หนาวนี้ที่ Splendid Hotel @ Khaoyai

ลมหนาวพัดมาแล้ว เป็นเรื่องปกติที่เราจะหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองกรุงไปพักผ่อนสมอง นอนชิลล์ ชิลล์ เพื่อสร้างพลังให้กับตัวเองไว้มาลุยงานต่อในปีหน้า

สัปดาห์นี้ผมกับพรรคพวก เลือกที่จะไปเขาใหญ่กัน เพราะใกล้กรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน

เรานัดเจอกันที่ ปตท.สนามเป้า จุดนัดพบยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ใช้รถตู้เป็นพาหนะในการเดินทาง

เราใช้เวลาในการเดินทางไม่นานก็มาแวะถ่ายรูปเล่นกันที่ Palio Khaoyai

แวะถ่ายรูปกันสักพัก พอคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งรถตู้เราก็นั่งรถต่อไปที่พักของเราที่จองไว้ ไม่ต้องแปลกใจนะครับ ว่าทำไมเราแวะเที่ยวกันน้อย เพราะเป้าหมายของทริปนี้คือการไปนอนพักผ่อนชิลล์ ชิลล์ กันที่ Splendid Hotel @ Khaoyai

มาถึง Splendid Hotel @ Khaoyai ติดต่อเช็คอินเรียบร้อยแล้ว

แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้องไปหาข้าวเที่ยงกินกันก่อน ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลครับ จัดกันที่ห้องอาหารอรามิสของโรงแรมกันนี้แหละ

ห้องอาหาร อรามิส (Aramis Restaurante)

เป็นห้องอาหารของโรงแรม ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น อาหารของที่นี่จะมีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่งและอาหารสไตล์ฟิวชั่น

มื้อเที่ยง มากันหิวๆ ก็ต้องจัดชุดใหญ่กันหน่อย มาทั้ง ต้มยำกุ้งแม่น้ำน้ำข้น ยอดทานตะวันผัดน้ำมันหอย ไก่ทอดสมุนไพร ลาบทอด ยำคอหมูย่าง ปลากระพงผัดฉ่า ตบท้ายด้วยไอติมทอดเป็นของหวานล้างปาก อาหารแต่ละอย่างนอกจากหน้าตาที่น่ากินแล้ว รสชาตยังอร่อยอีกด้วยนะครับ บอกเลย อิ่มและฟินมาก

ต้มยำกุ้งแม่น้ำน้ำข้น

ยอดทานตะวันผัดน้ำมันหอย

ไก่ทอดสมุนไพร

ลาบทอด

ยำคอหมูย่าง

ปลากระพงผัดฉ่า

ไอติมทอด

กินอิ่มกันแล้วก็ได้เวลาหลบแดด ไปนอนพักบนห้องสักพักรอให้แดดร่ม ลมตก เพื่อไปเดินดูโรงแรมกับผู้จัดการ ตามที่ได้นัดกันไว้ตอนเย็น

แต่ก่อนที่จะไปดูห้องที่ผู้จัดการพาไป เดี๋ยวมาดูห้องที่ผมนอนกันก่อนดีกว่าครับ ห้องที่ผมนอนเป็นห้องประเภท ROCK SUITE ROOM โดยที่ในห้องจะประกอบไปด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก ห้องนอนจะเป็นห้องเตียงใหญ่นอนได้ 2 คนนะครับ

หลังจากนอนพักจนหายเหนื่อย ก็ไปเดินดูบรรยากาศของโรงแรมกันดีกว่าครับ ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง ที่เวลาเรามาพักแล้วสามารถเข้าไปใช้กันได้

สระว่ายน้ำ

ห้องฟิตเนส

ส่วนมุมนี้ ผมขอเรียกว่าห้องของเล่นแล้วกันครับ เพราะมีทั้งโต๊ะปิงปอง โต๊ะสนุ๊ก แล้วก็เกมแข่งรถ ไว้ให้ได้สนุกกัน

แล้วก็ยังมีมุมสำหรับเด็กน้อยอีกด้วย

หลังจากที่เดินดูส่วนต่างๆ ของโรงแรมแล้ว ดูนาฬิกาก็ได้เวลานัดเดินดูห้องหรู ของโรงแรมกับผู้จัดการกัน

วันนี้จะพาไปดู 2 ห้องที่ดีที่สุดของทางโรงแรมกันนะครับ

ห้อง President Suite เรียกว่าเป็นห้องที่ดี่ที่สุดของโรงแรมเลยก็ได้ เป็นห้องขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก และมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในห้อง ว่ายน้ำไปด้วยดูวิวเขาใหญ่ไปด้วยบอกเลย สุดยอด แอบถามราคามา ถ้าเป็นช่วง High Season วันศุกร์ เสาร์ จะอยู่ที่คืนละ 12,000 บาท

ห้อง Floral Family Suite ห้องขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีระเบียง ห้องเป็นวิวภูเขา เหมาะกับการมาพักผ่อนของครอบครัว

อีกส่วนของโรงแรมจะเป็นคอนโดมิเนียมที่ปล่อยขายในชื่อ Sucre ที่ยังเปิดขายอยู่ตอนนี้มี 2 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดห้อง 45.83 ตารางเมตร และ แบบ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาดห้อง 114 ตารางเมตร

จุดเด่นของ Sucre คือการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ของ Asana ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนต และยังเลือกใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard อีกด้วย สำหรับใครที่อยากได้คอนโดกลางธรรมชาติ ที่มีความสะดวกสบาย ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ Sucre ตอบโจทย์ความต้องการแน่ๆ

เดินดูโรงแรมกับคอนโดกันเพลินเพลิน แป๊บเดียวก็มืดแล้ว เราก็ไปอาบน้ำ แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ลงมาทานมื้อค่ำกันที่ห้องอาหารอรามิสกันอีกเหมือนเดิม โดยมื้อเย็นคืนนี้เราจะหม่ำอาหารฝรั่งกัน จัดกันชุดใหญ่อีกแล้วอะไรที่เป็น signature ของทางห้องอาหารเราจัดกันมาครบ ไม่ว่าจะเป็น ซุปเห็ด สลัดผัก มินิเบอร์เกอร์ พิซซ่าฮาวายเอี้ยน สเต๊ก ในส่วนของสเต๊กของทางร้านมีให้เลือกทั้ง หมู ไก่ เนื้อ และปลาแซลมอน ตบท้ายด้วยบลูฮาวายปั่นช่วยให้อาหารอร่อยยิ่งขึ้นไปอีก กินกันไปคุยกันไป เวลาแห่งการพักผ่อนก็หมดลงเราต่างแยกย้ายกันไปนอน เพื่อเดินทางกลับในเช้าวันรุ่งขึ้น

ซุปเห็ด

สลัดผัก

มินิเบอร์เกอร์

พิซซ่าฮาวายเอี้ยน

สเต๊กหมู

บลูฮาวายปั่น

ตื่นมารับบรรยากาศยามเช้า ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงาม ดูหมอกยามเช้า ที่สวยงามและรับประทานอาหารเช้ากันก่อนกลับมาเจอความวุ่นวายที่เมืองหลวง

อาหารเช้าเป็นไลน์บุฟเฟ่ มีทั้งแบบไทย เช่น ข้าวต้ม ไข่กะทะ ปาท่องโก๋จิ้มนม และแบบสากล เช่น สลัด ไส้กรอก แฮม ก็กินกันเบาๆ ตามที่แต่ละคนชอบ

ออกจากโรงแรมมาไม่นานเราก็แวะไร่องุ่นกรานมอนเต้ ไร่องุ่นที่มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ เป็นไร่องุ่นที่ปลูกไว้ผลิตไวน์ และภายในไร่ยังมีร้านขายของที่ทำจากองุ่นอีกด้วย ด้านหน้าของไร่จะมีต้นองุ่นปลูกไว้ให้เดินชมกันได้ โดยฉากด้านหลังจะมีวิวเป็นภูเขา

ก่อนกลับเราก็แวะไหว้พระเสริมสิริมงคลให้ตัวเองกันสักหน่อย ที่วัดเทพพิทักษณ์ปุณณาราม ที่มีพระพุทธรูปปางประทานพรสีขาวองค์ใหญ่ตั้งเด่นอยู่บนเขา

จบแล้วกับทริปพักผ่อนชิล์ ชิลล์ ที่เขาใหญ่ ครั้งหน้าผมไปเที่ยวที่ไหนอีกเดี๋ยวจะกลับมาเขียนรีวิวให้อ่านกันนะครับ

สำหรับใครที่ในใจอยากไปพักผ่อนโรงแรมบรรยากาศดีๆ ผมแนะนำ Splendid @ Khaoyai ไว้ให้ลองไปพักกันดูครับ

สามารถติดต่อจองห้องพักได้ที่เว็บไซต์ : www.splendidkhaoyai.com หรือ Facebook : https://web.facebook.com/splendidkhaoyai/

ติดตามผมได้ที่เพจ : สี่ตาพาตะลอน : This is My World และมาพูดคุยเรื่องเที่ยวกันได้ที่กรุ๊ป : คนเดียวก็เที่ยวได้