![]() สองเท้าจะก้าวย่าง ยืน ณ ยอด ดอยหลวง-ดอยหนอก ตอนที่ 2 (จบ) ไต่ฟ้าพิชิตยอดดอยหนอก ความเดิมจากตอนที่แล้ว >> จากบ้านปากบอกถึงยอดดอยหลวง 9 กิโลเมตรกับ 7ชม.ครึ่ง กับการพาสองเท้าขึ้นมายืน ณ ยอดดอยหลวงพะเยา จุดสูงสุดของอช.ดอยหลวง ทันส่งตะวันพร้อมชมแสงสุดท้าย บัดนี้ท้องฟ้าฟากทิศตะวันลาลับเริ่มเข้าสู่ความมืด ดาวบนดินเริ่มระยิบระยับ ข้างล่างนั่นคือบ้านปงถ้ำ ถิ่นอ.วังเหนือ อาณาเขตของจ.ลำปาง ![]() หันมาทางฟากทิศตะวันออก กว๊านพะเยามองมุมสูงกำลังสว่างไสวใต้จันทร์เพ็ญและพราวไปด้วยดาวบนดินที่ระยิบระยับกว่าฝั่งปงถ้ำ เพราะว่าฝั่งนี้คืออ.เมือง จ.พะเยา นั่นเอง ถ้าเรามาเร็วกว่านี้วันเดียวทั่วท้องฟ้าคงกำลังดารดาษไปด้วยโคมลอยยี่เป็ง และคงแลเห็นหมู่กระทงลอยเต็มกว๊านพะเยา เนื่องจากเมื่อคืนนี้เป็นวันเพ็ญเดือนสิบสองนั่นเอง ฟ้าจวนมืด ไฟฉายคาดหัวพร้อม ก็เดินดุ่มลงจากยอดสูงสุดสู่ลาดเชิงดอย บนนี้ความจริงมีพื้นที่วางแคมป์ แต่น้องกลุ่มหนึ่งจับจองไว้แล้ว เรา 5 คนเลยเขยิบลงมาอีกหน่อย ปักหลักนอนโต้ลมหนาวใกล้ๆ ยอด ทำเลแคมป์บนยอดจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่แคมป์ตรงนี้กับวิวกว๊าน น่าจะเป็นโมงยามสุดฟินไม่แพ้ที่ใด ![]() อรุณสวัสดิ์ทักทัก เช้าวันใหม่ วันที่สองของทริป อากาศหนาวพอประมาณ แต่ลมทำให้สะท้าน แข็งใจมุดออกจากเต้นท์มานั่นลุ้นรอดวงตะวันโผล่ ![]() นั่งผิงไฟจิบกาแฟกรุ่นๆ เดี๋ยวเดียวตะวันก็ทอแสงพ้นขอบฟ้าละ ทางทิศตะวันตกค่อนใต้ ตำแหน่งประจำฤดูกาลแห่งหน้าหนาว หกโมงครึ่ง ดวงอาทิตย์ขึ้นราวๆ เวลานี้ และจะขึ้นช้าไปเรื่อยๆ กระทั่งปลายเดือนมค. จะไปขึ้นเกือบเจ็ดโมงตรง แล้วก็จะค่อยๆ เลื่อนเข้ามาเร็วขึ้นๆ อีกครั้ง และถ้าจะให้ขึ้นผ่ากลางกว๊านพะเยาคงต้องรอราวๆ กลางเมษา แต่นั่นก็จะเป็นดอยหลวงในบรรยากาศหน้าร้อน ไม่รู้จะฟินเหมือนยามนี้หรือเปล่า ![]() ชมตะวันกัน ช่วงเวลาดื่มด่ำธรรมชาติพิสุทธิ์ ก่อนที่จะเก็บแคมป์ ออกเดินทางกันต่อ ![]() ขณะนี้ เมฆไหลคลุมไปทั่วยอดเขา ทางพื้นราบข้างล่างในเมืองแหงนหน้ามองขึ้นมาคงเห็นยอดดอยหลวงมุดอยู่ในก้อนเมฆ เหมือนอย่างที่เราเห็นในวันแรกที่จะขึ้นมา ![]() คลิบหมอกไหลภาพถ่ายบ่อยครั้งก็ไม่สามารถเก็บบันทึกบรรยากาศจริงๆ ที่อยากจะถ่ายทอดได้ ก็ต้องอาศัยภาพเคลื่อนไหวล่ะครับที่จะรับไม้ต่อได้ดีที่สุดบรรยากาศเมฆพัดผ่าน พลิ้วหญ้าเล่นลมบนแคมป์ยอดดอยหลวงในเช้าวันนี้ https://www.youtube.com/watch?v=b6BD6DAd6bw อุณหภูมิอุ่นขึ้นเป็นลำดับ ปลดเสื้อกันหนาวออกเก็บในกองสัมภาระ ใส่เสื้อกันลมแทน ![]() เอาล่ะครับ เคลียร์แคมป์แล้ว ได้เวลาเดินทางกันต่อ จุดหมายหลักของวันนี้คือขึ้นพิชิตยอดดอยหนอก ไฮไลท์สุดของทริป ส่วนปลายทางคือย้ายแคมป์ไปนอนกันที่องค์พระเจ้าทันใจ ห่างจากจุดนี้ไปราว สองกิโลเมตรเท่านั้นเอง ใกล้มว้ากกก ไม่เคยเดินใกล้ขนาดนี้มาก่อน เหอะๆ ![]() อากาศกำลังดี บรรยากาศรอบด้านกำลังแจ่ม เดินเลาะยอดดอยหลวงกันอีกครั้งแล้วเทรลก็นำลง ดิ่งลงจากยอดดอยหลวงไปเรื่อยๆ สภาพเส้นทางช่วงที่ตัดลงจากยอดดอยหลวง เส้นทางจะเป็นในลักษณะลงเรื่อยๆ ช่วงชันๆ ก็สับฟันปลากันนิดหน่อย ![]() มีสลับขึ้นเนินเล็กน้อย แต่ตลอดเส้นทางถือเป็นขาลง ลดระดับจาก 16xx กว่าเมตร สู่ 14xx กว่าเมตรในระยะทางเพียงสองโล ![]() ป่าช่วงนี้สวยมาก โดยเฉพาะในยามปกคลุมด้วยม่านเมฆหมอกแบบนี้ถ่ายเป็นคลิบเก็บบรรยากาศให้ดูด้วย เทรลเดินสันดอยเสียดเมฆ จากดอยหลวง สู่ดอยหนอก https://www.youtube.com/watch?v=fbgJ0g_fPLA แผนที่เส้นชั้นความสูง ผมทำแสดงเส้นทางเดินขยายให้เห็นช่วงดอยหลวง สู่ ดอยหนอก ต่อเนื่ององค์พระทันใจที่เป็นจุดแคมป์จุดต่อไป เส้นสีฟ้าๆ คือเทรลเดินตามสันดอยของเรา ![]() ดอยหนอก ไฮไลท์ของทริปนี้โผล่มาให้เห็นเต็มตาอีกครั้ง ความจริงควรจะเห็นตั้งแต่อยู่บนยอดดอยหลวงแล้วล่ะ แต่เนื่องจากอากาศปิด มองจากมุมนี้แล้วยังไม่รู้ว่าจะเอาปัญญาที่ไหนปีนขึ้นไป นอกจากอย่างเดียวคือรู้ ว่ามีเส้นทางเดินขึ้น ... แต่ไม่ใช่มุมแรกที่เห็นนี้แน่ ![]() ประชิดเชิงดอยหนอกแล้วครับ ดูสิ หนอกยักษ์สู่ตระหง่านดั่งกำแพงแหงนหน้าตั้งมองขึ้นไปยังทิศทางสู่ยอดดอยหนอก ถ้าไต่ตรงนี้ก็ตรงวิชาปีนผาล่ะ ![]() ต้นปรง จุดปลงใจหรือจะไปต่อ ปลงสัมภาระ แวะพักตรงเชิงดอยหนอก จุดนี้ใกล้แล้ว ใกล้จุดเริ่มต้นไต่ดอยหนอก เราจะไต่ดอยกันก่อนแล้วค่อยกลับลงมาเพื่อไปจุดตั้งแคมป์ หรือจะเลยไปจุดตั้งแคมป์เสียก่อนแล้วบ่ายๆ ค่อยย้อนกลับมาป่ายปีนดอยหนอกก็ได้ จุดพักเหนื่อยต้นปรงตรงนี้ ถือซะว่าเป็นจุดปลงใจก็ได้ ใครสรุปตัวเองได้ว่าใจไม่มั่นพอ บางท่านอาจมีโรคประจำตัวคือกลัวความสูง ขึ้นดอยหนอกไม่ไหวแน่ ก็ปลงใจเดินตรงไปจุดตั้งแคมป์เลย ![]() แผนที่เส้นทางเทรลบนภาพถ่ายภาพดาวเทียม จากดอยหลวงสู่ดอยหนอกและแคมป์ ณ องค์พระทันใจ ![]() องค์พระเจ้าทันใจ มองจากระยะไกล ห่างออกไป 260เมตร มุมมองจากจุดเริ่มต้นไต่ดอยหนอก ![]() เริ่มต้นไต่ฟ้า พิชิตดอยหนอก มาถึงแล้วต้องขึ้น ขึ้นมาถึงนี่แล้วต้องไต่ มันเสียวสำหรับคนกลัวความสูง แต่ถ้าคุณไม่มีโรคประจำตัวแบบนั้น ไต่เถอะครับถ้าไม่พยายามกระโดดออกไปบนอากาศรับรองตกจากดอยหนอกยาก ไปกราบพระข้างบนกัน ![]() เสียวสุดก็เท่านี้ ผมถ่ายให้มันดูเสียวมากขึ้นเท่านั้นเอง ช่วงตอนที่เลาะผามุมหวาดเสียวมีสลิงค์ให้เกาะเกี่ยวครับ และทางก็ไม่ลื่น ทางเป็นร่องซุกเท้าหรือยันหินไปได้ หญ้าไม่ลื่น หินไม่ลื่น ใครจะถือเคล็ดเชิดหน้าอย่างเดียวไม่มองลงมาก็ไม่ผิดกติกา ![]() ซ้ายก็เสียวขวาก็เสียว ส่วนนี่มุมมองกลับหลังหันเสียวน้อยสุด พร้อมได้เห็นว่าเราไต่สูงขึ้นมาอย่างไร ดูโน่น มองไกลลงไปองค์พระทันใจที่ตะกี๊เห็นห่างอยู่เพียงสองร้อยกว่าเมตรบัดนี้เล็กลิบลิ่วสุดสายตาแล้ว ![]() ขอก้าวย่าง มายืนอยู่ ณ ยอดดอยหนอก วู่วู่ ยอดดอยหนอก 1,428 ม. ถึงแล้ว เป่าปาก ในที่สุดก็ถึง กับระยะทางไต่ฟ้า 200เมตร สถูปเจดีย์ขนาดย่อมๆ ตั้งเด่นตระหง่าน สัญลักษณ์แห่งพลังศรัทธาของชาวบ้านชาวเมืองที่ฝ่าความลำบากแบกความมุ่งมั่น อิฐทุกก้อน ปูนทุกถุง น้ำเอย ทรายเอย ไต่ฟ้าขึ้นมาสร้างประดิษฐานไว้บนนี้ สถิตย์เป็นที่เคารพสักการะ ทั้งแก่ชาวเมืองพะเยาและลำปาง ตลอดถึงจังหวัดใกล้เคียง ![]() สิ่งนี้เรียกว่าอะไรดี เทวดาอารักษ์! สลักอยู่สองฝั่งปากสถูป มองเข้าไปด้านในจะแลเห็นพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แบบพระพุทธชินราชที่จ.พิษณุโลก เหลืองทองอร่ามตั้งเด่นอยู่ตรงกลางภายในสถูปเจดีย์ ![]() ![]() กิเลนสลักอยู่ปลายทางก้าวขึ้นฐานสถูป ![]() พระสังขจายตั้งอยู่อีกมุมหนึ่งถัดไปใกล้ๆ กับกิเลนศาลาเล็กๆ อีกมุมหนึ่งของยอดดอยหนอก พื้นที่บนยอดดอยหนอกนี้มีขนาดเนื้อที่เล็กๆ ถ้าฟ้าเปิดเราคงจะได้เห็นวิวแทบจะ 360องศาบนนี้อย่างแน่นอน ![]() มองย้อนไปทางยอดดอยหลวง ที่อยู่ใต้เงาเมฆมาตั้งแต่เช้ายังมิจางยอดดอยหลวง พ้นเงื้อมเงาเมฆ โผล่มาแล้วนั่น ผมหยุดนิ่งยืนมองเมฆไหล มันไหลข้ามสันดอย จากฝั่งพะเยาไปฝั่งลำปาง มองเพลินมาก เพลินจริงโมงยามนี้ ![]() ป่าหมอก ![]() ได้เวลาลงจากฟ้าไต่กลับลงจากยอดดอยหนอก เวลาระทึกใจเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับคนที่ยังกลัวความสูงถึงแม้จะขึ้นมาถึงบนนี้ได้ดอยการแอบเชิดหน้าไม่มองลงในตอนไต่ขึ้นมา แต่ขากลับนี้ทำอย่างไรได้แล้ว จะเชิดหน้าไต่ลงก็คงสุดวิสัย ถึงเวลาต้องมุ่งมั่นเอาชนะใจตัวเองให้ได้แม้ขาจะสั่น .... สู้สู้ ![]() หลังจากกลับลงมายืนที่ฐานดอยหนอกสำเร็จ รอดกลับลงมาได้ยังไง! เราก็มุ่งหน้าต่อทันทีสู่บริเวณที่วางแผนไว้ว่าจะเป็นแคมป์คืนที่สอง ระยะทางเพียงสองร้อยเมตรกว่าๆ และถึงภายในเวลาไม่นานนั่น เวลาก็เพิ่งจะเที่ยงๆ เท่านั้นเอง ยุติแล้วสำหรับเทรลเดินวันนี้ มันสั้นมว้ากกก และนี่เป็นมุมมองย้อนกลับไปยังดอยหนอก ยังเห็นคนไต่กันลงมาอยู่เลย ![]() วงแดงๆ ไว้สองวง ให้เห็นคนที่กำลังไต่ดอยหนอกกลับลงมา มุมมองดอยหนอกอีกครั้ง อีกมุมมองมาจากบริเวณแคมป์คืนที่สอง ![]() แค้มป์คืนที่สอง ณ องค์พระเจ้าทันใจ จนท.บอกที่มาของชื่อพระเจ้าทันใจว่า เพราะใช้เวลาลงแรงสร้างกันเพียงวันเดียว! ปลดเป้ลงพักร่าง ได้เวลาพักผ่อน ![]() ถอดรองเท้าวางกองข้างๆ บ้างปล่อยฝ่าเท้าเปิดผิวสัมผัสดิน วันนี้เราจบการเดินที่เที่ยงวัน เป็นเทรลที่สั้นมาก พักยาวมาก อันที่จริงแคมป์คืนที่สองนี้อาจจะไม่จำเป็นเลยสำหรับคนที่มีเวลาจำกัด ลงจากดอยหนอกมาพักกินข้าวตรงนี้แล้วก็เริ่มตรงเดินลงกันได้เลยครับ จัดเป็นทริป 2วัน1คืนได้ แต่สำหรับผมต้องการแบบสบายๆ หน่อย มีเวลาอยู่กับธรรมชาติเยอะหน่อย เลยขยายเป็น 3วัน 2คืน และก็คุ้มค่าล่ะ แสงระเบิด ![]() ทริปนี้เมฆเยอะมาก เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อที่มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากเมืองจีนเพิ่งแผ่ปกคลุมเข้ามา อากาศเย็นปะทะกับแนวอากาศที่อุ่นกว่าท้องฟ้าเลยเลอะเมฆแบบที่เห็น แสงทองยามเย็นหลุดลอดเมฆมาแอบดอยหนอก รีบคว้ากล้องมาเก็บภาพอีกครั้ง ![]() บรรยากาศแคมป์สอง บริเวณองค์พระ กำลังสาละวนกันการหุงอาหาร ใกล้ๆ กันนี้เดินลงไหล่เขาไปหน่อยทางฝั่ง จ.พะเยา หรือทางหัตถ์ขวาขององค์พระจะมีศาลาที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้เป็นที่พักนอนได้ แต่ตอนนี้เต็มครับ นักท่องเที่ยวกลุ่มน้องๆ อีกกลุ่มที่เมื่อคืนปักหลักนอนบนยอดดอยหลวง วันนี้เขาย้ายมาปักหลักนอนในศาลาเหมือนกัน กลุ่มเราเลยมานอนหลังองค์พระเจ้าทันใจ อุ่นใจกว่าเพราะใกล้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง อิอิ เช้าวันที่สาม วันสุดท้าย ทริปดอยหลวง ดอยหนอกตะวันโผล่มาโน่นแล้วหลังดอยหลวงดอยหนอก ทะลุเมฆหมอกมาได้อึดใจเดียวก็ถูกกลืนหายไปอีก เราจัดการกับข้าวเช้าแล้วก็เก็บสัมภาระพร้อมเตรียมตัวลงกันล่ะ ![]() เอาแทร็กบันทึกปูมเดินทางจาก gps มาโรยลงบน Google Earth ครับ เส้นแดงๆ คือเทรลเดินของเราจากยอดดอยหลวงเดินตามสันดอยลงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขึ้นไต่ฟ้าพิชิตดอยหนอก และจากองค์พระเดินเทรลต่อเนื่องลงยาวมาแล้วเลี้ยวขวาลงดอยไปตามซอกเขา ![]() ฉายภาพอีกมุมหนึ่งครับ เส้นทางลงดอยฝั่งนี้เรียกว่าเส้นน้ำตกเกล็ดนาค หรือเรีกว่าเส้นขึ้นดอยทางฝั่งบ้านต๋อม ระยะทางเดินลง ถ้านับจากยอดดอยหนอกลงมาเลยก็ประมาณ 4.5 กิโลเมตร แต่ถ้านับจากตรงแคมป์องค์พระเจ้าทันใจก็ระยะทางประมาณ 4.2 กิโล ![]() เริ่มเดินลงดอยแปดโมงกว่าๆ เอาล่ะครับได้เวลาอำลา หันหน้ามุ่งทิศเหนือ ยึดแนวสันดอยกันต่อไป ![]() มองกลับหลังมาอีกครั้ง ตะวันยังคงอยู่ในม่านเมฆ พอๆ กับยอดดอยหลวงที่ถูกกลืนหายไปยังไม่โผล่มาไม่เห็นตั้งแต่เช้า กับภาพดอยหนอกสูงตระหง่านท้าสายตาอีกครั้ง ไปล่ะนะ ผาจังฮัง เดินมาได้สักระยะนึง จนท.ชี้ให้ดูหน้าผาสูงชันมากอีกยอด เรียกว่าผาจังฮัง เรียกตามชาวต่างชาติที่มาพิชิตไว้ ดูเหมือนจะชาวญี่ปุ่น ผานี้เห็นว่าอนาคตอาจจะส่งเสริมให้เป็นจุดโรยตัวไต่ผาสำหรับคอนักปีนผาทั้งหลาย ![]() เทรลดิ่งลงเรื่อยถึงจุดต่ำสุดระหว่างสันดอยก็หักมุมเปลี่ยนทิศไปทางตะวันออก ผาจังฮังที่ตะกี๊อยู่ทิศตรงหน้าย้ายมาอยู่ซ้ายมือแทนจากนั้นก็ลงดะมาเรื่อยๆ เลยครับ เส้นทางซอกเขาฝั่งนี้เหมาะเป็นทางลง แต่มีคนสวนขึ้นมาเหมือนกัน แต่ขอบอก เลือกเส้นทางฝั่งปากบอก (ตามที่รีวิวไว้ในตอนที่ 1) ดีกว่า เพราะถ้าขึ้นฝั่งนี้มีแต่ล้ากับล้า วิวก็ไม่มีให้ชื่นชม ![]() ผานางจูบ ตลอดทางลงระหว่างซอกเขา มันเป็นแนวลำห้วยแม่ฟาด แต่จะสังเกตไม่ค่อยเห็นห้วยหรอก และจุดผ่านจุดหนึ่งที่ชื้นฉ่ำ คือบริเวณผานางจูบ จะมีสายน้ำไหลแผ่บางฤดูก็เต็มผา เอากระติกไปรองน้ำกินได้ หรือจะไปยืนยื่นหน้าจูบผาเพื่อกินน้ำจากหน้าผาผ่านปากโดยตรงก็ได้ กลายเป็นที่มาของชื่อผานางจูบ และถ้าชื้นมากๆ ก็ ทาก! บริเวณนี้หาทากเล่นได้ถ้าต้องการ ![]() น้ำตกเกล็ดนาค อีกหนึ่งไฮไลท์ของเส้นทางสายนี้ มาถึงตรงนี้แล้วเท่ากับเดินมาได้ 3กิโลเหลืออีกเพียงโลสามก็จะสุดทางเทรล ถึงทางถนนจุดนัดพบคนกับรถ เหนื่อยมากกับทางชัน ขาแทบสั่น เหงื่อโทรมกาย หมดแรงชมน้ำตก แต่ก็แข็งใจปลดเป้ คว้ากล้องเดินไปถ่ายน้ำตกอยู่ห่างๆ ครับ ปิดท้ายด้วย infographic อีกภาพ แสดง elevator และระยะทางทั้งหมดจากจุด start ยันจุด stop ตลอดทริป ซึ่งระยะทางทั้งหมด รวมเดินขึ้นลงดอยหนอก อยู่ที่ประมาณ 15.6 กิโลเมตร ก็ตีไปว่าสิบหกโล จำง่่ายๆ ![]() ลาไปด้วยภาพนี้ สุดเทรลเดินทริปพิชิตดอยหลวง ดอยนอก รถมารอรับพวกเราแล้ว ![]() บรรทัดนี้ขอขอบคุณเหล่าผู้สนับสนุนหลักการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย-พะเยา เบอร์ติดต่อ 053-744674-5 และผู้สนับสนุนการเดินทางทุกท่าน อาทิ สายการบินนกแอร์ สนับสนุนเที่ยวบินไปกลับ กรุงเทพ-เชียงราย Avis Thailand สนับสนุนรถยนต์เดินทางตลอดทริป เอาร์ดอร์อินโนเวชั่น สนับสนุนชุดเดินป่า เสื้อกันหนาว กันลม เป้ และขาตั้งมินิ Keen Thailand สนับสนุนรองเท้าเดินป่า keen newport H2 และท้ายสุดขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวงที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านครับ สอบถามเพิ่มเติมได้อีกที่คือเพจผม https://www.facebook.com/Namfapakhao/ |
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 12.58 น.