Steak House สุดพรีเมี่ยม+ @ Prime+ urban grill and bar restaurant โรงแรม Compass SkyView
ติดตามรีวิว และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ FB ----> My Dining Collection
สวัสดีครับพบกันอีกครั้งกับผม "ภพ" My Dining Collection ภพเชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนก็ชอบกินสเต๊กกับใช่ไหมครับ วันนี้ผมได้มีโอกาสมาลอง และรีวิว ร้านสเต๊กเฮาส์ สุดพรีเมี่ยมที่ โรงแรม Compass SkyView Hotel สุขุมวิท 24 ครับ
ร้านนั้นก็คือ Steak House: Prime+ urban grill and bar restaurant ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 7 ของโรงแรมนี่เอง
ห้องอาหาร Prime+ urban grill restaurant & bar ถูกตกแต่งด้วยดีไซน์ทันสมัย แนวอินดัสเทรียล ทันสมัย โดยได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติเป็นความงามที่สมบูรณ์แบบ เน้นโทนสีดำ เทา แฝงความคลาสสิค ด้วยบรรยากาศหรูหรา โรแมนติก
Prime+ urban grill restaurant & bar ให้บริการมื้ออาหาร ด้วยวัตถุดิบ สเต็กระดับพรีเมี่ยม ซึ่งวัตถุดิบถูกนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัวเกรด Wagyu, USDA และAngus ซึ่งมีให้เลือกส่วนต่างๆตามความชอบของแต่ละคน รวมไปถึงเนื้อแกะ หรือเนื้อปลาด้วย
แค่การจัดโต๊ะก็ดูโรแมนติกมาๆแล้วล่ะครับ แหม่เสียดายวันนี้ ภพ ฉายเดี่ยว (ฮา)
ซึ่งในมื้อเย็นนั้นห้องอาหารจะให้บริการ สเต็กเฮ้าส์ อาหารฟิวชั่น และอาหารจานเดียว ในรูปแบบ à la carte
และพร้อมให้บริการเครื่องดื่มอย่างไวน์จากหลายที่ทั่วโลกให้ทานคู่กับสเต๊ก โดยมีผู้เชี่ยวชาญค่อยให้คำแนะนำด้วย
และนี่ก็คือตู้เนื้อ!!! เนื้อนำเข้าคุณภาพทั้งหลายนำถูกโชว์ และให้ลูกค้าเลือกตรงนี้ครับ
เนื้อคุณภาพหลากหลายชนิดเลยนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อวัวส่วนต่างๆ ทั้ง Rib Eye, Tenderloin, Striploin ก็สามารถเลือกได้ตามความชอบ และตามน้ำหนักที่ต้องการ เนื้อแกะก็มี
เราสามารถเห็นเชฟมาเปิดตู้เนื้อที่เราเลือกได้เลย
โดยครั้งนี้มีเชฟประจำร้าน Chef Razec Ildefonso ตำแหน่ง Chef de partie ชาวฟิลิปปินส์ และผู้ช่วยสาวน่ารัก มาปรุงอาหารสุดพรีเมี่ยมให้ได้ทานกันครับ
ครัวเป็นแบบเปิดนะครับ เราจะเห็นเชฟปรุงอาหารของเราใหม่ๆร้อนๆเลย
ได้เห็นทุกขั้นตอน ได้เห็นความชำนาญ
และสัมผัสความตั้งใจของเซฟในการปรุงอาหาร
การทำอาหารก็มีความสุขเหมือนกันครับ คนทานเองก็มีความสุขกับอาหารจานนั้นๆไปด้วย
เอาล่ะได้เวลาอาหารแล้ว ซึ่งภพได้ยินมาว่า สเต๊กของที่นี่ได้ชื่อเรื่องความอร่อยมากเลยครับ และภพก็ได้มาลองแล้ว บอกได้เลยอร่อยจริงๆ รวมถึงเมนูอื่นๆด้วยครับ
ซึ่ง ภพ จะเรียงลำดับการทานเป็น Course อาหารไปนะครับ ตามมาดูรีวิวกันครับ
เริ่มด้วยการที่ร้านจะเสิร์ฟ ขนมปัง "เซียบัตต้า" พร้อมชิมิชูรี ซอส และเนยกระเทียม ซึ่งเรียกว่าเป็นคอมพรีเมนเตอร์รี่ที่จะเสิร์ฟให้กับทุกคนที่มาทานที่ร้าน
"Complementary - Ciabatta Bread with Chimichurri Sauce and Garlic Butter" ขนมปังมีความนุ่นเป็นอย่างมาก เสิร์ฟร้อนๆทานคู่ซอส หรือทาเนย ซอสมีความหอมน้ำมัน และเผ็ดอ่อนๆของพริก ส่วนเนยนั้นหอมกรัเทียม และมีความเนียน
Note: ขนมปังนั้นสามารถทานขนมปังคู่กับ ซุปครีมล๊อบเตอร์และปู ที่จะเสิร์ฟเป็นลำดับถัดไปได้ครับ
“Starter - Soup – Lobster & Crab Bisque” – 225++ THB
เสิร์ฟร้อนๆ อุ่นๆ มาเลยครับ
ชุปที่สัมผัสได้อย่างแรกเลยกลิ่นครับ กลิ่นของล๊อบสเตอร์ลอยหอมขึ้นมาชัดเจน พอใช้ช้อนชิมดูยิ่งทำให้กลิ่นชัดเจนขึ้น กลมกล่ม มีความครีมเบาๆ คือไม่เบาอย่างซุปใส และไม่หนักไปทางชุปครีม มีเนื้อกุ้งให้ได้เคี้ยวตัด กับสัมผัสของซุปด้วย อร่อยมากๆ
Note: ทั้งขนมปัง และซุปถ้าไม่ร้อนหรืออุ่นพอก็สามารถขอให้สตาฟอุ่นให้ใหม่ได้นะครับ
"Starter - Salad – Caprese Salad" - 295++ THB
ถัดมาเป็น "คาปรีเซ่สลัด" หรือ สลัดมอสซาเรลล่าชีสสดกับมะเชือเทศ นั้นเอง ภพเป็นคนที่ชอบชีส และสลัดมากๆครับ จานนี้ก็แอบคาดหวังสูง... และแล้วก็ไม่ผิดหวังนะครับ ฮาๆ
มอสซาเรลล่าสดชิ้นหนามากๆ ทานแล้วเหมือนได้เคี้ยวชิ้นเนื้อเลยครับ ทานกับมะเขือเทศเย็นๆ และผักสดๆกรอบๆ และน้ำสลัดหอมๆ ทำให้สดชื่นเป็นอย่างมาก สามารถราดน้ำสลัดเพิ่มเติมได้นะครับ
Note: สำหรับ Starter จะเริ่มทานจากจานไหนก่อนก็ได้นะครับ Complementary ก็ทานคู่กันไปกับอะไรก็ได้เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ในมื้ออาหารสมชื่อครับ
เอาละเราก็มาเริ่ม Main Course กันบ้าง ซึ่ง Main Course ก็เช่นเดียวกับ Starter จะทานตัวไหนก่อนก็ได้ตามใจชอบครับผม
“Main Course - Spaghetti Olio” – 325++ THB
ผมเริ่มจาก "สปาเกตตี้ผัดน้ำมันมะกอก" เส้นเหนียวนุ่ม เคี้ยวเพลิน ผัดได้แห้งกำลังดี ไม่แฉะ หรือแห้งเกินไป และไม่มันด้วยครับ
ซึ่งส่วนตัวภพป็นคนไม่ชอบของมันเลยครับ หอมเครื่องเทศเข้าเนื้อมากๆ มีสีของพริกแดง และมีความเผ็ดเบาๆเวลากัด กับสีเขียวของใบพาสลี่ทำให้น่าทาน และอร่อยขึ้น ใครชอบชีสสามารถโรยพาเมซานชีสลงไป ทำให้หอมชีสไปด้วย
“Main Course - 350g USDA Fillet Medium Raw Steak ”- 2350++ THB
ต่อมาของลองตัวพระเอกของงานครั้งนี้ครับ "ฟิลเลสเต็ก" ขนาด 350g มาตรฐาน USDA" ย่างสุกแบบ medium เสิร์ฟคู่ผักย่าง และเพิ่ม "ซอสพริกไทยดำ" (Peppercorn Sauce – 100++ THB)
Note: ฟิลเล หรือ ฟิลเลมิยอง เป็นส่วนสันในของวัวที่มีนุ่นอร่อยเป็นพิเศษ ไขมันน้อย เป็นส่วนที่วัวไม่ได้ออกแรงใช้งานกล้ามเนื้อส่วนนี้มาก มีราคาสูง และมักเสิร์ฟความหนา 2 นิ้วขึ้นไป
ส่วน USDA คือการแบ่งเกรดตามคุณภาพของซากวัวตามส่วนเนื้อที่มีไขมันแทรก ซึ่งแบ่งได้หลายเกรด
ฟิลเลสเต๊กชิ้นหนานี้ เชฟย่างได้อย่างดีมากครับ ส่วนของเนื้อเมื่อใช้มีด ส้อมสัมผัสก็นุ่มมากๆ พอเอาเข้าปากภพ ภพก็ได้พบกับความนุ่มระดับพรีเมี่ยม แสงออกจากปากได้เลยนะครับ ฮาๆ นุ่มมากจริงๆ อร่อยสุดๆเลยครับ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งซอสเลยด้วย ซึ่งเนื้อที่ดีมีแค่การปรุงที่พอดีกับเกลือดีๆ และเครื่องเทศดีๆสักหน่อยก็อร่อยมากๆ ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมายเลยล่ะครับ กลิ่นคาวเนื้อก็ไม่มีด้วยนะครับ
แต่ก็ควรลองหลายๆแบบครับ ครั้งนี้เลยลองราดซอสพริกไทยดำลงไป ทานคู่กันแล้ว ตัวซอสเข้มข้นหอมพริกไทยดำอย่างมาก และที่นี่เขาก็มีไวน์ไว้บริการให้ทานคู่กับสเต๊กจานโปรดด้วย โดยครั้งนี้ภพได้รับการแนะนำจากสตาฟผู้เชี่ยวชาญให้ลองทานเนื้อ กับไวน์แดง "คามิโน่ เดอ ชิลี"
"House Wine - Red Wine - CAMINO DE CHILE" - 300++ THB
ซึ่งไวน์มีทั้งบริการแบบแก้ว และขวด ซึ่งภพรับแบบแก้วก็เพียงพอครับ และไวน์แดงนั้นสามารถเข้ากับเนื้อได้เป็นอย่างดีดังคำกล่าวว่า "กินเนื้อแก้มไวน์"
กินพร้อมเนื้อแล้วรู้สึกว่าสัมผัสนุ่มขึ้นมากครับ
“Main Course - Grilled Norwegian Salmon” – 650++ THB
ถัดมาลองนางเอกบ้าง "สเต๊กแซลมอนนอร์เวย์ย่าง" กันบ้าง มาพร้อมผักย่างเช่นกันครับ เพิ่มเติมด้วย "ซอสเลม่อนกระเทียม" (Garlic Lemon Sauce - 80++ THB)
เนื้อปลาชิ้นหนา ย่างจนหนังกรอบ แต่ไม่แห้งเลยครับ เนื้อปลาสุกกำลังดี มีความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลา แต่ไม่ได้มีน้ำมันส่วนเกินไหลเยิ้มออกแม้แต่น้อย บีบเลม่อนลงไปหอมเปรี๊ยวเลม่อน
เวลาทานได้กลิ่นของปลาแซลมอนจางๆ นุ่ม หวานเนื้อ ลองทานคู่ซอสเลม่อนกระเทียมที่ออกอมเปรี้ยวนิดๆ และมีกระเทียมหั่นแว่นๆไว้ตัดรสสัมพัสได้อร่อยดีครับ
ที่นี้พอฟินกินของคาวแล้วก็ต้องจบด้วยหนาวซินะครับผม จะได้จบ Course อาหารอย่างสวยงาม
งั้นเริ่มจาก "ช็อกโกแลตลาวา" ที่ทางร้านภูมิใจเสนอ
“Dessert - Signature Chocolate LAVA” – 250++ THB
ใช้เวลาในการอบ 15 นาที เป็นช็อกโกแลกพุดดิ้งเข้มข้นอุ่นๆร้อนๆสูตรพิเศษของทางร้าน เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมรสวานิลาหอมๆ พร้อมสตอเบอรี่สด
ตัวพุดดิ้งมีความเข้มข้นของโกโก้มาๆ และออกไปทางหวานเข้มๆ รสสัมผัสเหมือนทานเนื้อเค้กผสมมูสนะครับ ทานคู่กับไอศกรีมวานิลาหวานอ่อนๆ สตอเบอรี่สดๆ ทำให้หอม สดชื่น และฟินไม่น้อยครับเป็นการปิดมื้อได้ดีเลยล่ะครับ
“Dessert - Homemade Orange Scented Cold Cheesecake” – 220++ THB
ของหวานตัวที่สองเป็น "โฮมเมดชีสเค้กกลิ่นส้ม" เนื้อละมุนหอมชีส หวานอ่อนๆ เสิร์ฟพร้อมซอสราสเบอรี่เปรี้ยวๆ
เมื่อทานเข้าไปรสสัมผัสแรกที่ได้คือความละเอียด ละมุนของเนื้อชีสเค้ก และกลิ่นชีสหอมขึ้นมาแล้วล่ะครับ เป็นอะไรที่ชอบมากๆ สามารถทานคู่กับส้มสดๆ และซอสราสเบอรรี่ที่เสิร์ฟมาพร้อมกันเป็นการล้างปากเสร็จพิธีกันไป
และสรุปทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ ภพ ได้รับจาก "Prime+ urban grill restaurant & bar " เป็นมื้อเย็นที่น่าจดจำ เก็บเป็น Collection ที่ได้มาลิ้มลองความอร่อย ได้สัมผัสบรรยากาศ ความหรูหรา กับมื้ออาหารดีๆ การบริการที่ดี ซึ่งควรมาลองสักครั้งครับ เป็นที่ๆนึงที่ ภพ แนะนำครับ ไว้พบกันใหม่นะครับ ^^
ภาพบรรยากาศอื่นๆ
Information
Steak House: Prime+ urban grill and bar restaurant
ห้องอาหาร PRIME & PRIME + ชั้น 7 Compass SkyView Hotel สุขุมวิท 24
สามารถเดินทางได้ด้วย BTS ลงที่สถานที่ พร้อมพงษ์ และเดินตรงเข้ามาในสุขุมวิทซอย 24 เพียงนิดเดียว ก็สามารถเจอโรงแรมได้ไม่ยากซึ่งติดกับห้างเอ็มโพเรียม
เวลา 18.00 น. - 23.00 น.
เบอร์โทรติดต่อ : 02-0111111
web site : www.compassskyviewhotel.com
FB : https://www.facebook.com/CompassSkyView/
Email : [email protected]
Line : @compassskyview
ขอบคุณที่ติดตามครับผม
Thank you for enjoying my blog!
My Dining Collection เพราะอาหารเชื่อมโยงคน
Because People Can Be Connected By Food.
------------------------------------------------------------------------------------------------
ทุกคนสามารถติดตาม/Please Follow
My Dining Collection ช่องทางอื่นได้ที่
ภพความสุข - World's Delight
วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 09.16 น.