บริเวณบ่อล้างแร่เก่า
เหมืองปิล๊อกเป็นชื่อที่ผมได้ยินมานาน เมื่อหลายสิบปีก่อนเหมืองปิล๊อกและอำเภอทองผาภูมิ อยู่ในยุคเฟื่องฟูจากการทำเหมืองแร่ดีบุก เคยเป็นขุมทรัพย์ ขุมทองของนักแสวงโชคทั้งหลาย มีทั้งคนไทย พม่า และผู้คนแถบอินเดีย เป็นยุคทองของการทำเหมืองแร่ มาจนถึงปี 2528 ราคาแร่ตกต่ำทั่วโลก เหมืองแร่ทยอยปิดตัวลง รวมทั้งเหมืองปิล๊อกด้วย ทำให้เมืองอันรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ ต้องเงียบเหงา สงบลง แต่ปัจจุบันกลับฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง ด้วยมนต์เสน่ห์ของตำนานเหมืองเก่า ความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย แบบ Slow Life ปิล๊อกและชุมชนบ้านอิต่อง ยังเป็นฐานรวมพล สำหรับนักเดินเขาสไตล์ Trekking เพื่อไปยังเขาช้างเผือก ซึ่งต้องใช้เวลาเดินเท้าจากบ้านอิต่องไป 8 กิโลเมตรใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ลายกว้างที่มีซากรถเก่าๆ และเคร่องจักรการทำเหมืองของเหมืองแร่ จอดเรียงอยู่อย่างเป็นระเบียบ
มนต์เสน่ห์แห่งเหมืองเก่า
การมาเที่ยวปิล๊อก มาได้ทางรถยนต์ ขับรถมาเองหรือเช่าเหมารถตู้มาได้ เส้นทางมีโค้งมากถึง 399 โค้ง รถใช้ความเร็วไม่มาก แต่ไม่ถึงกับอันตราย ขับรถมาได้ทุกประเภท แม้แต่รถเล็กซิตี้คาร์ก็ไม่มีปัญหา ทางบางช่วงมีชำรุดบ้าง ระยะเวลาที่พัก เริ่มจาก 2 วัน 1 คืน หรือจะเป็น 3 วัน 2 คืน จะดีมาก เพราะที่เที่ยวในละแวกเหมืองมีหลายแห่ง เช่น น้ำตกจ๊อกกระดิ่น, น้ำตกผาแป, จุดชมวิวเนินช้างศึก, จุดชมวิวเนินเสาธง หรือ เหมืองสมศักดิ์ป้าเกริน ซึ่งที่หลังนี้ถือว่าเป็นการเดินทางที่โหดสุดๆ ต้องเป็นรถขับเคลื่อน 4x4 ล้อเต็มรูปแบบ และผู้ขับต้องมีความชำนาญด้วย ผมอยู่ถึง 4 วัน 3 คืน แต่ก็นับว่าคุ้มค่ากับเวลามาก ไม่มีความรู้สึกว่าอยู่นาน เก็บภาพได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
บริเวณเหมืองเก่ามีบ่อน้ำ มีปลาคาร์ฟสวยงามอยู่เต็มบ่อ เป็นจุดภักนัำที่ไหลมาจากน้ำตกด้านบนภูเขา
ภาพนี้เป็นทางเดินไปน้ำตกปิล๊อก แต่หน้านี้น้ำแห้ง ไม่มีคนเดินเข้าไป ทางเดินเลยรกไปด้วยตันไม้ เข้าไปไม่ได้แล้ว
ที่เหมืองปิล๊อกมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น เมื่อมีนายทุนบุกรุกบริเวณเหมืองเก่า สร้างเป็ฯรีสอร์ทบ้านพักหรูริมบ่อน้ำ และที่พักเรือนแถวบนเขา ถูกทางการฟ้องร้อง การก่อสร้างจึงยุติไป กลายเป็นบ้านร้าง เป็นสัญญลักษณ์ตราบาปมาจยทุกวันนี้
กลางคืนบริเวณเหมืองมึดสนิท เงียบสวบ หากเป็นคืนเดือนมึด จะมองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า ผมไปตั้งกล้องถ่ายดาว 2 ชั่วโมง ข้อแนะนำ ควรชวนเพื่อนไปด้วยนะครับ เพราะเงียบมากกกกกก
การเดินทางมาปิล๊อก อีกหนึ่งทางคือ เฮลิคอปเตอร์ มีลานจอด ฮอ อยู่บนเขาใกล้โรงเรียนและวัด ส่วนลานจอดฮออีกที่หนึ่งคือ ฐาน ตชด.บรเนินช้างศึก ซึ่งห่างไป 1 ก.ม. ท่านที่มี ฮอ ส่วนตัว หรือเช่าเหมาลำมา สามารถเดินทางมาได้อีกนึ่งช่องทางครับ ไม่ต้องนั่งลุ้นมาในคเลยรถ สบายๆ ครับ
เริ่มที่บริเวณเหมืองเก่าปิล๊อกยังคงมีโครงสร้างและอุปกรณ์ทำเหมือง เครื่องจักร รถโบราณให้เห็น หลงเลืออยู่ พร้อมกันนั้นก็จะมีสิ่งก่อสร้างใหม่ที่ถูกระงับ และปิดทิ้งร้างไว้คือบ้านพักตากอากาศริมบ่อน้ำ ที่ยังสร้างไม่เสร็จ และเรือนแถวที่สร้างเสร็จแล้วอยู่บนเขาถูกปิด ทั้งสองสิ่งก่อสร้างนี้คือสิ่งที่รัฐบาล เอาผิดกับนายทุนที่บุกรุกเหมืองเก่าปิล๊อก ผมได้เก็บบรรยากาศทั่วไปตอนกลางวัน และยังได้ขึ้นไปบนที่โล่งเนินเขา เพื่อเก็บภาพ Time Lapse ดาวหมุน ได้อีกด้วย
จากเหมืองร้างปิล๊อก ผมพามาอีที่หนึ่งครับ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น อยู่ห่างจากเหมืองปิล็อกไปประมาณ 1 กิโลเมตร
น้ำตกจ๊อกกะดิ่น
เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่มีความสูงไม่มาก น้ำตกไหลเป็นช่องสวยงามตลอดทั้งปี น้ำที่ลงมาใสค่อนข้างออกไปทางสีเขียว ขับรถเข้าไปจอด และเดินทางราบอีกเล็กน้อย นักท่องเที่ยว นิยมไปพักผ่อนเล่นน้ำกัน เป็นแอ่งน้ำที่ไม่ลึก และมีบริเวณไม่กว้างมาก ช่วงหน้าฝนน้ำมีปริมาณมาก มีละอองฝุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ แต่ช่วงหน้าหนาวน้ำลงมาไม่มาก กำลังสวยงามไม่มีละอองน้ำ ตั้งกล้องถ่ายภาพได้สบายๆ ครับ
คอนเท้นท์นี้ เป็นเหมืองร้างปิล๊อก รวมกับน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ที่ดูแล้วภาพพอสมควรครับ ส่วนเนื้อเรื่องไม่ฝอยมากนะครับ พอประมาณ เป็นเนื้อความเดียวกับที่ผมเขียนลงในหนังสือ กลุ่ม "Camerart Magazine" ของอาจารย์นพดล Nophadon Camerart Mag Achasuntisuk ฉบับเดือน มกราคม 2562 ติดตามอ่านกันได้นะครับ
ส่วนที่เหลืออีก 2 เรื่อง บ้านอีต่อง และ เหมืองสมศักดิ์ที่ผมเกาะท้ายกระบะ 4x4 ไปเยี่ยมป้าเกรน พ่วงไปกับวัดป่าบนเขา คอยติดตามชมกันนะครับบอกเลยว่า ภาพสุดติ่งกระดิ่งแมว จริงๆ
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วทิศ
วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.01 น.