ฤดูฝนมาถึง ก็นึกถึงที่นี่อีกครั้ง “ป่าบงเปียง” หน้าฝน ไปเที่ยวไหน ก็ต้องเจอฝนอยู่แล้ว ยิ่งขึ้นเขา ขึ้นดอย ยิ่งเจอฝน แต่ฝนก็ทำให้เส้นทางสถานที่ที่เราไปชุ่มฉ่ำ
แม้ว่าเราจะเคยไปที่ที่นั้นมาแล้ว บรรยากาศไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอนครั้งก่อนเราเคยได้มาเที่ยวที่นี่แล้ว เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม ในช่วงนั้นนาข้าวออกรวงแล้ว และส่วนใหญ่ก็โดนเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว เลยตั้งใจว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง อยากมาเห็นนาเขียวๆ ที่เพิ่งเริ่มดำนา ก็เลยเป็นที่มาของทริปนี้ แต่ครั้งนี้เรามีเพื่อนๆ เดอะแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ #CB500F ของเรามาลุยกับเราด้วย ยิ่งทำให้ทริปเดิมๆของเรา มีความสนุกมาขึ้น เลยเก็บบรรยากาศมาฝากครับ
#ทริปที่มีแต่ถนนคอนกรีตลูกรังนิดเดียว หราาาาาาาาาาา ..........
ออกเดินทางไปกันเลย
พวกเราออกเดินทางกันคืนวันพฤหัสบดี ที่ 27 กันยายน 61 ซึ่งจุดนัดพบของพวกเราอยู่ที่ปั๊ม ปตท. ม.กรุงเทพ และพร้อมออกเดินทางประมาณเที่ยงคืนได้ ซึ่งระหว่างทางเราไม่ได้ถ่ายเก็บบรรยาาศมาให้ดูเลย มีแค่จุดแวะพักระหว่างทางของพวกเรา
เส้นทาง
กรุงเทพ - นครสวรรค์ - ตาก - กำแพงเพชร - ลำปาง - เชียงใหม่
หลังจากนั้นเข้า อ.จอมทอง - อินทนนท์ - แม่แจ่ม - บ้านน้ำออกฮู - ป่าบงเปียง
เส้นทางบางช่วงของนครสวรรค์ - ตากมีการทำถนนอยู่บ้าง
หลังจากนี้เราขอวาร์ปไปยังจุดหมายของเราเลยแล้วกันนะ
ถึงแล้ว " ป่าบงเปียง "
ถึงแล้ว เช้าวันใหม่ที่สดใส สายฝนโปรยปราย พวกเรามาถึงกันประมาณบ่ายๆ ( แวะเพลินไปหน่อย 555 )
จอดรถ เก็บของเข้าที่พัก ก็แยกย้ายกันพักผ่อน เพราะเดินทางกันมาทั้งวันแล้ว
ระหว่างที่เพื่อนๆ แยกย้ายกับพักผ่อน เราเลยลงไปตลาดเพื่อซื้อของมาทำหมูกะทะกินกันตอนเย็น เราให้พี่เจ้าของบ้านขับรถพาเราไปส่งที่ตลาดได้นะ
นี่คนนี้พี่เจ้าของบ้านของเรา ชื่อ " พี่นา "
เราซื้อของกันเสร็จก็กลับมาที่บ้าน เจอรถติดหล่ม ปิดทางอยู่ รถของเราเองก็ขึ้นไม่ได้ แหม..อีกนิดเดียวเอง ทำยังไงได้ก็ต้องลงเดินสิ แล้วทางก็ชันนิดนึงด้วยนะ เล่นเอาหอบเบาๆ เหมือนกัน
พี่นาเรียกตัวช่วยมารับ เราก็ได้แต่มองตาปริบๆ
นี่กลับลงมารับพวกเราใช่มั้ย .... เปล่า 555 เดินเองก็ได้ นักเลงพอ
ที่จริงพี่นาเค้ามีอาหารให้เราอยู่แล้วนะ แต่พวกเราแค่อยากกินหมูกะทะเลยไปซื้อของมาทำเพิ่มเอง
วันนี้พวกเรามี surprise party ของพี่ในกลุ่มกันนิดหน่อย แต่เอาภาพออกมาให้ดูไม่ได้ 555
ไปพักผ่อนกันดีกว่า พรุ่งนี้จะพาไปชมนาข้าวเขียวๆ กัน
เช้านี้ที่ ป่าบงเปียง อีกวัน
ตื่นเช้ามาฝนก็ยังคงตกเป็นพักๆ หมอกนี่เต็มเลย
ฝนหยุกตกแล้ว ไปดูนากันดีกว่า พี่นามีบริการขับรถไปส่งเราด้วยนะ กระโดดขึ้นกระบะมาเลย
ขับรถขึ้นมาแปปเดียว ก็ถึงแล้ว นาขั้นบันไดที่เราตามหา ไม่พูดเยอะเนาะ ไปดูกันเลยดีกว่า
และความสุขของเราก็จบลงที่หมอกขาวๆ ที่คลืบคลานเข้ามาหา แต่นั่นมันไม่ใช่หมอก นั่นมันฝน
แล้วก็กลับมาทานอาหารเช้า อาบน้ำ เก็บของ แต่งตัวเคลื่อนย้ายไปที่อื่นต่อ
ก่อนออกมาแชะรูปกันก่อน หมอกกำลังมาเลย
มัวแต่โอ้เอ้ ฝนลงเม็ดมาอีกแล้ว พร้อมออกกันจริงๆ ละ
อันนี้ขอแว๊นลงไปเอง พวกสายซ้อนทั้งหลาย อยู่รอรถกระบะมารับไปเจอกันข้างล่างนะ
เพราะอะไรถึงให้สายซ้อนของเรารอขึ้นรถกระบะน่ะหรอครับ ไปดูกันต่อไป
ทางมันก็จะเละๆ หน่อย เพราะไหนจะฝน ไหนจะน้ำค้าง ลงไปแล้วก็ต้องขึ้นมาดูเพื่อนด้วย
ผ่านด่านมาแล้วก็ใช่ว่าจะรอด อันนี้รถเพื่อนจอดแล้วเข้าเกียร์ไม่ได้ ก็เลยเป็นภาพอย่างที่เห็น ก็ต้องมาช่วยยกกันไป
ป่ะ ไปด่านต่อไปกันต่อ ภาระของเรายังไม่หมดเท่านี้
ตรงจุดนี้ ขาขึ้นไปผมก็แปะไปรอบนึง เจ็บใจชะมัด 555
ทุลักทุเลกันจนได้ รอดปลอดภัยกันทุกคัน
ก็รอสายซ้อนของเราก่อน ตอนลงมาเพิ่งเห็นรถที่จะไปรับสวนขึ้นไป
จัดของขึ้นรถเรียบร้อย เดินทางกันต่อดีกว่า
กลับออกมาเจอทางดำ มันก็จะเริงร่าหน่อยๆ
ก่อนจะเข้าเมือง เราเลยขึ้นไปบนยอดดอยอินทนนท์กันก่อน ระหว่างทางหมอกหนามาก อากาศไม่ต้องพูดถึง เย็นอยู่แล้ว แถมลมแรงมากด้วย
จบแล้วทริปลุยป่าบงเปียง โหด มันส์ ฮา เปียก แฉะ อับชื้น กันทุกวัน ก็เราออกทริปหน้าฝนอ่าเนาะ เลี่ยงที่จะเจอฝนไม่ได้ เสื้อกันฝนใส่คลุมทับเสื้อการ์ดแทบจะทุกเวลา รองเท้านี่ไม่ต้องพูดถึง แต่ข้อดีคืออากาศมันจะไม่ร้อนมาก และบรรยากาศข้างทางมันก็จะเขียวๆ มองแล้วสบายตา
ส่วนค่าใช้จ่ายที่พักของเรา
เราพักกันที่ เลข่อทิวิว โฮมสเตย์ บ้านตีนผา / บ้านป่าบงเปียง
เบอร์ติดต่อ : พี่นา 09 4196 834 1 / น้องแมกซ์ ลูกสาวพี่นา 09 5847 8831
ID line : tao0629512503
ราคาที่พัก : 500 บาท/คน ( รวมอาหาร 2 มื้อ เย็น , เช้า )
ปล. มีไฟฟ้าให้ใช้ตลอด 24 ชั่วโมง
เที่ยวแบบเรา : Once-a-month
วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.10 น.