สวัสดีจ้า เหลี่ยมมาแล้ว วันนี้มาพร้อมกับพาหานะคู่ใจคันใหม่ เจ้า New triton 2019 หลังจากที่ได้ใช้งานเจ้าวีออสดำคันเดิม เติมแก๊สมาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่า วิ่งกันบ้าคลั้งไป เกือบ 240000 โล
จนได้เจ้า CRF250RALLY สองล้อคู่ใจ มาแบ่งเบาภาระพี่วีออส ในช่วงระยะสองปีหลัง คราวนี้พอถึงเวลาผ่อนหมดทั้งสองคันแล้ว
พร้อมเป็นหนี้คันใหม่กันต่อ หวยเลยมาออกที่เจ้า New triton คันนี้ เรื่องราวความเป็นมาจะเป็นยังไงไปชมกัน
ทริปนี้จะรีวิวทั้งรถและที่ท่องเที่ยวเช่นเคย ทริปนี้ เราเลือกไปกันที่จังหวัดลำพูน ผาแดงหลวงครับ บอกเลยว่าสวยเกินคาดกว่าที่คิดไว้ เป็นไงไปกันเลย
ออเดิฟวิวที่ผาแดงหลวง โชคดีมาเจอช้างเชือกแรกของปีตั้งแต่มกราเลย
โปรแกรมคร่าวๆทริปนี้ วันที่ 19-20/1/2562
วันแรกขับรถมาเช้าที่ลี้ วัดพระพุทธบาทผาหนาม แล้วเข้าอุทยานแห่วชาติแม่ปิงเท่ยวที่แรก น้ำตกก้อหลวง
ต่อด้วยแก่งก้อล่องเรือแม่น้ำปิงไปยังโรงแรียนบ้านก้อจัดสรรในหนังคิดถึงวิทยา แล้วกางเตนท์ที่ทุ่งกิ๊ก
เช้าที่สองตื่รตี3 นั้งรถเข้าไปจุดชมวิวผาแดงหลวงสวยมากมีทางช้างเผือกด้วย แล้วลงมาสายๆ ก่อนกลับแวะ วัดพระบาทห้วยต้มและพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย และปิดท้ายด้วยอุยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย
ก่อนไปชมดู VDO สั้นๆก่อนได้ครับ เหมือนเดิมทริปนี้อุปกรณ์บันทึกภาพทั้งหมดมาจาก
Nikon D7200 tokina 11-20 fix35 tamron 70-300 vc และ Gopro hero 4 silver
เอาล่ะก่อนจะไปชมรีวิวขอพูดถึงความเป็นมาก่อนจะมาเป็นเจ้าMitsubishi triton 2019 คันนี้กันหน่อย ใครขี้เกียจอ่านข้ามไปเลยก็ได้ครับยาว555 รีวิวทริปนี้อยู่ข้อความถัดไป
หากใครเคยอ่านรีวิวเก่าๆของผมตั้งแต่รีวิวแรกเลยที่เริ่มเขียนก็ประมาณ 4 ปีกว่ามาแล้ว ช่วงนั้นพึ่งเรียนจบจึงได้เริ่มเที่ยวอย่างจริงจังเพราะทำงานเต็มตัว ตอนแรกซื้อวีออสตั้งแต่สมัยเรียน มหาลัยปี3 ช่วงนั้นขับวินมอไซด์รับจ้างตั้งแต่ ปี 1 เก็บเงินดาวน์วีออส และผ่อนไปด้วย ช่วงที่เรียนไปด้วยเลยยังไม่ค่อยได้เที่ยว พอเรียนจบก็เลยจัดเต็มมีเวลา ก็พาเจ้าออสดำ ไปทุกที่ที่อยากไป
แต่ด้วยสภาพทางกายภาพของเจ้าวีออสอย่างที่เห็น โหลดเตี้ยซะขนาดนี้ ในรีวิวเก่าๆจะเห็นว่าผมมีการตัดพ้ออยุ่หลายคราว่าไปได้ไม่สุดแค่ดอยปุย ก็กลัวจะขาสั่นรถมันเตี้ย ไปไม่ได้555
จนแล้วจนรอด เมื่อสองปีก่อน เลยได้เจ้า CRF250Rally มาพาไปลุยทุกที่ที่วีออสพาไปไม่ได้ 2ปีนี้เลยมีรีวิวเที่ยวกะน้องวีออสเลยน้อยลง
แล้วเมื่อถึงจุดๆ นึงความต้องการของเรามันเปลี่ยนไป จากที่ตอนแรกเมื่อตอนซื้อวีออส คิดกันไปว่าจะใช้ให้มันพังกันไปข้างนึง แต่ยังผ่อนไม่หมดแท้ๆ น้องออสดันไม่ตอบโจทย์ซะแล้ว 555 เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน
วีออสไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ความต้องการเขาเรามันเปลี่ยนเฉยๆ
แต่บอกเลยว่าน้องวีออสเป็นรถที่ โค ตะระะะ ดีมากๆๆๆๆ ใครจะซื้อรถมือสองถ้ารถเก๋งผมจะแนะนำวีออสตลอด
ตลอด 6 ปี มันเคยเสียงอแงสักครั้ง ใช้ขับทั้งวัน 12ชั่วโมง ไม่เคยมีปัญหา ความร้อนไม่เคยขึ้น ขนาดตอนนั้นทริปที่ไปเขาหลวงสุโขทัยขับรถชนหมาตอนตี 3 กันชนใต้พังแผงหมอน้ำหลุด ต้องเอาเคเบิ้ลไทรัด ตอนแรกนึกว่าไม่รอด ดันขับได้ เกือบ 3 เดือนถึงไปซ่อม ติดแก๊สด้วย ประหยัดเข้าไปอีก โลละ บาทนิดๆ บาทกว่าๆแล้วแต่การเยียบ วิ่งไปทั้งหมด เกือบ 240000 โล มีตั้ง วาวล์ไป 3 รอบเพราะแก้สแต่ยังไม่ได้ทำฝา
เปลี่ยนยางไป5ชุด เปลี่ยนแบตไป 4 ลูก ผ้าเบรค หน้าหลังอย่างละชุด ทำช่วงล่าอัดลูกหมากไปรอบนึง นอกนั้นก็ถ่ายน้ำมันเครื่องทุกหมื่นโลแค่นั้นแล้วก็ขยี้มันอย่างเดียว ขับดีเยียบมันส์ แรงปรู็ดปร๊าด แต่ทำไม่ได้แต่งอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์เลยนะ ขับเดิม ใส่ท่อปลายแค่นั้น มันแรงอยู่แล้วเดิม ก็ขออวยเจ้าวีออสไว้เพียงเท่านี้
ถือเป็นการอำลาให้เจ้าละกันตอนนี้ก็ได้ขายเอาเงินมาวางดาวน์เจ้าไทรทันไปแล้ววว อิอิ
ต่อมาก่อนจะเข้าเรื่องทริปนี้มาพูดถึงไทรทันอีกหน่อยว่าทำไมมาได้คันนี้ ก็ตั้งแต่ความต้องการเริ่มเปลี่ยน ใจก็ชอบดูๆกระบะ ไว้นั้นแหละ แต่ยังผ่อนไม่หมดเลย ก็เลยไปเอาวิบากมาลุยแทนก่อน พอตอนนี้พร้อมก็เลยหาข้อมูล ก็เก้บข้อมูลมานานมากประมาณ ปีกว่า อันที่จริงคือวางแผนไวรอให้แต่งงานก่อนเอาทีละเรื่อง 555 อย่างที่เขาว่า เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน
และด้วยประจวบเหมาะหลังๆนี่ได้ขับเจ้าวีโก้ 4*4 เครื่อว.30 ของพี่ในกลุ่มที่ไปเที่ยวด้วยกันประจำ เวลาไปหลายคนหรือที่เที่ยวต้องลุยหน่อยเช่นเขาไข่นุ้ย ภูสิงห์พวกนี้ ก็เลยจะไปรถพี่เขา เราจะมีหน้าที่ขับเกือบทั้งทริป มันยิ่งเพิ่มอารมณ์อยากได้เป็นของตัวเองสักคันจริงๆ55
ในระหว่างที่เก็บข้อมูลไปนั้นเวลาเราไปเดินห้าง ก็มักจะเจอ รถตามค่ายตางๆมาเปิดบูทท หรือเวลามีมอเตอโชวืที่อิมแพค ใกล้บ้านเนอะมาดูทุกรอบอ่ะ คนพอมันอยากได้มันก็เหมือนโรค จิต ผมก็เข้าไปดู ไปคุยกะเซลเขาประจำแทบทุกค่ายอ่ะ ดูว่ามีส่วนลดมีโปรอะไรบ้างไหม 5555 ทำอยู่อย่างนั้น จนฟางมันว่าบ้า ก็คนมันอยากได้เนอะ
ความต้องการของคันใหม่ โจทย์คราวนี้ก็คือ กระบะ 4 ประตู ขอเป็น 4*4 ค่ายไหนก็ได้ ที่ทนมือทนตีนแบบวีออสไม่มีปัญหาจุกจิกเพราะใช้รถหนักจะมาพังซ่อมบ่อยๆไม่ได้ ขอราคาที่ไม่เกิน 1 ล้านทำไมต้องไม่เกินล้าน เพราะจากที่ไปคุยๆกะเซลบ่อยๆแล้วนั้นแหละเลยพอรู้เงินดาวน์และค่างวด และดูจากกำลังตัวเองแล้ว เกินล้านน่าจะผ่อนไม่ไหวกลัวจะตึงเกินไป (อันนี้ที่จริงเลยหวังอยากได้พวก 7 ที่นั้งขับ4 เลย แต่เกินเอื้อมจริงๆ 1.5ล้าน+แล้ว)
คราวนี้ก็เริ่มเปรียบเทียบสเปคตามที่บอก ก็จะได้เป็นตามนี้
4ประตูทุกรุ่นนะ เกียร์เน้น MT เพราะชอบฟิลลิงการขับและมันก็ถูกกว่าด้วย
1. mitsubishi triton 4*4 MT เครื่อง 2.4 ตัวเก่า 2018 ราคา 969000
2. Toyota revo 4*4 MT เครื่อง 2.4 ราคา 935000
3. ISUZU D-max 4*4 MT เครื่อง 3.0 ราคา 957000
4.Nissan Navara 4*4 MT เครื่อง 2.5(แต่เป็นตัว163ม้าไม่ใช่191) ราคา 875000 บาท
ก็เลยเหลือ แค่3รุ่นบน เพราะรุ่นอื่นทะลุล้านหมดแล้ว และตัด navara เพราะหลังๆไปถามเซลบางคนบอกเลิกผลิตแล้ว 4WD มีตัวท้อบตัวเดียวเลย ล้านหน่อยๆ
คราวนี้ก็มาเทียบสเปคและความชอบหน้าตารูปทรงก่อน
ในเรื่องหน้าตาภายนอกนี้ ได้ทั้ง 3 ชอบหมดเลย มันหล่อไปคนละแบบ แต่จะชอบ D-max น้อยสุดเพราะ คนรู้จักใช้เยอะเลยเห็นจนชินตา
เรียงได้เป็น triton revo D-max
ภายใน อันนี้ ชอบไทรทันมากที่สุด มันดูสปอตเหมือนรถเก๋งดีและ เบาะหลังเหมือนจะเอนเยอะสุด คนนั้งหลั
จะสบายกว่า
เรียงได้เป็น triton revo D-max
ศูนย์บริการหลังการขาย Toyota กัน ISUZU น่าจะพอกันแต่โตต้า0เยอะกว่า
เรียงได้เป็น revo D-max triton
ราคาขายต่อ อันนี้ที่จริงไม่ได้สนใจ ตอนซื้อไม่เคยคิดเรื่องจะขายอยู่แล้ว แต่ก็ลองๆดูหน่อย
เรียงได้เป็น D-max revo triton
ปัญหาของตัวรถ อันนี้ก็เข้าไปสิงในเพจของกระบะทุกค่าย เท่าที่เก็บข้อมูลก็ได้ประมาณนี้
เรียงจากปัญหาน้อยไปมาก D-max revo triton
ความทนทานการใช้งานยาวๆ อันนี้ก็น่าจะตอบยากคงไม่ต่างกันมากแต่ขออวยโตต้าหน่อยจากประสบการณ์วีออส
เรียงได้เป็น revo D-max triton
อันนี้เรียงจากข้อมูลทีผมหามาเองนะ ก็ได้ประมาณนี้ แต่ละรุ่นก็มีข้อดีข้อด้อยพอๆกัน
ต่อไปเป็นข้อมูลทางเทคนิคมั้ง
อันนี้ความต้องการหลักๆคือเน้นระบบเกี่ยวกับตัว ขับ 4WD และเป็นคนที่ชอบขับรถที่มันมีกำลังที่ดีไม่อืด
เลยตั้งใจอยากได้เครื่องที่เป็นท้อบของรุ่น
ก็จะเป็น D-max กับ triton ได้ เครื่องท้อบของรุ่นคือ 3.0 และ2.4
แต่ส่วน ระบบเกี่ยวกับตัว ขับ 4WD อันนี้ต้องยกให้ revo เขามีดิฟล็อคมาให้ด้วย
ส่วนพวกอ๊อฟชั่นอื่นๆ อันนี้ผมเอาแคตตล็อคมานั้งไล่เทียบทุกจุดเลยทั้งสามรุ่นก็พบว่า revo และ D-max เขากั๊กออฟชั้นไปเยอะพอสมควร triton จะได้เยอะกว่านิดหน่อยในอ๊อฟชั่นอื่นๆ
กระบวนการเปรียบเทียบทั้งหมดที่กล่าวมานี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2018 นะครับตอนก่อนแต่งงาน แต่เท่าที่ดูคือมันยังไม่ถูกใจเต็ม100 ทั้งสามรุ่น และก็อย่างที่บอก วางแผนไว้รอแต่งงานก่อน หลังแต่งถ้าไม่ติดอะรก็ว่าจะเอาสักคัน ก็เลยยังไม่ได้เลือกซะทีจะเอาคันไหน เพราะ จะเป็นหนี้ล้านนึงรวมดอก มานั้งนับ 1 ผ่อนใหม่อีกครั้ง มันก็ใช่เรื่องอันนี้ก็คิดหนักอยู่พอควรครับ เพราะวีออสอย่างที่บอกมันรถดีมากใช้ได้อีกยาวๆอะ
แต่พอวันที่ 8 พ.ย. ไทรทัน2019 เปิดตัว ช่วงนั้นกำลังจัดเตรียมงานแต่งผมแต่งงานวันที่ 10. พ.ย.
มันเหมือนรักแรกพบ อารมณ์เหมือนตอนที่ CRF250Rally เปิดตัวที่เห้นปุ้บรักปั้บ ฉันจะเอาคันนี้ หน้าตามันโดนใจมาก แถมมาคราวนี้เขาตีโป่งมันดูบึกบึนคันใหญ่พอเกือบจะเท่าทั้ง 2 รุ่นแล้ว แต่ก้ยังเล็กกว่าอยู่ดี มิติตัวถังนะ แต่ไม่ได้ต้องการใหญ่ที่สุดอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่ารุ่นใหญ่ราคามันก็ต้องแพงขึ้น ตอนนั้นคิดในใจ ตัวใหม่เปิดตัว ตัวเก่า2018 มันต้องมีส่วนลดเยอะแน่ๆ น่าสนใจมากหรือจะเอาตัวเก่า
ที่นี้พอวันที่ 9 ราคาเปิดตัวก็มาแล้ว มันยิ่งตอกย้ำความอยากได้ไปอีก
เพราะคราวนี้ ตัวขับ 4WD มี 3 รุ่น แต่ก่อนมีแค่2 Top MT และ Top AT
มีตัว4ประตู 4*4 MT GLS ในราคาเพียง 935000 เท่านั้นแหละ จดจ่ออยู่ที่หน้าเพจรอดูข่าวสารว่าไอตัว935000 เนี้ย มันตัดอะไรมีอะไรมั้ง ทำไมมันถูกกว่าตัว 2018 ที่จะเอาอีก
จนพอหลังแต่งงาน เช้าวันที่ 11 พอเคลียร์อะไรต่างๆเรื่องงานแต่งเสร็จหมดแล้ว มีเวลา เลยลองแวะไป 0มิตซูแจ้งวัฒนะแถวบ้าน ตัวจริงมันมาแล้วด้วย แต่ตัว ที่เราดูยังไม่มี ก็ไม่รู้เป็นไง
ไปดูภายนอกสวยถูกใจมาก ส่วนภายในอันนี้เหมือนตัวเดิม 2018 ซึ่งก็ชอบอยู่แล้วแต่แรก เลยลองๆคุยเรื่องราคาและส่วนลดเงินดาวน์ค่างวดต่างๆ ยิ่งโดนใจ ราคาผ่อน อยู่ในงบที่ตั้งไว้คือจะเอาไม่เกิน 12000 ให้มันเท่ากับตอนที่ผ่อนวีออสและCRF พร้อมกัน จะได้ไม่หนัก
เลยเป็นวันแรกที่เราได้พบกัน
อีกสองสามวันก็มีแคตตาล็อคในเว็บออกมา
มาลองไล่เช็คดู ก็ได้ความว่า
ระบบเกี่ยวกับ 4WD มีเหมือนตัวท็อบหมดเลย แถมคราวนี้มี ดิฟล็อคมาให้ด้วย และ ระบบขับ 4WD ของไทรทันนี้เป็นเหมือนของปาเจโร่ คือมีให้เลือก 4 แบบ ปกติกระบะรุ่นอื่นๆจะมี แค่ 3 แบบ คือ 2h 4h 4L
ส่วนของไทรทันจะเป็น ตามรูปนี้ขอยืมภาพจากในเน็ต พูดง่ายๆคือมี3แบบหลักๆเหมือนกัน แต่มี 4H แบบฟลูทามเพิ่มขึ้นมา ข้อดีคือ 4H ฟลูทามตัวนี้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลาทุกสภาพถนนที่ความเร็งเท่าไหร่ก็ได้คล้ายๆฟอจูนเน้อตัวฟลูทามนี่แหละ
ซึ่งต่างจาก 4H ของกระบะทั่วไปที่จะใช้เฉพาะช่วงฝนตกหรือที่ความเร้วไม่ควรเกิน100 ประมาณนี้ครับ
แค่ สองอย่างนี้ ใจผมก็เทมา 100 เปอร์เซนละ ทีนี้ก็ตัดทุกตัวเลือกออกไปทันที ทีนี้ขั้นต่อไป พึ่งแต่งงานสดๆร้อนๆ จะทำอะไรคราวนี้มันก็ต้องเห็นพร้อมทั้งสองคน ไมไ่ด้กลัวเมียแต่ถ้าเขาไม่โอเคมันก้ไม่สบายใจถึงแม้เขาจะไมไ่ด้ช่วยผ่อนก็ตาม 555 เพราะฟางก็ไม่ค่อยอยากให้เอาเท่าไหร่ไม่อยากให้ผ่อนเหนื่อย
คราวนี้ก็เลยเริ่มหาข้อดีของการซื้อคันใหม่นี้ มาหักล้างว่าจะเอาคันใหม่ดีไหม วีออสตอนนี้ก็กลายเป็นรถมีปัญหาทันที555 เบรคก็เริ่มไม่ค่อยดีเครื่องก็สั่น ตั้งวาวล์ไม่ได้แล้ว ต้องซ่อมเปลี่ยนฝาอีกเป็นหมื่น (ซึ่งเอาจริงๆแล้วมันก็ต้องซ่อมแหละ แต่มันคือซ่อมตามอายุการใช้งานไมไ่ด้เสียถ้าซ่อมไปไม่เกิน2หมื่นก็จบปิ้งขับได้อีกยาวๆ แน่นอน ) อีกข้อก็วางแผนไว้ว่าปีหน้าอยากจะมีลูก ถ้าเริ่มเอาคันใหม่ตอนนี้ เดี่ยวก็จะผ่อนหมดตอนลูกเขาโรงเรียนอนุบาลพอดี มันช่างลงตัว วางแผนไว้ก่อน555
เมื่อตกลงกันแล้วก็เลยเอาก็เอาวะ เป็นหนี้อีกสักครั้ง ต่อมาก็หาเซลล์ที่ข้อเสนอดีสุด
คราวนี้ก็หนักเลย คุยกับเซลล์เป็น 10 คน ในเพจมั้งไปที่ 0 ใกล้ๆมั้ง สุดท้ายพอมาเปรียบเทียบดูก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ บางคนใช้เงินออกรถน้อยกว่า หมื่นนึง ก็ผ่อนมากกว่า 80 บาทไรงี้หักลบพอๆกัน ส่วนลด ตัวใหม่นี้ได้กลางๆ อยู่ที่ 50000 บาทอยู่ที่ เซลล์คนไหนจะมีลูกเล่นยังไงบางคนบอก ให้60000 แต่จ่ายจดทะเบียนเอง พรบ เอง ประมาณนี้ แต่หลังๆนี้เห้นคนในคลับได้กัน70000 กะมีเยอะมากก
จนสุดท้ายแล้วผมก็เลือกเซลล์คนนึงที่มีพี่ชายที่รู้จักพึ่งไปออกไทรทันนี่แหละตัว2018 เมื่อ 4 เดือนก่อน คิดว่าเอาคนที่มีประวัติออกรถได้กับคนรู้จักนี่แหละชัวสุด
ที่นี้คุยไปคุยมาที่ 0 ยังมีตัวเก่าด้วยตัว 4*4 MT เครื่อง 2.4 ตัวเก่า 2018 ราคา 969000สีดำด้วย ให้ส่วนลดตั้ง100000 นึง แต่คิดๆแล้ว ตัวใหม่ได้ลด 50000 แต่ราคารถถูกกว่า 30000 แถมได้หน้าใหม่และก็ดิฟล็อค แค่นี้ก็คุ้มกว่าแล้ว เลยเอาตัวใหม่
ก็เลยจบจองในงานเปิดตัว วันที่ 18 พ.ย. ซะเลย ไม่รีรอแล้ว อยากได้รถก่อนปีใหม่ เซลล์ก็บอกทันแน่นอน จะสั่งรถให้เลยคุยดีมากขอแถมอะไรก็ให้ ไม่นานนักประมาณ 3 วัน ไฟแนนซ์ก็รู้ผล ผ่านแล้วพร้อมเป็นหนี้กันได้จ้าา
ต่อมาก็รอรถ คราวนี้ก็คิดว่าไม่ปัญหาอะไรพอต้นเดือนหลังวันพ่อ 5 ธ.ค.ไปแล้วก็ยังเงียบ (ตอนแรกเซลล์บอกรถมาต้นเดือน) ตอนนี้เริ่มกลัวไม่ทันและอีกอย่างขายวีออสไปแล้วจ้าา เพราะว่ากลัวราคามันจะตกต้องรีบขายก่อนปีใหม่ ส่วนราคาก็ตกไปเยอะเลย เพราะติดแก๊สและวิ่งหนัก แถมวาวล์มีปัญหาด้วย แต่ก็พอเงินดาวน์คันใหม่เหลือเงินติดตัวอีกส่วนนึงก็โอเค
แต่ตอนนี้ไม่มีรถใช้ก็เริ่มตามบ่อยขึ้น เซลล์ พอหลังจาก จองเสร็จก็เริ่มตอบไลน์ช้าขึ้น บางครั้งทักเป็นวันพึ่งจะตอบ โทไปก็ไม่รับด้วย เราก้ว่ามันชักแปลกๆ แล้วเซลล์ก็บอกว่าไปดูฤกษ์ได้เลย รถมาก่อน18แน่นอนครับ
ก็เลยไปดูได้ฤกษ์ไดัวันที่ 22 ธ.ค. แต่แล้วพอวันที่ 15 ถามไลน์ไปไม่ตอบ โทไปไม่รับ ทั้งวัน จนต้องโทเข้า 0 ถึงจะโทกลับบอกลืมมือถือ ก็ได้ความว่ารถยังไม่มา บอกว่ารถอยู่บางนา รอรอบรถมาส่ง ให้เลขตัวถังเรามา
ก็เลยยังเชื่อว่าก้คงมาแหละตามนั้น แต่ตอนนี้ไม่ซีเรียสแล้ว มาหลัง 22ก็ได้ แต่ขอก่อนปีใหม่ได้ไหม จะได้มีรถเที่ยว 555
ที่นี้ก็เช็คตอนเช้าต่อมาทุกวันเผื่อรถจะมา พอวันที่ 21 คราวนี้ไม่ตอบ ทั้งโทรทั้งไลน์ทนไม่ไหวเลยไป 0 เลย คุยกะผู้จัดการเซลล์ ก็คือรถมาจริงๆแต่ยังมาส่งไม่ถึง มีใบเอกสารให้ดู ก็เลยทำใจ หรือจะมาหลังปีใหม่ ส่วนเซลล์ก็นะพอมาถึง0 สักพักเข้ามาบอกว่า ผมไม่สบายนอนยาว เป็นงั้นอีก เริ่มไม่โอเคและ เพราะรับปากแล้วทำไม่ได้ และยังไม่ตอบอีก ถ้าตอบอธิบายก็ไม่ได้ว่า ต้องเสียเวลามาถึง 0 สุดท้ายเช้า 22 ผู้จัดการรับเรื่องต่อเองโทรมาว่า รถยังไม่มา ก็เลยแห้วว หลังปีใหม่ก็ได้วะ
พอถึงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 23 ก็มีสายเข้ามาตอนประมาณ บ่าย3 โมง บอกว่า พี่ครับรถมาแล้วครับเมื่อคืน เอ้าาาแล้วไม่มาแต่มะวานนน555 แต่ไม่ใช่แค่นั้น คนที่โทรมาคือหัวหน้าทีมของเซลล์ที่เราจอง
แล้วบอกว่ามีปัญหาเรื่องของแถมส่วนลด น้องเซลล์ให้ของแถมส่วนลดไปเกิน จำนวน จะขอลด ที่นี้ผมก็ไม่ยอมและโวยวายไปหน่อย ก็เลยนัดมาคุยตอนเช้าวันจันทร์24 ตกลงที่ศูนย์
ที่นี้เขาก็คุยและเล่าให้ฟังว่าเซลล์คนนี้ให้โปรเอายอดจองไปเกินทุกเคส เปิดให้ดูไลน์ที่ทีมเซลล์คุยกันว่าเรื่องจริงไม่ได้จะแกล้งขอตัด ตอนนั้นเซงมาก อยากจะถอนจอง แต่ว่าที่ไหนก็ไม่มีรถ (จริงๆตั้งแต่หลังวันพ่อที่พอติดต่อเซลล์ยากก็เริ่มคุยกะ0อื่นหลายที่เลยว่าที่ไหนมีรถรุ่นที่เราจะเอาบ้างไหมก็ไม่มีสักที จะไปเริ่มใหม่ที่อื่นก็ติดคิวคนที่จองในงานมอเตอร์โชว์ต้นเดือนธันวาแน่ๆ)
ก็เลยคุยไปมาสรุปว่าใช้เงินดาวน์ออกรถเท่าเดิมปกติ ขอตัดของแถมล็อคเทค ล็อคยางอะไหล่ กับกันสาด ที่เหลือให้ครบปกติ ก็เลยตกลง ก็รับได้พวกของแถมปกติก็เท่ากะ 0 อื่นที่คุยมา ก็เลยนัดรับรถวันที่ 25 คริสมาสเช้าวันต่อมาไปเลย ดูฤกษ์ในเน็ตมาเขาก็ว่าวันดี ฤกษ์สะดวกด้วยนี้แหละดีที่สุด
ในที่สุดก็รับรถมาเช้าวันที่ 25 ธ.ค.
ก็เป็นอุทาหรณ์สักเล็กน้อยในการเลือกเซลล์ ให้เช็คให้ชัวๆเลย เพราะขนาดผมเอาคนที่เคยออกมาแล้วตอนพี่ชายเขาบอกไม่มีปัญหาอะไรเลยออกได้ปกติ ดันมามีปัญหาที่ผม สงสัยตัวใหม่จะทำยอดหรือป่าว แต่หัวหน้าเขาบอกจะให้เซลล์คนนี้ออก เพราะว่าทำไว้หลายเคส เคสอื่นๆ หัวหน้าช่วยไม่ไหวเกินไปเป็นหมื่นนต้องขอลูกค้าถอนจอง ก็ไม่รู้ว่าให้ออกจริงหรือป่าว แต่ผมก็บอกเขาว่าผมไม่ติดใจอะไรแล้ว ผมแค่ต้องการรถ ไมไ่ด้จะให้เขาจัดการอะไร แต่เขาคงจัดการกันเอง
ก็ได้มาเรียบร้อย วันแรกก่อนเข้าบ้านก็เลี้ยวเข้าร้านแม็กก่อนเลย หาร้านหาลายเล้งไว้แล้ว อิอิ ราคาจะได้ไม่ตก
สำหรับไทรทันใหม่นี้เบรคใหม่จะเป็นแบบสองพอต ทำให้เบรคใหญ่มาก ต้องใส่แม็คออฟ 0 ถึงจะใส่ได้ ออฟ20ติด
สเปคของแม็คชุดนี้ราคา40500พร้อมยาง เทินล้อเดิมขอบ18ไปได้24500 เพิ่มเงินไป16000บาท
แม็ก HAMMER ขอบ 16 กว้าง 8.5 ออฟ 0 ยาง BF ko2 ขนาด265/70
เดิมๆไม่ยกใส่ได้แค่70ครับ ถ้าจะใส่ 75 ต้องยกขึ้น
ขอบยางพอดีซุ้มเลย แก้มยางล้นออกมานิดๆ
จอดเทียบกะพี่วีโก้พี่ในกลุ่มคันเดิมที่ขับนั้นแหละเขาอยู่ใกล้พอดีเลยแวะมาหา
หลังจากออกวันที่ 25 ก็ช่วงใกล้ปีใหม่พอดี ก็เลย ถือโอกาศรันอินสั้นๆ ไปกางเตนท์ที่อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงสุพรรณบุรี
อากาศดีมากที่นี้แต่ไม่ทำรีวิวครับทริปนี้ไปกางเตนท์เช้าก็กลับเลยแวะเขื่อนกระเสียวที่เดียว
แล้วก็ไปปีใหม่บ้านฟางที่แม่กลองและไปหาญาติที่พัทยาและกลับ กทม.
แวะถ่ายรูปที่สะพานใหม่ชลบุรีขากลับ ครบ 1000 โลพอดีปีใหม่ แล้วเรื่องรีวิวรถต่างๆจะพิมพ์ท้ายๆนะครับ
ตอนกลางคืนไฟท้ายเป็นถั่วงอกคล้ายๆปาเจโร่แล้ว
เดี่ยวดูภายนอกไปแล้ว มาดูภายในกันมั้ง
ภายในตัวนี้จะยกตัวแอทลีทหรือตัวปาเจโร่มาเลยครับ สวยงามใช้ได้
แอร์ออโต้อันนี้ชอบมาก เย็นตลอดทั้งวัน
นี่ครับระบบขับ 4WD ที่ว่า ตัวขับ4เริ่มต้นจะไม่มี 2 ปุ่มข้างล่างแบบตัวท็อบ คือปุ่มช่วยลงทางชัน กับปุ่มโหมดออฟโรดที่จะคอยปรับกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสม แต่เราเกียร์ MT อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาครับ
เอาละแถมมีคลิปด้วยตอนแรกไม่มีใครออกตัว 4*4 GLS นี้เลยเขาไปตัวท็อบกันหมด ก็เลยอัดคลิปหน่อยเผื่อจะเป็นข้อมูลคนที่สนใจ
เอาละจบประวัติกว่าจะมาเป็นไทรทัน2019ของผมมันต้องผ่านกระบวนการอะไรมากขนาดนี้555 ก็เนอะเหมือนตอนเลือก CRF นั้นแหละ รถเราใช้งานทุกวันก็ต้องเลือกที่มันถูกใจที่สุดสิเนอะ เอาละต่อไปจะเริ่มรีวิวทริปลำพูนแล้วครับ แล้วก้จะรีวิวรถไปพรางๆด้วย ไว้ท้ายๆจะเขียนสรุปละกันไปกันเลย
เริ่มออกเดินทางกันเลยคืนวันที่18 ช่วง3ทุ่มกว่าๆ ทริปนรี้ไปจาก กทม. 3 คนเพื่อนอีก 2 คนรถล้มอดมา แต่มีพี่สาวที่ลำปางคนเดิมเจอตอนเช้า
มาเติมน้ำมันถังแรกแถวบางปะอินวิ่งจากบ้านให้น้ำมันมันกระพริบอัดไปเต็มถังได้ 63.615 ลิตร เดี่ยวมาดูเรื่องน้ำมันกันตอนท้ายครับ
จากนั้นก็ยิงยาว รถช่วงแรกค่อนข้างเกือบจะเยอะ ทำความเร็วได้ 120-140 แต่ยืนพื้นในช่วง120 ไม่รีบ อยากจะลองให้มันประหยัดๆ 555 บอกเลยว่าเรื่องการขับขี่ อัตราเร่งมันดีมากครับ กดเป็นมาไม่มีคำว่าอืด กดแปบเดียวความเร็วไหลไป 150 เดี่ยวสรุกทุกอย่างตอนท้าย
มาแวะกินข้าวที่จังหวัดตากตอนนั้น ตี 2.30ได้ครับ
จากนั้นก็ยิ่งยาวมาถึงลี้โดยใช้เส้นทางเถิน-ลี้ ช่วงที่เข้าเถินนั้นเป็นเวลาตี4กว่า โอ้โห มันเงียบเหงามาก เจอรถสวนอยู่ 4 คัน ใครเคยไปคงจะพอทราบดี เส้นทางคดเคี้ยวบนเขาประมาณ 50 โลไปถึงลี้ คดเป็นงูเลย ตื้นเต้นหายง่วงดีครับ มาถึงที่วัดพระพุทธบาทผาหนาม ตี 5 หน่อยๆ ขับมาจอดบนยอดเลย อากาศเย็นกำลังดี เลยได้นอนไปตื่นนึง
นอนกันเพลินตื่นเกือบ 7 โมง เดินขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนกันครับ
วิวเช้าน้้มีหมอกจางๆปกคลุมไปทั่วพื้นที่ พร้อมแสงแดดกำลังสาดส่อง
ไปดูรูปวิวรอบๆกันเลย
ไหว้พระขอพรหน่อยทริปแรกของปี และทริปแรกของเจ้าไทรทันอย่างเป็นทางการด้วย
ตีฆ้องไป 3 ทีปีนี้ขอให้ราบรื่นด้วยเถิดด
และตีระฆังให้ดังไปทั่ว
ออกจากวัดก็ลงมาแวะปั้มล้างหน้าแปรงฟัน และมาแวะกินข้าวเช้าที่ปากทางเข้าอุทายนแม่ปิงเลย
จากถนนใหญ่พอเลี้ยวเข้ามาปุ้บทางจะไปอุทยานก็จะเจอร้านป้าเลยครับทางขวามือ อาหารอร่ยมีหลายอย่างราคาไม่แพง
ขับเข้ามาอีกไม่นาน 20โลได้ ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติแม่ปิงแล้วครับ จ่ายค่าธรรมเนียบเสร็จแล้วก็เข้าไปติดต่อเรื่องกางเตนท์ไว้ก่อน และรถที่จะขึ้นผาแดงในเช้าวันพรุ่งนี้
ตรงที่ทำการก็ติดต่อเรื่องที่นอนและรถตอนเช้าในเสร็จ น่าเสียดายรอบนี้กะว่าจะมาลองระบบขับสี่ขึ้นจุดชมวิวผาแดงหลวงเสียหน่อย แต่ตอนนี้เข้าไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นแล้ว ถึงจะเป็นขับ 4 ก็ตามต้องไปรถเจ้าหน้าที่เท่านั้นครับส่วนค่าระก็เป็นคันเหมา 3000-3500 นั้งได้ประมาณ 10คนครับ
หลังจากติดต่อเรื่องรถเรื่องที่นอนแล้ว เจ้าหน้าที่ก็แนะนำที่ท่องเที่ยว ว่ามีอะไรบ้าง หลักก็มีน้ำตกก้อหลวง และแก่งก้อ นั้งเรือแม่น้ำปิง ซึ่งจะมีให้ไปหลายจุดแล้วแต่เราจะเลือกไป ได้ความแล้วก็ไปกันต่อ เราจะไปเที่ยวกันก่อนแล้วค่อยเข้าไปกางเตนท์
แอดท่าสมาชิกทริปนี้กันหน่อย
วิ่งไปตามทางไม่ยากไม่นานนักเราก็มาถึงจุดแรก คือน้ำตกก้อหลวง ทางเดินสั้นๆชิวๆ 500 เมตร ไม่นานก็ถึง
ทางเดินง่ายๆครับไม่ได้ปีนป่ายอะไร
เจอดอกไม้สวยลืมชื่อไปแล้วว่าชื่ออะไรใครทราบแจ้งหน่อย
ถึงแล้วน้ำตกก้อหลวง
สวยงามน้ำสีเขียวฟ้า แต่ว่าน้ำดูน้อยไปหน่อยครับช่วงนี้ แต่ของจริงน้ำดูเยอะกว่าในรูปครับ
ไปดูรูปกันเลย
ปลาเพียบ
สวยจริงๆนะที่นี้มาดูกันๆ
เดินย้อนกลับมานิดนึงก็จะตาดตกสะดอ
ตรงนี้น้ำก็เขียวสวยเหมือนกัน แต่ว่าสายน้ำน้อยไปหน่อยครับ แถวน้ำตกนี้มีจุดกางเตนท์ได้ด้วยครับ
ห้องน้ำที่อุทยานนี้ดีทุกจุดเลยครับใหญ่สะอาดแหล่มมากๆ วันที่เราไปก็คนน้อยจริงๆไปไหนกันหมดต้นปีหน้าหนาวนะเนี้ย
ขาออกจากน้ำตกเจอถนนสวยขอสักรูป
ลืมบอก วันก่อนที่จะออกทริปนี้ได้ไปติดกันชนท้ายเหล็ก 50 โล กับบรรไดข้างมาด้วยครับ ดูแข็งแกร่งเหมาะแก่การลุยไปอีก อิอิ
จุดหมายต่อไปแก้งก้อ เดี่ยวเราจะล่องเรือไปที่โรงเรียนในหนังคิดถึงวิทยากันครับ
เจอตรงไหนสวยก็ขอถ่ายไว้หน่อยทริปนี้รูปรถมันจะเยอะมากเพราะกำลังเห่อไม่ว่ากันนะคัรบ อิอิ จะได้มีหลายๆมุมเผื่อจะมีใครหลงรักเจ้าตั้นดำแบบผมมั้ง
ก่อนล่องเรือ เที่ยงพอดีแวะกินข้าวที่แพก่อน ติดต่อเรือตรงแพร้านอาหารได้เลย มีที่พักแบบเป็นก็มีนะ ใครสนใจก็ลองติดต่อบรรยากาศใช้ได้เลยผมว่า
ส่วนอาหารก็ราคาทั่วไปครับ
ส่วนค่าเรืออันนี้มีหลายราคาว่าเราจะไปจุดไหนสามารถล่องไปได้ถึงท้ายเขื่อนภูมิพลจังหวัดตากเลยล่ะ แต่ค่าเรือก็แพงตามและเวลานานด้วย ผมเลยเลือกโปรแกรมไปโรงเรียนบ้านก้อจัดสรรที่เดียวพอ และก็ชมวิวไปเรื่อยๆ ไปกลับประมาณ 1.30 ชม.ในราคา 1500 บาท นั้งได้หลายคนอยู่เรามา 5 คนเลยตกคนละ 300
วิวสวยมากครับอารมณ์คล้ายๆตอนนั้งเรือเข้าเชี่ยวหลานแต่ภูเขาจะเป็นคนละแบบ
ซูมดูฝูงวิวไกลๆ
ชมวิวไปเรื่อยๆ
งามใช้ได้ลมเย็นจนง่วงนอน
พอกำลังจะคล้อยหลับ ก็มาถึงพอดีที่โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาเรือนแพ
ที่อยู่ในหนังเรื่องคิดถึงวิทยาหลายคนคงเคยดูแต่จำได้ว่าตอนที่เขาถ่ายทำหนังเขาไม่ได้ถ่ายที่นี้แต่ไปสร้างจำลองที่อื่น แต่เอามาจากที่นี้นั้นแหละครับ เรามาวันเสาร์แน่นอนไม่เจอนักเรียนครับ แต่ถ้าใครซื้อขนมมาฝากได้ และมีน้องหมาด้วยนะใครอย่าติดอาหารมาบ้างและมีสมุดบันทึกคนมาเยี่ยมเขียนฝากน้องๆได้ครับ
บรรยากาศรอบๆ
มีน้องไก่ด้วย
ถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วก็กลับกัน
ก่อนกลับเจอช็อตช็อคเบาๆ ใบพัดเรือหัก พี่คนเรือบอก ชิบหายแล้วว555 ยังดีมีใบสำรอง แก้ไขอยู่ไม่นาน ก็กลับได้ สัญญาณก็ไม่มี ถ้าไม่งั้นคงต้องแจวเรือแคนูที่โรงเรียนกลับกัน 555
ขากลับถ่ายหัวเรือหน่อยให้พี่เขาขับช้าๆวิวสวยเด็ด
กลับมาถึงประมาณบ่ายสามเวลากำลังดี ก็ไปต่อเข้าที่กางเตนท์กัน
ที่จุดกางเตนท์ทุ่งกิ๊กนั้นไม่มีร้านอาหารนะครับ ต้องเตรียมกันมาเองทุกอย่าง ใครจะซื้ออะไรจะมีร้านค้าที่หมู่บ้านระหว่างทางขากลับจากแก้งก้อนะครับแวะซื้อตุนไว้เลย เพราะเข้าจากทางหลักเข้าไปอีก 10โล
ทางเข้าจุดกางเตนท์จากสามแยกถนนหลักของอุทยานเข้ามา 10 โล จะเป็นทางราดยางใหม่ๆอย่างดีเลย แต่แคบครับ ถ้ารถเยอะจะสวนลำบากหน่อย ทางสวยก็ขอจอดถ่ายรูปอีกและ
พอมาถึงทุ่งกิ๊กต้องร้องว้าวว ลานกางเตนท์กว้างใหญ่มากๆ ค้ลายๆกะลานที่ภูกระดึงสองลาน ใหญ่สุดๆ และหญ้าเรียบสวยงามมาก
แถมวันที่ไปไม่มีคนเลย เราไปถึงมีนักปั่นมากางเตนท์อยู่คนเดียว แล้วกลุ่มเรา 5 คน และ พอเย็นๆถึงจะมีน้กท่องเที่ยวอีกกลุ่ม 4 คนเข้ามา
เลือกทำเลกันตามสะดวก ส่วนเราก็เลือกใกล้รถใกล้ห้องน้ำเอาขอบๆนี้แหละ
หลังจากกางเตนท์กันเสร็จแล้วก็5โมงพอดี แยกย้ายไปอาบน้ำอาบท่า แล้วมาตั้งวงชาบูกันต่อ
ชาบู้อนๆใส่ฮอทดอก และหมูชาบู เส้นเล็ก ร้อนๆ อร่อยเหาะ
อาการเย็นวันนั้น เย็นๆไม่ถึงกับหนาวฟ้าครึ้มๆเหมือนจะมีฝน แต่ไม่มี
แสงเย็นก็สวยงาม
ตกกลางคืนวันนี้พระจันทร์สว่างมาก ถ่ายดาวไม่ได้ ก็เลยเล่นกะไฟข้างล่างแทน
ชูไฟขึ้นแล้วหมุนๆ
เขียนไฟเล่นไปมากันจนถึง 3ทุ่มกว่าๆ อากาศลดลงตอนนี้เริ่มมีอาการหนาว หาเสื้อกันหนาวใส่แล้วแยกย้ายกันนอน ตอนเช้ารถจะมารับ ตี 3 ครับ
นอนหลับสบายอากาศเย็นๆ รูปนี้ตื่นมาถ่ายตอนตี 3 ระหว่างจะขึ้นรถ ดูความสว่างของพระจันทร์สิ นี้ตอนนี้ไฟทั้งอุทยานปิดหมดสนิทแล้ว ที่เห้นขาวๆคือแสงจากพระจันทร์ แต่ก็พอเห็นดาวอยู่นะ
สำหรับการขึ้นผาแดงหลวงจะต้องเข้าไปในทางวิบากบนเขาประมาณ 17 กิโล ซึ้งแต่ก่อนเขาให้นำรถตัวเองขึ้นได้โดยจ้างเจ้าหน้าที่นำทางขึ้นไป แต่ตอนนี้ไม่ให้แล้วถึงจะเป็นรถขับ4ก็ตาม อดทดสอบระบขับ4เลยงานนี้ แต่ก็ไม่เป็นไรตามกฏเขาว่า
ค่ารถก็ไม่แพงเพราะใช้เวลานานพอควรขาละเกือบ 2 ชั่วโมงทางกระโดกกระเดกไป ราคาคัน3500 บาท วันนั้นโชคดี ที่ว่ามีแค่10คนที่กางเตนท์เขาก็จะไปดูด้วยกันหมดเลย เลยหารกันไปตกคนละ 350 บาทเอง คุ้มครับเพราะ
ขับเข้ามาได้ยังไม่ครึ่งทางก็ต้องเจอกับต้นไม้ล้ม แหมะท่ามาเองคงจะตกใจน่าดู ล้มตรงกลางอย่างกะปิดทาง ยังดีว่ามีผู้ชายเยอะ เลยไปตัดไม่ซี่มางัดไม้ซุง สุภาษิตนี้ใช้ได้จริงครับ เพราะจะอุ้มยกยังไม่ขึ้นเลย ต้องใช้ไม้มางัดกัน
แก้ไขกันอยู่ 10นาที ก็ไปต่อ
ประมาณ ตี4.40 เราก็มาถึงจุดที่ต้องเริ่มเดิน ทางเดินไม่ยากครับ ประมาณ โลกว่าๆได้มั้ง จำได้ว่าไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึง แต่ก็เป็นเนินอยู่สองสามเนิน ทำเอาเหนื่อยได้เหมือนกัน
ช่วงนั้นเป็นช่วงก่อนฟลูมูนพอดี พระจันทร์เลยสวยใหญ่แต่ตอนตี 5 นั้นคือช่วงกำลังจะลับฟ้าพอดี
และพอมาถึงจุดชมวิวผาแดงหลวงประมาณตี 5 ก็ต้องว้าวอีกครั้ง เพราะตอนนี้ พระจันทร์กำลังจะลับไปอีกฝั่งเลยทำให้แสงอ่อนแรงแล้ว
ดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าก็มองเห็นชัดเจนฟ้าใสไร้เมฆบดบัง ไม่รีรอตั้งกล้องถ่ายกันสิครับงานนี้
แสงส้มๆนั้นไกลคืออาทิตย์ที่กำลังจะค่อยๆออกมา มองด้วยตาตอนนั้นมืดสนิทมองไม่เห็นแสงส้มแต่กล้องลากสปีดนานมันจับมาได้ครับ
พอถ่ายไปๆสักพัก เฮ้ยย ขาวๆแปลกๆที่ขอบฟ้า
ใช่แล้วมันคือทางช้างเผือกใบนี้จะถ่ายดาวพอถ่ายเสร็จดูดีๆ นี่ช่างนี่หน่า อันที่จริงปีนี้เขาจะเริ่มถ่ายดาวกันจริงๆก็ช่วงกุมภาไป เพราะมกรานี่ ช้างมันขึ้นช่วงใกล้สว่างทำให้แสงอาทิตย์มันจะมากลบทำให้มองไม่เห็นครับ ผมเลยไม่ได้ตั้งใจมาถ่าย
เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างที่แสงอาทิตย์กำลังจะมาและพระจันทร์กำลังจะลับไป และช้างก็ออกมาให้เห็นเพียงไม่นาน ผมได้มาไม่กี่รูปครับ รูปนี้จะชัดสุด แล้วแสงสว่างก็มาแทนที่ ฟลุ๊คจริงๆทริปนี้ เวลาไม่คาดหวังมักจะได้เกินคาดเสมอ
ไปต่อครับ แล้วแสงเช้าก็มาดาวหายไป ทไวไลท์ต่อเลย
งดงามเกินจะบรรยายจริงๆครับ
ดูรูปยาวๆไปเลย
แล้วพระอาทิตย์ก็โผล่ขึ้น ธรรมชาติมันสรรสร้างอย่างกับจับวาง ให้พระอาทิตย์ขึ้นตรงกลางแล้วมี แม่น้ำ มีสามเหลี่ยมหน้าผา ลงตังเสียจริง
แสงทองส่องงดงาม
อยู่กันจนถึง 7โมงกว่าๆก็เริ่มเดินลง
ขาขึ้นอย่างเกาเหลาา ขาลงอย่างเกาหลี แฮร่
ทางก็จะประมาณนี้แต่มันมีกระโดกเดกเยอะกว่านี้แต่ต้องจับเหล็กไม่ได้ถ่าย
ช่วงขาลงเย็นและง่วงก็เลยเอามือเท้าเหล็กรถแล้วเอาหน้าผากทับกะพักสายตาเบาแต่มันดันหลับแบบไม่รู้ตัว เด้งไปเด้งมา มือหลุดจากเหล็กหัวโขกเหล็กดังโป็กกก มันจี๊ดขึ้นสมอง อย่างเจ็บบ ปวดจี๊ดตาสว่าง หัวโนเลย แต่ไม่ไดบวมใหญ่ 5555
ในส่วนของรถนำเที่ยวของเราก็คือเจ้าคันนี้ พี่ Toyota hilux mighty-x -ขับเคลื่อนสองล้อ พ่อทุกสถาบัน นั้งไป10 กว่าคน พี่เขาขับอย่างชิว ขึ้นเนิน เสียงเครื่องดูไม่ต้องคำรามกระหึ่มมันก็ไปได้เรื่อยๆ สุดยอดจริงๆ อย่างว่าเจ้าถิ่นเขาจะรู้จังหวะ ช่วงขึ้นลงเนินเพราะใช้ทางประจำ แหมะน่าเสียดายเรามี 4WD แท้ๆ ไม่ยอมให้เราไป ฮือๆ
หลังจากลงมาแล้วก็กินมาม่ามื้อเช้ากะหมูและฮอทดอกที่เหลือให้หมด ขอบอกว่าอัดแน่นมากมื้อนี้ เพราะเวลา 10โมงแล้ว หิวๆ
ถ่ายรูปเล่นรอบๆอีกหน่อยก่อนออก
บ๊ายบายทุ่งกิ๊ก และอุทยานแห่งชาติแม่ปิง เป็นที่กางเตนท์ที่ดีมากๆครับ เงียบสงบสวย ที่สำคัญลืมบอกว่าที่นี้ไร้สัญญาณมือถือทุกค่าย หากจากโลกกันโซเชี่ยวสักคืน จะได้คุยกับคนข้างๆมากขึ้นครับ
ออกมาถึงลี้ก่อนจะกลับจริงๆ ก็ขอแวะวัดกนอีกหน่อยนั้นคือที่ วัดพระบาทห้วยต้มครับ
มีงานจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงดงามมากครับที่นี้
วันนั้นเป็นวันพระด้วยและที่วัดมีงานพอดีชาวบ้านเลยมากันเยอะเลย
แวะที่สุดท้ายของลำพูน ที่พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย
ที่นี้ก็สวยงามเช่นกันครับ
ออกจากลี้ประมาณบ่ายโมง กลับทางเส้นเดิม ลี้ลงมาเถินคราวนี้ช่วงกลางวันเห็นทางชัดเจน ได้ทดสอบการเข้าโค้งแบบต่อเนื่องของน้องตั้น ผลออกมาดีเกินคาด มันไปได้แบบง่ายได้เกาะดีมาก ไม่คิดว่ารถสูงๆจะเข้าได้ดีแบบนี้ แต่ก็ยังสู้วีออสคันเดิมเราไม่ได้ แต่ก็แน่นอนคันนั้นมันโหลดเตี้ยและทำช่วงล่างมาแล้ว แต่เดิมๆของกระบะได้ขนาดนี้ถือว่า แจ่มมากครับอันนี้การันตีเลย
ถึงเถินปุ้บน้ำมันถังแรกก็หมดกระพริบ วิ่งได้ 717 โลเอง ทำไมรู้สึกเหมือนกิน
เติมกลับไปได้ 63 ลิตรเท่าดิมเลย สงสัยเพราะขึ้นเขาเยอะถังนี้ เดี่ยวสรุปน้ำมันรวมตอนท้าย
พอออกจากลี้ได้ขากลับนี้ขอเปิดโหมดทำเวลามั้ง ซัด 120-150 ตลอดทางช่วงรถไม่มีก็จัดได้ มีบางช่วงรถโล่งๆไม่มีใครเลยทดสอบกดไหลไปถึง 170 แบบไม่ยากเท่าไหร่ แต่จะเริ่มช้าตอนเกิน 160 แต่ยังเหลืออีก แต่เริ่มไม่ไว้ใจในยาง AT เอาแค่นี้ก็พอ
ถึงจังหวัดตาก มองทางซ้ายเห็นป้ายอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัยรีบเบรคทันที พึ่งรู้ว่าป้ายอยู่ตรงนี้ เลยจอดถ่ายและเห็นป้ายว่ามีไม้กลายเป็นหินข้างในเลยขับเข้าไปดูหน่อย
พอเข้ามาถึงก็ต้องถึงกับว้าวอีกและ ไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีแบบนี้ด้วย
เป็นไม้จริงๆที่ใหญ่ยาวมากมีน้องมัคุเทศน้อยมาช่วยให้คำแนะนำว่าไม้นี้มีอายุกว่าแสนปี คือมีชาวบ้านขุดพบนานแล้ว เขาก็เลยแปลกใจว่ามันใหญ่เลยไปแจ้งให้นักธรณีมาดูเขาเลยบอกวาเนื้อข้างในมันมีส่วนผสมที่กลายเป็นหินประมาณนั้น ซึ่งก็สันนิฐานว่าเกิดจาดระยะเวลาที่นานแล้วเจอแร่ธาตุในบริเวณนี้ด้วยเลยกลายเป็นหิน เพราะ บริเวณรอบๆนี้ยังมีไม้กลายเป็นหินอีกเพียบ
แต่ที่สมบูรณ์ที่สุดก็คือ จุดที่ 1
จากนั้นน้องก็พาไปดูจุดที่สองที่สาม
ที่จริงมีน่าจะ 8 จุด เราดูแค่ 3จุดแรกนี้ เพราะจุดที่เหลือต้องขับรถออกไปอยู่คนละที่
สอบถามเพิ่มเติมได้ความอีกว่าก็ตั้งแต่เจอไม้กลายหินนั้นแหละเลยมีที่นี้ หลายปีมาแล้ว แต่ป้ายข้างหน้าใหญ่ๆที่ว่าอุทยานแห่งชาตอดอยสอยมาลัยนั้นพึ่งทำใหม่เมื่อปีสองปีนี้เองครับ ส่วนพิกัดก็คือ อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลบ้านตากเลย ขาลงไป กทม. ใครผ่านก็แวะเข้ามาดูได้ติดถนนเข้ามาแค่ 2 โล
อันนี้คือจุดที่ 5 แวะเลี้ยวมาดูนิดนึงเข้ามา500เมตร
กำลังโยกกลับรถ เวลาใช้สมาธิปากก็จะห้อยๆหน่อย 555
โลเคชั่นใช้ได้เหมือนอยู่ในป่าเลยขอปิดทริป ผาแดงหลวงลำพูนด้วยภาพนี่ครับ
ออกจาอุทยานสอยมาลัยก็เกือบ4โมง ก็ตรงดิ่งยิงเข้า กทม. ขับเหมือนเดิม ทำเวลาได้ดีพอควร มาถึงแถวบ้าน3ทุ่ม พลังมาม่าเมื่อ10โมงได้ใช้จนหมดเกลี้ยงมากินอีกมื้อร้านแถวบ้านกันเลย
จบทริปอย่างเป็นทางการ กับระยะทาง 1223 กิโล น้ำมันเหลืออีกครึ้งถัง
กลับมาขับใน กทม. จนหมดถังที่สองได้ระยะทาง 770โล ในรูปถ่ายตอนกำลังเติมพอดีเลยมีน้ำมัน ขับจนมันกระพริบแล้ว
รวมระยะทางทั้งหมด 1487 กิโล
สรุปได้ว่า เติมน้ำมันไปสองรอบ 3300 บาท ได้126.615 ลิตร วิ่งได้ทั้งหมด 1487 กิโล ตกกิโลละ 2.21 บาทหรือ 11.74โลต่อลิตร
โดยแบ่งเป็นถังแรกขาไปถังแรก ขึ้นเขาและขับเที่ยว ขับไม่เร็วมาก 120-140 มีไหลไป160นิดหน่อย ได้717 โล จากบางปะอินเที่ยวลำพูนจนมามาหมดที่เถิน
ถังที่สองขากลับจากเถินถึงบ้านและขับในเมืองอีกครึ่งถัง
ขากลับทำเวลากด120-150ตลอดทาง ถึงกทมเหลือครึ่งถัง ขับจนหมดได้ 770 โล
สรุปมันต้องขับเร็วหรือช้าถึงจะประหยัด หรือขาไปมันขึ้นเขาเยอะเลยกินน้ำมัน อันนี้ยังสงสัย555 ส่วนถ้ารถใครเดิมๆมันคงจะได้เยอะกว่านี้แหละ อันนี้หนักล้อยาง เฉพาะยาง BF เส้นละ 24 กิโล ไม่รวมแม็ก และเหล็กกันชนท้ายอีก 50 โล บันไดข้างอีก ได้เท่านี้ผมคิดว่าไม่ขี่เหล่เท่าไหร่นะครับ เดี่ยวจะทดสอบไปเรื่อยๆต่อไปว่าในเมืองหรือนอกเมืองจะประหยัด
อ่ะมา สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ มีทั้งหาร 3 คนและหาร5
ค่าน้ำมันเติมไป 3300 มันเหลือครึ่งถัง น่าจะประมาณ 600 บาทถังล่างมันจะน้อยกว่าถังบนเพราะวิ่งได้ 200กว่าโล ตีไปว่าน้ำมันทริปนี้ใช้ไป 2700
ตีไปว่าน้ำมันทริปนี้ใช้ไป 2700 /3 1180 1050
ค่าร้านข้าวต้มที่ตากขามา 215 /3
ข้าวเช้าที่ทางเข้าอุทยาน 315 /5
ค่าเข้าอุยานรวมกางเตนท์ 310 /3
ค่าแพเรือรวมอาหารมื้อกลางวันแก่งก้อ 1870 /5
ค่าอาหารเย็นและเครื่องดื่มที่ทุ่งกิ๊กและมาม่าตอนเช้า 1320/5
ค่ารถขึ้นผาแดงหลวง 1750 /5
ข้าวต้มเย็นวันกลับ 315/3
รวมทั้งทริปหารแล้วเฉพาะ3คนจากกทมที่ไปไทรทันหมดคนละ 2230 บาท หนักค่าน้ำมันไปหน่อยทริปนี้ตัวหารน้อย555 แต่ก็คุ้มค่าครับทริปนี้เป็นอันจบรายงานทริปนี้ต่อไปจะพูดถึงสรุปถึงบ้าง
สรุปสั้นๆจากกิโลรวมตอนนี้ที่เขียน 40 วัน 7000 กว่าโลแล้วใช้โหดไปหน่อย555 เทียบเอาจากกะวีออสดำของเราละกันที่ขับทุกวันมันจะได้เห็นชัด ไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนจะย้ายจากโหลดเตี้ย มาแนวกระบะยกสูงละกัน
วิสัยทัศน์การขับขี่ดีมากสูงกว้างใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน การขับขี่ในเมืองไม่อุ้ยอ้ายเรียกใช้ได้สบาย ขับแรกๆอาจจะไม่ชินแต่พอสักพัก คันมันจะเล็กเท่าวีออสนั้นแหละมุดไปไหนได้หมด วงเลี้ยวแคบดีด้วย เข้าซ้อยตีวงไม่ได้ลำบากสักเท่าไหร่ จากเคยขับรถเก๋งมา ช่วงยาวกว่าต้องกะดีๆแค่นั้น
อัตราเร่ง มันแรงหายห่วงจริงๆ กดเป็นมาๆ ขับสนุกเหมือนวีออสเลย แต่ดีกว่าด้วยตรงช่วงเร่งไม่ต้องขยี้มากเท่าวีออส กดจาก140 ปื๊ดเดียวไหลไปถึง 170 ได้ แต่ลองแค่นี้พอไม่ค่อยไว้ใจกับยาง AT เท่าไหร่
เรื่องเสียงในห้องโดยสารเงียบกว่าวีออสมาก 150 ยังเงียบเหมือนขับช้า ต้อง 160 ไปถึงจะมีเสียงดัง
และที่ประทับใจที่สุดคือช่วงล่าง เกินคาดเดิมๆแบบนี้เข้าโค้งได้มั่นใจ แต่ก็ยังใส่ได้น้อยกว่าวีออส ช่วงเถินไปลี้ใครเคยไปจะเห็นว่าโค้งพับไปมาบนเขา ทำได้ดีมากอันนี้ชอบ ส่วนอัตราเร่งขึ้นเขาบางจังหวะอาจจะอืดหน่อยแต่ก็ทำได้ดี
แอร์ออโต้ข้อนี้ชอบมากมันปรับให้เราตลอเวลา แอร์เย็นต่อเนื่องแจ่มดีครับ
ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน อันนี้ผมว่าดีมาก จะมีใหม่มือเก่ามันโอกาศเผลอได้ใช้แน่นอนครับ เวลาออกตัวทางชันพอเราปล่อยเบรค มันจะเบรคหน่วงทิ้งให้เรา 3 วิได้มั้ง ถ้าเกินนี้ก็จะไหล และช่วยให้ไม่เมื่อนด้วย พอเวลาเราจอดบนทางชันพอแตะเบรคปุ้บ มันก็ช่วยเบรคแข็งเลย เราแค่เอาปลายเท้าแตะไว้ก็พอมันเบรคให้กันไหล
ต่อมาเรื่องน้ำมันอย่างที่ว่ารถผมมันไม่เดิมแล้ว เปลี่ยนล้อตั้งแต่วันแรก ยาง BF ที่หนัก และเหล็กท้าย50โลกะบันได ตัวเลขมันก็จะกินเยอะหน่อยถ้ารถเดิมๆคงจะทำได้ดีกว่านี้นะครับ
เคยได้เยอะสุดก็ตอน 2 ถังแรกเลยที่รันอินไป สุพรรณแม่กลองพัทยา สองถังแรกเต็มถังขับได้ 840 โล ได้ประมาณ 12. หน่อยต่อลิตร ความเร็วเฉลี่ยอยู่ประมาณ 100 ไม่เกินนี้หลังจากนั้นพอมันขับสนุกก็เลยหมดเยอะกว่าเดิมมั้ง 55
ถ้าขับในเมือง อันนี้ลองหลายรอบและ ทั้งรถติดมากติดน้อยเวลาขับในเมืองจะขับทั้งวัน 10-12 ชั่วโมงวิ่งได้ 200-300 โล รถมันติดทั้งวัน
ก็จะตกอยู่ที่ 11-12 โลลิตรไม่เคยเกินนี้อันนี้วัดจากน้ำมันในถังนะ เพราะตัวเลขหน้าจอมันเชื่อไม่ได้ในเมือง ขับแบบเบรคๆจอดๆ ตัวเลขไม่ขยับเลยอยู่10.หน่อยๆ ตลอด แต่นอกเมืองอันนี้หน้าปัดพอใกล้เคียงพอเชื่อถือได้บ้างถ้าขับความเร็วเท่าเดิมแต่
แต่อย่างทริปที่ล่าสุดเนี้ยดูน่าจอไม่ได้เพราะ เพราะความเร็วต่างกันทั้งไปกลับแต่ก็ได้อย่างที่บอกไปข้างต้น อ่ะยกมาให้ดูอีกรอบก็ได้เผื่อใครมาอ่านตรงนี้ทีเดียวว่าทริปนี้น้ำมันตกกี่บาท
เติมน้ำมันไปสองรอบ 3300 บาท ได้126.615 ลิตร วิ่งได้ทั้งหมด 1487 กิโล ตกกิโลละ 2.21 บาทหรือ 11.74โลต่อลิตร
โดยแบ่งเป็นถังแรกขาไปถังแรก ขึ้นเขาและขับเที่ยว ขับไม่เร็วมาก 120-140 มีไหลไป160นิดหน่อย ได้717 โล จากบางปะอินเที่ยวลำพูนจนมาหมดที่เถิน
ถังที่สองขากลับจากเถินถึงบ้านและขับในเมืองอีกครึ่งถัง
ขากลับทำเวลากด120-150ตลอดทาง ถึงกทมเหลือครึ่งถัง ขับจนหมดได้ 770 โล
สรุปมันต้องขับเร็วหรือช้าถึงจะประหยัด หรือขาไปมันขึ้นเขาเยอะเลยกินน้ำมัน อันนี้ยังสงสัย้เี่ยวต้องลองทริปต่อๆไปอีกที
หมดแล้วมั้งมีไรถามเพิ่มได้มาวาถึงปัญหามั้ง เท่าที่พบตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่ๆเลย ปกติดีทุกอย่าง จะมีก็ปํยส่วนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับการขับขี่
จะมีแค่เสียงเบาะสั่นนิดหน่อย ไม่ได้ซีเรียส รุ่นผมเป็นไม่เยอะ แต่ในกลุ่มบางคนที่เป็นเยอะจะเป็นรุ่นเบาะหนังเห็นในคลิปคือทางไม่ได้ขรุขระมากก็สั่นดังพับๆๆๆ อันนี้ทางมิตซูคงหาวิธีแก้อยู่ละมั้ง
และก็ระบบ idling stop ที่มันจะดับตอนเราจอดไฟแดง มันดับๆติดๆแปลกๆ อยู่ดีๆมันก็สตาร์ทขึ้นมาเอง แต่ผมไม่ได้ใช้อยู่แล้วกดปิดมันตลอด เพราะไม่ชอบเวลารถติดๆ พอรถดับเหมือนคอมแอร์จะไม่ทำงานมีแต่ลม เวลาแดดร้อนๆ แปบบเดียวพอรถดับ ความฉ่ำก็หาย ระบบนี้มันน่าจะไม่เหมาะกะบ้านเมืองร้อนอย่างเรา ผมเลยปิดมันตลอด 5555
แล้วก็มีพบอีกอย่างคือยังไม่ชินกะเวลาเติมน้ำมัน ปกติวีออสเติมแก้สถังละ 300 คันนี้ถังละ 1700 โอ้ยยต่างกันเยอะแท้ 5555
สรุปอีกรอบว่าเป็นรถที่ถูกใจมากเลือกไม่ผิดลูกเล่นมันก็เยอะมาก อาจจะเพราะวีออสคันเก่าเรามันไม่มีอะไรเลยตัวนี้เลยดูว้าวครับระบบที่มีในรุ่นนี้มันเพียงพอต่อชีวิตผมแล้วครับ ส่วนในกระบะยุคนี้ค่ายอื่นก็คงพอๆกันครับเลือกเอาตามที่เราชอบเลยขอให้ทุกท่านเจอรถที่ถูกใจครับ
ส่วนใครสนใจไทรทันไม่ผิดหวังแน่นอน อิอิ แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตะลอนทัวร์ เที่ยวทั่วไทยไปกับไทรทันนน
เหลี่ยมพาเที่ยว
วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 03.04 น.