*คำเตือน* รูปเยอะมาก
ทริปนี้ฉุกเฉินมาก เห็นเพจ "เป็นเรื่อง เป็นลาว" แชร์ภาพและกำหนดการจัดงาน "บุญไต้โคมไฟ (จุดประทีปโคมไฟ) ไหลเรือไฟ ก็หาเส้นทางรถโดยสารระหว่างที่ยังไม่เคยใช้บริการ เราเลือกเส้นทางน่าน-นครหลวงพระบาง ใครอยากใช้บริการต้องสอบถามวันที่มีรถบริการด้วย โทรได้ที่เบอร์ 054710027 ตอนนี้มีรถแค่คันเดียวจากฝั่ง สปป.ลาว รถไทยเจ๊งไปแล้ว เส้นทางนี้ออกจากจากสถานีขนส่งน่าน 8:00 ไปออกที่ด่านห้วยโก๋น-หงสา-ไชยยะบุลี-นครหลวงพระบาง ค่าโดยสาร 660 บาท กำหนดเวลาที่แจ้งไว้ 8 ชั่วโมงแต่คนขับใจดีแถมให้เราได้นั่ง ถึง 10 ชั่วโมง เรานั่งรถจากหมอชิต-น่าน 9.5 ชั่วโมง ต่อรถระหว่างประเทศอีก 10 ชั่วโมง ระบมกันไป หน้าตารถก็ประมาณนี้ ฝั่ง สปป.ลาวจะเรียก mini van
ด่าน ตม.ไทยไม่ต้องเขียนใบเข้า-ออกประเทศแล้วนะ เดินไปประทับตราได้เลย ส่วนฝั่ง สปป.ยังต้องเขียนอยู่
เส้นทางนี้จะผ่านโรงไฟฟ้าหงสา ก็เป็นอีกเมืองที่อยากไปเที่ยว เก็บภาพโรงไฟฟ้ากันสักนิด
ถึงร้านอาหารที่รถจะจอดให้กินมื้อเที่ยง ร้านนี้โอเคเลย ทำอาหารเร็ว ราคาปกติ
ออกจากร้านได้ไม่นาน ฝนตกหนักมาก รถก็เลยต้องขับช้าลง เห็นน้ำที่ไหลจากเขาลงมาแล้วสีแดงน่ากลัวเลย โชคดีที่คนขับชำนาญเส้นทาง ใครกลัวเรื่องห้องน้ำเส้นทางนี้จอดให้เข้าห้องน้ำเกือบตลอดทางเลยนะ ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน
หลังจากนั่งรถโดยสารระหว่างประเทศน่าน-นครหลวงพระบางแล้ว ก็โดนเกสเฮาส์ที่จองผ่าน agoda ไว้เทด้วยประโยค "ไม่ได้เปิดเมล์แล้วฝรั่งก็พักต่อ" แต่เขายังรับผิดชอบหาที่พักให้ใกล้ๆ กัน คืนแรกเราพักที่ Villa Luang Sokxay น้องที่นี่ดูแลดี ให้คำแนะนำดี และลดราคาทัวร์ตาดกวางสีให้เรา ได้เจอเนื้อ 1 ชามพอดี
ออกสำรวจเมืองมรดกโลก ในวันออกพรรษาที่นี่ก็จะสวยงามด้วยโคม ในวัดจะประดับประทับโคมไฟ และเรือไฟ
พระ-เณร คนหลวงพระบางก็ร่วมจุดไฟด้วย เป็นอีกงานบุญที่ทุกคนร่วมกันตามประเพณี
มานครหลวงพระบางก็ต้องมาตลาดมืด กินข้าวซอยร้านประจำ กินตำหลวงพระบางที่หลวงพระบาง กินสามชั้นปิ้งในซอยบุฟเฟ่ต์มังสวิรัติ
หลายอย่างเปลี่ยนไป แต่หลวงพระบางก็ยังเป็นหลวงพระบางที่สวยงามเสมอ ถึงเราจะมาสัมผัสกับเสน่ห์นี้ครบโหลพอดีแล้วก็เถอะ คืนแรกที่นี่ก็เดินเก็บภาพไปเรื่อย ทริปนี้ได้ผู้ใหญ่ใจดีให้ยืม Leica T มาใช้ด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้นเรารีบออกไปใส่บาตร ถ้าพักเฮือนพักแล้วเห็นประตูปิดอยู่เปิดเองได้เลยนะ เราเลือกไปซื้อข้าวเหนียวในตลาด 10,000 กีบ วันนี้ใส่บาตรร่วมกับคนหลวงพระบาง
พออิ่มก็เข้าตลาดหามื้อเช้าง่ายๆ 10 พันกีบก็อิ่มกำลังดี
ออกสำรวจตลาดกันอีกนิด ทุกรอบที่มาจะได้เห็นของแปลกตาตลอด ชอบดูของในตลาดท้องถิ่น
เดินมาริมโขง บรรยากาศดีมากๆ อากาศเย็นกำลังดี
เดินต่อมาวัดเชียงทอง มาวัดนี้เช้าๆ คนจะน้อย อยากถ่ายรูปแบบไหนก็ไม่มีคิว มุมมหาชนก็ไม่ต้องแย่งกับใครด้วย เสียปี้ ซาวพันกีบ
ออกจากวัดก็สำรวจเมืองมรดกโลกต่อ
ถึงเวลาจอยทัวร์ไปตาดกวางสี พอไปถึงเสียปี้อีก 20 พันกีบ เราก็เลือกเส้นทาง trekking รอบนี้แฉะ ลื่น เละเทะมาก
เลี้ยวผิดชีวิตเปลี่ยน เส้นทางนี้จะไปที่ส่วนตัวที่เขากำลังทำสวนน้ำ ระหว่างทางก็เจองูตัวเท่าแขนเลี้อยผ่านหน้าในระยะไม่ถึงเมตร ขากลับก็ต้องกลับทางเดิม เสียวจะเจองูอีก
กลับมาขึ้นจุดสูงสุดของน้ำตก เราแช่น้ำที่นี่ด้วย เย็นฉ่ำมาก
ขาลงใช้เส้นทางอีกฝั่งน้ำเยอะจนท่วมทางเดิน ใส่ผ้าใบมาชุ่มฉ่ำไปหมด ลงมาเก็บรูปมุมต่างๆ กับเขาบ้าง
หมดเวลาซนที่นี่ก็กลับเข้าเมือง ทัวร์จอดให้ทุกคนลงที่แยก Laos telecom เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ คืนนี้เราย้ายมาพักที่ Kinnaly Place House ห้องพักรวมอาหารเช้า ชอบที่นี่ที่เขาจ้างนักศึกษามาเฝ้ากะเย็น ให้นอนได้ถ้าไม่มีลูกค้า เช้าน้องก็ไปเรียนทัน
6 โมงเย็นตามที่น้องบอกไว้ว่ากำลังดีที่จะไปดูงานบุญไหลเรือไฟ ออกมาเจอบรรยากาศที่ทุกคนพร้อมสนุกกันแล้ว
เข้ามาวัดเชียงทองกันก่อน สวยและคนเยอะ
ถึงเวลามารอดูขบวนแห่ไหลเรือไฟแล้ว 52 ลำ สวยงามมาก ชอบความร่วมมือร่วมใจกันของคนทุกรุ่นทุกวัย บุญไต้โคมไฟ (จุดประทีปโคมไฟ) ไหลเรือไฟ เป็นบุญประเพณี ที่มีขึ้นในช่วงงานบุญออกพรรษาปวารณา โดยเฉพาะชาวนครหลวงพระบาง ได้สืบทอดกันมาแต่กาลเก่า ตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ของลาว ชาวนครหลวงพระบาง จึงนัดรวมกันในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันที่ 25 ต.ค.นี้ เพื่อร่วมกันไหลเรือไฟ ลอยกระทงบูชารอยพระบาทพระพุทธเจ้า ที่อยู่ใต้บาดาล
ปิดท้ายด้วยการลอยกระทงร่วมกับคนหลวงพระบาง
เช้าวันสุดท้ายมีเวลาน้อยมาก รถกลับน่านมีรอบ 8:00 น้องที่มารับก็นัด 7:20 ก็เลยไม่ได้ใส่บาตรแค่มาถ่ายรูป
มื้อเช้าก็เลยต้องกินแบบเร่งรีบมาก ระหว่างรอก็ออกมาถ่ายรูปอีกนิด
น้องโทรมาถามว่านั่งมอเตอร์ไซค์ได้ไหม พอบอกได้ก็พาแว้นซ์เลียบโขงก่อนไปส่งสถานีขนส่งขึ้นรถกลับน่าน (เราให้น้องจองตั๋วขากลับให้ น้องคิดค่าไปรับตั๋วและไปส่งเรา 20 พันกีบ)
ขากลับออกช้า 15 นาที ตลอดทางขากลับก็แวะเหมือนเดิม แต่พอข้ามฝั่งมาโดนตรวจหลายจุดมากๆ มาถึงสถานีขนส่งน่านก็ 18:30 แล้ว พอถึงทุกคนร้องเฮดีใจกันเลย ขากลับก็นั่งคุ้มมาก
ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่:
เพจ : ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.32 น.