t9g5zu2v0qpw

ใครจะรู้ว่าเพื่อนบ้านของเรามีสถานที่อันสวยงามซ่อนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเราเองก็เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน บวกกับคนไทยยังไปที่นี่ไม่มากนัก เรารู้จัก “มุลาอิ” จากเหล่าบล็อกเกอร์ที่ไปเที่ยวแล้วมาเขียนรีวิวลงเพจเฟซบุ๊ก สิ่งที่ทำให้เราคิดว่าต้องมาเหยียบมุลาอิสักครั้งก็คือความงดงามของเทือกเขาที่สลับซับซ้อน เป็นวิวภูเขา 360 องศา ซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหน ต้องที่นี่เท่านั้น

มุลาอิ หรือ มอลาอิ ( Mulayit taung ) คือ ยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตการปกครองของรัฐกะเหรี่ยง DKBA ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 15 กม. มีความสูงถึง 2,078 เมตร ตั้งอยู่ที่ จังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธในพม่ามาแสวงบุญ การจะขึ้นไปสักการะนั้น ผู้ชายสามารถขึ้นยอดเจดีย์สูงสุดได้เท่านั้น ส่วนผู้หญิงขึ้นได้แค่ยอดที่ต่ำลงมา 20-30 เมตร คนที่มาต้องเคารพกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด


ข้อควรรู้ก่อนไป

- สัญญาณโทรศัพท์มีทุกเครือข่าย AIS , True , Dtac ที่บริเวณจุดกางเต็นท์

- จุดกางเต็นท์ไม่มีห้องน้ำ ต้องอาศัยตามซอกหิน หรือถ้าขยันเดินไปเข้าห้องน้ำวัด

- ระหว่างทางฝุ่นเยอะมากเตรียมผ้าปิดจมูกมาด้วย

- ที่นี่กินเจห้ามเอาเนื้อสัตว์ขึ้นมาเด็ดขาด

- ร้านค้าที่พม่าขายของทุกอย่าง 20 บาท

เตรียมตัว

- ทิชชู่เปียก ทิชชู่แห้ง

- เต็นท์ ถุงนอน ไฟฉาย

- เพาเวอร์แบงก์

- เสื้อกันหนาว

- เสบียงอาหาร น้ำเปล่า

- ผ้าถุง (ผู้หญิงต้องใส่ขึ้นไปสักการะเจดีย์)

- ผ้าปิดจมูก (ฝุ่นเยอะมาก)

ค่าใช้จ่าย

- ค่ารถตู้ ไป-กลับ = 6000

- ค่าน้ำมันรถ ไป-กลับ = 4500

- ค่าทางด่วน = 100

- ค่าเสบียงอาหาร = 1170

- ค่ารถ 4Wd = 9350

รวม 21,120 บาท หาร 10 / คนละ 2,112 บาท

กฎต่างๆ

- ห้ามกินเนื้อสัตว์ ห้ามกินเหล้า แม้แต่ไข่หรือน้ำปลาก็ไม่ได้

- ห้ามชาย-หญิง เดินจับมือกัน

- ห้ามชาย-หญิง พักแรมด้วยกัน

- ห้ามผู้หญิงขึ้นพระธาตุเจดีย์ยอดสูงสุด

- ห้ามผู้หญิงตักน้ำบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

- ผู้หญิงต้องใส่ผ้าถุงขึ้นไปสักการะเจดีย์

📍การเดินทาง

ข้ามด่านบ้านวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก แล้วต่อรถ 4Wd ประมาณ 4 ชม.กว่า

📞 ติดต่อ

โทร. 083-6281898 , 087-4160792

( ลุงจ่า / ผู้ประสานงาน การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ )

บ้านมอเกอไทย ม.1 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก



เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตอนเวลา 21.00 น. ของคืนวันศุกร์ แล้วถึง อ.พบพระ จ.ตาก ในเช้าวันเสาร์ เวลา 05.30 น. เป็นเช้าที่อากาศดีทีเดียวเชียวหล่ะ อากาศ 20 องศาต้นๆ เช้านี้เราได้เจอกับ “ลุงจ่า” เป็นคนที่เราติดต่อเพื่อให้พาเราไปยังพระธาตุเจดีย์มุลาอิ ลุงจ่าต้อนรับเราด้วยอาหารเช้าง่ายๆ เป็นข้าวต้มร้อนๆ กาแฟ โอวัลติน ก่อนที่เราจะต้องออกเดินทางในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

ft17pxn6959n
w7hrun6wkyw7


ล้างหน้า+แปรงฟัน เตรียมของเสร็จ เราต้องเดินข้ามสะพานเพื่อขึ้นรถ 4Wd ไปยังพระธาตุมุลาอิ ทุกคนแบกกระเป๋าของตัวเองแล้วเดินตามๆกันมา มีสมาชิกคนนึงพูดขึ้นว่าถ่ายรูปหมู่กันเถอะ สมาชิกคนนั้นยื่นมือถือให้พี่ทิวาคนขับรถตู้ แล้วก็ได้ภาพนี้มา

cxpv1y9fj1tn


หลังจากเดินข้ามสะพานมาหันขวาไปเจอไอหมอกลอยบนน้ำ เช้าวันนั้นอากาศเย็นมากเลยแหละ สดชื่นสุดๆ

3icx3ywo2ddv


เราต้องนั่งรถ 4Wd ต่อจากนี้ไปอีก 4 ชั่วโมงกว่าๆ กับทางที่ค่อนข้างชัน ไม่สิชันมากๆเลยแหละ ขาไปนั่งหลังต้องกันฝุ่นเข้าหน้าด้วยผ้าปิดจมูก ถามว่ากันได้ไหม ได้นิดหน่อยแหละ ถถถถ

s2i3g3las2ix
6lsvr3sxw7wk
5iode21mhlco
vfvhofxfs3pg
wbhwtz4cnq3t


นั่งรถมาได้สัก 1.30 ชม. รถจะจอดแวะหมู่บ้านกะเหรี่ยง DKBA ให้เรากินข้าวกลางวัน เป็นข้าวกระเพราหมู+ไข่ดาวที่อร่อยมาก แก๊งเราพี่ๆเอาของมาบริจาคให้โรงเรียน แต่วันนี้โรงเรียนปิดพอดี เลยฝากของบริจาคไว้ให้พี่ๆทหาร และ หน.ชุมชนไปมอบให้เด็กๆในวันเปิดเทอม

znpjkgj81ckr
kukvvwug2kss
jmw8sru9upiw

4930aocdvrcz
a0crvqb9g2kd


ที่หมู่บ้านมีร้านค้าขายพวกขนม ของที่นำเข้าจากไทยทุกอย่าง 20 บาท ไหนๆก็มาแล้วเราเลยอุดหนุนสปอนเซอร์ไป 1 ขวด

6g6k24tokd1l


นั่งรถมาในระยะทางค่อนข้างไกล บ่นกับเดอะแก๊งว่าเมื่อไหร่จะถึงซะที หลายรอบมาก! จนรถจอดที่นึงเป็นจุดชมวิว วิวดีมาก จอดถ่ายรูปกันสักพักออกเดินทางต่อ

7m7qa1zde9x1
vvj3kyqqy4nl
03wtqcf962im
ge6ftmpark72
ymo8xu0lsjzm


และแล้วเราก็มาถึงบริเวณลานจอดรถ "พระธาตุมุลาอิ" โคตรดีใจเลยเว้ยถึงซะที แก๊งเรายืนคุยกันว่าจะไปไหนก่อนดีระหว่าง ลานกางเต็นท์กับพระธาตุ สุดท้ายเลือกไปลานกางเต็นท์กลัวไม่มีที่กางเพราะวีคนี้คนมาเยอะมาก ระยะทางเดินไปจุดกางเต็นท์ ประมาณ 1.6 กิโลเมตร มีทั้งทางเรียบ ทางชัน ทางโคตรชัน มีหินตาปุ่มเป็นช่วงๆ

jfnbjawrbwt2
r01xr8ownpz3
61dmcs81idoe
xwcasw4smy9m
3po6x97g8sx8


มาถึงจุดกางเต็นท์ คนเต็มไปหมด มีคนมาก่อนหน้าเราเพียบ เลยตัดสินใจเดินกลับไปข้างบนเพื่อกางเต็นท์ เลือกที่ๆดีแล้วนะ แต่พอกลางคืนเท่านั้นแหละลมโคตรแรง เต็นท์แทบปลิวจ้า

98enut79sntb


brktrru38j0q
7ls9e7l8japh






หลังจากได้ที่กางเต็นท์แก๊งเรา 10 คน เดินกลับไปที่พระธาตุมุลาอิ ซึ่งเดินกลับไประยะทาง 1.6 กม.อีกแหละ ด้วยความที่มากับแก๊งสายถึกเราเลยเดินขึ้นพระธาตุจากทางลัด เป็นทางที่โคตรชัน

3kbyfmxo8cff
d784yxgltls0



มาถึงพระธาตุ ผู้หญิงต้องนุ่งผ้าถุงเท่านั้น ขึ้นสักการะพระธาตุได้แค่ยอดต่ำลงมา 20-30 เมตร ส่วนผู้ชายขึ้นไปสักการะพระธาตุ ที่ความสูง 2078 เมตร

jh5i66wryjko
pukyjm7tyn3p
83dolxghhq73

กลับจากสักการะพระธาตุเสร็จ เราก็มาทำอาหารมื้อเย็นกินกัน เมนูก็คือมาม่าเจต้มยำเห็ด อร่อยมาก

itjfluso6ago
hnit0v6gzqlp

ถ่ายรูปเล่นยามเย็นสักหน่อย ตอนเย็นพระอาทิตย์ตกสวยมาก และวิวที่เห็นตรงหน้าคือ 360 องศา ไม่มีอะไรมาบดบังความสวยงามของธรรมชาติ

yrug8br389gf
l798ens186dj

เช้าวันที่ 2 ตื่นกันแต่เช้ากับอากาศหนาว 9 องศา ลมแรงปะทะหน้าจนชา 

kqmotps1ntqy

เก็บภาพบรรยากาศก่อนกลับบ้าน

2usugfglqzbn

2ui2exx895g5
33fa5z5x3kx3
58q8tirllh24
jszgzur2u700

บ๊ายบายมุลาอิ สักวันเราคงได้พบกันอีกนะ

ฝากติดตามเพจเราด้วยจ้า 

https://www.facebook.com/jarchinmaitravel



Jansuda Wuttichok

Jarchinmaitravel

 วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.31 น.

ความคิดเห็น