เที่ยว ลิตเติ้ล "ปาย" กับ ค่าใช้จ่ายคนละ 350 ที่ Pannaburee Resort เขาใหญ่

หลังจากที่ได้เจอข้อมูลที่ พักหลักร้อย ปากช่อง เขาใหญ่ และได้เห็นบรรยากาศที่พักแห่งหนึ่งแล้วรู้สึกชอบมากกก

ผมเลยกะว่าต้องลองไปสัมผัสที่นี่ให้ได้ซักครั้งหนึ่ง ซึ่งที่นี่ได้ชื่อเป็น "ลิตเติ้ล ปาย"

ด้วยบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ และอากาศที่เย็นสบาย ที่สำคัญ ราคาเป็นมิตรมาก

ซึ่งการจองในครั้งแรก ก็แห้วแล้วครับ ห้องเต็ม แสดงว่าที่นี่ไม่ธรรมดาแล้วซิ ก็เลยต้องวางแผนจองกัน 2-3 อาทิตย์

และแล้วอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็เลยได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติ ที่คิดว่า ถ้าหลายๆคนเห็นคงชอบ

วันนี้เลยอยากนำมารีวิว ให้เพื่อนๆได้ลองชมกันครับ กับ ที่พัก Pannaburee Resort ปากช่อง เขาใหญ่

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมและไปสัมผัสบรรยากาศของที่นี่กันเลย ว่าจะเป็นอย่างที่เค้าว่ากันไหม

ปล. รีวิวนี้อาจจะมีภาพคนติดเข้าไปด้วยหลายภาพ เพื่อให้ภาพได้อารมณ์มากยิ่งขึ้น

ปล.2 รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้รีวิวเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
ปล.3 ที่นี่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบายนะครับ
ปล.4 อีกหนึ่งช่องทางสำหรับการติดตาม พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น http://www.facebook.com/9aooddy.travel

การเดินทางจากกรุงเทพฯไปยัง ปันนาบุรี รีสอร์ท (Pannaburee Resort) เขาใหญ่

ขับจาก ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด/อุดรรัถยา หรือ จะไปทางเส้นพหลโยธินก็ได้เหมือนกันครับ

แล้วแต่สะดวก จากนั้นก็วิ่งไปยัง ถนนหมายเลข 1 เข้า จ. สระบุรี และ วิ่งตรงต่อไปอีกจนกระทั่งถึง

ถนนหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ มุ่งไป จ.นครราชสีมา เมื่อถึง ตำบล ปากช่อง ใช้ทางออกไป เขาใหญ่/ปากช่อง/นครราชสีมา

จาก ถนนหมายเลข 2 เข้าสู่ถนนหมายเลข 2090 วิ่งตรงต่อไปอีกประมาณ 10 นาที ก็จะเจอทางเข้ารีสอร์ท

เลี้ยวซ้ายเข้าถนน โยธาธิการ นครราชสีมา 2049 จะมี 7-11 อยู่ปากซอยสังเกตุไม่ยาก

เข้ามาจากปากซอยประมาณ 5 กม. ก็จะถึงที่พัก Pannaburee Resort กันแล้วครับ

GPS Pannaburee Resort : 14°37'01.6"N 101°26'41.4"E

ถึงแล้วก็ทำการเช็คอิน กันก่อนครับ โดยที่นี่แปลกจากที่อื่นๆคือ ใช้เบอร์โทรศัพท์ในการเช็คอินครับ

เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วก็เก็บของเข้าที่พักกันเลยดีกว่า ขอบอกไว้ก่อนเลยครับ ที่พักของเราคืนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน
และก็หาที่พักแบบนี้ยากมากๆ สำหรับในเมืองหลวง มาชมห้องพักของเราคืนนี้กันเลยครับ

หะ!! อะไรนะ กระท่อมปลายนานี่เหรอ ที่นอนของเราคืนนี้

ใช่แล้วครับ นี่คือที่นอนของเรา ที่บอกไว้ว่าไม่ธรรมดา เป็นไงครับ
อย่าพึ่งเบะปาก และกรอกตามองบนกันครับ มาชมภาพในห้องพักกันก่อน

ห้องพักนี้ คือห้อง Jungle ครับ ราคา 700 บาท พักได้ 2 คน เสริมได้ 1 คน คนละ 300 บาท

ห้องนี้ถือว่า บรรยากาศไม่เลวเลยครับ ปลูกติดกับลำธารที่ไหลผ่านรีสอร์ทด้วย

สำหรับห้อง Jungle นี้จะเป็นห้องน้ำรวมนะครับ ส่วนห้อง type อื่นๆ บางห้องก็เป็นห้องน้ำในตัวครับ ห้องน้ำเป็นแบบ Open Airหลังจากชมห้องพักสุดหรูของพวกเรากันไปแล้ว เดี๋ยวนะ!! นี่คือหรูแล้ว

มาลองชมบรรยากาศบริเวณรอบๆของรีสอร์ทกันบ้างครับ ว่าจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

ที่น่าสนใจอย่างแรกเลยคือ ที่นี่เค้าจะมีเพิงไว้ให้สำหรับลูกค้าที่เข้าพัก ได้มานั่งพักผ่อน และมองดูธรรมชาติ

โดยเพิงนี้จะตั้งอยู่ติดกับลำธาร ทำให้เรารู้สึกได้พักผ่อนและได้อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง

ลองดูกันเอาเองครับ ว่ามุมนี้จะฟินมากน้อยแค่ไหน ผมคงบรรยายได้ไม่หมด

เบาะนี้เป็นเบาะวิเศษนะ ถ้าใครมานั่งแล้ว จะรู้สึกได้ถึงความสุขที่อย่างบอกไม่ถูก ไม่เชื่อต้องมาลองกันเองลองมาดูอีกมุมลองรีสอร์ทที่นาสนใจกันบ้างครับ จะเป็นมุมที่มีสะพานไม้ไผ่ทอดยาวข้ามลำธาร ให้เราสามารถนั่งเล่นชิวๆ เอาเท้าแช่น้ำ

ณ จุดจุดนี้ ผมว่าฟินมากครับ กับการที่เราได้มานั่งพักผ่อน และได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและป่าใหญ่

ที่นี่อาจจะไม่มีสระว่ายน้ำ Pool Villa เลิศหรูอลังการ แต่ที่นี่ก็มีสระว่ายน้ำกลางป่าใหญ่ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ

และยังมีกิจกรรม พายเรือเล่น ตามลำธาร ด้วยครับ หากใครพายเป็น ผมว่าน่าสนุกนะครับ

ส่วนผมก็ได้แต่เอาเท้าเขี่ยๆ แล้วก็จากไป

ลองมาชมบรรยากาศตอนกลางคืนกันบ้างครับ อากาศที่นี่เย็นสบายมากๆ

ที่นี่เค้าจะมีงานศิลปะ และของเก่ามาประดับตกแต่งบริเวณ ด้านหน้าบริเวณจุดเช็คอินด้วยครับ

เราสามารถซื้อของมาทำกินกันเองได้ด้วยครับ โดยมานั่งล้อมวง นั่งคุยกัน นั่งเล่นกัน

เป็นความสุขที่เกิดจากคนรอบข้าง ทำให้เราได้ละทิ้งโลกโซเชียล และเรื่องดราม่าไว้ซักพัก

แล้วมาเติมความสุขให้คนรอบๆข้างได้อย่างเต็มที่ เพราะที่นี่ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น และไม่มีแอร์ด้วยครับแหม!!

เหมือนดั่งละครยังไงไม่มีผิด มีกระท่อมปลายนาแล้ว ไม่มีฝนตกก็กระไรอยู่

คืนนั้นเองฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก อากาศเริ่มเย็น หนาวขึ้นๆ ทันใดนั้นเองผมก็หลับไปครับ จบ!!

ตัดฉับกันมาต่อที่ตอนเช้าเลยและกัน ที่นี่ค่าห้องพักจะไม่รวมกับอาหารเช้านะครับ แต่เค้าก็มีครัวไว้ให้สั่งอาหารทานกันได้

แต่ราคานี่ก็ไม่เบาเหมือนกัน พอๆกับโรงแรมอื่นๆที่ผมไปพักมา แต่ก็ถือว่ามาดื่มด่ำกับบรรยากาศแล้วนี่

ก็เลยสั่งมานั่งทานชมวิวกันไป

นี่เป็นบริเวณของห้องรับประทานอาหารเช้าครับ หรือใครอยากจะให้เค้าไปส่งที่ห้องก็ได้นะครับ จะได้ฟิลไปอีกแบบ

ส่วนผมก็มานั่งริมลำธารชมธรรมชาติ บริเวณนี้ครับ

ทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว ทีนี้เรามาลองเดินดูห้องพักห้องอื่นๆกันบ้างครับ ว่าเป็นยังไง

การตกแต่งห้องพักของที่นี่ทำออกมาตามสไตล์ของลาวและบาหลีผสมกันครับ จะมีทั้งแบบบ้านปูน มุงหลังคาด้วยใบจาก

และห้องที่เป็นไม้สาน ที่ดูแล้วเป็นที่พักแบบบ้านๆ ที่หาได้จากในยุคปัจจุบันแล้วครับ

ผมว่าถ้าใครสนใจมาพัก แนะนำห้อง ปาย เบอร์ 10 น่าจะแจ่มที่สุด เพราะจะแยกออกมาจากห้องอื่นๆ

บรรยากาศเป็นส่วนตัวมากๆและมีระเบียงติดกับลำธาร ทำให้เราสามารถออกมานอนเล่น นั่งเล่นริมระเบียงชมธรรมชาติได้อย่างสบายๆมาลองดูห้องน้ำกันซักนิด เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจของใครหลายๆคน จะได้ไม่ผิดหวังเวลาที่มาสัมผัสจริงๆครับ

นี่เป็นห้องน้ำรวมของ Type ห้องพักที่ผมอยู่ครับ มีห้องหลายแบบที่มีห้องน้ำในตัว ถ้าจะมาก็ลองถามเจ้าหน้าที่กันอีกทีนะครับ

ห้องน้ำถือว่าพอใช้ได้ แต่สำหรับคนอื่นก็ไม่แน่ใจ ผมว่าบรรยากาศแบบนี้มันเหมือนมาเข้าค่ายลูกเสือตอนเด็กๆ

ได้บรรยากาศไปอีกแบบ มาเดินดูบรรยากาศธรรมชาติภายในที่พักกันต่อครับ

ที่นี่เค้ามีลานก่อกองไฟตอนกลางคืนไว้สำหรับทำกิจกรรมกันด้วยนะครับ น่าสนุกเนอะ ถ้ามากันเยอะๆ

ก่อนกลับก็ขอเดินเก็บบรรยากาศและสูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอดกันอีกซักพัก ก่อนที่จะเดินทางกลับ กรุงเทพฯ

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับบรรยากาศที่พักที่ ปันนาบุรี รีสอร์ท (Pannaburee Resort) ปากช่อง เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

ผมขอสรุป ข้อดีข้อเสีย เพื่อเพื่อนๆจะได้ประกอบการตัดสนใจดูครับ

ข้อดี

- ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ที่จะทำให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

- ราคาไม่แพง

- ได้อยู่กับตัวเองและคนรอบข้าง เพราะที่นี่ไม่มีที่วี ตู้เย็น และแอร์

- ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถแปบๆก็ถึงแล้ว

ข้อเสีย

- ที่พักอาจจะเก่าไปซักนิด

- ราคาอาหารสูงไปหน่อย ไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศที่พัก (ถ้าจะให้ดี แนะนำเพื่อนๆซื้อเข้ามาทานที่รีสอร์ทกันดีกว่า ผมเองก็แวะซื้อส้มตำไก่ย่าง ปากซอยมานั่งจกอยู่ที่เพิงข้างลำธาร)

- ถ้าคุณโชคไม่ดีเหมือนผม คุณจะเจอพวกที่ชอบส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ทำให้การพักผ่อนอาจต้องหงุดหงิดนิดหน่อย

โดยรวมแล้วผมว่าที่นี่เหมาะสำหรับคนที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน และต้องการพักผ่อนสมองท่ามกลางธรรมชาติ

เพราะที่นี่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณช้าลง ได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่น อากาศบริสุทธิ์

ใช้เวลาขับรถจากกทม.มาเรื่อยๆชิวๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะได้มาอยู่ท่ามกลางป่าไม้ ลำธาร

คำเตือน!! ที่นี่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบายนะครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมรีวิวนี้ด้วยนะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อย สำหรับการเลือกพักผ่อนในช่วงบรรยากาศหนาวๆแบบนี้

อีกหนึ่งช่องทางสำหรับการ พูดคุย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม http://www.facebook.com/9aooddy.travel

ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ : www.9aooddytravel.com

ช่อง Youtube : https://bit.ly/2WjjoeC

ขอบคุณและสวัสดีครับ