"วิวเป็นของเรา ภูเขาเป็นของลาว"
เขียนรีวิวพาเที่ยวที่อื่นมาก็หลายที่ วันนี้ขอพาไปเที่ยวบ้านเกิดเมืองนอนเราบ้างค่ะ ยาวนะแต่รับรองว่าได้ครบจบปิ๊ง
ถ้ามีโอกาสได้ไปนครพนมสักครั้ง เชื่อเหลือเกินว่าจะต้องชอบเมืองเล็กๆ ริมน้ำโขงแห่งนี้ ที่จะเห็นวิวภูเขาจากฝั่งลาวไกลๆ ขนาบคู่กับแม่น้ำโขง เป็นจังหวัดที่เที่ยวได้ตลอดปี ช่วงที่ดีสุดก็หน้าหนาว ตั้งแต่ พ.ย. - ก.พ.
สำหรับสายบุญทั้งหลายนครพนมมีทั้งพระธาตุประจำปีเกิดปีวอก และพระธาตุประจำวันเกิดครบทั้ง 7 วัน ให้ท่านได้ไหว้พระทำบุญ เสริมศิริมงคลให้ชีวิต
การเดินทาง
มีทั้งเครื่องบิน และรถโดยสาร จะขับรถมาเองหรือมาเช่ารถที่นี่ก็ได้
มีรถตู้ให้บริการพาไหว้พระแบบ One day trip ด้วยนะ
ที่พัก
เดี๋ยวนี้มีที่พัก โรงแรม ราคาไม่สูงมากให้เลือกพักหลายที่ เลือก Location ที่ชอบได้เลยจ้า
ในฐานะคนพื้นที่ ขอแนะนำที่พักที่ติดริมโขง เพราะนอกจากได้ได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีก ไม่ว่าจะเป็นตักบาตรข้าวเหนียว วิ่งออกกำลังกายเช้า-เย็น หรือปั่นจักรยาน(มีร้านให้เช่าแถวนั้น)
ที่มีเลนส์จักรยานไว้สำหรับนักปั่นโดยเฉพาะ ขอบอกว่าบรรยากาศดีมากเลยค่ะ
สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป เรามีมุมแนะนำค่ะ ช่วงเช้าขับรถออกจากตัวเมืองถนนเส้น นครพนม-ท่าอุเทน จะเจอสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 (นครพนม - คำม่วน) เลี้ยวขวาเข้าไปใต้สะพานเลยจ้า
มุมนี้
จากถนนใหญ่เลยสะพานมาประมาณ 100 เมตรจะมีทางลูกรังซ้ายมือ
เข้าไปประมาณ 300 เมตร จะเจอแยกซ้ายมือ คือที่เก็บภาพมุมนี้ค่ะ
ย้อนกลับมาริมเขื่อนหน้าเมืองยามเช้าก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ค่ะ
สำหรับสายบุญที่จะเดินสายไหว้พระธาตุ เราสามารถไปวันเดียวจบเลยก็ได้ หรือถ้ามีเวลาแบ่งไปอำเภอรอบนอกวันนึง แล้วเที่ยวในตัวจังหวัดวันนึงก็ดีนะคะ จะได้ไม่ต้องรีบมีเวลาเดินช้อปปิ้งชุดพื้นเมือง สินค้า OTOP ที่จะมีขายรอบๆ วัดที่จะไป เยอะหน่อยก็น่าจะเป็นตรงวัดพระธาตุพนม กับวัดพระธาตุเรณูค่ะ
"พระธาตุพนม"
พระธาตุประจำวันเกิดวันอาทิตย์
อยู่ อ.ธาตุพนม ห่างจากตัวเมือง 53 กิโลเมตร เป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีวอก เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนม และพี่น้องชาวอีสาน รวมถึงพี่น้องชาวลาว ที่มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิต
พุทธศาสนิกชนทั้งไทย-ลาวมานมัสการจำนวนมากตลอดทั้งวันค่ะ
"พระธาตุเรณู"
พระธาตุประจำวันเกิดวันจันทร์
จำลองมาจากพระธาตุพนมองค์เดิมแต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในบรรจุพระไตรปิฎกและพระพุทธรูปและของมีค่าโบราณ ประดิษสถานอยู่วัดพระธาตุเรณู อ.เรณูนคร ห่างจากพระธาตุพนม ประมาณ 14 ก.ม
เชื่อกันว่าใครได้มานมัสการจะเป็นคนที่มีเสน่ห์ รูปงาม ผ่องใส
คนเรณูนครนิยมใส่ชุดพื้นเมืองที่ทำมาจากผ้าฝ้ายกันค่ะ ข้างหน้าวัดพระธาตุเรณูจะมีร้านค้าชุมชนขายชุดพื้นเมืองหลายร้าน ราคาไม่แรงมาก อย่าลืมแวะอุดหนุนกันนะคะ
ถ้ามาเรณูนคร อยากให้ลองชิมอาหารของคนพื้นถิ่น “ข้าวปุ้นปลาแดกนัว” “ข้าวปุ้นน้ำกะปิ” หรือ “ขนมจีนน้ำปลาร้า-กะปิ” ถ้าคนที่ทานส้มตำปลาร้าได้ หรือ เคยทานตำด๊องแด๊งเมืองเลยมาก่อน อยากให้ลองชิมค่ะ
"พระธาตุศรีคุณ"
พระธาตุประจำวันเกิดวันอังคาร
อยู่อำเภอนาแก ห่างจากวัดพระธาตุเรณู ประมาณ 25 กิโลเมตร ภายในบรรจุพระอรหันสารีรักธาตุของพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอัคครสาวกซ้ายขวาของพระพุทธเจ้า
เชื่อว่าใครได้ไปสักการะจะได้อานิสงส์ทวีคูณ และเสริมพลังนักสู้ในจิตใจให้เข้มแข็งขึ้นค่ะ
"พระธาตุมหาชัย"
พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ
ประดิษฐาน ณ วัดโฆษิตดาราม อำเภอปลาปาก ห่างจากตัวเมืองนครประมาณ 40 กิโลเมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และอรหันสารีรักธาตุของพระอัญญาโกณฑัญญะ พระภิกษุสงฆ์รูปแรกในพระพุทธศาสนา โดยในหลวงรัชกาลที่9 และพระราชินีได้เสด็จดำเนินพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในปี 2518
เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุมหาชัย จะประสบแต่ชัยชนะในชีวิต โอภาปราศรัยดี ค้าขายคล่อง พูดจามีคนเชื่อถือ
ภายในวัดนี้มีสรีระสังขารของหลวงปู่คำพัน เกจิอาจารย์สายวิปัสนาที่คนนครพนมเคารพนับถือ และมีอุโบสถที่งดงาม
พระพุทธรูปปางห้ามญาติสลักจากไม้ต้นสะเดาหวาน
พระธาตุประสิทธิ์
พระธาตุประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี
ประดิษฐานอยู่วัดพระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า ห่างจากตัวเมืองนคร ประมาณ 90 กิโลเมตร
เดิมเป็นเจดีย์เก่าแก่ค้นพบโดย ชนเผ่าญ้อ ซึ่งหนีภัยสงครามมา แล้วร่วมกันบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2112 และให้นามว่า "พระธาตุประสิทธิ์"
เชื่อกันว่า ผู้ใดได้ไปนมัสการ จะได้รับอานิสงส์ให้ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน
พระธาตุท่าอุเทน
พระธาตุประจำวันเกิดวันศุกร์
ประดิษฐานอยู่วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน ห่างจากตัวเมืองนคร ประมาณ 26 กิโลเมตร ภายในบรรจุพระพุทธสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง รวมทั้งพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายเอาไว้ เชื่อว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้ชีวิตจะมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ
พระธาตุนคร
พระธาตุประจำวันเสาร์
ประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ วัดนี้อยู่ในตัวเมือง มีรูปแบบตามพระธาตุพนมองค์เดิม ภายในบรรจุพระอรหันต์สารีริกธาตุ พร้อมกับองค์พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าต่างๆ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้ถวายค่ะ
เชื่อกันว่า ผู้ที่ได้นมัสการพระธาตุแห่งนี้ จะเสริมบุญบารมี มีอำนาจวาสนา ได้เป็นเจ้าคนนายคน
ซึ่งถ้าพักในตัวเมืองจะไหว้เป็นวัดแรกหรือวัดสุดท้ายก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ
ไหนๆ ก็มานครพนมแล้ว อยากให้ลองนั่งเรือข้ามฝั่งไปเที่ยวเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว
ซึ่งท่าเรือก็จะอยู่ตรงข้ามตลาดอินโดจีน สำหรับคนที่ไม่มี passport ทำBorder Pass 30 บาท
ตั๋วเรือราคา 60 บาท ค่าเหยียบแผ่นดินลาว 100 บาท เรือเที่ยวสุดท้ายขากลับหมด 6 โมงเย็นค่ะ
แล้วแต่สะดวกเลยว่าจะไปตอนไหน
เรือโดยสารข้ามฟาก หน้าตาก็จะประมาณนี้ค่ะ
"พระธาตุศรีโคดตะบอง"
ที่เมืองท่าแขกมีพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของแขวงคำม่วน คือ "พระธาตุศรีโคดตะบอง" หรือ "พระธาตุเมืองเก่า" พระธาตุพี่น้องของพระธาตุพนม อยู่ห่างจากตัวเมืองท่าแขกประมาณ 5 กิโลเมตร ต้องเหมา 3 ล้อเครื่องหรือที่คนที่นั่นเรียกตุ๊กๆ ไปค่ะ ซึ่งราคาก็แล้วแต่จะต่อรองคนกันได้ จขกท ไป 500 บาท (จากตอนแรกเรียก 800)
สำหรับคนไทย วัดนี้จะมีค่าเข้าชมด้วยนะคะ
บรรยากาศยามเย็นที่ริมเขื่อนเมืองท่าแขกค่ะ
มองเห็นพระธาตุนคร และฝั่งนครพนมตอนพระอาทิตย์ตกสวยงามมากนะคะ
อย่าลืมว่าเรือลำสุดท้ายหมด 6 โมงเย็นนะคะ
กลับมาที่ถนนคนเดิน ที่อยู่ตรงท่าเรือข้ามฟากเลยค่ะ มีทุกศุกร์ - อาทิตย์
อาหารการกิน ก็จะมีอาหารเวียตนาม อาหารท้องถิ่นราคาย่อมเยาว์ให้เลือกชิมกันค่ะ
ปอเปี๊ยะทอด
ปอเปี๊ยะสด
อันนี้ปูนานึ่งสมุนไพร
"พญาศรีสัตนาคราช"
เรื่องเล่าจากริมฝั่งโขง เชื่อกันว่ามีพญาศรีสัตตนาคราช พญานาคเจ็ดเศียร เป็นกษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาว และพญาศรีสุทโธนาคราช พญานาคเศียรเดียว เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทย ชาวนครพนม อัญเชิญมาประดิษฐานตามความเชื่อว่าจะปกปักรักษาพี่น้องสองฝั่งโขง
"หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์"
หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกสร้างโดยชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม เมื่อ พ.ศ.2503 เพื่อเป็นที่ระลึกก่อนย้ายกลับเวียดนามตามท่านโฮจิมินห์ หลังชนะสงครามภายในประเทศ เมื่อครั้งฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามเดียนเบียนฟู และบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของถนนคนเดินในวันศุกร์ - อาทิตย์ และเป็นแหล่งรวมร้านนั่งกลางคืนคนวัยรุ่นย่านนี้
ตุ๊กตุ๊กสกายแล็บ สัญลักษณ์หนึ่งของเมืองนคร
ในหลวงในดวงใจ
พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าเก่า
ตั้งอยู่ที่ถนนสุนทรวิจิตร (บริเวณริมถนนเลียบแม่โขง)
วันเปิดทำการ : วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา : 09.00 - 17.00
พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก เพราะได้รับอิทธิพลในรูปแบบการก่อสร้างจากฝรั่งเศส ช่วงสมัยสงครามอินโดจีน เดิมเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของ พระยาอดุลยเดชสยามเมศวรภัคดีพิริยพาหะ (อุ้ย นาครทรรพ) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมคนแรก ก่อสร้างสร้างระหว่างปี พ.ศ. 2455-2457 ผู้สร้างเป็นชาวญวน ชั้นบนและล่างไม่มีเสา และไม่มีการตอกตะปูแม้แต่ดอกเดียว ใช้การเข้าเดือยไม้
ต่อมาพระยาอดุลยเดชฯ ได้ขายอาคารหลังนี้ให้กระทรวงมหาดไทย เพื่อใช้เป็นที่พักของ ผู้ว่าฯ เมื่อ พ.ศ. 2470 ในราคา 2 หมื่นบาท และในระหว่างวันที่ 12-13 พ.ย. 2498 ในหลวงรัชการที่ 9 และพระราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางจังหวัดจึงจัดให้จวนแห่งนี้เป็นที่ประทับแรม
"วัดนักบุญอันนา หนองแสง"
วัดนักบุญอันนาเป็นโบสถ์คริสที่มีลักษณะเป็นหอคอยคู่ ยอดแหลมสูงเด่นเห็นแต่ไกล สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1926 โดยบาทหลวงเอดัวร์ นำลาภ อธิการโบสถ์ ซึ่งแต่เดิมด้านข้างของตัวอาคารนี้เป็นโบสถ์ประกอบพิธีทางศาสนา แต่ในสมัยกรณีพิพาทอินโดจีน ถูกฝรั่งเศสทิ้งระเบิดถล่ม ทำให้โบสถ์พังเสียหาย ต่อมาจึงมีการสร้างโบสถ์หลังใหม่เพื่อใช้ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวคริสต์สืบต่อมาถึงในปัจจุบัน
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแค่ 8.30 -16.30 น.
ถ้าชอบถ่ายรูปแบบฟ้าใสๆ ไม่ย้อนแสงก็แนะนำไปช่วงเช้าค่ะ
หรือจะไปถ่ายแสงเย็นก็ได้ค่ะ
บ้านลุงโฮ หรือ บ้านท่านโฮจิมินห์
อยู่ที่บ้านนาจอก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร
(เปิด 8.30 - 16.00 น. ไม่เก็บค่าเข้าชม แล้วแต่จะหยอดตู้บริจาค)
ช่วงปี พ.ศ. 24ึ71-2472 อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์เคยมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่บ้านของเพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์ ที่มาจากเวียตนามและมีครอบครัวที่ประเทศไทย ลุงโฮใช้บ้านนี้เป็นฐานที่มั่น วางแผนและหาแนวร่วมในการกลับไปกอบกู้เอกราชให้กับประเทศเวียตนามในช่วงระหว่างการทำสงครามกับประเทศฝรั่งเศษ
การที่ได้มาเห็นทำให้รู้ว่า ท่านเป็นคนที่เรียบง่ายมาก พี่ที่ดูแลบ้านเล่าให้ฟังว่าท่านชอบปลูกต้นไม้
บริเวณจึงบ้านนี้ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้
ภายในบ้านพักอาศัยของลุงโฮ ถูกแบ่งออกเป็นสามห้อง คือสองห้องนอน หนึ่งห้องโถง ปัจจุบันมีข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน ห้องนอน บ้องสูบยา ภายในยังมีรูปเกี่ยวกับชีวประวัติท่านประธานโฮจิมินห์ อีกด้วย
ครกกระเดื่อง ใช้ตำข้าวเปลือกของคนสมัยนั้น
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์
อยู่ถัดจากบ้านที่ลุงโฮเคยพักอาศัยไปประมาณ 500 เมตร
จากเหตุการณ์สำคัญในครั้งนั้น เมื่อปี 2557 ทางรัฐบาลเวียดนามได้มอบเงินจำนวน 3 หมื่นล้านด่อง (ประมาณ 45 ล้านบาท) ให้จังหวัดนครพนมและสมาคมไทยเวียดนาม เพื่อสร้าง “อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์” เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประธานโฮจิมินห์
ซุ้มประตู
ด้านในมีชุดอ๋าวหญ่ายขายและให้เช่าใส่สำหรับถ่ายรูป ชุดละ 100 บาท
มีพร้อพหมวก และงอบให้ด้วยค่ะ
อาคารรูปปั้นเคารพประธานโฮจิมินห์
ด้านในมีรูปปั้นเคารพท่านประธานโฮจิมินห์
และนอกจากนั้นยังมีอาคารจัดแสดงภาพชีวประวัติและหุ่นขี้ผึ้งจำลองประธานโฮจิมินห์ รวมทั้งบ้านพักจำลองที่จำลองมาจากบ้านพักหลังเดิมของลุงโฮอีกด้วย
ต้นจามจุรียักษ์ วัดจอมศรี
Unseen แห่งใหม่ของครพนม อยู่บ้านนามะเขือ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 26 กิโลเมตร
จับพี่ชายมาเป็นนายแบบ Hipster 5555
"ที่กิน"
ถ้ามานครพนมก็คงไม่พ้นอาหารประเภทปลาแม่น้ำโขง กับอาหารเวียตนาม สารภาพว่าที่บ้านซื้อมาทำเองมากกว่า อาหารเวียตนามพวกปากหม้อญวน ปอเปี๊ยะสด ปอเปี๊ยะทอด เราซื้อที่ร้านสองอนงค์ ในตลาดสด (เป็นร้านขายไม่มีโต๊ะนั่ง)
แต่ถ้าจะให้พาเพื่อนๆ ไปกินก็คงจะเป็นร้าน R-Restaurant อาหารรสชาติดีใช้ได้เลยน๊าาา
เพิ่มเติมนิดนึง ร้านนี้ครัวเวียตนามปิดบ่าย 3 ใครอยากทานเมนูพิซซ่าเวียตนาม ปากหม้อญวน ขนมเบื้องญวน เหล่านี้มาให้ไวเด้อ ส่วนอาหารไทยอื่นๆ ก็มีขายปกติจ้า
ส่วนร้านของฝาก
ร้านประจำที่เราซื้อ หมูยอร้านนี้เด็ดมาก อยากให้ได้ชิม ไม่เชื่อดูกองสินค้าด้านขวามือได้ค่ะ
ปิดท้ายรีวิว ขอฝากอุดหนุนสินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP ต่างๆ เพื่อสนับสนุนพี่ป้าน้าอา ชาวนครพนมให้มีอาชีพทำกินที่บ้านเกิด อยากให้มาเที่ยวนครพนมกันเยอะๆ นะคะ เราว่าเป็นเมืองที่ห้ามพลาดเมืองนึงเลยน๊าาาาาา แล้วอย่าลืมใส่ผ้าไทยเกร๋-เกร๋ เดินเท่ห์ริมฝั่งโขงกันน๊าาาาาา สวัสดีค่ะ _/\_
Justsmile
วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 00.24 น.