เคยได้ยินดอกไม้ชนิดหนึ่งซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น "ราชินีเเห่งป่าฝน" บ้างไหมค่ะ
ดอกไม้ชนิดนั้น คือ ดอกกระเจียว เข้าหน้าฝนทีไรใจก็อยากไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวทุกที
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน จ.ชัยภูมิ ปี2561 เริ่มตั้งเเต่ 1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม
ดอกกระเจียวจะบานตั้งเเต่กลางจนถึงปลายฤดูฝนเเค่นั้นค่ะ
ทริปนี้เราไปเที่ยวชัยภูมิ 3 วัน 2 คืน จะเที่ยว กิน นอนที่ไหนบ้าง พร้อมเเล้วออกเดินทางไปด้วยกันเลย
DAY 1
เราออกจากรุงเทพฯ เวลา 03.30 น. คำนวณเวลาไว้น่าจะไปถึงอุทยานเเห่งชาติไทรทองไม่เกิน 09.00 น.
เเต่เเล้วด้วยความที่เป็นวันหยุดยาวช่วงวันอาสาฬหบูชา รถเลยติดตั้งเเต่บางปะอินไปจนถึงลพบุรี
สรุปมาถึงอุทยานฯไทรทอง 10.30 น. ค่ะ
เราจอดรถไว้หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากทุ่งดอกกระเจียวอยู่บนเขา เราจึงต้องนั่งรถของทางอุทยานฯ ขึ้นไป สามารถซื้อบัตรได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตั๋วไป-กลับ ราคา 60 บาทต่อคนค่ะ ที่จริงถ้าใครมีรถใหญ่ หรือรถ 4WD สามารถขับขึ้นไปเองได้ ส่วนรถยนต์ธรรมดาไม่เเนะนำนะคะ เพราะต้องขับผ่านลำธาร
นั่งรถมา 12 กิโลเมตร ก็ถึงหน้าทางเดินเข้าไปยังทุ่งดอกกระเจียว เราเเวะทานข้าวกลางวันตรงเเถวนั้นก่อนค่ะ ส่วนมากจะเป็นอาหารตามสั่ง เเละส้มตำ ไก่ย่าง
อิ่มท้องเเล้ว พร้อมเดินเท้าไปยังจุดหมายของเรา คือทุ่งบัวสวรรค์ 1 ระยะทางเกือบๆ 2 กิโลเมตรค่ะ
ทางเดินเป็นดิน มีบางช่วงเป็นหินบ้าง เเต่โดยรวมเดินสบาย
ระหว่างทางก่อนถึงทุ่งบัวสวรรค์ 2 มีดอกกระเจียวสีขาวบานประปราย
ถึงเเล้วทุ่งบัวสวรรค์ 2 ดอกบานเต็มที่ มีเเห้งเหี่ยวไปบ้างส่วนหนึ่ง
เดินมาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เรามาถึงทุ่งบัวสวรรค์ 1 พอเห็นเเล้วฟินมากค่ะ ทุ่งนี้ดอกยังบานอยู่เต็มทุ่ง สีชมพูของดอกกระเจียวตัดกับหญ้าสีเขียวสวยจริงๆ ทุ่งที่ 1 เป็นทุ่งที่กว้างเเละใหญ่ที่สุดในบรรดา 4 ทุ่ง
ถ่ายรูปจนหนำใจเเล้วเดินกลับออกมาทางเดิมเพื่อจะไปผาหำหด ขาเดินมารู้สึกชิลล์มาก เเต่ขากลับเริ่มเหนื่อยเเล้วค่ะ คิดไปคิดมา อ้ออออ ... ตอนเดินมามันเป็นทางลงเขา ดังนั้นตอนกลับจึงเป็นทางขึ้นเขาค่ะ
ไม่เป็นไรเหนื่อยก็หยุดพักชมต้นไม้ระหว่างทาง ขนาดบ่ายเเล้วหมอกยังลงเยอะอยู่เลยค่ะ
ผาหำหด จริงๆเดินจากต้นทางเข้ามานิดเดียวก็เจอเเล้วค่ะ เเต่คนเยอะมาก เราเลยเดินเข้าไปชมดอกกระเจียวก่อน เเล้วค่อยเเวะผาหำหดตอนขากลับ
ผาหำหดสูงจากระดับน้ำทะเล 864 เมตรค่ะ
จากอุทยานฯไทรทอง เราขับกลับมาที่พักของเราคืนนี้ "สะเลเตชาเล่ต์รีสอร์ท" อยู่ใกล้ๆกับอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
เเค่เห็นทางเข้ารีสอร์ทก็ร่มรื่นเเล้ว
ชาเล่ต์ 1 บ้านพักของเราค่ะ
ภายในห้องเป็นเตียงขนาดใหญ่ นอนสบายมาก
ห้องน้ำสะอาด มีสบู่เเละเเชมพูให้
เย็นนี้เราสั่งบาร์บีคิวไว้กับทางรีสอร์ท พอได้เวลาพนักงานจะมาเตรียมเตาเเละจุดไฟให้ค่ะ ถ้าใครไม่อยากปิ้งเอง สามารถให้น้องพนักงานปิ้งให้ได้ นอกจากบาร์บีคิวเเล้ว ยังมีอาหารอื่นๆไว้บริการอีกค่ะ
ปิ้งไป ชมวิวไป อากาศเย็นๆเเบบนี้เหมาะกับการทำบาร์บีคิวทานมาก
หนังท้องตึงหนังตาหย่อน วันเเรกเหนื่อยมากรีบเข้านอนกันตั้งเเต่หัววัน ชาร์จพลังสำหรับพรุ่งนี้ เราจะตื่นเเต่เช้าไปทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานฯป่าหินงามกันค่ะ
DAY 2
จากที่พักขับรถมา 5 นาที ก็ถึงอุทยานฯป่าหินงาม
ตอนนี้เป็นเวลา 06.30 น. เราซื้อตั๋วรถเพื่อนั่งขึ้นมายังทุ่งดอกกระเจียว (ไป-กลับ 30 บาทต่อคน)
ถึงเเล้วค่ะทางเดินเข้าไปชมทุ่ง หมอกลงหนามาก
เดินมาประมาณ 300 เมตร จะเห็นทุ่งดอกกระเจียว
ดอกกระเจียวที่อุทยานฯป่าหินงามส่วนใหญ่จะเหี่ยวเเล้วค่ะ เราไม่รู้สึกผิดหวัง เพราะรู้อยู่เเล้วว่าที่นี่ดอกเหี่ยวไปมากเเล้ว
เห็นเค้าบอกว่าปีนี้ฝนตกเร็วเเละตกมาก ดอกกระเจียวเลยเหี่ยวเร็วกว่าปกติ ที่อุทยานฯป่าหินงามดอกจะบานก่อนอุทยานฯไทรทอง
ถ้าใครมีเวลามาที่เดียวในช่วงปลายกรกฏาคมเเบบนี้ เเนะนำให้ไปที่อุทยานฯไทรทองค่ะ
ในอุทยานฯป่าหินงามยังมีที่เที่ยวอีก เช่น ลานหินงาม จุดชมวิวสุดเเผ่นดิน
เเต่เราสองคนตั้งใจมาเเค่ทุ่งดอกกระเจียว กว่าจะออกมาจากทุ่งดอกกระเจียวก็ 08.30 น. เเล้วอยากรีบกลับที่พักไปทานข้าวเช้าค่ะ
มาถึงที่พักแป็ปนึงอาหารเช้าก็มาเสริฟ์ที่ห้อง อิ่มจนจุกกันเลย
คืนที่สอง เราจะเปลี่ยนไปพักในอำเภอเมือง ระหว่างทางเเวะทุ่งคอสมอส ที่ฟาร์มแกะร็อคกี้แลนด์
อยู่ห่างจากอุทยานฯป่าหินงามประมาณ 24 กิโลเมตร ที่นี่เสียค่าเข้า ถ้าจำไม่ผิดคนละ 50 บาทค่ะ
ดอกคอสมอสบานเเต่ไม่หนาเเน่น
ชมดอกไม้เเล้ว เเวะมาให้อาหารน้องแกะได้นะคะ
จากทุ่งคอสมอส ขับมาอีกชั่วโมงกว่าๆ ถึงอำเภอเมือง
เราเเวะทานข้าวกลางวันที่ก๋วยเตี๋ยวเเม่น้อยกะตัวตุ่น ชื่อน่ารักเชียว
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นอร่อยมาก ไม่ต้องปรุงเลย
ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวต่อ เเวะเช็คอินที่ Pocket Park โรงเเรมอยู่ใจกลางเมือง
ที่พักคล้ายๆอพาร์ทเมนท์ ห้องสะอาด ราคาไม่เเพงด้วยค่ะ
เพียงชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงเเล้ว ฝนซาพอดี
พระธาตุชัยภูมิ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า วัดอรุณธรรมสถาน
พระธรรมสิริชัย เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม รูปที่ 13 ดำเนินการสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2550 เพื่อเป็นสถานปฎิบัติธรรม
บนยอดเจดีย์ของพระธาตุเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
ถ้าใครมาเที่ยวมอหินขาว หรือน้ำตกตาดโตน เเวะมาสักการะพระธาตุชัยภูมิได้ อยู่ไม่ไกลกันมากค่ะ
มาต่อกันที่ มอหินขาว หรือสโตนเฮนจ์เมืองไทย เกิดจากการสะสมของตะกอนทรายและดินเหนียวแข็งตัวกลายเป็นหิน เคยอ่านเจอว่าหินมีอายุ 175 ล้านปีเเหนะ
มอหินขาวมีหินหลายกลุ่ม เเต่ที่ดังที่สุดคือ กลุ่มหิน 5 ต้น เเต่เราถ่ายมาเเค่ 4 ต้น T T
คนเยอะมากจนไม่รู้จะถ่ายยังไงให้ครบทุกต้นเเล้วยังดูสวย ฝีมือถ่ายรูปของเรายังอยู่ในระดับเด็กน้อยค่ะ
ของจริงดูยิ่งใหญ่เเละสวยกว่าที่ถ่ายมามาก
จากมอหินขาวขับรถขึ้นมาอีก 6 นาที จะถึงผาหัวนาค ขึ้นไปชมวิวกันค่ะ
สามารถเห็นวิวของเทือกเขาภูเขียว
ชมวิวจนจุใจได้เวลาอาหารเย็น เรากลับเข้าตัวเมืองมาทานอาหารเวียดนามที่ "ปนัดดาแหนมเนือง"
ร้านนั่งสบาย ทุกเมนูที่สั่งมารสชาติดีหมดเลยค่ะ
หลังจากทานเสร็จฝนตกหนักอีกครั้ง ตอนเเรกวางเเผนว่าจะไปเดินไนท์บาซาร์ เลยพับเเผนเเล้วเปลี่ยนเป็นกลับเข้าที่พัก นอนเอาเเรงค่ะ
DAY 3
เราตื่นเเต่เช้าเพื่อออกมาทานก๋วยจั๊บเจ้ฮุนเจ้าอร่อยที่ตลาดสดเทศบาล
ใครเดินมาไม่ถูกถามเเม่ค้าเเถวนั้นได้เลยนะคะ
เครื่องในทำสะอาดมาก หมูหั่นชิ้นหนาเเละใหญ่ น้ำซุปอร่อย ราคา 30 บาท ถือว่าถูกมากๆ ประทับใจ
ทานเสร็จกลับไปเก็บของที่โรงเเรม เพราะเราจะไปเที่ยวขอนแก่นต่อค่ะ
ส่วนชัยภูมิ 3 วัน 2 คืน จบลงที่ก๋วยจั๊บเจ้ฮุน จริงๆ ชัยภูมิยังมีที่เที่ยวอีกมากนะคะ เราตั้งใจไว้ว่ารอบหน้าจะไปเที่ยวแถบอำเภอภูเขียว
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวในปีหน้านะคะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ :)
Go with Sweet Toddy Palm
วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.42 น.