เช้าวันที่2จ้า ตอนแรกกะว่าจะไปmorning runแต่พี่ที่นอนห้องเดียวกันเบรคไว้ก่อนว่าแถวนี้ดูไม่ปลอดภัยเลยอด
*เมื่อคืนด้านล่างของโรงแรมมีทุบกระจกรถด้วย ไม่รู้ว่าชิงทรัพย์รึทะเลาะกัน ได้ยินแต่เสียงไม่กล้าลงมาดู มาเห็นอีกทีคือตอนเช้า
ด้วยความที่พี่เค้าจะต้องตื่นมาละหมาด เราเลยตื่นพร้อมเค้า ประมาณตี5-6โมง โรงแรมนี้มีบอกทิศทางให้ด้วยว่าให้หันหน้าไปทางไหนตอนละหมาด สะดวกสำหรับคนที่เป้นมุสลิมเหมือนกัน แต่พี่เค้าก็มีแอพฯในมือถืออยู่แล้วนะ
ด้านล่างมีร้านกาแฟ+อาหาร ยี่ห้อOLD TOWN เป็นร้านเฟรนไชส์ท้องถิ่นของมาเล เป็นพวกอาหารเช้า อาหารจานเดียว ชา-กาแฟ อร่อยถูกปาก ราคาไม่แพง
3คนนะ พวกข้าว บะหมี่ ขนมปัง สั่งเป็นเซ็ทก็จะถูกหน่อย
อันนี้เหมือนแป้งพิซซ่า ไส้เป้นปลากระป๋องผัดเครื่องเทศก็จะเผ็ดๆหน่อย
บะหมี่
อันนี้อีกแบบ ค่อนข้างเครื่องแกงจัด ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบ
อิ่มแล้วก็เดินทางต่อวันนี้จะไปไกลหน่อยคือ ถ้ำBATU (ฺBatu caves) ซึ่งเป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดู งงมั๊ย คนพุทธ 25 คน กับ ครอบครัวมุสลิม ไปเที่ยว ศาสนสถานฮินดู อ่ะไปกันเลย นั่งรถไฟไป ซึ่งเป็นรถไฟที่ออกนอกเมือง (แต่ราคาก็ไม่แพง)นั่งยาวๆไป
ความงงของรถไฟออกนอกเมือง - นายสถานนีบอกว่าให้ดูป้ายด้วย ว่าคันไหนไป-ไม่ไปจนถึงสถานนีที่มีถ้ำบาตู สรุปรอจ้า 15 นาทีก็ยังไม่มา จนพี่คนนึงจะเข้าห้องน้ำ พอเค้าไปเข้าห้องน้ำ เออ รถมาเฉย ก็ต้องรอคันต่อไป สรุปรอไปเกือบชั่วโมงอะ กว่าจะถึง
ถึงสถานนีแล้วพอออกมาก็จะมีของขายเรียงรายยาวจนถึงทางออก ตั้งแต่ของที่ระลึก เสื้อผ้า ต่างหู คสอ. น้ำ ขนม ที่เป็นสไตล์อินเดียทั้งสิ้น
เลี้ยวซ้ายคือส่วนที่เป็นถ้ำ ต้องเสียค่าเข้า ทางขวาจะเป็นรูปปั้นใหญ่ๆ
เข้าถ้ำกันก่อน เพราะแดดแรงประมาณนี้(เกือบเที่ยง)ควรเข้าที่ร่ม
ด้านในก็จะมีรูปปั้น เกี่ยวกับเทพฮินดูต่างๆ ประดับด้วยหลอดนีออนสีๆแสบตา
ถ้าใครอินก็มาเราไม่อินเพราะ
1.ไม่ได้เก่าแก่หรือโบราณเหมือนเวลาเราไปวัดแล้วมีรูปปั้นวัว ไก่ อะไรประมาณนี้ รูปปั้นเป็นรูปปั้นใหม่
2.ต้องเดินขึ้นบันไดในถ้ำซึ่งค่อนข้างลื่น มืด บางช่วงต้องปีนป่าย และที่สำคัญมีกลิ่นอึค้างคาว
ความสูงความถ้ำ จบการรีวิว
พอออกจากถ้ำเดินไปนิดนึงซ้ายมือก็จะเป็นโซนที่ทำใหม่
แต่ไม่ได้ขึ้นไปนะเพราะดูจากบันไดแล้วเราก็ไม่ได้ศรัทธาแรงกล้าขนาดนั้น
ช่วงเที่ยงนักท่องเที่ยวก็เริ่มมากันแล้ว ดูจากฝั่งตรงข้ามที่เป็นที่จอดรถทัวร์
รอบๆจะมีขายพวงมาลัย ดอกไม้ ชุดของไหว้บูชาต่างๆ และน้ำมะพร้าว
ไม่ได้ซื้อซักอย่างจ้า เดินทาง 1 ชั่วโมง เดินชม 15 นาที ตามคาด
ขากลับ ก็รอนานเหมือนกัน พี่ที่เป้นครอบครัวมุสลิมก็เข้าไปละหมาดในสถานนีก่อน ที่มาเลทุกที่มีห้องละหมาด
สถานนี้ถ้ำบาตู ใหญ่และใหม่มาก
นั่งรถไฟเข้าเมือง ไปดูมัสยิดปุตราจายา กัน ก่อนเข้าหาอะไรกินกันก่อน
เบอเกอร์คิงที่นี่มีแต่ไก่กับเนื้อนะจ๊ะ ดียจ์มากสำหรับคนรักเนื้อเพราะไม่แพงเท่าบ้านเรา เบคอนเค้าก็เนื้อวัวนะ
มีสลัดในชุด เพื่อสุขภาพมาก
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตลาดเสื้อผ้า อาหารแผงลอย แล้วก็พวกของที่ระลึกต่างๆ แนวมุสลิม มาช๊อปกันได้
อันนี้แป้งล้วน
เข้ามัสยิดปุตรา ถ้าเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้คลุมผมต้องใส่ชุดคลุมสีแดงด้วย
คนที่นับถือศาสนาอื่นไม่ไม่ใช่มุสลิมห้ามเข้าไปด้านในนะ แถมข้างในแยกหญิง-ชายด้วย
ขอชื่นชมสถาปัตยกรรมด้านนอกก็แล้วกัน สะอาด สวยงามใหญ่โตมาก คุณลุงที่เฝ้าก็ใจดีช่วยถ่ายรูปให้ รู้มุมต่างๆไปอีก
พออกมาด้านนอกก็จะเป็นการเดินรอบๆแถวนี้จะมีสถานที่สำคัญทางราชการต่างๆ ตามแผนที่เลย
ถึงรถไฟฟ้าที่มาเลจะทั่วถึง+ไม่แพง แต่สถานที่ต่างๆส่วนใหญ่ก็ต้องเดิน แถมไกลด้วยเหมาะกับคนที่เดินทนๆ และใส่รองเท้าดีๆกันมาด้วย แต่สภาพอากาศไม่ค่อยน่าเดินเท่าไหร่ วันนี้ร้อนแดดแรงมากกก
มีการทำน้ำพุ่ง นึกว่าอยู่ชองเกซอน
แถวๆนี้ก็จะมีจัดระเบียบ ทั้งขายของ การแสดงเปิดหมวก พอมีบ้างแต่ก็จะเป็นจุดที่เค้ากำหนดให้เท่านั้น อย่างขายของก็จะเป็นการเดินขาย มีตั้งแต่ของเล่นเด็ก ลูกบอลลูกโป่ง ไปถึงมะม่วง น้ำดื่ม
ตอนนั้นที่ไป บางพื้นที่ก็มีการปรับปรุง
เดินมาจนถึงโซนที่เป็นสวนสาธารณะ กล้องก็แบตหมด คนก็แบตหมดตามเพราะทั้งร้อนทั้งเพลีย เลยตกลงว่าจะกลับโรงแรมกัน
พอถึงสถานนีที่พัก เราขอแยกไปกับพี่อีกคน ไปลองกินอาหารอินเดียที่เล็งไว้ ชื่อร้าน ABC อยู่ตรงสถานนีรถไฟฟ้า KL SENTRALเลย
สั่งแบบจิ้มๆไป ได้เป็นอย่างนี้ แกงแกะ ไม่แพง มีผักๆแนม(เป็นเหมือนแตงกวา) แต่จำราคาไม่ได้แล้วSO SORRY
น้ำดื่มฟรี แต่เป็นแบบน้ำร้อนนะ ร้อนมาเลยควันฉุยๆ แก้วสเตนเลสแบบเกาหลี แต่อากาศร้อนแบบ40องศา
อิ่ม+เพลีย ทุกคนก็แยกย้าย พักผ่อนตามอัธยาศัย(นอน) พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว ในKL
ขอลาไปด้วย ยาคูลท์มาเล ที่ จืดดดดดด
SOME ONE LIKE YOU
วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 11.24 น.