เริ่มต้นครึ่งปีหลังเป็นช่วงเวลาที่หลายๆ คนเริ่มแพลนทริปสำหรับฤดูหนาวกันแล้ว
การแพลนทริปล่วงหน้าจะช่วยให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้น และพร้อมในทุกการเดินทาง
ทริปนี้เราจะพาคุณไปเที่ยวจังหวัดในฝันของใครหลายๆ คน
เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน
6 วัน 1,864 โค้ง กับจุด Check-In ต้อง-ห้าม-พลาด
โดยเรามีทริกเล็กๆ น้อยๆ ในการเเพลนทริปมาฝากกันด้วย
จองตั๋วก่อน
ทุกทริปของเรามักจะเริ่มด้วยการจองตั๋วก่อนเสมอ
เพราะเราถือคติ “มีตั๋วก่อน...เดี๋ยวแพลนมาเอง” ใครจะจำไปใช้กันก็ไม่ว่านะ อิอิ
จากกรุงเทพฯ เราเลือกนั่งรถทัวร์ไปลงเชียงใหม่เพราะจะได้เริ่มทริปกันแต่เช้าตรู่
ทริปนี้เราเดินทางกัน 3 คน โดยจะเช่ารถยนต์ขับเที่ยวกันตลอด 6 วัน
ได้ตั๋วรถทัวร์ขาไปแล้วทีนี้ก็มาจองตั๋วเครื่องบินกลับกันเลย
ที่เลือกกลับด้วยเครื่องบิน ก็เพราะอยากประหยัดเวลาและพักร่างกายจากการตะลอนเที่ยว
การจองตั๋วล่วงหน้านานๆ ดีตรงได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูกนี่แหละ
และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างนึงที่จะมองข้ามไม่ได้เลยก็คือ
“ประกันการเดินทาง”
ปกติแล้วเพื่อนๆ ทุกคนคงจะซื้อประกันการเดินทางกันอยู่แล้ว
วันนี้เราขอแนะนำประกันการเดินทางในประเทศ ที่ “ดีที่สุด”
TIP FLY SURE จากทิพยประกันภัย
ด้วยความคุ้มครองที่สูงกว่า ในราคาที่ถูกกว่าซื้อผ่านสายการบิน
เที่ยวเดียวแค่ 55 บาท / ไป-กลับแค่ 129 บาท (คุ้มครองตลอดทริป)
วงเงินคุ้มครองสูดสุดถึง 4,000,000 บาท
สามารถตัดเงินผ่านบัตรเครดิต และรอรับกรมธรรม์ทางอีเมล์ได้เลย
ขั้นตอนการสมัครก็ง่ายๆ ตอนจองตั๋วเครื่องบินให้ทำรายการจนถึงหน้าเลือกบริการเสริม
**Tips.. ให้ติ๊กไม่เลือกซื้อประกันเดินทางกับสายการบิน
จากนั้นมาเลือกซื้อประกัน TIP FLY SURE ผ่านหน้าเว็บไซต์
https://www.tipinsure.com/tipflysure
กรอกข้อมูลเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น
ลองเทียบราคาดูแล้วจะรู้ว่าถูกกว่ากันเกือบครึ่ง แถมได้ความคุ้มครองที่สูงกว่าอีกด้วย
ถ้าใครไปกันหลายๆ คนและยิ่งบินไป-กลับด้วยแล้ว ก็จะยิ่งประหยัดเงินไปอีกหลายร้อยบาท
พวกเรา 3 คนซื้อแบบ One Way Trip ยังประหยัดไปได้ตั้งเกือบ 300 บาท
แล้วจะจ่ายแพงไปทำไมล่ะ !
เตรียมตัวก่อนการเดินทาง
จองที่พัก
ทริปนี้เราจะนอนกางเต๊นท์กัน 3 คืน 3 สถานที่
( ป่าสนวัดจันทร์ , ห้วยน้ำดัง , ปางอุ๋ง )
ก่อนไปควรหาข้อมูลการจองพื้นที่กางเต็นท์ เพราะฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก
บางทีลานกางเต๊นท์อาจจะเต็มได้ ถ้าอุทยานหรือสถานที่ไหน
สามารถโทรจองล่วงหน้าได้ก็ควรจะจองไว้เลย
อีกคืนนึงเราจองที่พักที่ลีไวน์ รักไทยไว้ ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องจองยากเช่นกัน
ทริปนี้เราไปกัน 3 คน สัมภาระเลยเยอะมาก ทั้งเสื้อผ้า กล้อง เต็นท์ บลา บลา
และเส้นทางที่เราจะไปนั้นเป็นทางขึ้นเขาส่วนใหญ่ เราเลยเลือกเช่ารถขับ
เพราะสะดวกที่สุด อยากจะแวะตรงไหนก็แวะได้
คนขับเองควรมีทักษะในการขับรถที่ดีพอสมควร เพราะแม่ฮ่องสอนโค้งเยอะจริงจัง
ถ้าไม่ชัวร์ก็เช่ารถพร้อมคนขับ หรือจะเหมารถนำเที่ยวก็ได้
เส้นทางการเดินทางในทริปนี้
ดูจากเส้นทางการท่องเที่ยวเส้นนี้ จะเที่ยวให้ครบภายใน 6 วันคงยาก
เพราะเราไม่อยากเที่ยวแบบชะโงกทัวร์ แต่อยากที่จะสัมผัสบรรยากาศในแต่ละที่นานๆ
เราเลยเลือกแวะเฉพาะจุด Check-In ที่คุณ
ต้อง - ห้าม - พลาด
เชียงใหม่ - ร้านโกเผือกโกดำ
ร้านกาแฟและอาหารเช้าสุดฮิตที่เราไม่ควรพลาดเมื่อมาเชียงใหม่
เมนูยอดฮิตของร้านนี้ก็คือ ขนมปังสังขยา 4 สี ที่สีสันน่าทานมากกกกก
สีฟ้าทำจากอัญชัน สีชมพูทำจากบีทรูท สีเขียวทำจากชามะลิ สีส้มทำจากชาไทย
นอกจากนี้เมนูอื่นๆ ในร้านยังมี ชา กาแฟ ไข่กะทะรสเด็ด ก๋วยจั๊บญวน ฯลฯ
แต่มาร้านนี้อาจจะต้องยืนรอนิดนึงเนอะ เพราะมีคนมาต่อคิวอยู่เรื่อยๆ
พิกัด : ซอยข้างเดอะฮาเบอร์ ตรงไปเรื่อยๆ เจอสามแยกเลี้ยวขวาร้านอยู่หัวมุมถนน
หาชื่อร้านใน google maps ก็เจอเลยจ้า
เชียงใหม่ - ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงป่าสนวัดจันทร์
ออกจากร้านโกเผือกโกดำ เราขับรถต่อกันมาประมาณ 154 กิโลเมตร
โดยใช้ทางหลวง107 (แม่ริม-สะเมิง-บ่อแก้ว-วัดจันทร์) เข้าอำเภอแม่ริมแล้วมุ่งไปยัง
ทางหลวงหมายเลข 1096 ผ่านอำเภอสะเมิงไปบ้านแม่สาบ บ้านบ่อแก้ว แจ่มน้อย
และเข้าหมู่บ้านวัดจันทร์ จากหมู่บ้านไปทางเส้นทางประมาณ 3 กิโลเมตร
ก็จะถึง “โครงการหลวงป่าสนวัดจันทร์” ซึ่งเป็นที่ที่เราจะกางเต๊นท์นอนกันคืนนี้
ที่นี่บรรยากาศดีมาก ต้นสนที่เรียงรายอยู่ตามทางเดิน ดอกไม้ต่างๆ ที่ผลิบานตามฤดูกาล
เราเดินเล่นถ่ายรูปกันอยู่นาน ไม่ว่าจะมุมไหนก็ดูสวยไปหมด
ในตอนเช้าถ้าโชคดี จะเจอหมอกลอยเหนืออ่างเก็บน้ำ
เวลาพระอาทิตย์ขึ้นแสงจะกระทบลงมาที่ผิวน้ำและเกิดไอหมอกขึ้นเป็นภาพที่สวยเกินบรรยาย
การที่ได้มานอนสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีสุดๆ
เชียงใหม่ - อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
ออกจากป่าสนวัดจันทร์ เราขับรถต่อขึ้นมาอีกไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ปักหมุด google maps ไปที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เป็นจุดกางเต๊นท์ที่ 2 ของเรา
การมากางเต๊นท์ที่นี่จริงๆ ก็สามารถ Walk In เข้ามาได้แต่อาจจะไม่ได้กางในจุดที่วิวดีๆ
แต่ถ้าเราจองผ่านหน้าเวปไซต์ของอุทยานมาก่อน จะทำให้เราได้ตื่นขึ้นเจอวิวสวยๆ กันเเบบเต็มตา
ซึ่งบอกเลยว่าการตื่นตั้งแต่ตี 5 ไปรอชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง
จุดชมวิวของห้วยน้ำดังนั้นสวยเหมือนภาพในเทพนิยายเลยทีเดียว อันนี้ไม่ได้เว่อร์นะ
และหากมาในช่วงที่พอเหมาะพอดี ในฤดูหนาวก็จะมีโอกาสได้ชื่นชมกับ
เจ้าดอกพญาเสือโคร่งที่กำลังเบ่งบานเต็มต้นอีกด้วย
แม่ฮ่องสอน - ก๋วยเตี๋ยวบ้านจ่าโบ่
จากห้วยน้ำดัง เราขับรถต่อขึ้นมาทางแม่ฮ่องสอน เพื่อจะไปปางอุ๋ง อุ๋ง อุ๋ง
แต่ขับมาได้ประมาณ 80 กิโลเมตร ก็ขอแวะเติมพลังกันซักนิด
กับร้านก๋วยเตี๋ยวที่วิวดีที่สุดในสามโลกที่คนแน่นยังกับแจกฟรี
ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านจ่าโบ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ราคาหลักสิบ แต่วิวนี่หลักล้านจริงๆ
เพราะเราสามารถนั่งห้อยขากินก๋วยเตี๋ยวไปชมทะเลหมอกไปแบบฟินๆ
แต่ก็ไม่ใช่ว่ามาแล้วจะเจอหมอกตลอดนะ ต้องมาให้ถูกช่วงเวลาด้วยเน้อ
อย่างของเรานี่ก็อย่างที่เห็น ฮ่าๆ วิวสวยใสไร้หมอก มีแต่ถั่วงอกกับก๋วยเตี๋ยว หึหึ
ถ้าให้ดีควรมาแต่เช้าตรู่ น่าจะมีโอกาสเจอหมอกมากกว่า
แม่ฮ่องสอน - โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
จุดหมายปลายทางของพวกเราในคืนที่ 3 ก็คือ ปางอุ๋ง
เราเดินทางมาถึงจุดกางเต๊นท์ก็เกือบค่ำแล้ว จัดการกางเต็นท์แล้วออกไปหาไรกินก่อนเลย
คืนนี้ฟ้าใสมาก เห็นดาวเต็มท้องฟ้า อยากจะหยุดเวลาไว้แค่นั้นจริงๆ
เรานอนดูดาวกันหน้าเต็นท์ท่ามกลางอากาศเย็นๆ
ถ้าใครโชคดีอาจจะได้เห็นทางช้างเผือกชัดๆ จากจุดนี้ด้วย
ไฮไลต์ของปางอุ๋งนั้นอยู่ที่ตอนเช้า ที่จะมีหมอกลอยเอื่อยๆ อยู่เหนือผิวน้ำ
และเมื่อแสงอาทิตย์สาดลงมาเป็นแสงสีทองจะสวยมากๆ และก็อีกเช่นเคย
เราไม่ได้เจอหมอก ฮืออออ ไว้จะไปแก้ตัวใหม่นะ
แม่ฮ่องสอน - พระตำหนักปางตอง
ช่วงสายๆ เราเก็บข้าวของ เตรียมตัวออกเดินทางไปยัง หมู่บ้านรักษ์ไทย
ซึ่งเราจองห้องพักของ ลีไวน์ รักษ์ไทยไว้ล่วงหน้าถึง 6 เดือน
ถ้าวอล์คอินน์คงหมดหวังที่จะเข้าพัก เพราะคิวแน่นมากจริงๆ
ระหว่างทางเราแวะที่ “พระตำหนักปางตอง" ซึ่งขับรถออกจากปางอุ๋ง
ประมาณ 14 กิโลเมตร ที่นี่เป็นศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตองตามพระราชดำริ
เพื่อส่งเสริมอาชีพเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูกพืชเมืองหนาวให้แก่ชาวไทยภูเขาในที่สูง
ให้ชาวบ้านมีอาชีพเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวกันอย่างทั่วถึง
ไฮไลต์ของที่นี่ก็คือฝูงแกะจำนวนมาก ที่เดินเรียงรายกินหญ้ากันเต็มทุ่ง
เเละภายในพื้นที่นี้ยังมีสัตว์ป่าอื่นๆ ให้เราได้ขับรถชมความน่ารักอีกด้วย
แม่ฮ่องสอน - หมู่บ้านรักษ์ไทย
หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปกับแกะกันจนหนำใจแล้ว ก็ขับรถต่อมาอีก 15 กิโลเมตร
มาถึงยังหมู่บ้านรักษ์ไทย หมู่บ้านนี้เป็นของชาวจีนยูนนาน
เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเพาะปลูกชาและพืชเมืองหนาวเป็นอย่างยิ่ง
นอกเหนือจากนั้นแล้วบรรยากาศที่นี่ในยามเช้า บอกได้คำเดียวว่า
Amazing มากๆ
เพราะมันสวย สวยมาก สวยจนเกินบรรยาย เป็นหมู่บ้านที่สวยสุด ๆ จริง ๆ
บรรยากาศในตอนเช้าที่เราเจอหมอกลอยบนน้ำครั้งแรก มันฟินมากกกกกกก
ถือว่าทริปนี้เราประสบความสำเร็จแล้วล่ะ ฮ่าๆ
เชียงใหม่ - สวนสนบ่อแก้ว
จากบ้านรักษ์ไทย หลักจากดื่มด่ำกับไอหมอกกันแบบเต็มปอดเเล้ว
จึงเดินทางออกจากบ้านรักษ์ไทยมาเกือบเที่ยง เลยมาแวะนอนพักที่แม่สะเรียง 1 คืน
แล้วตอนเช้าขับรถต่อมายังเส้นทางหลวง 108
เพื่อมาแวะเที่ยวที่สวนสนบ่อแก้ว ถ่ายรูปเล่นกันสักพัก
จากแม่สะเรียงมายังสวนสนบ่อแก้ว 70 กิโลเมตร ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆ
ที่นี่เป็นโลเคชั่นที่เหมาะแก่การมาถ่ายรูปโปรไฟล์ชิค ๆ ท่ามกลางต้นสนสูงลิบ
ที่เรียงรายกันอย่างสวยงาม ถ้าผ่านมาทางนี้อย่าลืมแวะถ่ายรูปกันนะ สวยจริงๆ
เชียงใหม่ - อุทยานหลวงราชพฤกษ์
แวะถ่ายรูปที่สวนสนกันไม่นานมากเราก็เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่
ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงตัวเมืองเชียงใหม่
วันนี้เรามีไฟลต์บินกลับตอนค่ำๆ ยังมีเวลาเหลืออีกครึ่งวัน
เราเลยเลือกไป “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” ทีแรกเราก็คิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน
เเต่พอได้เข้าไปก็ได้เห็นความยิ่งใหญ่และสวยงามของหอคำหลวง
จิตรกรรมภายในสวยงามและมีคุณค่ามากๆ นอกจากนี้ยังเดินเล่นชมดอกไม้
ภายในเขตอุทยานอีกด้วย ซึ่งที่นี่ถ้าจะเดินให้ทั่วจริง ๆ คงต้องใช้เวลาทั้งวัน
แต่ในเมื่อเรามีเวลาไม่มากก็เลยได้เดินชมภายในนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น
บทสรุปของการเดินทางทริปนี้
ทริปเชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน 6 วัน 1,864 โค้ง
ขับรถไปทั้งหมด 1,000 กิโลเกือบ 2,000 โค้ง ตะลอนเที่ยว 6 วัน
จากเชียงใหม่ - ป่าสนวัดจันทร์ - ห้วยน้ำดัง - ปาย - บ้านจ่าโบ่ - ปางอุ๋ง
- พระตำหนักปางตอง - บ้านรักไทย - พระธาตุดอยกองมู - แม่สะเรียง
- สวนสนบ่อแก้ว - อุทยานหลวงราชพฤกษ์
วันที่ 1 ป่าสนวัดจันทร์ - กางเต็นท์นอน
วันที่ 2 ห้วยน้ำดัง - กางเต็นท์นอน
วันที่ 3 ปาย - บ้านจ่าโบ่ - ปางอุ๋ง- กางเต็นท์นอน
วันที่ 4 พระตำหนักปางตอง - หมู่บ้านรักษ์ไทย - นอนลีไวน์รักไทยรีสอร์ท
วันที่ 5 พระธาตุดอยกองมู - นอนเกสเฮ้าส์แม่สะเรียง
วันที่ 6 สวนสนบ่อแก้ว - พระธาตุดอยคำ - อุทยานหลวงราชพฤกษ์
ค่าใช้จ่าย
- เช่ารถยนต์ Vios 6 วัน 5,400 บาท
- ค่าน้ำมันทั้งทริปประมาณ 3,000 บาท
- ค่าที่พัก ลีไวน์ รักไทย 2,050 บาท (นอน 3 คน) วันธรรมดา
- ค่าที่พักเกสเฮ้าส์แม่สะเรียง 1,500 บาท (นอน 3 คนห้องใหญ่มากกก)
- ค่ากางเต็นท์ 2 หลัง 3 วัน 3 ที่ ประมาณ 500 บาท
- ค่ารถทัวร์ (สมบัติทัวร์) กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ( 759 /คน)
- ค่าเครื่องบิน เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ( ประมาณ 1,300 / คน)
ติดต่อจุดกางเต็นท์-ที่พัก
- ป่าสนวัดจันทร์ จองที่พัก 053 249349 / ที่ทำการ 086 181 3388
- ห้วยน้ำดัง จองพื้นที่กางเต็นท์ทางเว็บไซต์ของสำนักอุทยานแห่งชาติ http://nps.dnp.go.th/
- ปางอุ๋ง ติดต่อที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ โทร. 082 191 1746
- ลีไวน์ รักไทย โทร. 089 552 9650
** หมายเหตุ : ค่าใช้จ่าย + , - นิดหน่อย ส่วนค่าอาหารไม่ได้ลงไว้เนอะเพราะแต่ละคนกินไม่เหมือนกัน
ฝากติดตามทริปอื่นๆกันได้ที่
>>> อยากเที่ยวตามมา <<<
ม่อนจุก
ม่อนจุก
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.11 น.