24 Jan 2016

จริงเรามาถึงเชียงใหม่กันตั้งแต่เช้าวันที่ 23 มกราคม แล้ว ซึ่งการมาเชียงใหม่คราวนี้ของเราจริงๆแล้วเราอยากมาถ่ายรูปกับเพื่อนวันรับปริญญามากกว่า แต่ไหนๆก็มาเชียงใหม่แล้วนี่เนอะ ก็อยู่เที่ยวต่อสิ ก็เลยแพลนว่าจะอยู่เที่ยวลากยาวถึงวันที่ 26 เลย เราออกจากกรุงเทพโดยรถไฟเช่นเคยเหมือนคราวที่แล้ว ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันชอบนั่งรถไฟเที่ยวแหะ รู้สึกมันมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศก็ดีกว่านั่งรถทัวร์หรือเครื่องบินเยอะเลย


รอบนี้เดินทางกัน 4 คน จริงๆอยากนั่งตู้ JR West นะแต่ตอนไปซื้อตั๋วเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีตู้ JR West แล้วค่ะ นี่ก็เสียใจไปดิ่ นั่งตู้แดวูก็ได้ ได้ที่นั่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ติดประตูทางเข้าตู้พอดี ปิดไม่สนิทอีกต่างหาก แต่ก้เอาหน่าาา ครั้งหน้าละกันไหนๆก็จำที่นั่งที่ติดปลั๊กไฟได้แล้วหนิ อ้อ อีกทริคนึงสำหรับคนนั่งรถไฟ คุณควรพกปลั๊กสามตาไปด้วยนะ จะได้ต่อจากปลั๊กบนตู้ได้แล้วลากมาใกล้ๆทีนอนและยังแชร์กับเพื่อนร่วมทริปได้อีกด้วยแหละ

ถึงเวลาดึกๆหรือเช้าๆ เราก็มานั่งที่ตู้เสบียงกัน เห้ย ข้าวผัดรถไฟอร่อยมากแก ตอนเช้าเราก็มานั่งกินข้าวต้มร้อนๆ แถวได้อากาศเย็นๆ บรรยากาศดีๆแถวลำปางด้วยนะ รถทัวร์ทำไม่ได้หรอก เครื่องบินหรอ อย่าหวังเลย


ตัดมาวันที่ 24 มกราคม

คราวนี้เราพักที่เดิมคือที่ เชียงใหม่ ดี โฮสเทล :: โฮสเทลดีๆของคนที่ชอบความสงบและสบาย

ก่อนเดินทางไปสะเมิงเราก็แวะมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำหน้าที่พัก ขอย้ำว่าอร่อยมากกกกก ซุปกระดูกหมูตุ๋นต้มยำอร่อยจริงๆนะ อยากกลับไปกินอีกหลายๆรอบเลยยยยยยย

ตอนนี้เหลือแค่ 3 คนที่จะร่วมทริปไปกับเราคือ เรา เจน และกอบ 3 คนไปสะเมิงไงดีล่ะ รถยนตร์เงินไม่พอแน่ๆ (ที่สำคัญหมดไปซะหลายเจ้า ฮ่าๆ ) ก็เลยได้มอไซต์มา 2 คัน ขี่ไปสะเมิง อยากจะบอกว่าขี่มอไซต์ขึ้นดอยอะสนุกนะ เราชอบมาก มันได้บรรยากาศมากกว่าขับรถยนตร์เยอะเลย แต่ขอโทษแก ในเชียงใหม่ขับรถยากมากกก ขี่มอไซค์นี่งงกับรถยนตร์มากค่ะ ฮ่าๆ

เราออกจากเชียงใหม่ประมาณ บ่าย 2 ก็ไปหาเช่ารถแถวๆท่าแพแหละ ร้านให้เช่าเยอะมาก ราคามีตั้งแต่ 200-250 แนะนำให้เอารถใหม่ๆนะ เราขี่ขึ้นดอยรถใหม่ๆเซฟกว่าเยอะค่ะ

ประมาณบ่าย 3 ครึ่งเราก็มาถึงที่พักของเราในคืนนี้ Belle Villa Resort Chiangmai รีสอร์ทนี้อยู่ทางขึ้นสะเมิงฝั่งหางดง ไม่ไกลจากตัวเชียงใหม่ประมาณ 20 กิโล ห้องที่เราได้อยากจะบอกว่าวิวสวยมากๆ

รายละเอียดเพิ่มเติม Belle Villa Resort Chiangmai

วาร์ปไปเช็คห้องพัก Belle Villa Resort Chiangmai

เห้ยย เราชอบที่พักที่นี่มาก บรรยากาศดีเว่อร์ หลังจากเข้าห้องพัก เก็บของได้สักพัก ไหนๆก็มาแล้วขี่มอไซค์ไปไร่สตอร์เบอรี่กันดีกว่า จากที่พักไปยังสะเมิงประมาณ 19 กิโลเอง แต่มันเป็น 19 กิโลที่ขี่ขึ้นเขาอะแก มีทั้งขึ้นเขาแบบเบๆ และโค้งหักศอก สรุปคือ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงไม่ได้แวะ และไร่สตอร์เบอร์รี่ก็เช่นกัน งั้นไว้คราวหน้าละกันเนอะ สุดท้ายเราเลยได้ไปหาอะไรกินกันที่ตลาดสะเมิงใต้แทน


ที่นี่มีเซเว่นนะของกินก็พอประมาณ แต่เราไปก็ 5 โมงเย็นแล้วไง ตลาดก็คงวาย แต่เราติดใจสุดก็เป็นลูกชิ้นทอดแหละ อร่อยมากกกกก


หาอะไรกินที่ตลาดสะเมิงได้แปปเดียวเราก็ต้องกลับกันแล้วเนื่องจากมันเย็นมาก เดี๋ยวมืดจะขี่รถกลับที่พักกันลำบาก ขากลับเราแวะร้านกาแฟร้านหนึ่งอยู่ข้างหน้าทางเข้า belle villa เลย ชื่อร้านว่า Thachang Hill and Cafe ร้านสไตล์ Loft มีพื้นที่ outdoor ยื่นออกไปรับลมและบรรยากาศ และมีจุดไว้ก่อกองไฟไว้ผิงด้วยนะ

ร้านนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่ถึงเดือนเลย ใครที่จะไปสะเมิงแล้วขึ้นทางหางดง อย่าลืมแวะไปถ่ายรุปสวยๆนะ มุมถ่ายรูปเยอะมากกกก

ดึกหน่อยอากาศเริ่มเย็น พี่เขาก็มาก่อไฟให้เราผิงกัน เห้ย สนุกอะ นั่งคุยกับพี่เขา ฟังเพลง แต่อยู่ได้ถึง 4 ทุ่มฝนก็ดันตกไง เลยต้องกลับเข้าที่พักกัน สรุปคืนนั้นหนาวมาก กลับเข้าห้องและนอนกันแบบไม่เปิดแอร์ทั้งคืน ก่อนจะตื่นเช้ามาแล้วพบว่า เห้ยยยย อุณหภุมิลดลงเหลือ 14 องศาตอนแรกก็ดีใจ ก่อนได้สติแล้วคิดได้ว่า เชี่ยยย วันนี้ต้องขี่มอไซค์กลับเชียงใหม่กับอุณหภูมิ 14 องศาจริงดิ่ เห้ยยยย แค่คิดหน้าก็ชาแล้ว


25 Jan 2016

ตอนเช้าก่อนกลับเราก็มาทานอาหารเช้า จะบอกว่าข้าวต้มที่ belle villa อร่อยมาก เราเองก็ซัดไป 2 ถ้วยเลย หรือสงสัยเพราะอากาศหนาวเลยทานข้าวต้มกันอร่อยเป็นพิเศษ ฮ่าๆ

ก่อนกลับเราก็แวะถ่ายรูปเล่นกันในบริเวณรีสอร์ทซึ่งมันก็เป็นบ้านพักในรีสอร์ทแหละ คิดว่าน่าจะปล่อยให้คนมาซื้อแล้วก็ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเช่าเป็นที่พัก บรรยากาศมันดีมากเลยนะ เหมือนอยู่ต่างประเทศเลย ได้รูปสวยๆมาเต็มมมม

วันนั้นฝนตกด้วย เราก็ต้องขี่มอไซค์ฝ่าฝันกันมาที่เชียงใหม่ อุณหภูมิไม่ใช่เล่นๆ 14 องศา แบบว่าเห้ยยย มือแข็งอะ พอมาถึงเชียงใหม่เราก็รีบเข้าที่พักทันที คืนนี้เราพักกันที่บัวรายา ตรงประตูช้างเผือก เป็นโรงแรมที่รีโนเวทใหม่ ถ้าพูดถึงเรื่องพิกัดแล้วเราว่าโอเค เพราะลงมาก็จะถึงขนส่งช้างเผือกเลย เดินทางออกนอกอำเภอง่ายมาก แถมหน้าโรงแรมยังมีของกินเยอะแยะ เป็นโต้รุ่งเล็กๆอีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม บัวรายา เชียงใหม่

Facebook โรงแรมบัวรายา

วาร์ปไปเช็คห้องพัก โรงแรมบัวรายา เชียงใหม่

( รูปภาพจาก www.agoda.com )

จากโรงแรมเราสามารถเดินไปวัดแถวนั้นได้ด้วยนะ เช่นวัดโลกโมฬี แต่เผอิญคืนนั้นเราไม่ได้ไปเดินถ่ายรูปเลย เพราะเรานัดกับเจนว่าจะไปกินข้าวในบรรยากาศดีๆที่ Xanadu Pub and Restaurant ชั้น 17 โรงแรมฟูรามา เชียงใหม่

ก่อนไปXanadu เราไปซื้อตั๋วรถทัวร์กลับบ้านกัน ไปก็ไปที่อาเขตด้วยรถแดง เห้ยมีทริควะ เราเจอคุณยายเห็นเราโบกรถแดงแล้วเขาก็ให้ทริคมาว่า ให้ถามรถแดงว่าผ่านที่ๆเราจะไปไหม เพราะถ้าถามว่า ไป .... ไหมคะ เค้าจะคิดเราแพงแบบหูฉี่มาก หลังจากซื้อตั๋วอะไรเรียบร้อยแล้วเราก็จะเดินทางไปที่ Xanadu กัน แต่รถแดงต้องแพงมากๆแน่เลย วันนี้ มช รับปริญญา รถต้องติดมากแน่ๆ เราก็เลยใช้บริการรถบัสของเชียงใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี่ในราคา 15 บาท อาเขต - สวนสัตว์ และ อาเขต - สนามบิน

รถใหม่และดีมากกก รถออกทุกครึ่งชั่วโมง จอดตรงอาเขตเลยถามคนแถวนั้นก็ได้ว่าบัสขาวจอดตรงไหน

แต่อย่างที่บอกไปว่า มช รับปริญญา ถนนเลียบคลองชลประทานปิดไฟแดงทุกแยก รถติดขยับไม่ได้ เรากับเจนเลยตัดสินใจลงตรงแยก โรงแรมไอบิส แล้วเดินต่อมานิดหน่อยถึงแยกรินคำ เมญ่า เดินข้ามถนนไปก็เจอโรงแรมฟูรามาแล้ว พอถึงเราก็ขึ้นไปชั้น 17 ทันที โอ้โห วิวสวยมาก แทบกรีดร้องแหละ

Facebook :: Xanadu Pub and Restaurant

เราสามารถเห็นวิวเมืองเชียงใหม่โดยมีดอยสุเทพเป็น Background โดยไม่มีตึกใดๆมาบัง เห้ย มันดีอะ เรากับเจนชอบบรรยากาศแบบนี้มาก แต่ด้วยอุณหภูมิ 10 กว่าๆ เราจึงไม่สตรงพอที่จะนั่งรับวิวข้างนอกจึงขออนุญาตย้ายเข้ามาในห้องกระจกแทน ที่ Xanadu Pub and Restuarant นั้นมีดนตรีสดเล่นด้วยนะ ห้องอาหารเปิดตั้งแต่ 18.00-24.00 เลย

วันนี้เรากับเจนได้ทานอาหารอร่อยๆหลายอย่างเลย มีแต่เมนูเด็ดๆของร้านแหะ

ซี่โครงหมูอบหม้อดิน

ขาเป็ดพะโล้ทอดกรอบ

เซียทูน่ายำสลัดแอปเปิ้ล ( เราชอบเมนูนี้มากๆ อร่อยมากกก )

เย็นตาโฟหม้อไฟ ทานกับเกี๊ยบกรอบ

ข้าวผัดปู

เราชอบห้องอาหารที่นี่อย่างหนึ่งนอกจากบรรยากาศจะดีแล้วคือ ราคาอาหารไม่แพงเลย เมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพและบรรยากาศแล้ว ราคาพอๆกับร้านอาหารข้างล่างเลย ถือว่าจับต้องได้ไม่แพงเว่อร์เกินไป ที่สำคัญ อร่อยมากกกกกกกกกกก

หลังจากทานเสร็จแล้วเรากับเจนก็นั่งรถแดงจะกลับที่พักกัน เรากับเจนเลยนั่งรถแดงไปลงท่าแพกันแล้วก็เดินไปกาแลไนท์บาซ่าร์ ระหว่างเดินดูของเราก็ถามพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นไปเรื่อยๆ พวกเขาดูเซ็งๆที่เราไม่ใช่คนจีน ฮ่าๆ ก็น่า ขายคนไทยจะขายราคาแพงไม่ได้นี่เนอะ ( แต่ก็ยังแพงอยู่ดีป้ะวะ ) เรากับเจนเดินไปเรื่อยๆจนไปเจอกาดเพลินฤดี สิ่งที่สะกดให้เราสองคนเดินเข้าไปคือ เพลงแจ๊ส .. ใช่แล้วที่นี่มีดนตรีสดเป็นดนตรีแจ๊สให้เราเข้าไปฟังแบบหลุดลอย ฮ่าๆ

เสียใจอยู่นิดหนึ่งที่วันนั้นฝนตก ไม่งั้นคงได้จิบเบียร์และนั่งฟังเพลงแบบยาวๆแน่ เราชอบที่นี่มาก คราวหน้าสัญญาว่าจะมาอีก : )

วันที่ 26 Jan 2016

วันนี้เรานัดกับเจนว่าจะไปสวนสัตว์กัน เริ่มจาก Chiangmai Zoo Aquarium แต่กระนั้นก็เถอะ เรากับเจนตื่นมาพร้อมกับ 9 องศา จากเมืองเชียงใหม่ ฝนตก หมอกลง เห้ย เที่ยวไงดี เสื้อผ้าเตรียมมาไม่พอสำหรับ 9 องศานะเว้ย ก็ต้องอดทนค่ะ ณ เวลานั้น เราออกจากที่บัวรายาเกือบๆ 10 โมงเช้า แต่เชียงใหม่นี่อึมครึมมาก เราชอบอากาศแบบนี้จัง แบบฝนตกปรอยๆ หนาวๆ หมอกลง บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในลอนดอน ฮ่าๆ

ถ้าเราจะเข้า อควาเรียม เลยเราบอกตรงช่องขายตั๋วได้เลยค่ะ เขาจะมีรถตู้ลงมารับเรา หรือใครที่อยากเดินชมสัตว์ไปด้วยแล้วค่อยไปซื้อหน้า อควาเรียม ก็ได้เหมือนกัน คราวนี้เราให้ทางเจ้าหน้าที่ลงมารับ ก็ลงหน้าอควาเรียมเลย

หรือถ้าใครอยากจะซื้อตั๋วล่วงหน้า ตามไปที่ลิ้งค์นี้เลยค่า Chinagmai Zoo Aquarium

ภายในอควาเรียมมีทั้งปลาน้ำจืดและน้ำทะเลเลยนะ ด้านหน้ามีปลาตีนด้วย ฮ่าๆ พยายามส่องหาหลายรอบ ไม่เจอแหะ มีโชว์ให้อาหารปลาด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดำน้ำภายในอควาเรียมด้วยนะ : )

อควาเรียมที่นี่มีทั้งหมด 2 ชั้นนะ จะเริ่มจากชั้นบนก่อน จะเป็นปลาน้ำจืด พอลงมาชั้นล่างก็จะเป็นปลาน้ำเค็ม พอเราดูปลาเรียบร้อยแล้วเราก็ออกมาเดินดูส่วนอื่นของสวนสัตว์บ้าง อ้ออ ตรงด้านหน้าอควาเรียมมีมุมนึงถ่ายรูปสวยมากกกก

เห้ยยย ยังกะอยู่ญี่ปุ่น (ขออวยตัวเองหน่อย อิอิ ) มาสวนสัตว์เชียงใหม่ทั้งทีก็ต้องไปหาพระเอกนางเอกของเราสิ ช่วงๆกับหลินฮุ่ยรอเราอยู่นะ ค่าเข้าคนละ 50 บาท

ดูเวลาไปๆมาๆ แปปเดียวเที่ยงกว่าแล้ว ฝนตกด้วย จะเดินดูสัตว์อย่างอื่นต่อคงไม่ไหว ก่อนกลับเราก็อยากขึ้นไปขุนช่างเคี่ยนกัน แต่คิวรถแดงบอกว่า ไปกลับคนละ 400 บาท พาแวะ 4 จุดคือ ขุนช่างเคี่ยน บ้านม้ง พระธาตุดอยสุเทพ ครูบาศรีวิชัย แต่เนื่องจากเรามีนัดกับเพื่อนก่อนกลับบ้าน เวลาไม่น่าจะพอ เราก็เลยงั้นแวะแค่พระธาตุดอยสุเทพละกัน และรู้สึกว่าคิดถูกมาก เพราะระหว่างทางขึ้นไปพระธาตุดอยสุเทพนั้น หมอกลงทั้งเส้นพร้อมกับฝน ถ้าพูดง่ายๆคือขึ้นไปขุนช่างเคี่ยนนี่ก็อันตรายเหมือนกัน

และแน่นอน บนดอยสุเทพนั้น 8 องศา แม่เจ้าา หนาวมาก ฝนก็ตก ทัวร์จีนก็เยอะ เราใส่ผ้าใบกันไป ถอดรองเท้าไม่สะดวก เลยนั่งกินกาแฟร้อนบนพระธาตุรอเวลากลับเพราะเรานัดกับรถแดงไว้ 15.30 อยู่ข้างบนแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เดินตัวขด เอามือซุกตัวไม่พอ คือหนาวมากกกกกก

เราแนะนำนะ มอคค่าร้อนบนดอยสุเทพ อร่อยมากกกก อร่อยจนอยากจะซ้ำอีกแก้ว ราคาไม่แพงด้วย มอคค่าร้อนแก้วละ 50 บาท

พอได้เวลาลงมาที่ตัวเมืองเชียงใหม่ แลนด์มาร์คในการถ่ายรูปนั้นคงหนีไม่พ้นอ่างแก้วใน มช เราไม่รู้ว่าบรรยากาศตอนนี้จะเป็นไงแต่เดาว่าคงสวยมากแน่ๆ เพราะหมอกน่าจะลง และนี่คือวิวที่เราได้จากอ่างแก้ว

เห้ยยย นี่คือปางอุ๋ง มช ชัดๆอะ หมอกวิ่งบนน้ำในอ่างแก้วคือสวย คือดี คือบรรยากาศดีเว่อร์วังงงงงงง


มาเชียงใหม่รอบนี้ ฟ้าภะวะเลยได้รูปกลับไปอัพเต็มเลย ต้องขอบคุณ @Jane Hathairat ที่มาร่วมทริปและแชะภาพให้ฟ้าภะวะไปหลายร้อยรุป ฮ่าๆ

ปอลอ 1 ... เราโชคดีมากที่ไปเชียงใหม่ช่วงนั้นพอดี หนาวได้ใจแบบไม่ต้องขึ้นดอยเลย บรรยากาศโดนใจเรามาก

ปอลอ 2 ... เราชอบขี่มอไซค์ขึ้นดอยนะ สนุกดี แต่เราอยากเป็นคนซ้อนมากกว่า : )

ปอลอ 3 ... ติดตามฟ้าภะวะได้ที่ Fahpawa - Travel and Outing

ปอลอ 4 .. คิดถึงง้ะะะ อยากขี่มอไซค์ขึ้นดอยด้วยกันอีก > // <

ความคิดเห็น