมอาหารเช้าด้วยถึงจะใช้บริการในส่วนนี้ได้ ที่นั่งตรงนึ้จึงมีความเป็นส่วนตัวมาก
เปิดให้บริการทุกวัน 08.00-22.00 น. และให้บริการเครื่องดื่ม Cocktail 18.00-20.00 น.
เครื่องดื่มชา กาแฟ Refreshment และขนมสามารถทานฟรีได้หมดทุกอย่าง มีทั้งผลไม้ เบเกอรี่และขนมไทย ช่วงเย็นจะมี Canape เมนูแล้วแต่เชฟจะทำเสิร์ฟ
บรรยากาศบริเวณ Cream Cafe และ Club Lounge ในเวลาเย็น
- The Canteen
เป็นห้องอาหารเปิดใหม่สำหรับลูกค้าที่มาเที่ยวหรือพักอาศัยอยู่ในพัทยา อยากทาน Street Food ร้านเด็ดทาง A-One นำมารวมไว้ที่เดียวแล้วในราคาที่จับต้องได้ เมนูอาหารเป็นเมนูที่ทานได้ง่าย
ตั้งอยู่ฝั่งเดียวกับ A-One Star Hotel เปิดให้บริการทุกวัน 11.00-22.00 น.
Facebook: The Canteen Pattaya
ก่อนอื่นต้องแลกบัตรก่อน เงินเหลือนำมาแลกคืนได้
พื้นที่กว้างและที่นั่งเยอะ มีแสงสว่างจากธรรมชาติแต่ไม่ร้อนค่ะ
เครื่องดื่มมีทั้งแบบที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์
ติ่มซำเริ่มต้นที่ 40 บาท เชฟทำให้แบบสดๆ กันเลยทีเดียว เมนูหนักท้องก็มีข้าวหมูแดง หมูกรอบ ข้าวหน้าเปฺ็ด ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวก็มีให้เลือกทั้งน้ำใส น้ำข้น เย็นตาโฟ ต้มยำ ส่วนพิซซ่าเป็นแบบ Homemade อบด้วยเตาฝืน
ส้มตำร้าน "ตำแซ่บ" มีรางวัลการันตีความแซ่บด้วยการเป็นแชมป์ส้มตำ 3 สมัยซ้อนของเมืองพัทยา ของกินเล่นอย่างปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นก็มีค่ะ ตบท้ายด้วยขนมไทยที่เดียวจบไม่ต้องไปไหนไกล
เราสั่งก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ข้าวหมูกรอบ จีบปูและเสี่ยวหลงเปามาทาน หมูกรอบที่นี่เด็ดมากแนะนำเลยว่าควรมาลอง น้ำซุปในเสี่ยวหลงรสชาติกำลังดี จีบปูก็ดีงามได้รสชาติของเนื้อปูแผ่นแป้งบางดีค่ะ ส่วนเย็นตาโฟให้เครื่องเยอะ รสชาติน้ำซุปยังไม่ถึงเย็นตาโฟเท่าไหร่ มื้อนี้รวมน้ำดื่มแล้วราคา 285 บาท
- Swimming Pool & Fat Coco Beach Club
สระว่ายน้ำของโรงแรมมี 2 สระ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08.00-20.00 น. ถ้ามาว่ายน้ำยามเย็นจะได้ชมพระอาทิตย์ตกไปด้วย เราไม่ได้ถ่ายรูปสระว่ายน้ำมาเยอะนักเนื่องจากมีแขกใช้บริการอยู่
Fat Coco Beach Club เป็นอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ สามารถจัด Pool Party แบบส่วนตัวได้ ทางโรงแรมเองก็มีการจัด Pool Party นะคะ มีการเชิญศิลปินมาหรือไม่ก็จัดในช่วงที่เป็นเทศกาลต่างๆ เป็นสระว่ายน้ำที่ตกแต่งและใช้โทนสีได้สวยมาก สั่งเครื่องดื่มมาจิบพร้อมกับว่ายน้ำไปด้วยคงฟินมาก ลูกค้าภายนอกก็เข้ามาใช้บริการในส่วนของ Club ได้
เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-21.00น.
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำในเวลากลางคืน หลังจากไปเดินเล่นที่ชายหาดกลับเข้ามาถ่ายรูปสวยๆ ได้อีกเพียบ ไม่อยากว่ายน้ำก็สั่งเครื่องดื่มมานั่ง Chill ได้ค่ะ
- Fitness One
เราตื่นเต้นมากเพราะตั้งแต่ออกกำลังกายมาไม่เคยเข้า Fitness Center เลย ปกติได้แต่วิ่งเหล่นักบอลในสนามกีฬา พอได้ออกวิ่งเป็นประจำโดยเฉพาะการซ้อมเพื่อลงวิ่งหรือวิ่งเก็บระยะ การหยุดวิ่งไปหนึ่งวันเป็นอะไรที่ทำใจยาก ถ้าเราออกไปวิ่งข้างนอกบนถนนที่ไม่คุ้นเคยก็อันตรายอีกด้วย Fitness One เพิ่งรีโนเวทใหม่ผู้ที่เข้าพักที่นี่ใช้บริการฟรี ขอไปลองสักหน่อย เราบอกพนักงานว่าไม่เคยวิ่งบนเครื่อง พนักงานจะตาม Trainer ให้ด้วยซ้ำแค่นี้เราก็เกร็งมากแล้ว เลยพาไปสอนที่เครื่องซึ่งพนักงานดูแลเราดีมาก มีทีวีให้ดู แอร์เย็น มีน้ำให้ดื่ม ไม่ต้องออกไปวิ่งริมถนนเสี่ยงอันตราย ไม่เปียกฝน ที่สำคัญเราไม่ขาดซ้อมและรู้สึกผิดน้อยลงที่กิน Buffet Seafood ไปจนตัวแทบแตก คนที่ไม่ได้เข้าพักก็สมัครมาใช้บริการได้ปีละ 14,000 บาท
เปิดให้บริการทุกวัน 07.00-21.00 น.
ห้องอาหาร
- Maritime Restaurant
ใครที่ไม่อยากทานบุฟเฟ่ต์ที่นี่มีห้องอาหาร Maritime ไว้ให้บริการอาหารไทยและอาหารตะวันตก ส่วนใครที่ชอบดื่มไวน์ห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะที่นี่มีไวน์ชั้นดีไว้ให้บริการ
เปิดให้บริการทุวัน 10.30-22.00 น.
- The Boat Restaurant
ห้องอาหาร The Boat Restaurant ให้บริการ Buffet มื้อเช้า มื้อกลางวัน (Asian Buffet Lunch) มื้อเย็น ( Seafood Buffet Lunch) ถือคูปองที่ได้ตอน Check in มาด้วยนะคะ นำไปให้พนักงานแล้วเข้าไปตักอาหารทานได้เลย ราคา 850 บาทต่อคน ทานได้แบบไม่จำกัดเวลา Seafood Buffet มื้อเย็นเปิดให้บริการ 17.00-22.00 น. สามทุ่มก็ตัวแตกแล้วจ้า
หอย กุ้งและปูเป็นๆ ที่อยู่หน้าห้องอาหารใครอยากทานสามารถสั่งได้ จะเป็น Order พิเศษไม่รวมอยู่ใน Buffet นะคะ
ห้องอาหารสามารถรองรับแขกที่มาใช้บริการได้ 300 ที่นั่ง แนะนำให้นั่งโต๊ะริมกระจกเห็นวิวสระน้ำและทะเล มีความโรแมนติกในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน
มาดูกันดีกว่าว่ามี Station อะไรบ้าง
- Sea Food จัดเต็ม กุ้ง หอย ปู ปลา มาครบมีทั้งแบบ One Ice และมีแบบทำเสิร์ฟร้อนๆ เช่น กุ้งเผา ปลาหมึกนึ่ง หอยแมลงภู่นึ่งฯ น้ำจิ้ม Seafood รสจัดเผ็ดนำ
- ซูชิและซาซิมิ หน้าซูชิมีให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ซาซิมินี่มีให้เหลือหลากหลาย สด เนื้อไม่เละ ไข่หวาน ปูอัด เติมตลอดเดินมาเมื่อไหร่ก็ได้กิน
- สลัดบาร์ ผักสดมาก น้ำสลัดมีให้เลือกเยอะ ครีมญี่ปุ่นอร่อยมากเราจัดไปสองจาน อีกจานหนึ่งเอาเนื้อแซลมอนมาใส่เพิ่มความแซ่บด้วยการราดน้ำจิ้ม Seafood กินกับผักสลัดคือดีต่อใจ
- Hot Dishes เมนูอาหารจานร้อนจะถูกผลัดเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน Station นี้ก็มีอาหารทะเล ปูม้าทอดกระเทียม หอยอบ ปลาทอด ปลาหมึกผัดพริกสด อาหารจานร้อนมีเมนูหลากหลาย ข้าวผัด มันฝรั่งผัดกับหอมใหญ่ ไก่ผัดพริกอ่อน ผัดหมี่โซบะ ข้าวผัดพริก ผัดผัก
- นอกจากนี้ยังมีก๋วยเตี๋ยวและสปาเกตตี้ที่ทำเสิร์ฟร้อนๆ จานต่อจาน เลือกประเภทเส้นที่อยากกินได้และมีซอสให้เลือกถึง 3 แบบคือซอสมะเขือเทศ คาโบนารา ซอสเนื้อเข้มข้นหอมชีส
- ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ หมูกรอบของที่นี่เราติดใจตั้งแต่มื้อกลางวันแล้ว ตอนเย็นสามารถกินได้ไม่อั้นจัดหนักไปเลยค่ะ
- เมนูเบาๆ แต่ความอร่อยไม่เบากับ "ปอเปี๊ยะเวียดนาม" คล้ายลุยสวนบ้านเราแผ่นแป้งที่ห่อบางมาก น้ำจิ้มถั่วของที่นี่อร่อยเราเติมน้ำจิ้ม Seafood ไปด้วย รสชาติเข้ากันอยู่แซ่บมาก
- BBQ Steak ปลา หมู ไก่ มีเชฟคอยย่างให้
- Breakfast
ไลน์อาหารเช้าจัดที่ห้องอาหาร The Boat Restaurant เวลา 06.00 - 10.00 น. เป็นอาหารเช้าแบบ Buffet Salad Bar นี่โดนใจมากผักสดและมีให้เลือกเยอะ อกไก่รมควัน แฮม ชีส Create สลัดของคุณได้เลยอยากใส่อะไรก็ใส่ เรามาสายสุขภาพจัดไปสลัดอกไก่ใส่ชีส (สายสุขภาพที่น้ำหนักเกินมาตรฐาน ฮ่าๆ)
หน้าซูชิมีให้เลือกเยอะกว่ามื้อเย็น ข้าวนุ่มไม่แข็ง มีซุปมิโซะที่เติมผักและสาหร่ายได้ตามใจชอบ กิมจิแก้เลี่ยนได้ดีสุดๆ
มาดูเมนูไข่กันบ้างมีให้เลือกเยอะ แค่ไข่ดาวอย่างเดียวสามารถเลือกความสุกได้หรือจะเป็นแบบสุกด้านเดียวสองด้านก็เลือกได้ ไข่คน ไข่ลวก Omelette ที่ตีเป็นลูกรักบี้สวยงาม ถ้าไม่ชอบหัวหอมและพริกหวานแจ้งด้วยนะคะ และ Egg Benedict มีผักโขมกับเบคอน
Bakery มีให้เลือกหลากหลายทั้งมัฟฟิน โรล เดนิช ฟอคคาเซีย ขนมปังแผ่นขาว-โฮลวีท ครัวซองต์ฯ แยมมีให้เลือก 4 รสชาติ Chocolate สตอรว์เบอร์รี่ สับปะรด และส้ม อุ่นให้ร้อนก่อนรับประทานได้ค่ะ มีพนักงานคอยช่วยบริการ
น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำสับปะรด นม โยเกิร์ตธรรมชาติ Fruit Salad และซีเรียลแบบต่างๆ ฟรุตลูป โกโก้บอล ไรซ์คริสปี้ คอร์นเฟล็กและโกโก้เช็คส์
Hot Dishes แฮมกับไส้กรอกมีทั้งหมูและไก่ ไส้กรอกกรอบเด้ง เราชอบมันเวทมากชิ้นหนา เคี้ยวเต็มคำ ไม่บางกรอบและไม่เลี่ยนเหมือนเฟรนซ์ฟราย มีเมนูมะเขือเทศกริลกับถั่วขาวในซอสมะเขือเทศด้วย
อาหารเช้ามีให้เลือกเยอะมาก ถ้าใครชอบผักสดถูกใจแน่นอน เมื่อคืนนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ตื่นเช้าอาหารอร่อยๆ ให้ทาน เป็นการทานอาหารที่มีความสุขมากค่ะ
การเข้าพักที่โรงแรม เอวัน เดอะ รอยัล ครูส ในครั้งนี้เรามีความสุขมาก กินอิ่ม นอนหลับ สะดวกสบายสุดๆ พนักงานบริการดี พูดจาและปฎิบัติกับเราด้วยความสุภาพเป็นกันเอง Service mind ออกมาทางรอยยิ้มและสายตา คุณลุง รปภ หน้าลิฟท์ไม่เคยทำให้เราต้องกดเองเลยสักครั้ง สิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง ถ้าจะมีความเหนื่อยในทริปนี้คือการเดินดู Function ต่างๆ ของโรงแรม เหมาะกับการมาพักผ่อนทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คู่รัก และการจัดประชุมสัมมนา
บรรยากาศดี มีความเป็นส่วนตัว ส่วนที่เรากับน้องสาวชอบมากคือถ่ายรูปตรงไหนก็สวย อยากมีรูปสวยดูเซเลบ เราแนะนำบริเวณสระว่ายน้ำ Fat Coco Beach Club ช่วงเวลาประมาณ 3 โมงเย็นเป็นต้นไป
การเดินทางสะดวกมาก ใครที่นำรถส่วนตัวมาทางโรงแรมที่จอดรถรองรับได้ถึง 120 คัน ส่วนใครไม่มีรถส่วนตัวมีสองแถวผ่านตลอดเวลา ตอนค่ำอยากไปเดิน Walking Street โบกสองแถวหน้าโรงแรมไปได้เลยค่ะ
ที่อยู่: 499 หมู่ 9 ถนนพัทยาเหนือ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150
Tel: 038 259 555
Fax: 038 424 242
Facebook: A-ONE The Royal Cruise Hotel, โรงแรม เอวัน เดอะ รอยัล ครูส
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารใกล้เคียง
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้โรงแรมมีเยอะมาก เช่น Teddy Bear Museum, Art In Paradise และ Tiffany's Show Pattaya บางที่เดินไปได้ด้วยซ้ำ หรือจะไปเดินห้างที่ CentralMarina อยู่ห่างไปไม่ถึง 1 กิโลเมตร แต่เรามีสถานที่ในใจแล้ว อยากไปหาอะไรกินและไปเดินตลาดน้ำมากกว่า
ร้านอาหารเจ้จุกสาขา 1
ออกมาจากโรงแรมหิวข้าวกลางวันพอดี เราเดินมาขึ้นรถสองแถวที่เดิมเพื่อไปวงเวียนปลาโลมาอยู่ใกล้ Terminal 21 จากนั้นต่อแถวสีน้ำเงินคันที่เขียนข้างรถว่า "หมู่บ้านเจริญรัตน์พัฒนา - นาจอมเทียน" เพื่อไปร้านเจ้จุกสาขา 1 ถามก่อนขึ้นเน้อและบอกสาขาด้วยเพราะร้านเจ้จุกมีหลายสาขา ค่ารถ 20 บาท เราเปิด Google Map ดูทางไปด้วยจะได้ไม่เลย
เมนูบอกราคาไว้ชัดเจน ตอนแรกตั้งใจมากินออส่วน เลือกไปเลือกมาได้น้ำพริกไข่ปู โป๊ะแตกหมึกกุ้งและปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไทย
น้ำพริกไข่ปู เป็นน้ำพริกรสชาติเบาๆ คล้ายยำมากกว่า มีมาแต่ไข่ปกติกินปูแล้วชอบโดนเปลือกถ้วยนี้ไม่มีเลยค่ะ ราคา 190 บาท
หมึกกระเทียมพริกไทยเนื้อเด้งและกรุบๆ หนึบๆ ปลาหมึกสดไม่คาวเลย พิมพ์ไปหิวไปรสชาติกินกับข้าวกำลังดีถ้ากินเล่นรู้สึกเลี่ยน ยังไม่ถึงพริกไทยเท่าไหร่ ราคา 250 บาท
ตอนแรกทางร้านทำมาผิดเราบอกว่าไม่ใส่ปลา แต่ได้โป๊ะแตกปลามาทางร้านก็นำกลับไปทำให้ใหม่ โป๊ะแตกใส่ยอดมะพร้าวมาด้วย กุ้ง หมึก ให้เยอะแล้วสัมผัสได้เลยว่าสดจริง น้ำซุปใสแต่แซ่บมาก มีพริกเขียวทุบถ้วยเล็กแยกมาให้ต่างหาก เติมความเผ็ดได้ตามต้องการราคา 180 บาท
ราคา รสชาติ ปริมาณ คุณภาพอาหารและการบริการ เราให้ 3 ผ่านเลยค่ะ รออาหารไม่นานเราไปเวลาประมาณ 14.30 น. ห้องน้ำสะอาดแยกชายหญิง เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ
ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา
โบกสองแถวหน้าร้านเจ้จุกสายเดิมบอกคนขับว่าขอลงตรงแยก "พัทยาเหนือ" เพื่อต่อรถสองแถวสายนาเกลือ รถเลี้ยวออกถนนสุขุมวิทให้ลง (ไม่แน่ใจให้เปิด Google map ประกอบ) ค่ารถสองแถว 20 บาท จากนั้นให้ข้ามไปอีกฝั่งรอสองแถวคันสีขาว "นาเกลือ-สัตหีบ" รอรถไม่นาน สองแถวคันนี้จอดหน้าตลาดน้ำ 4 ภาค ค่ารถ 15 บาท
ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา แบ่งตลาดออกเป็นโซนภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน ของขายเยอะมาก พื้นที่ตลาดกว้าง มีป้ายบอกตามทางเดินตลอด คนไทยไม่เสียค่าเข้า มีช่องทางเดินเข้าแยกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนมากเป็นคนจีน
กิจกรรมมีให้ทำเยอะไม่ว่าจะเป็นล่องเรือชมบรรยากาศรอบตลาด โหนสลิง บ้านผีสิงก็มีนะเป็นผีแบบไทยๆ และ Selfie กับสาวประเภทสองที่แต่งตัวจัดเต็มสวยงามมาก นักท่องเที่ยวชาวจีนต่อคิวถ่ายรูปยาวเลยค่ะ เดินเมื่อยๆ มีนวดไทยและ Fish Spa คือการเอาเท้าจุ่มลงไปในอ่างปลา
ของฝาก ของใช้ งานศิลปะและของกินมีให้เลือกเยอะ เมนูแปลกเท่าที่เห็นคือเนื้อจระเข้ย่าง ที่นั่งรับประทานอาหารมีหลายจุด
เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการกินข้าว เดินเล่น ที่ตลาดกว้างรองรับนักท่องเที่ยวได้เยอะ เดินดูของได้แบบสบายไม่เบียดเสียด (เราไปช่วงเย็น) ห้องน้ำไม่ค่อยสะอาดมืดด้วย Concept 4 ภาคน่าสนใจแต่นอกจากการตกแต่งสถานที่ เรายังไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเพราะของขายคล้ายกันหมด ส่วนของกินไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น
เปิดให้บริการทุกวัน 09.00-21.00 น.
โทรศัพท์: 088-444-7777
การเดินทางกลับ
บ้านเราอยู่แถวรังสิตเลยโทรไปถามท่ารถตู้ว่าสามารถมารับที่ตลาดน้ำ 4 ภาคได้ไหม ซึ่งเป็นทางผ่านพอดี นายท่าแจ้งเวลาที่รถตู้จะมาถึงและเลขทะเบียนรถ ให้ข้ามไปรอฝั่งตรงข้ามกับตลาดน้ำก่อนเวลาที่กำหนด อย่าเดินเพลินเพราะตลาดน้ำกว้างมาก เรากว่าจะหาทางออกเจอถามพ่อค้าแม่ค้าสามรอบ ราคารถกลับรังสิตเราจำไม่ค่อยได้อยู่ที่ประมาณ 180-200 บาท แพงกว่าขามาแต่เราไม่ต้องเสียค่ารถจากหมอชิตมารังสิต
เส้นทางที่รถตู้ผ่าน: พระราม9 ดินแดง ลาดพร้าว หลักสี่ ดอนเมือง หากภายในรถไม่มีผู้ต้องการลงถนนวิภาวดีรถจะใช้เส้นลำลูกกา พร้อมเดินทางค่อยโทรฯ จอง และไม่รับจองล่วงหน้า
รอบรถตู้: จันทร์ - เสาร์ 05.30-19.30 น. วันอาทิตย์ 05.30-20.00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 083-112-1915
...บทสรุป...
โดยรวมแล้วทริปนี้ Mission completed! ได้ไปกิน ไปเที่ยว ทำกิจรรมอย่างที่ตั้งใจไว้ นั่ง Chill ชมทะเล กิน Buffet Seafood จนตัวแทบแตก กิจกรรมทุกอย่างเกิดขึ้นไปพร้อมการพักผ่อน ทำให้การเดินทางของเราไม่เหนื่อยจนเกินไป เพียงแค่หาโรงแรมดีๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางสะดวกอย่างโรงแรม A-One The Royal Cruise Hotel Pattaya การเที่ยวใกล้กรุงฯ ของเราในครั้งนี้จึงเป็นการพักผ่อนจริงๆ ไปเที่ยวทะเลแต่ไม่เล่นน้ำทะเลก็สนุกได้ เที่ยวพัทยาแบบไม่มีรถส่วนตัวก็ไปได้ ^^
สอบถามข้อมูลที่พักเพิ่มเติม:
A-ONE The Royal Cruise Hotel, โรงแรม เอวัน เดอะ รอยัล ครูส
ติดตามการเดินทางของเราได้ที่:
KeepGoing Thailand
แป้งเจอนี่เจอนั่น
วันพฤหัสที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.16 น.