พัทยาเป็นอีกที่ๆเรามาค่อนข้างบ่อย ด้วยความที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ร้านอาหารดีๆก็มีเยอะ
ที่เที่ยวหลากหลาย รอบนี้จุดประสงค์หลัก คือเราอยากมาเดินตลาดจีนชากแง้วค่ะ
เรามาถึงพัทยาเกือบจะเที่ยงเเล้ว เลยเเวะทานอาหารที่ The Simple Bistro & Serve
ร้านอยู่ข้างๆสวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค อเมโซน พัทยาเลยค่ะ
บ้านไม้สีขาวตัดกับต้นไม้สีเขียว สะดุดตามากๆค่ะ
เข้าไปด้านในร้านกันค่ะ
การตกเเต่งภายในร้านทำให้นึกถึงคำว่า "warm and cozy"
สั่งStrawberry banana smoothieมาทานระหว่างรออาหาร แก้วนี้อร่อย สดชื่นสุดๆค่ะ
Spaghetti carbonara เข้มข้น
ข้าวผัดต้มยำ รสชาติกลมกล่อม
ก่อนจะไปเที่ยวต่อ ขอเเวะเช็คอิน Marine Beach Hotel ที่พักของเราคืนนี้
โรงเเรมอยู่ตรงหาดจอมเทียน ด้านหน้าเป็นถนนเลียบหาดจอมเทียนค่ะ
เราจองห้องSuperior Room (Double bed) ไว้ค่ะ
เปิดเข้ามาห้องกลิ่นหอมมาก จริงๆหอมตั้งเเต่ทางเดินเลยค่ะ
ห้องน้ำโซนเปียกเเห้งถูกเเบ่งออกเป็นสัดส่วนด้วยกระจก
เครื่องอาบน้ำมีให้ครบ
มีเสื่อ ร่ม เเละผ้าเช็ดตัวสำหรับว่ายน้ำหรือเล่นน้ำที่ชายหาดให้ด้วยค่ะ
เตียงหนา ไม่นุ่มไม่เเข็งจนเกินไป นอนสบาย
อีกอย่างที่ชอบ คือการตกเเต่งเเละจัดวางในห้องขนาดเพียง 30 ตร.ม. มีทุกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นarmchairนั่งเล่น โต๊ะทำงาน โดยที่ทำให้เราไม่รู้สึกเเคบเเละอึดอัดค่ะ
ออกมาเดินเล่นดูบริเวณรอบๆโรงเเรมบ้าง
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ สามารถใช้บริการได้ตั้งเเต่ 07.00-20.00 น. ค่ะ
ไปชายหาดกันค่ะ
เพียงเเค่ข้ามถนนด้านหน้าก็ถึงหาดจอมเทียนเเล้วค่ะ
ประมาณสี่โมงเย็น เราออกมาเดินตลาดจีนชากเเง้ว ขับมากจากที่พักประมาณ 25 นาทีค่ะ
ตลาดนี้จะมีเเค่วันเสาร์นะคะ เริ่ม 16.00 จนถึง 21.00น.
**ขอบคุณข้อมูลการเดินทางจากเว็บไซด์ travel.mthai.com**
สามารถจอดรถได้ที่ โรงเรียนเทศบาล1 บ้านหนองชากเเง้วค่ะ
ยอมรับว่าเคยจำชื่อที่นี่เป็น ซากเเง้ว(ซ โซ่) เพราะไม่ชินกับคำว่าชากเเง้ว มันฟังดูเเปร่งๆ เลยลองหาประวัติที่นี่ดู พบว่าจริงๆ "ชากเเง้ว" เพี้ยนมาจากคนจีนที่อออกเสียงว่า "ชั่งงิ้ว" หรือ "ชะเเง้ว"
มากกว่า 100 ปีเเล้วที่ชาวจีนเเต้จิ๋วล่องเรือมาตั้งรกราก จนกลายเป็นชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดค่ะ
ที่นี่จึงยังหลงเหลือกลิ่นอายเเละวัฒนธรรมของชุมชนเชื้อสายจีนโบราณ จะเห็นว่าสองข้างทางคงมีบ้านเรือนไม้เก่าแก่ ถึงเเม้จะมีความสมัยใหม่เข้ามาปะปนบ้างเเต่เราก็ยังสัมผัสบรรยากาศนั้นได้ค่ะ
ถ้าพูดถึงของกิน มาตลาดจีนชากเเง้วไม่อดตายเเน่ๆค่ะ ตลอดทางเต็มไปด้วยอาหาร ขนม ของทานเล่น
เดินเข้ามาครึ่งทางจะเจอศาลเจ้าแม่ทับทิม
ใครเมื่อยจะใช้บริการรถลากก็ได้นะคะ ได้อารมณ์ไปอีกเเบบ
เดินขึ้นมาเรื่อยๆเจอบ้านหลงชากเเง้ว เข้ามาเเล้วจะเจอบรรยากาศร้านกาแฟและโรงเตี๊ยมเเบบในอดีต
มีเครื่องใช้สมัยก่อนจัดเเสดง
จุดสุดท้าย เรามาลองทานก๋วยจั๊บ
สั่งมาเเค่ชามเดียวค่ะ เพราะต้องเก็บท้องไปทานอาหารเย็นต่อ
สำหรับรสชาติยังไม่ถูกใจเราเท่าไหร่ค่ะ
ไปต่อกันที่ Sea Blue Restaurant เราจะมาทานอาหารพร้อมดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่นี่กันค่ะ
อยู่นาจอมเทียน 14 ร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นานค่ะ
จะเลือกนั่งด้านในแอร์เย็นๆ
เดินข้ามสะพานมาก็ถึงชายหาดเเล้วค่ะ บริเวณนี้มีโต๊ะให้นั่งได้เช่นกัน
อาหารพร้อมเสิร์ฟเเล้วค่ะ เริ่มด้วยน้ำมะพร้าวปั่น สูตรเฉพาะของทางร้าน
ลาบเเซลมอน จานนี้อร่อยมากค่ะ
กุ้งทอดซอสมะขาม
หมึกแซ่บซีบูล น้ำราดมารสชาติจะคล้ายๆพล่าค่ะ
ถ้าใครมองหาร้านอาหารริมทะเลบรรยากาศทั้งโรเเมนติก ทั้งชิลล์ อาหารรสชาติดี
Sea Blue Restaurant เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเมื่อมาพัทยาค่ะ
ร้านเปิดทุกวัน เวลา 12.00-24.00น.
ก่อนจะจบรีวิว ขอทิ้งท้ายด้วยอาหารเช้าที่ Marine Beach Hotel (อาหารเช้ารวมในค่าที่พัก)
ห้องอาหารอยู่ทางด้านหน้าของโรงเเรมค่ะ
อาหารมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย อร่อยเกือบทุกอย่างค่ะ
ซุ้มก๋วยเตี๋ยว เเละไข่ทอดเเบบต่างๆ
ไม่ว่าจะอาหารไทยหรือฝรั่งมีหมดค่ะ

ประทับใจอาหารเช้าเเละที่พัก รวมทั้งการบริการของพนักงานมากๆ ปกติจะชอบเปลี่ยนที่พักในการเที่ยวเเต่ละครั้งไปเรื่อยๆ เเต่ Marine Beach Hotel เป็นที่หนึ่งที่เราจะกลับมาพักอย่างเเน่นอนค่ะ
เที่ยวพัทยารอบนี้เป็นอีกทริปที่happy จริงๆค่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ:)
Go with Sweet Toddy Palm
วันพฤหัสที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 13.52 น.