--------------------------------------- S a p p o r o . O t a r u -------------------------------------

นี่เป็นกระทู้และรีวิวแรกของเรา มีอะไรตกหล่นยังไงต้องขออภัยด้วยค่ะ มือใหม่หัดเขียนจ้า..เรามีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่เคยมาฮอกไกโดเลย จึงตกลงนัดกับเพื่อน เพื่อร่วมทริปการเดินทางครั้งนี้ วางแผนกันเอง จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วรถไฟ เป็นทริปที่ชิลล์ๆสบายๆอยากเที่ยวไหนก็ไป เราวางสถานที่ท่องเที่ยวกันเยอะมาก แต่ที่ได้ไปจริงๆคือน้อยมาก เพราะความชิลล์และขี้เกียจของพวกเรา จึงกลายเป็นที่มาของทริปสโลว์ไลฟ์^^

เกริ่นก่อนดีกว่าเพื่อคนที่ยังไม่รู้.. Hokkaido อยู่ในประเทศญี่ปุ่น เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น Hokkaido จึงมีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี รวมไปถึงทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยว ควรมาให้ได้สักครั้งในชีวิต..

---

ค อ น นิ จิ ว ะ

สวัสดียามเช้า กับอากาศที่สดใส สิ่งพลาดไม่ได้เลย คือ ตื่นก็ถ่าย กินก็ถ่าย นอนก็ถ่าย ขยับตัวเป็นถ่าย ถ่ายรูปวนไปจ้า ^^ วันนี้จะพาไปเที่ยว Otaru (โอตารุ) .. โอตารุคืออะไร?? เมืองโอตารุ เป็นเมืองเล็กๆ เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์บนเกาะฮอกไกโด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น อีกแห่งหนึ่งที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกัน

เริ่มด้วยสถานีรถไฟ หยิบบัตร JR ออกมาแล้วไปรอขึ้นรถไฟที่สถานีซัปโปโรกันค่ะ นั่งไปลงสถานี minami otaru ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

ถึงแล้ววววว..ออกจากสถานี ขอสักรูป ไปต่อได้ค่ะ เดินข้ามถนน แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ

เดินมาสักพักจะเจอคลองโอตารุ Otaru Canal ในที่สุดฉันก็มาถึง LAND MARK ของโอตารุแล้วววววว ถ้ามาไม่ถึงที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงโอตารุนะคะ!!! เมืองโอตารุ อดีตเมืองท่าเล็ก ๆ ที่ยังคงเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ช่วงเวลาที่เราเลือกไปนั้น บรรยากาศอาจไม่โรแมนติกเหมือนตอนมีหิมะคลุม แต่อากาศเค้าดีจริงๆ คอนเฟิร์ม!!!! ช่วงนี้แค่เดินเล่นรับลมเย็นๆๆ ก็ฟินแล้วค่ะ

เส้นทางถนนรอบๆเมือง เป็นเส้นทางร้านขายกล่องดนตรีและเครื่องแก้ว 2 ข้างทาง และยังเต็มไปด้วยร้านของฝาก ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขนมต่างๆมากมาย ของกินเยอะขนาดนี้ และร้านที่ห้ามพลาดคือ ขนมร้าน LETAO รออะไรหล่ะ กินต่อไม่รอแล้วนะ ^^

เดินเล่นชิวๆจนมาถึง Otaru Music Box Museum คือพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเก่าแก่ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนถนน Sakaimachi Dori เป็นอาคารสไตล์ตะวันตก ด้านหน้าของอาคารมีนาฬิกาไอน้ำจากเมืองแวนคูเวอร์ตั้งอยู่ ส่วนภายในอาคารมีทั้งโซนจำหน่ายกล่องดนตรีและของที่ระลึกต่างๆมากมายและโซนที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของกล่องดนตรี ใครอยากได้กล่องดนตรีไปฝากคนรัก ที่มีชิ้นเดียวในโลก ต้องมาที่นี่เลยค่ะ รับรองประทับใจแน่นอน

สถานที่ต่อไปที่เราจะไป คือ กระเช้าถูเขาเทนงุ Tenguyama Ropeway เป็นจุดชมวิวสวยๆๆของเมืองแบบเต็มๆ เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแบบ 360 องศา โดยจุดนี้นับว่าเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองโอตารุ ท่าเรือ และอ่าวอิชิการิได้ทั้งหมด บนนี้จะมีร้านขายของทีระลึกและภัตตาคารรับประทานอาหารไปพร้อมกับการชมวิว บนนี้อากาศเย็นมาก คือดีย์

แผนที่ เมืองโอตารุ Otaru

เดินเมื่อยมาทั้งวัน สำหรับคืนนี้คลายเส้นนิดนึง .. บ๊าย บาย ฝันดีจ้า

---

ทุกๆเช้า ก่อนออกเดินทาง ..

เมือง Sapporo การเดินทางภายใน Sapporo นั้นไม่ลำบากเลย เพราะเมืองนี้ค่อนข้างเจริญในเรื่องของขนส่งมวลชน คือมีทั้งรถไฟใต้ดิน 3 สาย มีรถเมล์ ซึ่งเชื่อมต่อกันหมด

วันนี้อากาศสดใสมาก เหมาะแก่การเดินทางไปโรงงานช๊อคโกแลต Ishiya Chocolate Factory โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ ด้านในประกอบไปด้วย ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์โรงงานช็อกโกแลตพร้อมจำหน่ายช็อกโกแลตหลากหลายรูปแบบ สายหวานห้ามพลาด มาญี่ปุ่นทุกครั้งต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก ใครลองได้ชิมคือฟินนนนน อร่อยมากค่ะ การเดินทางเริ่มต้นจากสถานี Odori แล้วต่อด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Tozai ไปลงที่สถานี Miyanosawa แล้วเดินไปอีก 10 นาทีก็จะถึงโรงงานช็อคโกแลตแห่งนี้

สำหรับเย็นนี้ ก็จะหรูหราหน่อย เป็นร้านที่ทัวร์ไทยชอบพามาลง บุฟเฟต์ปูยักษ์ มีปูหลายแบบมาก ถึงเวลากินไม่เคยจะได้ถ่ายรูป ไม่เคยจำชื่อร้านอีกแล้ว รู้แต่แพงมาก มื้อนี้หมดไป 1600 บาทต่อหัว

แหล่งช๊อปปิ้ง ย่าน ทานุกิโคจิ Tanukikoji อยู่ไม่ไกลจากย่านกลางคืนซูซูกิโนะ เป็นแหล่งช๊อปปิ้งที่ดูคลาสสิคอยู่ภายใต้หลังคาคลุมยาวกว่า 1 กิโลเมตร แบ่งเป็น 7 ส่วน 7 บล๊อค สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายสินค้ากว่า 100 ร้าน ทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเกม ร้านสะดวกซื้อ ร้านยา ร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า ABC Mart หรือแม้แต่ร้าน Don Quijote ร้านขายของฝาก และอื่นๆ สารพัดร้านค้ามากมาย ถือเป็นย่านละลายทรัพย์แบบล้มละลายได้เลย รูปอาจจะน้อยเพราะมัวแต่แวะช๊อปปิ้งเพลินจนลืมถ่าย ^^

ยามค่ำคืน ย่าน ซูซูกิโนะ Susukino เป็นย่านที่เต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ใครที่ชอบความบันเทิงเริงใจยามค่ำคืน อยากสัมผัสไลฟ์สไตล์แบบคนญี่ปุ่นแท้ๆต้องมาที่นี่เลยค่ะ เต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ย่านนี้ไม่ต้องกลัวอดอยากเลยค่ะ เพราะตามซอยเล็กๆในย่านนี้ จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร

อาหารเย็นวันนี้ ปิ้งย่าง ปิ้งย่าง รมควัน รมควัน จำชื่อร้านไม่ได้ รู้แต่อยู่บนตึกในย่านซูซูกิโนะ อร่อยมาก รู้สึกว่าอาหารที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น อร่อยทุกอย่าง 5555 คิดไปเองสุด

คืนที่สองของเรา จะพลาดได้ไง ... Drink drank drunk ... สองร้านในคืนเดียวจ้า ดื่มต่อไม่รอแล้วนะ

อากาศเย็นเหมาะแก่การจิบเบียร์เย็นๆ ร้านแรกมันก็จะแพงๆหน่อย พนักงานหล่อเวอร์ อยากได้ๆ เหล้าที่ว่าขม เห็นหน้าเธอแล้วยิ่งหวาน อิอิ..กินเท่าไหร่ก็ไม่เมา ขืนยิ่งกินร้านนี้สงสัยจะหมดตัว ..ไปค่ะ ไปดื่มต่อร้าน Local ริมถนนดีกว่า ย่านซูซูกิโนะ คือดีย์มากๆบอกเลย เบียร์ถูก หอยสด โอ๊ยฟินนนนนนน เมาไม่นับหลับเป็นแพ้ 555

---

สำหรับเช้านี้ หนึ่งรูปเบาๆ

วันนี้เริ่มด้วย สวนสาธารณะโอโดริ Odori ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโรจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ ในฤดูร้อนจะเห็นสวนเขียวขจีมีสีสันสวยงาม ส่วนในฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจนเป็นสีขาวโพลน นอกจากนั้น สวนแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่ในการจัดเทศกาลหิมะซัปโปโร สวนนี้แบ่งออกเป็น 5 ส่วน คือ ส่วนดอกไม้ ส่วนพบปะสังสรรค์ ส่วนขอบเขตความรู้ ส่วนโอเอซิสและส่วนแลกเปลี่ยน ภายในมีหอคอยโทรทัศน์ สูง 147.2 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของซัปโปโร ยังมีน้ำพุในสวนจตุรัสนี้อีกด้วย

ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า หรือ ทำเนียบอิฐแดง Former Hokkaido Government Office Building (Red Brick Office) นั้นเป็นอาคารขนาดใหญ่ซึ่งทำจากอิฐสีแดงและเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของฮอกไกโด ตัวอาคารสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 และได้ใช้งานมากว่า 80 ปีก่อนที่จะย้ายไปยังอาคารศาลาว่าการหลังใหม่ที่อยู่ด้านหลัง เข้าชมไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

มีรถม้าให้นั่งชมเมืองด้วย

ทริปนี้เหมือนมาเดินเล่น มากินอย่างเดียว เข้าห้างดีกว่าหิวล่ะกินได้ ..ชอบอ่ะ พนักงานน่ารักกกกก

คอนเทนแรก เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า จริงๆไปมากกว่าที่เขียน เบื่อความขี้เกียจของตัวเอง ประสบการณ์ เพื่อนร่วมทาง แล้วพบกันใหม่ สัญญาจะไปอีก ญี่ปุ่นเที่ยวที่ไหนก็ไม่เบื่อ ไปแล้วไปอีกก็ไม่เบื่อ ขอบคุณที่อ่านจนจบ^^