เที่ยวสุพรรณ 2 วันไม่น่าพอ นอกจากจะใกล้กรุงเทพแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ หรือบางสถานที่อาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างแต่ก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวซักที สุพรรณบุรียังเป็นจังหวัดที่มีเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ไทยเกิดขึ้นมากมาย อย่างที่หลายๆคนรู้จักก็คือ ชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในสงครามยุทธหัตถี จนได้มีการสร้างอนุสรณ์ดอนเจดีย์ขึ้นในช่วงเวลานั้น หลังจากที่เราสองคนได้มา 2Days1Night ที่จังหวัดสุพรรณบุรี บอกได้เลยว่าต้องมาซ้ำอีกแน่นอน เพราะยังมีอีกหลายที่ที่เราอยากไปมาก ใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวจังหวัดนี้เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรน่าเที่ยว ลองไปดูกันดีกว่าว่า ZIAstyle จะทำให้ทุกคนเปลี่ยนใจมา เที่ยวสุพรรณ กันได้หรือเปล่านะ :)


ถ้าใครต้องการจองโรงแรมที่ถูกที่สุดเราทำรีวิวการจองโรงแรมที่บทความ จองโรงแรมเว็บไหนดี จองโรงแรม ทั้งทีต้องสะดวกและคุ้มสุด

เที่ยวสุพรรณ : Day 1

(กรุงเทพฯ – The Mill's Cafe - หมู่บ้านมังกรสวรรค์ - ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง - วัดป่าเลไลยก์ - พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ - อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง)

ก่อนออกเดินทางเราก็ไม่ลืมที่จะกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวในวันนี้ของเราก่อน ด้วยแอพคูลๆอย่าง Google Maps ใครอยากรู้ว่าแอพนี้มันมีดีกว่าที่คิดยังไง ไปตามต่อกันได้ที่ แอพท่องเที่ยว โหลดฟรีๆไว้ติดมือถือ

Planning day trips by Google Maps


เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯกันประมาณ 8 โมง ออกเช้าหน่อยเพราะแพลนเที่ยวของวันนี้จะมีทั้งหมด 6 ที่ด้วยกัน แต่ละสถานที่อยู่ไม่ไกลกันมาก แต่เราสองคนใช้เวลาในการถ่ายรูปเยอะเลยต้องรีบออกเดินทางกันค่ะ จากกรุงเทพมาถึงสุพรรณใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้น

พอมาถึงก็แวะหากาแฟดื่มกันซักหน่อยที่ร้าน The Mill's Cafe ร้านกาแฟริมแม่น้ำบรรยากาศชิลๆ ทั้งกาแฟและขนมราคาน่ารักมากแถมอร่อยด้วย โดยเฉพาะเมนูวอฟเฟิลที่กลิ่นหอมแบบหอมมากกกกกก ที่นั่งของร้านจะมีทั้งโซนห้องแอร์และโซนในสวนติดแม่น้ำให้เลือกได้ตามใจชอบเลย ร้านจะอยู่หลังโรงเรียนสงวนหญิงในตัวอำเภอเมือง ขับรถเข้าไปเรื่อยๆจนสุดทางเลยค่ะ จะเจอหน้าร้านสีน้ำตาลโดดเด่นล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ เปิดให้มาชิลกันทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ 10:00-20:00 น. มีที่จอดรถเพียบค่ะ

หลังจากได้พักจิบกาแฟก็พร้อมลุยกันต่อที่ หมู่บ้านมังกรสวรรค์ และ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง 2 ที่นี้จะอยู่ติดกันเลยค่ะ ขับรถเข้าลานจอดรถหลังหมู่บ้านมังกรสวรรค์จะมีที่จอดเยอะมาก 2 ที่นี้ไม่เสียค่าเข้านะคะ แต่จะมีในส่วนของพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรที่อยู่ตรงรูปปั้นมังกรใหญ่ๆ ตรงส่วนนั้นจะมีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 299 บาท เด็ก 149 บาท เปิดให้บริการทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ วันธรรมดาจะเปิดตั้งแต่ 10:00-16:00 น. วันหยุดจะเปิด 09:00-17:00 น.และจะเปิดให้เข้าชมทุกๆ 20 นาที วันที่เราไปเป็นวันอังคารก็อดดูไปค่ะ

หมู่บ้านมังกรสวรรค์ เป็นหมู่บ้านที่สร้างจำลองเมืองลี่เจียง เมืองเก่าแก่ 800 กว่าปีในมณฑลยูนนานของประเทศจีน ด้วยความเก่าแก่และความสวยงามของเมืองนี้ องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีพ.ศ. 2540 นายบรรหาร ศิลปอาชาในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงสร้างเมืองลี่เจียงจำลองขึ้นมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมความสวยงามกันได้ทุกวันแบบฟรีๆเลยค่ะ

**แต่ละภาพได้เรียงลำดับตามที่เราไปและเขียนบรรยายไว้ใต้ภาพให้เพื่อนๆตามรอยกันได้เลยค่ะ :)

"หมู่บ้านมังกรสวรรค์" ประตูทางเข้าฝั่งที่จอดรถ

ถัดจากประตูทางเข้าจะเป็นสะพานข้ามบ่อน้ำสีฟ้าๆ เป็นอีกมุมที่น่าถ่ายรูปมากค่ะ

บนสะพานจะมองเห็นวิวหมู่บ้านมังกรสวรรค์แทบทั้งเมืองเลย

พอลงมาจากสะพาน ทางซ้ายมือจะเป็นโรงหนัง 4 มิติเปิดฉายด้วย

เดินเข้ามาเรื่อยๆจะมีสะพานข้ามบ่อน้ำเล็กๆน่ารักมากค่ะ สามารถนั่งพักผ่อนฟังเสียงน้ำไหลเพลินๆกันได้ตามสบาย

เดินมาสุดทางจะมีเซเว่นสไตล์จีนด้วย เลยแวะซื้อของถ่ายรูปเล่นซักหน่อย

หอชมวิวในหมู่บ้านมังกรสวรรค์ จะอยู่ติดกับประตูทางเข้าของอีกฝั่ง สามารถเดินขึ้นไปชมวิวได้นะคะ

ประตูทางเข้าหมู่บ้านมังกรสวรรค์อีกฝั่งหนึ่ง

ประตูทางเข้าหมู่บ้านมังกรสวรรค์ฝั่งนี้ จะอยู่ติดกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเลยค่ะ

"มังกรสวรรค์" ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดสุพรรณบุรี

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นสถานที่เคารพนับถือของชาวสุพรรณละคนทั่วไปมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว ด้วยความเก่าแก่และความสวยงามของงานสลักพุทธปฎิมากรรมของศาลหลักเมืองนี้ ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน เพื่อแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชื่นชมความสวยงามของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนี้ ใครที่จะแวะไปสักการะศาลเจ้าพ่อ เวลาเข้าไปอาจจะงงๆนิดนึงว่าต้องเริ่มไหว้จากจุดไหนไปยังจุดไหนก่อน ให้มองตามพื้นไว้จะมีตัวเลขบอกให้เราเดินตามจุด 1-4 เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ

หลังจากสักการะศาลเจ้าพ่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางขวามือของศาลจะเป็นอุทยานมังกรสวรรค์ สามารถเดินเข้าไปชมความสวยงาม และแวะถ่ายรูปกันได้แบบไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี

รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆภายในอุทยานมังกรสวรรค์

ระฆังมหามงคลตามความเชื่อของชาวจีนโดย ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา

บริเวณแขวนแผ่นไม้อธิษฐานที่อยู่ติดกับระฆังมหามงคลศาลก

ลางน้ำ มีความสูงทั้งหมด 7 ชั้น ในแต่ละชั้นจะมีรูปปั้นเทพ เจ้าให้ขึ้นไปสักการะและชมวิวจากมุมสูงได้ด้วยค่ะ

หลังจากนั้นเราสองคนออกเดินทางไปยัง วัดป่าเลไลยก์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดป่า อยู่ไม่ไกลจากบริเวณศาลหลักเมืองเท่าไหร่ วัดเก่าแก่คู่เมืองสุพรรณมาพันกว่าปีแล้ว ใครมาเที่ยวจังหวัดนี้ต้องแวะสักการะหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ที่มีความสูงถึง 23 เมตร (วันที่เราไปภายในพระวิหารหลวงพ่อโตปิดปรับปรุง เลยไม่ได้เข้าไปชมความยิ่งใหญ่อลังการของพระประธาน) อีกทั้งชื่อวัดแห่งนี้ยังมีปรากฏในวรรณคดีชื่อดังของไทยเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอนพลายแก้วบวชเณร จึงได้มีการสร้างอนุสรณ์ตัวละครเอก พิพิธภัณฑ์พระขุนแผนและบ้านขุนช้างไว้ภายในวัดแห่งนี้ด้วย

"วัดป่าเลไลยก์" บริเวณหน้าทางเข้าพระวิหารหลวงพ่อโต

บริเวณด้านข้างของพระวิหารหลวงพ่อโต

ภาพวาดเรื่องราวเกี่ยวกับวรรณคดีขุนช้างขุนแผนตามผนังทางเดินรอบพระวิหารหลวงพ่อโต

บริเวณทางเดินรอบพระวิหารหลวงพ่อโต

จากวัดป่าเลไลยก์ไปยังพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ประมาณ 30 กิโลเมตร หลายคนมักจะเรียกที่นี่ว่า อนุสรณ์ดอนเจดีย์ ครั้งในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้รับชัยชนะแห่งสงครามยุทธหัตถี พระองค์ทรงสร้างเจดีย์นี้ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ แต่ในปัจจุบันได้มีการสร้างเจดีย์แบบลังกาทรงกลมใหญ่มาครอบเจดีย์องค์ดังกล่าวไว้ตั้งแต่ในปีพ.ศ. 2495 สามารถเดินเข้าไปดูเจดีย์องค์เดิมภายในได้นะคะ ภายในนอกจากจะมีเจดีย์องค์เดิมแล้ว ยังมีรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระสุพรรณกัลยา ให้ประชาชนเข้าไปสักการะกันได้ตั้งแต่ 06:00-18:00 ของทุกวัน

พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์

ภาพนูนสงครามยุทธหัตถีสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชาแห่งพม่า

รูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและเจดีย์องค์เดิมตั้งแต่สมัยนั้น


ถึงเวลาเดินทางไปยัง อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ปางอุ๋งสุพรรณ จริงๆที่นี่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาลจริงๆค่ะ เราสองคนไปกันหน้าฝนก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย มีฝนตกแค่ปอยๆในตอนกลางคืนเท่านั้น ที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลยแม้แต่น้อยนะคะ ใครที่จะไปต้องวางแผนให้ดีๆก่อนเข้าไปในตัวอ่างเก็บน้ำ ในส่วนของที่พักก็มีให้เลือกทั้งแบบบนแพและแบบกางเต็นท์ ใครที่อยากพักบนแพแนะนำว่าให้รีบจองเพราะทั้งหมดมีประมาณ 8 แพเท่านั้นค่ะ

หลายคนถามเราว่า "ที่นี่ลำบากไหม" ตอบตามความจริงก็คือ แอบลำบากแค่ตอนอาบน้ำเท่านั้น เพราะเป็นห้องอาบน้ำรวมสไตล์ธรรมชาติแต่ปลอดภัยค่ะ ใครที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็แนะนำให้เตรียมน้ำสะอาดมาเองก็ดี แต่ถ้าความลำบากนั้นแลกมาด้วยบรรยากาศ และประสบการณ์ที่ได้เข้าไปสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง เราคิดว่ามันคุ้ม พักผ่อนฟังเสียงธรรมชาติและความเงียบสงบแบบใกล้กรุงเทพ จะช่วยชาร์ทพลังให้เพื่อนๆกลับไปทำงานได้อย่างเต็มที่แน่นอนค่ะ


สำหรับใครที่อยากรู้ละเอียดเกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง หรือ ปางอุ๋งสุพรรณ แบบจัดเต็ม ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เดินทางเข้าไปอย่างไร ไปตามกันต่อแบบละเอียดได้ที่ อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง วิถีแห่งความสงบใกล้เมืองกรุง

"อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง"

ที่พักแบบแพริมน้ำ

บรรยากาศตอนเย็นก็จะประมาณนี้ ลมเย็นสบายมาก ไม่อยากจะคิดถึงหน้าหนาวเลย

บริเวณที่นั่งพักผ่อนชมวิวของทางที่พักค่ะ


วิวจากแพของเรา อากาศดีพี่เค้าเลยขอพายเรือเล่นซักหน่อย :D

บรรยากาศตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น รีบตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนกลับเมืองกรุง

บรรยากาศดีแบบนี้ ใครมาเป็นคู่ก็จะฟินๆหน่อยเนาะ :)


เที่ยวสุพรรณ : Day 2

(อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง - เขื่อนกระเสียว - นาเฮียใช้ - วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ - กรุงเทพฯ)

Planning day trips by Google Maps

ออกจากอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงไปยังเขื่อนกระเสียว เขื่อนดินที่มีความยาวเป็นอันดับสองของประเทศไทยรองจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนนี้จะเป็นพื้นที่ประมงและใช้ในการเกษตรกรรมของชาวสุพรรณบุรี ด้วยความยาวของสันเขื่อนแบบสุดลูกหูลูกตา แถมยังมีจักรยานให้เช่าขี่รับลมชมวิวตอนเย็น ปัจจุบันเขื่อนกระเสียวจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งที่ของจังหวัดสุพรรณบุรี ใครที่ไปแล้วอาจจะงงๆกับ Google Maps ให้ถามทางชาวบ้านเอาง่ายสุดค่ะ

บริเวณที่ให้ปั่นจักรยานริมเขื่อนกระเสียว

นั่งรับลมชมวิวยามเช้า

มาคนเดียวกระเสียวจะตกเอา ใครลงมาเดินตามหินริมเขื่อน ขอให้เดินกันอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ

บันไดทางลงมาชมวิวแบบระยะใกล้ ห้ามลงไปเล่นน้ำโดยเด็ดขาดนะคะ

ไปกันต่อที่ "นาเฮียใช้" หรือศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ชาวบ้านประกอบอาชีพทำนากันเป็นจำนวนมาก และเฮียใช้ก็เป็นที่รู้จักกันดีในวงการของเมล็ดพันธุ์ข้าวของประเทศไทย เฮียใช้จึงได้สร้างที่นี่ขึ้นมาแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2558 เพื่อเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี

นอกจากที่นี่จะให้ความรู้เรื่องการทำนาและเรื่องข้าวแล้ว ยังได้จำลองวิถีชีวิตการเป็นอยู่ของคนไทยในอดีต รวมถึงสถาปัตยกรรมไทยที่หาดูได้ยากในสมัยนี้ ที่สำคัญไม่เสียค่าเข้าชมด้วยนะคะ ใครแวะมาก็อย่าลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือ คนที่ชอบปลูกต้นไม้ก็มีพันธุ์ไม้คุณภาพดีให้เลือกมากมาย ส่วนเราขอแวะอุดหนุนกาแฟสดจากร้านกาแฟเฮียใช้แล้วกันค่ะ ที่นี่เค้ายังมีจักรยานให้เช่าขี่ชมรอบแปลงนาด้วย แต่ชุดเราไม่อำนวยขอเดินสวยๆก็พอค่ะ แฮ่ :D

เวลาเพื่อนๆมาที่นี่ให้เสริชใน Google Maps ว่า ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย พิกัดถึงจะขึ้นนะคะ

ร้านกาแฟเฮียใช้

บรรยากาศภายในร้านกาแฟเฮียใช้ ตรงมุมบนขวามือจะมีชุดอุปกรณ์ขายกาแฟ ที่เฮียใช้ใช้ขายกาแฟจริงๆในช่วงวัยรุ่น

บริเวณทางเข้าของศูนย์เรียนรู้ สามารถขึ้นไปนั่งถ่ายรูปกับน้องควายได้ค่ะ

แปลงนาของจริง ห้ามเข้าไปเดินเล่นนะคะ

หอเตือนภัยชาวนา หรือ หอชมวิวที่มีจุดสำหรับถ่าย Selfie และขึ้นมาชมวิวนาเฮียใช

วิวแปลงนาจากหอชมวิว นาแปลงนี้ที่นี่เค้าจะเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆแล้วแต่โอกาส น่ารักมากๆเลยค่ะ

วิวนาเฮียใช้จากหอเตือนภัยชาวนาหรือหอชมวิว

ส่วนตัวนี้น้องควายตัวจริงเสียงจริง ขี่ไม่ได้ แต่ป้อนหญ้าได้ค่ะ

เรือนหนังสือข้าวและหนังสือพระราชกรณียกิจ

เรือนไทยในสมัยโบราณที่ดูสมจริงมากๆ


ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯเรามากันที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองหรือประมาณ 600 กว่าปีมาแล้ว วัดคู่บ้านคู่เมืองอีกหนึ่งแห่งในจังหวัดสุพรรรณบุรี อยากจะบอกว่าที่นี่เก่าแก่มากจริงๆค่ะ เพราะพระปรางค์สร้างด้วยการก่ออิฐขึ้นมาแบบไม่ใช้ปูน รวมถึงซากเจดีย์องค์อื่นๆรอบพระปรางค์เช่นกัน นักโบราณคดีต่างลงความเห็นกันว่า ลักษณะการสร้างเช่นนี้เป็นวิธีการในสมัยอู่ทอง ภายในพระปรางค์เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และปัจจุบันก็มีพระพุทธรูปให้สามารถขึ้นไปสักการะได้

พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี

สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ค่อยจะมีเวลาไปเที่ยวไกลๆ จังหวัดสุพรรณบุรีถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไม่ควรพลาด นอกจากจะใกล้กรุงเทพฯแล้ว จังหวัดนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวตอบโจทย์เพื่อนๆทุกแนว ทั้งสายธรรมชาติ สายเข้าวัดทำบุญ สายตลาดนัด หรือสายคาเฟ่ชิลๆก็มี บอกแล้วสุพรรณเค้าทันสมัย หวังว่า 2Days1Night with ZIAstyle ทริปแรกของเราจะไม่ทำให้เพื่อนๆผิดหวัง ไว้เราจะพาไปเที่ยวที่ใหม่ๆในจังหวัดสุพรรณบุรีกันครั้งหน้า เพราะ 2 วันไม่พอจริงๆค่าาาา


ฝากติดตามพวกเราและอ่านบทความอื่นๆได้ที่

Website : https://ziastyle.co

Facebook Page : https://www.facebook.com/ziastyle.co/

Twitter : https://twitter.com/ziastyle

ความคิดเห็น