เอาจริงๆ นะ เวลาจะไปเที่ยวคนเดียวเนี่ย พื้นฐานรักหมารักแมวสำคัญมากนะ เวลาเจออะไรแย่ๆ น้องก็เป็นที่ระบายให้เรา ฮ่าๆๆ

เวลาคนอื่นไม่อยากคุยกับเราเพราะเห็นเราแปลกหน้า เราก็คุยกับหมาแมวนี่แหละ

น้องหมาตามสถานีรถไฟคือจะรู้งาน ถ้ารถไฟวิ่งหรือกำลังจะมานางจะไม่อยู่ที่ราง แต่ถ้ารถไฟหยุดนางจะมาป้วนเปี้ยน หรือนอนใกล้ๆ ราง เคยสังเกตกันไหม?

เหมือนรถไฟวิ่งบนดิน แล้วประสาทสัมผัสของการได้ยินแรงสั่นสะเทือนของน้องหมาจะไวกว่าคน พอรถไฟใกล้มา (ทั้งที่เรายังไม่เห็นตัวรถ) น้องหมาจะหายหมดอะ รู้งาน ลองไปยืนเล่นๆ แถวสถานีรถไฟที่มีหมาเยอะๆ ดู

น้องหมาที่สถานีรถไฟนี่เจอบ่อยมาก นางจะชอบมำตัวเป็นเจ้าถิ่น บางตัวหลับๆ อยู่ จะไปเล่นด้วยก็มองแรง "ว่าไง มานุด"

นี่ก็เจอไม่ได้ มาถึงถิ่นแล้วต้องทักทายเจ้าถิ่นตลอด นี่ขนาด รถจอดแป๊บเดียวก็เกาะขอบหน้าต่าง

"หมาค้าบ หมาค้าบ หมาหันมาหน่อยค้าบ ขอถ่ายรูปหน่อยค้าบ"

อะ...น้องหันอ่าาาา น่าย้ากกกกกกเอาจริงๆ นะ เวลาจะไปเที่ยวคนเดียวเนี่ย พื้นฐานรักหมารักแมวสำคัญมากนะ เวลาเจออะไรแย่ๆ น้องก็เป็นที่ระบายให้เรา ฮ่าๆๆ

เวลาคนอื่นไม่อยากคุยกับเราเพราะเห็นเราแปลกหน้า เราก็คุยกับหมาแมวนี่แหละ

น้องหมาตามสถานีรถไฟคือจะรู้งาน ถ้ารถไฟวิ่งหรือกำลังจะมานางจะไม่อยู่ที่ราง แต่ถ้ารถไฟหยุดนางจะมาป้วนเปี้ยน หรือนอนใกล้ๆ ราง เคยสังเกตกันไหม?

เหมือนรถไฟวิ่งบนดิน แล้วประสาทสัมผัสของการได้ยินแรงสั่นสะเทือนของน้องหมาจะไวกว่าคน พอรถไฟใกล้มา (ทั้งที่เรายังไม่เห็นตัวรถ) น้องหมาจะหายหมดอะ รู้งาน ลองไปยืนเล่นๆ แถวสถานีรถไฟที่มีหมาเยอะๆ ดู

น้องหมาที่สถานีรถไฟนี่เจอบ่อยมาก นางจะชอบมำตัวเป็นเจ้าถิ่น บางตัวหลับๆ อยู่ จะไปเล่นด้วยก็มองแรง "ว่าไง มานุด"

นี่ก็เจอไม่ได้ มาถึงถิ่นแล้วต้องทักทายเจ้าถิ่นตลอด นี่ขนาด รถจอดแป๊บเดียวก็เกาะขอบหน้าต่าง

"หมาค้าบ หมาค้าบ หมาหันมาหน่อยค้าบ ขอถ่ายรูปหน่อยค้าบ"

อะ...น้องหันอ่าาาา น่าย้ากกกกกกเอาจริงๆ นะ เวลาจะไปเที่ยวคนเดียวเนี่ย พื้นฐานรักหมารักแมวสำคัญมากนะ เวลาเจออะไรแย่ๆ น้องก็เป็นที่ระบายให้เรา ฮ่าๆๆ

เวลาคนอื่นไม่อยากคุยกับเราเพราะเห็นเราแปลกหน้า เราก็คุยกับหมาแมวนี่แหละ

น้องหมาตามสถานีรถไฟคือจะรู้งาน ถ้ารถไฟวิ่งหรือกำลังจะมานางจะไม่อยู่ที่ราง แต่ถ้ารถไฟหยุดนางจะมาป้วนเปี้ยน หรือนอนใกล้ๆ ราง เคยสังเกตกันไหม?

เหมือนรถไฟวิ่งบนดิน แล้วประสาทสัมผัสของการได้ยินแรงสั่นสะเทือนของน้องหมาจะไวกว่าคน พอรถไฟใกล้มา (ทั้งที่เรายังไม่เห็นตัวรถ) น้องหมาจะหายหมดอะ รู้งาน ลองไปยืนเล่นๆ แถวสถานีรถไฟที่มีหมาเยอะๆ ดู

น้องหมาที่สถานีรถไฟนี่เจอบ่อยมาก นางจะชอบมำตัวเป็นเจ้าถิ่น บางตัวหลับๆ อยู่ จะไปเล่นด้วยก็มองแรง "ว่าไง มานุด"

นี่ก็เจอไม่ได้ มาถึงถิ่นแล้วต้องทักทายเจ้าถิ่นตลอด นี่ขนาด รถจอดแป๊บเดียวก็เกาะขอบหน้าต่าง

"หมาค้าบ หมาค้าบ หมาหันมาหน่อยค้าบ ขอถ่ายรูปหน่อยค้าบ"

อะ...น้องหันอ่าาาา น่าย้ากกกกกก"นั่งรถไฟ ไปพัทยา" ฉบับคนเที่ยววันธรรมดา และมึนสองแถวพัทยาเหลือเกิน

มาพัทยาในแบบรถส่วนตัวก็มาแล้ว แล้วถ้ามารถสาธารณะ แล้วถ้ามารถไฟ แล้วถ้าไม่เหมารถเที่ยว

จะไปยังไงได้ อันนี้หาข้อมูลเองจนมึน เข้า google map , street view ตลอดเวลา ศึกษาเส้นทางรถสองแถวอย่างเดียว

ไปเจอกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/30424693 ในพันทิป คือช่วยได้เยอะอยู่ แต่ก็ยังมึน

ปะติดปะต่อกันเอง และค้นพบว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้รถสาธารณะในพัทยา นอกจากจะจำสีรถสองแถวแล้ว คือการต้องจำให้ได้ว่าที่วิ่งอยู่คือถนนอะไร จะช่วยได้เยอะ ถ้านั่งรถเลย ไม่ต้องเรียกรถกลับ เพราะจะแพง เดินข้ามมาอีกฝั่งก็เรียกรถอีกเส้นได้ อะไรทำนองนี้

ไม่มีแนะนำที่เที่ยว ที่เช็กอินนะคะ ตั้งใจมารีวิวการเดินทางสำหรับคนที่จะเดินทางด้วยรถสาธารณะค่ะ นอนกลิ้ง ถ่ายรูป ว่ายน้ำ (ในสระ) จบ ไม่ได้อยากไปไหน

รถไฟไปพัทยาชั้น 3 มีเฉพาะวัน จันทร์-ศุกร์ นะคะ ส่วนรถแอร์ก็มีเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ อย่างที่ทุกคนเห็นตามรีวิวต่างๆ

ไปหาข้อมูลกันเองค่ะ ไม่ใช่ call center การรถไฟ รีวิวเท่าที่รู้ เท่าที่ไปจริงค่ะ (แอดมินเพจนี้เป็นคนเกรี้ยวกราด)

รถไฟไปพัทยา จันทร์ - อาทิตย์ (เออก็ทุกวันนั่นแหละ) ไม่ใช่ขบวนนำเที่ยว เป็นรถโดยสารสาธารณะปกติ

แล้วนี่ไม่เคยคิดว่าเป็นรถนำเที่ยวเลยนะ ปกตินั่งก็คิดว่าเหมือนรถตู้ รถเมล์นั่นแหละ เป็นรถวิ่งปกติ

ไม่ใช่ทัวร์ลูกเป็ด ต้องจัดสรรเวลากันเอง

แต่ก่อนไปถึงเราก็ต้องมีที่พักก่อน เพื่อความชัวร์ และไม่มึนกับสองแถวมากไปกว่านี้ ไม่งั้นจะนั่งรถแบบไม่รู้ทิศทาง

เราพักที่ D@sea นาจอมเทียนซอย 2 (ในซอยร้านอาหารปูเป็นนั่นแหละ)

ที่อยู่: 73-74 หมู่ที่ 1 ตำบล นาจอมเทียน อำเภอ สัตหีบ ชลบุรี 20250

โทรศัพท์: 038 233 242

ราคาหลักพันอยู่ แต่อันนี้ได้รางวัลมาพัก จากการไปเขียนรีวิวเก็บคะแนนจาก readme.me เลยถือโอกาสมารีวิวรถสาธารณะในการมาพัทยาซะเลย

(คือไม่ได้ตั้งใจมารีวิวโรงแรมว่างั้น ปกติไม่ค่อยรีวิวที่พักแนวนี้ ฮ่าๆๆ รีวิวแต่โฮสเทลถูกๆ)

เห็นว่าในแอปจองห้องพักต่างๆ เคยเช็กราคาเล่นๆ ห้องพักมีราคาเริ่มต้น 800-900 บาทอยู่ ช่วงโปร ลองไปหาเอง

ตอนนั่งวินผ่านมีหลายโรงแรมน่าสนใจอยู่นะ เหมือนไม่แพงมาก

แต่ขอติเลยนะคะ นี่ wifi แย่มาก แย่มากๆ เข้ารหัสก็ยังใช้ไม่ได้ ติแค่นี้จริงๆ ปกติไม่ใช่คนเรื่องมากกับที่พัก

แต่ถ้าโรงแรมกลางใจเมืองแบบนี้ เราว่า wifi สำคัญมาก อยากให้ปรับปรุง (เป็นแอดมินเพจท่องเที่ยวที่ไม่กล้าอวยทุกอย่างเลย ไม่กล้ารับงานรีวิวร้านอาหารหรือโรงแรม เพราะอะไรไม่โอเคคือติเลย เราติจริงๆ)

แอบบอกว่าตอนนั่งวินผ่านที่พักต่างๆ เห็น รร.B2 เขียนติดข้างหน้าว่า วันอาทิตย์-พฤหัสฯ ราคาคืนละ 550 บาท ด้วย แต่ก็นั่นแหละ ราคาเหมาะกับคนเที่ยววันธรรมดาอย่างเรามากเลย ลองหาที่พักดูเองอีกทีนะคะ

เดี๋ยวจะรีวิวเล่าขั้นตอนการเดินทางใต้ภาพนะคะ


ตั๋วรถไฟชั้น 3 ราคา 32 บาท มาถึงสถานีกรุงเทพ มันจะมีที่ซื้อตั๋ว 2 ฝั่งใช่ป่ะ ให้หันหน้าไปทางชานชาลา ฝั่งที่ต้องซื้อคือขวามือ เดินไปช่องเปิดเต้มมมมม ไม่รอคิวยาว เพราะไม่มีใครเที่ยววันธรรมดาเหมือนเรา ฮ่าๆๆ กรุงเทพ - บ้านพลูตาหลวง ราคา 32 บาท (ถูกกว่าข้าวเที่ยงฉันอีก)


หาไม่เจอก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ชานชาลาไหน ก็พุ่งไป รถออก 06.55 น. ไม่่ทันคือตกรถไฟ แล้วไปรถตู้ที่เอกมัยนะจ๊ะ รอบวิ่งน้อย


จากการหมกมุ่นกับการดู google map วาแผนการเดินทาง (เดินจริงๆ ) เราต้องเลือกลงสถานีที่เราจะเดินออกมาเรียกรถประจำทางได้ใกล้ที่สุด จากการที่เจนสัมผัสแล้ว พบว่า
ถ้าลงสถานีพัทยา (ที่ในตารางมีวิ่ง 2 ขบวน) ออกมาคือว้าเหว่มาก และอาจต้องเรียกสองแถวเหมาคนเดียว เลยเลือกลงสถานีพัทยาใต้ ไม่ๆ เป็นป้ายหยุดแป๊บเดียว ไม่หยุดนานเหมือนพัทยา ถ้าลงพัทยาใต้ก็มีขบวน 283 ขบวนเดียว เวลาออก 06.55-10.39 น.


เวลาถึงจริงอาจจะไม่ตรงเวลาเท่าไหร่ เพราะไปเสียเวลารถติดในกรุงเทพค่อนข้างนาน แต่นี่ไม่ซีเรียสไง โรงแรมเช็กอินบ่ายสอง รบกวนวิ่งช้าๆ ก็ได้ค่ะ หนูไม่รีบ



"ลมตีหน้าวนไปค่ะลูก"



นี่ถือว่าคนเยอะนะ วันนั้นงง ทำไมคนเยอะ เออเราเดินทางวันแรงงานนี่หว่า หลายคนหยุด ก็ว่าทำไมคนเยอะ



เดินทางไปเรื่อยๆ ก็เก็บภาพแต่ละสถานีรถไฟไปเรื่อยๆ ง่วงนะ แต่ไม่ค่อยได้มาเส้นนี้บ่อย เลยไม่งาวง (งงไหม?)


จอดไปเถอะ แวะไปเลย ไม่รีบ นอกจากโรงแรมเช็กอินได้ตอนบ่ายแล้วยังต้องเผื่อเวลาตัวเองหลงด้วย


บางสถานีเราก็ไม่ค่อยคุ้นไง ข้อดีของการไม่หลับ แะไม่รู้ว่า "นี่มันถึงไหนแล้ววะ"


นี่เข้าไปร้านขายของที่สถานีรถไฟกรุงเทพ แล้วเจอนี่ หยิบมาแบบไม่ได้ตั้งใจซื้ออะ คือกำลังจะไปพัทยาไง เอามาเป็น prop จะได้ดูอินหน่อย


"ตา มา รถไฟ"

นั่งรถไฟ ไปพัทยา ออกมาจากกรุงเทพได้สักพัก ถึงสถานีพานทองในช่วงสาย แดดเริ่มส่องมายังอีกฝั่ง

มีสองสาววัยรุ่น เดินขึ้นมานั่งฝั่งที่คุณตานั่งอยู่ (ตามภาพ) เอาเสื้อมาบังแดด บ่นร้อน (ความจริงปิดหน้าต่างก็ได้ลูก)

คุณตาที่นั่งฝั่งเดียวกับเรา จึงบอกว่า

"สลับที่กัน ตาไปนั่งฝั่งนู้น เดี๋ยวตาก็ลงแล้ว" พูดเสร็จแกก็ลุกไปเปลี่ยนที่นั่ง

สองสาวเลยมานั่งฝั่งเรา

ตาบอกว่าตาจะไปหาหมอที่ รพ.สมิติเวชศรีราชา

สักพักรถไฟก็มาถึงสถานีเขาพระบาท

เราและน้องสาวอีกสองคน เกาะหน้าต่างดูคุณตาค่อยๆ ลงจากรถไฟอย่างช้าๆ เดินเหินไม่สะดวกในแบบที่เป็นไปตามวัย มองไปจนเกือบถึงถนนใหญ่ที่มีสองแถวจอดอยู่

พอเกือบขึ้นรถ ตาก็หยุดและค่อยๆ หันตัวกลับมา ตอนหันมาในใจก็คิด "ตาหยุดทำไมวะ"

ตาค่อยๆ ยกมือขวาขึ้นแล้วยิ้ม โบกมือบ๊ายบายเรา ฝั่งนี้ที่เกาะหน้าต่างเห็นก็โบกมือรับพร้อมกันทั้งสามคนแบบไม่ทันตั้งตัว อะ...บ๊ายบายก็บ๊ายบาย

แก่ตัวไป...เราจะต้องเดินทางคนเดียวเหมือนตาไหมนะ....


โชคดีที่ฝนไม่ตก สายๆ มานี่แดดเปรี้ยง


คือหัตถา ครองภิภพ จบสากล


เดี๋ยววันหลังจะลองมาลงที่ชลบุรีมั่ง หาที่เที่ยว และต่อรถสาธารณะในท้องถิ่น


เอ้า! เวง! เมื่อกี้เพิ่งบอกฝนไม่ตก ลงมาโครมเลย เออไปถึงแล้วอย่าตกนะ


บางละมุง น้ำคงขึ้นขึ้นลงลง
ใจอนงค์ ก็คงเลอะเลือนกะล่อน.....


แป๊บๆ ถึงละ ถึงสถานีพัทยานะ ถึงตรงนี้แล้วเตรียมของ ลงป้ายหน้า พัทยาใต้ เตรียมยกตูดออกจากเบาะได้เลย แวะแป๊บเดียวด้วย


ให้ไวค่ะให้ไว จอดแป๊บเดียว


ลงจากรถไฟแล้วหันมาทางขวามือค่ะ "เกาะล้านไหมครั้บ เกาะล้าน" เอ้า! มีรถไปเกาะล้าน ขึ้นกันเต็มเลย แหงล่ะ วันนี้วันแรงงาน คนหยุดเยอะ ขึ้นรถเยอะ ตัวหารเยอะ เรามาวันธรรมดา คนเดียว คงเหมารถเหมือนกัน จอดข้างๆ เลย เห็นชัด เขาจะมาเรียกคนเอง เห็นวัยรุ่นขึ้นเต็มเลย ไม่แน่ใจว่าค่ารถคนละเท่าไหร่นะ เพราะไม่ได้ขึ้น เดี๋ยววันหลังจะหาวิธีไปให้ ไว้ว่างๆ ก่อน



เดินเลยรถสีแดงคันนั้นมาทางขวามือ เดินมานิดเดียว จะเจอแยกถนนเล็กๆ ซ้ายมือ เดินมาไม่กี่เก้า เจอวินมอเตอร์ไซค์เลยค่ะ เส้นนี้คือ ถ.เขาตาโล (จากที่ดูในแผนที่) ก่อนอื่นงงก่อน มองหน้าลุงวินแล้วบอกว่าไปคิวรถสองแถวใกล้เคหะ ฝั่งนู้นค่ะ เลยแยกเทพประสิทธิ์ ตลอดทางที่นั่งก็ถามนั่นนี่ว่ารถสองแถวไปไหนบ้าง สรุถปแกไม่รู้อะไรเลย เออ ได้!



ข้ามแยกเทพประสิทธิ์มา จ่าย 40 บาท แกจอดให้ลแถวคิวรถแท็กซี่ เดี๋ยวๆ แท็กซี่ไม่ได้แอ้มฉันหรอก มันต้องมีวิธีการเดินทางแบบคนท้องถิ่นสิ รอสองแถววนไป แล้วก็มา 1 คัน จะไปที่พัก นาจอมเทียนซอย 2 ผิดแผน! วาดแผนที่ผิด ตอนแรกกะจะไปวิ่งลงนาจอมเทียน แต่ไม่มีสองแถววิ่งไปทางนั้น ตั้งเข้าซอยไปอีก ซึ่งไกลมาก ไม่ยอมแพ้ค่ะ!



มันต้องมีวิธีที่ใกล้กว่านั้น ไม่อ้อม
มาตั้งหลักใหม่เลย ข้ามแยกเทพประสิทธิ์ กลับมาหัวถนนเขาตาโลที่เดิม เห็นป้ายราคาวินมอเตอร์ไซค์ช้ำใจมาก ความจริงลงหัวถนนแต่แรกก็แค่ 30 บาท ข้ามแยกไป 40 บาท พลาดเลย



หน้าตาแยกเทพประสิทธิ์ บนถนนสุขุมวิท ที่มีสองแถววิ่งเพียบ เอาใหม่ วางแผนใหม่ ศึกษาใหม่ พบว่า เส้นสุขุมวิทมีสองแถววิ่งเพียบ แต่สีของรถยังแยกไม่ออกนะว่าไปไหนบ้าง จะไปปากทางเข้าที่พักไง มาแบบมึนๆ walk in ไม่ได้เลยเนี่ย ต้องเผื่อเวลามึนรถท้องถิ่นก่อน


ออกจาก กทม.06.55 น. ถึง 10.39 น. (อันนี้คือกำหนดในตั๋ว ถึงจริงก็ถ้าเลทๆ ประมาณ 11 โมง แต่ก็นั่นแหละ เรายังเผื่อเวลาหลงได้อีกเยอะ เพราะส่วนใหญ่ โรงแรมเขาไม่เช็กอินเวลานี้ มึนไปมึนมา กี่โมงละ?



ใช้เวลารอสองแถวแป๊บเดียว ก็แยกสีไม่ออก รู้แต่ว่าเส้นสุขุมวิท วิ่งเยอะ เจอคันไหน โบกไปก่อน เราลงถนนใหญ่ แล้วเข้าซอยไปอีก มาทางนี้น่าจะใกล้และไม่อ้อมกว่าทางลงหาด


มาแล้ว เป็นสีขาวที่ลืมอ่านป้าย ขึ้นก่อนล่ะ พยายามถามคนในรถว่ากี่บาท บางคนบอก 20 บาท



อยู่บนรถ ก็เปิดแผนที่ไปด้วย เอาจุดหลักๆ ซอยที่เราจะลงใกล้ตลาดน้ำ 4 ภาค เอาเป็นว่าถ้าเลยตลาดน้ำไฟไกลแล้วไม่ใช่ละ ต้องรีบลง


เอ้า! ค่ารถสิบบาทเอง วิ่งมาไกลอยู่นะ



ลงตรงป้ายนี้เลย ความจริงนั่งเลยนิดหน่อย เดินมา เจอป้ายเขตเมืองพัทยา ก็เดินข้ามถนนมา เป็น นาจอมเทียน 2 ทะลุไปโรงแรมเราได้


มาถึงก็ฟ้าครึ้มต้อนรับเลย


ตัวเบ้อเริ่ม ใครๆ ก็เห็น ป้ายโรงแรมอยู่ข้างร้านร้านปูเป็น สรุปป้ายร้านอาหารสีเหลืองอ๋อยเด่นกว่า


มีวินตรงปากซอยด้วย มีอยู่คนเดียว ถ้าไม่เจอก็โบกวินที่วิ่งผ่านไปมาแถวนี้ได้ บอกไปโรมแรมไหน วินก็จะงงๆ พาไปผิดที่ ถือว่านั่งรถเล่นสำรวจโรงแรมในซอย ความจริงหาไม่ยากเลย โรงแรมเราอยู่ในซอยร้านปูเป็น แต่ค่ารถตกลงราคากันก่อนนะ คิด 30 บาท พาอ้อมไปสำรวจโรงแรม 55555


ทางเข้าอยู่ติดหาดเลย เดินออกมานิดเดียวก็ถึง


เข้ามาประมาณ 50 ม. ได้ ก็ถึงโรงแรมแล้ว แต่ก็มีงงบ้าง ตึกเหมือนกันหมด ดูป้ายดีๆ

อันที่จริงมีตัว D นี่ช่วยได้เยอะ สังเกตได้


ขอถ่ายรูปก่อน


มาถึงก็เที่ยง ลูกค้าคนอื่นเพิ่งเช็กเอ้าท์เที่ยงไง กว่าเราจะเข้าได้ก็ 14.00 น. เลยขอฝากของไว้ที่ล็อบบี้ก่อน แล้วออกไปเดินหาดช่วงน้ำลง ถ่ายรูปกำลังดี อากาศยังไม่ร้อนมาก


แต่ก่อนลงหาดขอสำรวจบริเวณล็อบบี้ก่อน




ความจริงให้เรานอนกรุยกรายตรงนี้ก็ได้นะ


เดินออกจากซอยแป๊บเดียวค่ะ


ออกมาดูชาวบ้านและนักท่องเที่ยวหาสมบัติช่วงน้ำลง


มองไกลๆ จะเหมือนคนไทย แต่ชาวต่างชาติล้วนๆ


นี่ก็มากับคนเมื่อกี้ มาหาเปลือกหอยตอนน้ำลด


ถ่ายเห็นฟ้ากว้างๆ พัทยาก็จะดูไม่วุ่นวายแล้ว


นี่ก็งงนะ เขาหาอะไรกันวะ




สวยดีเหมือนกันนะ
























ไจแอ้นท์ โนบิตะ และชิซูกะของเขา













ห้องทีเราพักเป็นแบบ Junior Suite Room เลือกเตียง Double bed ก็ได้นะความจริง แต่ดันเลือก Twin bed เพราะตอนแรกชวนเพื่อน แต่เพื่อนไม่มา เลยนอนคนเดียวกลิ่ง 2 เตียง




เขาจัดให้เตียงติดกันอยู่แถว เราไม่ได้จัด แต่ความจริงถ้าเจอเตียงแยกก็จับมาติดตลอด 5555











ออกกำลังกายได้ อยู่ชั้นบนสุดเลย


เราอยู่ตึก C สะว่าน้ำปิดปรับปรุงแต่ไม่บอกเราเลย ไม่มีป้ายบอกด้วย อุตส่าห์ขึ้นไปดูบนดาดฟ้า จนต้องลงไปถามที่ล็อบบี้ (โทรศัพท์ในห้องใช้ไม่ได้อีก) พนง.บอกว่าเข้ามาใช้ ตึก B ได้ เลยมาว่ายตึกนี้แทน ก็ถือว่าโชคดีไป ได้เห็นวิวทะเลหน่อย


ว่ายช่วงสายๆ ก่อนเที่ยงนี่แหละ ไม่มีคนบนชั้นนี้เลย ขึ้นมาคนเดียว ก็เป็นส่วนตัวดี


เสียดายได้เล่นแป๊บเดียว ตอนแรกจะมาเล่นกลางคืน วันที่มาถึง แต่ก็อย่างที่บอก ขึ้นไปดูแล้วปิด แต่ไม่ได้บอกว่าปิดเพราะอะไร ไอ้เราก็คิดไปเองอีกว่า เขาเปลี่ยนเวลา




ดูเหมือนน้ำในทะเลน่าเล่นนะ แต่ไม่เลย


แดดเปรี้ยง


เล่นน้ำไปด้วย อาบแดดไปด้วย


เมื่อคืนหลับเพลินแล้วตื่นสาย อาหารเช้า 06.00 - 10.00 แต่ พนง.แนะนำดี แนะนำว่าให้มาสักแปดโมง เพราะเช้าๆ กรุ๊ปจีนจะเยอะ กลัวรบกวน นี่ก็หลับเพลินอะไรเพลิน ตื่นมาอีก 10 นาที 10 โมงจ้า มากินจนเขาเกือบเก็บแล้ว มีคูปองอาหารแต่ไม่ได้แลก เดินมาตักๆ กินเลย



ความจริงมีเมนูอื่นด้วย แต่เขาเกือบเก็บแล้ว เลยกินแค่นี้


ร้านอาหารจะเยอะมากนะพัทยา แต่ถ้ามาคนเดียว เขิน ไม่อยากนั่งร้าน แต่อยากกินอาหารทะเล ข้างทางก็มี กลางวันไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่รถเข็นด้วยแหละ ฮ่าๆๆๆ ร้านรถเข็นเยอะช่วงกลางวัน เพราะคนจะซื้อ ไป นั่งกินกันตามชายหาด แต่บ่ายสามก็เก็บแล้ว กลางคืนก็พอมีร้านข้างทางอยู่บ้าง อยากกินอาหารทะเลแบบนั่งโต๊ะเล็กหรือซื้อกลับไปกินที่ห้องก็มีอาหารตามสั่ง



อยากกิน เห็นกุ้งกล่องละ 100 จะซื้อละ แต่เหลือบไปเห็นกั้ง (อันนี้เขายกไปแล้ว ถ่ายไม่ทัน) เลยซื้อกั้งทอดกระเทียม ให้เขาทำตรงนั้นให้เลย 120 บาท แล้วข้าวผัดปลาหมึกอีก 50 บาท


ซื้อมากินที่ห้อง ตากแอร์ ดูละครก็ได้สบายใจ กรุ๊ปทัวร์ลงร้านอาหารเยอะ อยากชิลๆ เงียบๆ จะกินตรงไหนก็ได้ ที่สำคัญคือหิว ถามว่ากั้ง 20 อิ่มไหม ไม่ค่ะ แถวปักปากจนเป็นแผล แต่สะใจซะงั้น ฮ่าๆๆๆ ถ้ายำแซ่บๆ คงอร่อยกว่านี้


ล็อบบี้ตอนกลางคืนก็จะอารมณ์นี้


เมื่อวานที่นั่งวินจะไปโรงแรม ตรงนั้นเห็นวินอยู่คนเดียว เขาบอกว่าปกติ มีลุงคนหนึ่งนั่งประจำ แต่ไม่รู้ลุงไปไหน น้องเลยมาส่งเรา และบอกว่าเอาเบอร์ไว้ แถวโรงแรมไม่มีวินกลับที่เดิน เลยเอาเบอร์ไว้ ก่อนออกจากโรงแรม 15 นาทีให้โทรมารับได้ นี่ก็โทรไป แต่เขาบอกว่าเขาติดลูกค้าที่อื่น แต่เพื่อนอยู่แถวนั้น จะให้เพื่อนมารับ เพื่อนบอกว่าอยู่วินแถวป้อมตำรวจ แถวแฟมมิลี่มาร์ท เป้นวิน ซอยชัยพฤกษ์ ซึ่งเมื่อวานเราเหมือนเดินไปแถวนั้น ซึ่งไกลอยู่ เกือบๆ กิโลได้ ดีที่มีเบอร์ไว้ ให้เขามารับไปส่งที่เดิม เขาไม่รู้ราคา บอกว่าเคยมา 30 บาท ก็คิด 30 บาทเหมือนเดิม


นั่งมาลงปากซอบป้ายปูเป็นเหมือนเมื่อวาน ก็รอสองแถว ไม่เกิน 15 นาทีก็มา อะไรก็ขึ้นไปเถอะ จากตรงนี้ถึงแยกเทพประสิทธิ์ไม่ไกลมาก สองแถวผ่านทุกคัน ราคา 10 บาท เหมือนเดิม อ่อ...ปากซอยตอนรอสองแถว จะมีลุงคนหนึ่งมาถามเหมารถไหม (เป็นสองแถวนี่แหละ) จะเหมา 100 นึงแน่ะ ไปเทพประสิทธิ์ ตีมึนไว้ ไม่ขึ้น จะรอสองแถว 10 บาท



ถึงแยกเทพประสิทธิ์แล้วลงจากรถ ข้ามมาฝั่งตรงข้าม ซอยเขาตาโล มองหาใครก็ได้ที่ใส่เสื้อวิน ฮ่าๆๆ บอกว่าไปสถานีพัทยาใต้ เขางงว่ะ มีสถานีรถไฟด้วยเหรอ พอวินอีกคนเดินมาบอกว่า "ก็ไอ้แป้นขาวๆนั่นไง" เขาเลยอ๋อ เออ มันเป็นที่หยุดรถ ไม่ใช้สถานีใหญ่โว้ยยยย เขาก็งงๆ แต่นึกออก แต่จะย้อนศรไปทางเดิมไม่ได้ ต้องอ้อมเข้าซอยไปออกอีกฝั่ง ค่าวิน 30 บาท


เขามีออกกำลังกายกันตรงนี้ด้วยอะ


ถึงก่อนเวลาไปอีก หาร้านนั่งไปมีเลย ตั้งรอเป็นชั่วโมงเลย ก็เดินโต๋เต๋ หาซื้ออะไรกิน เข้าเซเว่น นั่งม้านั่งแถวหน้าบ้านคนอื่นหลบร้อนไปก่อน เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมมาคุยด้วยอีก เลยถามเรื่องรถตู้พัทยาไปซะเลย ฮ่าๆๆ ถามเผื่อกรณีถ้าตกรถไฟ


เราหลบร่มใต้ต้นไม้ พี่แกนั่งตรงนั้นเป็นชั่วโมงเลย ไม่ร้อนเหรอวะ


นี่แหละแป้นขาวๆ ไม่มีที่ซื้อตั๋ว ไปซื้อบนรถได้ ว่างไง โทรไปถามคอลเซ็นเตอร์การรถไฟ เชาบอกว่าแนะนำมาสัก 13.00 น. ความจริงรถจะมาถึงตรงนี้ 14.15 น. ไม่เกินนี้ แต่แนะนำมาก่อนครึ่ง ชม.จะชัวร์กว่า คนท้องถิ่นก็บอกแบบนี้เป๊ะ ลุงวินคนที่เราขึ้นคันแรกหลังจากลงจากรถไฟตอนมาก็บอกว่า มาถึงก่อน 14.15 อย่าเกินนี้เด็ดขาด ไม่งั้นตกรถไฟ


มีคนมารอเป็นเพื่อน 3-4 คน พอรถใกล้มาถึงเราก็มายืนรอตรงนี้ละ


มาตรงเวลาเวอร์ 14.14 น. จริงๆ ด้วย จอดแป๊บเดียว ต้องรีบขึ้น




ซื้อตั๋วบนรถ 32 บาท หน้าตาจะเป็นแบบนี้ นึกถึงคูปองอาหารที่หมอชิต


กลับกรุงเทพแล้วจ้า นั่งบ่ายๆดี เดี๋ยวแดดร่ม ลมตกแล้ว เป็นชั้นสามเหมือนเดิม ย้ำว่าชั้นสามมีแค่ วันจันทร์-ศุกร์ ส่วนรถแอร์ ก็มีแค่เสาร์อาทิตย์ วิ่งเส้นทางเดียวกันนะจ๊ะ


กลับแล้วจ้า ขอให้ตัวเองเดินทางโดยสวัสดิภาพ


ผ่านแต่ละสถานี เดี๋ยวนี้ไม่ได้มองแค่สถานีนะ มองออกไปถนนข้างนอกด้วยว่าถ้าลงจากรถไฟแล้ว จะมีรถอะไรต่อเข้าเมืองได้อีก ต้องมองลึกซึ่งไปถึงตรงนี้


เราเห็นสองแถวตรงสถานีนี้ด้วยแหละ เดี๋ยววันหลังมาเซอร์เวย์แถวนี้ดีกว่า


เอาจริงๆ นะ เวลาจะไปเที่ยวคนเดียวเนี่ย พื้นฐานรักหมารักแมวสำคัญมากนะ เวลาเจออะไรแย่ๆ น้องก็เป็นที่ระบายให้เรา ฮ่าๆๆ

เวลาคนอื่นไม่อยากคุยกับเราเพราะเห็นเราแปลกหน้า เราก็คุยกับหมาแมวนี่แหละ

น้องหมาตามสถานีรถไฟคือจะรู้งาน ถ้ารถไฟวิ่งหรือกำลังจะมานางจะไม่อยู่ที่ราง แต่ถ้ารถไฟหยุดนางจะมาป้วนเปี้ยน หรือนอนใกล้ๆ ราง เคยสังเกตกันไหม?

เหมือนรถไฟวิ่งบนดิน แล้วประสาทสัมผัสของการได้ยินแรงสั่นสะเทือนของน้องหมาจะไวกว่าคน พอรถไฟใกล้มา (ทั้งที่เรายังไม่เห็นตัวรถ) น้องหมาจะหายหมดอะ รู้งาน ลองไปยืนเล่นๆ แถวสถานีรถไฟที่มีหมาเยอะๆ ดู

น้องหมาที่สถานีรถไฟนี่เจอบ่อยมาก นางจะชอบมำตัวเป็นเจ้าถิ่น บางตัวหลับๆ อยู่ จะไปเล่นด้วยก็มองแรง "ว่าไง มานุด"

นี่ก็เจอไม่ได้ มาถึงถิ่นแล้วต้องทักทายเจ้าถิ่นตลอด นี่ขนาด รถจอดแป๊บเดียวก็เกาะขอบหน้าต่าง

"หมาค้าบ หมาค้าบ หมาหันมาหน่อยค้าบ ขอถ่ายรูปหน่อยค้าบ"

อะ...น้องหันอ่าาาา น่าย้ากกกกกก






ความคิดเห็น