จังหวัดน่าน
วิวภูเขาสวยๆ และทะเลหมอกที่เยอะสุดลูกหูลูกตา


คงจะเป็นอันดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้อง recommend ชวนกันไปถ่ายรูปสวยๆอวดลง social อย่างแน่นอน แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าอีก

มุมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะพลาดกันไม่ได้เลยก็คือ อำเภอปัว!

สถานที่สุดเขียวขจีเต็มไปด้วยนาข้าวที่ปลูกกันอย่างหนาแน่น เปี่ยมไปด้วยวิถีชีวิตดั้งเดิมที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ยังไม่เข้าไปแทรกแซงมากนัก และรีวิวนี้ เราจะพาทุกคนไปพบกับ

ชุมชนศิลาเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่าน



การเดินทาง

เครื่องบิน ระยะเวลาเดินทาง 1 ชม. 20 น.
ต่อด้วย

เช่ารถจากตัวเมือง เข้าสู่อำเภอปัวใช้เวลาประมาน 1 ชม.
(ถ้าแวะถ่ายรูประหว่างทางก็จะนานหน่อย 5555)


ระหว่างทางเต็มไปด้วยวิวภูเขาและทุ่งนาที่ค่อยๆหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
บางมุมทำให้ลืมตัวไปเลยว่ากำลังอยู่ประเทศไทย omg!


และแล้วเราก็เข้าสู่ชุมชนศิลาเพชร มาเก็บของในที่พักกันก่อน
คืนนี้เราขอฝากเนื้อฝากตัวฝากกระเพาะกันที่นี่เลย
“ศิลาเพชรโฮมสเตย์”



มาถึงคุณลุงสมเกียรติและคุณแม่นิยมพรก็ออกมาต้อนรับเราอย่างอบอุ่น ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มร่าเริง
แอบไปดูที่ครัวคุณแม่กำลังเตรียมอาหารให้พอดีเลย


ระหว่างรออาหาร ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน คุณลุงสมเกียรติเลยอาสาเป็นไกด์ให้ในทริปนี้
มาชุมชนศิลาเพชร จะไม่มา “น้ำตกศิลาเพชร” ได้ยังไง
ถ้าใครที่ไม่ชอบไปน้ำตกเพราะกลัวการเดินป่า ทางเดินที่แสนลำบากยากเย็นกว่าจะไปถึงน้ำตกได้
บอกเลยว่าที่นี่ เดินง่ายมากกกก ก.ไก่คูณสิบ


แล้วยังมีวิวที่สวยไม่แพ้น้ำตกที่ไหนๆ ป่าอุดมสมบูรณ์ น้ำใสๆเย็นๆ น่ากระโดดลงไปให้สะใจ
แต่ยังดีที่คุณลุงสมเกียรติห้ามไว้ เพราะช่วงหน้าฝนน้ำแรงจ้าา เกือบไปแล้วว



กลับมาเหนื่อยๆแน่นอนว่าถ้าได้อาหารอร่อยๆมันจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง!
และแน่นอนว่าคุณแม่นิยมพรก็สนอง needs ให้เราแบบไม่ต้องร้องขอ ด้วยเมนูอาหารพื้นเมืองสุดอร่อย
ที่ต้องพูดถึงเลยคือ ปลาทอดสมุนไพร


คุณแม่เล่าให้ฟังว่าเป็นสูตรลับของครอบครัว แอบหลอกถามสูตรไปหลายที
คุณแม่ไม่หลงกลบอกเลยจริงๆ สงสัยคงต้องไปอีกเท่านั้นถึงจะได้ทาน





เช้าแล้ววว
เราแอบได้ยินเสียงคุณแม่เดินมาปลุกให้ไปใส่บาตร แต่เราไม่ตื่นจ้า
ไก่ยังตื่นก่อนเลยจ้า


อากาศเย็นสบายที่พักริมน้ำตก กับเตียงนุ่มๆทำให้หลับเพลินจนลืมเวลา
เรารีบตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวและออกมาทานข้าวต้มหมูร้อนๆที่คุณแม่เตรียมไว้ให้
เติมพลังเที่ยวต่อในวันนี้


เราแอบเห็นว่าที่ศิลาเพชรโฮมสเตย์ มีจักรยานให้เรายืมด้วยล่ะ
เลยเอามาปั่นเล่นดูวิวรอบหมู่บ้านซะหน่อย
ปั่นได้สบายๆเลยแหละ รถที่นี่ไม่พลุกพล่าน



ถนนคือของเรา! ได้ออกกำลังกาย ได้ดูวิวสวยๆด้วย
แอบไปแวะดูโฮมสเตย์อื่นๆในชุมชน มันช่างน่ารักไปซะหมดเลย!



ปั่นจนเหนื่อยแล้ว
ความหิวก็ตามมา

เมนูวันนี้ขอนำเสนอ เมนูลาบหมูดิบ!
ในตอนแรกคุณแม่จะทำแบบสุกให้ทาน แต่ท่านเล่าว่าท่านชอบทานแบบดิบ

เราเลยขอประเดิมลองของซะเลย




เราเลยรีบเสนอตัวช่วยทำซะเลย ไม่รู้ว่าช่วยให้วุ่นวายกว่าเดิมรึเปล่า ฮ่าๆ
จะบอกว่ามันอร่อยมากกกก

ตอนแรกแอบกลัวเล็กๆ
ตอนสองคือหมดเกลี้ยง (เราไม่ท้องเสียนะบอกไว้ก่อน)



กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ ผู้ดีอย่างเราเลยรีบเดินทางมาที่ “ข้าวหลามป้าเพ็ญ”



ไปถึงป้าเพ็ญก็บอกไว้ก่อนเลยว่าถ้าจะซื้อ ต้องสั่งเท่านั้นนะจ๊ะ
เพราะข้าวหลามที่นี่ทำวันต่อวัน และเราขอบอกว่าขายดีเว่ออออร์

ข้าวหลามที่นี่ไม่เลี่ยนเลย รสชาติเท่ากันทั้งแท่ง หวานกำลังพอดี ไม่มันจนเกินไป
แถมยังปอกง่ายไปอี๊กกก เพราะทุกคนช่วยกันเหลาไม้ข้าวหลามจนบางปอกง่าย
เอกลักษณ์ของข้าวหลามน่านจริงๆ



เห็นทุกคนนั่งทำข้าวหลามด้วยความตั้งใจ เราเลยขอมีส่วนร่วมทำข้าวหลามด้วยคน
เผื่อจะช่วยได้บ้าง(หรอ)


และแน่นอนก่อนกลับ
เราแอบสั่งข้าวหลามกลับไปฝากคนทางบ้านด้วย
ผลตอบรับคือทุกคนบอกอร่อยมากจริงๆ



ใกล้หมดเวลาสนุกเข้าไปทุกที
ถึงเวลากลับไปเก็บของที่พัก



เราเลยขอเก็บภาพบ้านน่ารักๆของคุณลุงสมเกียรติและคุณแม่นิยมพรซะหน่อย
ระหว่างนั้นคุณแม่ก็ปอกกระท้อน และ อะโวคาโดที่ปลูกเองในโฮมสเตย์ให้เราทาน






และ
ใน
ที่
สุด
เวลาสนุกก็หมดลง

ขอบคุณทุกความอบอุ่น และรอยยิ้ม ที่ชุมชนได้มอบให้กัน แล้วพบกันใหม่นะ :)



“ฉันเพียงอยากขอเก็บ รอยยิ้มนี้ก่อน รู้ว่ามีความหมายบางอย่าง ขอแค่เราได้นึกถึงเวลานี้”
รอยยิ้ม - Scrubb




PACKAGE ห้องพัก/เที่ยว/กิจกรรมภายในชุมชน

ราคา *ขั้นต่ำ 2 ท่าน
2-5 ท่าน ท่านละ 2,000 บาท
6 ท่านขึ้นไป ท่านละ 1,650 บาท

ติดต่อชุมชน- 081-0292007 คุณสมเกียรติ


1/4 SECOND
https://www.facebook.com/onefourthsecond/

ความคิดเห็น