เมื่อ Sixty พบ Millennium ที่ Ross Kitchen @ AKARA Hotel Bangkok.

ทันทีที่เปิดผ้าม่านหนาที่ยาวเพดานจรดธรณีประตู เราก็แทบร้องว๊าวววว ด้วยหวลถึงบรรยากาศสมัยเป็นเด็ก หรือสมัยคุณพ่อ คุณแม่ยังหนุ่มยังสาว ภาพของผับบาร์สมัยก่อน ที่เคยเห็นแต่ในทีวี หรือภาพยนต์ผุดขึ้นมาในหัว

ประตูบานเฟี้ยม แสงไฟสีแดง และป้ายชื่อร้านใหม่ ที่ออกแบบให้เหมือนแบบเก่า ติดราวกับเป็นร้านเล็ก ๆ ที่ตั้งรายล้อมกัน แสงสีน้ำเงินที่สว่างตามช่องทางเดิน ตัดกับแสงสีแดงที่เป็นพื้น ยิ่งให้อารมณ์หวลถึงอดีตราวยุค 60's ในขณะที่ตอนนี้เราอยู่ในยุค Millennium กันแล้ว

ที่นี่ที่ไหนเหรอค่ะ บอกไปก็คงจะร้องอ๋อ เพราะมันเป็นบาร์ในโรงแรมกลางกรุงเทพฯ อย่างโรงแรมอครา ราชปรารถ ประตูน้ำ นี่เอง บาร์แห่งนี้ คือ Ross Kitchen ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยหรูย้อนยุค ถ้าจะมีใครทำผมตีโป่ง นุ่งมินิสเกิร์ตลายดอก หรือกางเกงขาบานกวาดตลาด หรือใส่รองเท้าส้นตึกสูงลิ่วมา เราก็คงไม่แปลกใจ เพราะบรรยากาศมันให้เหลือเกิน

ผ่านจากบาร์แสนสวย เราเข้าไปสู่โถงด้านใน ที่ออกแบบไว้ให้เหมือนกับโต๊ะในบาร์ยุคซิกตี้จริง ๆ ทั้งโต๊ะกลม และโซฟาครึ่งวงกลมลายสก๊อต ผนังปูกระเบื้องเคลือบสี่เหลี่ยม บรรยากาศทึม ๆ สลัว ๆ ป้ายไฟติดผนังสะดุดตา "เสือร้องไห้" ประดับไว้ด้านหน้าที่กลางห้อง

โปสเตอร์ใบบิดหนังไทยรุ่นเก่า ๆ หลาย ๆ เรื่องที่เราเคยผ่านตาเพียงจากในโซเซียลมีเดีย หรือหลาย ๆ เรื่องที่เคยได้ยินชื่อแต่ไม่เคยสัมผัสด้วยตาตัวเอง หลายเรื่องขึ้นหิ้งเป็นตำนาน อย่างเรื่อง "นกน้อย" ของ ดอกดิน กัญญามาลย์ และกัญญามาลย์ภาพยนต์ หนึ่งในตำนานค่ายหนังยุคเก่า

ข้าวของเครื่องใช้ที่วางบนโต๊ะ ถ้วยชาม แก้วน้ำ ล้วนแล้วแต่จำลองมาจากบรรยากาศเก่า ๆ พาเราย้อนยุคไปในปี 60 ได้โดยไม่ต้องสัมผัสด้วยตัวเอง

มุมหนึงของห้อง เป็นเคาเตอร์อาหาร แบบครัวเปิด ถ้าสังเกตุดี ๆ จะรู้ว่าจำลองมาจากรถเมลล์

เรานั่งลงและสั่งอาหาร ที่มีอาหารหลากหลาย ทั้งเมนูไทย และเมนูฝรั่ง แต่ที่ขึ้นชื่อ คงจะไม่พ้น "เสือร้องไห้" ที่ติดป้ายไฟประกาศไว้กลางห้อง ระหว่างที่รออาหารบริกรให้บริการด้วยชุดจิ่มแจ่วขนาดกลางเพื่อมาให้กินรอ เป็นคอมพลีเมนเธอลี่

ชุดจิ่มแจ่วขนาดกลาง เป็นคอมพลีเมนเธอลี่ กินเล่นระหว่างรออาหารที่สั่ง

ถึงแม้นเจ้าจิ่มแจ่วชุดนี้จะเป็นคอมพลีเมนเธอร์ลี่แบบฟรี ไม่ต้องจ่าย แต่ก็ดูดี แบบที่เรียกว่า เรียกเก็บเงินก็ยังไม่เคือง เพราะมีทั้งแจ่วบอง และแจ่วธรรมดา เสิร์ฟมาพร้อมผักสด และแคบหมูกรอบ ๆ แบบว่าถ้ามาคนเดียว แค่ชุดนี้และมีเบียร์ก็น่าจะเพียงพอ

ลาบเป็ดกรอบ

ลาบเป็ดกรอบจานนี้ เสิร์ฟมาในกะทะร้อนขนาดเล็ก ด้านบนเป็นน่องเป็ดทอดกรอบ หนังร่อนกรุบกรอบ เสิร์ฟมาบนลาบเนื้อเป็ด แน่น ๆ ให้รสชาติหวานลิ้น ทั้งกลิ่นเครื่องปรุง ข้าวคั่วหอมฟุ้งละมุนลิ้น ต่อให้ฉีกน่องเป็ดจิ้มน้ำลาบ ก็ยังได้รสชาติกลมกล่อม ยิ่งกินคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ ด้วยแล้ว ฟินเฟ่อรรรรรร์

เสือร้องไห้

ตัวประกอบมาแล้ว พระเอกก็ตามมาติด ๆ ด้วยเนื้อส่วนคอย่างไฟหอมกรุ่น เสิร์ฟมาพร้อมเตาย่างในระดับมีเดียมแรร์ หากต้องการความสุกในระดับนี้สามารถยกลงจิ้มแจ่วกินได้เลย แต่ถ้าต้องการสุกกว่านี้ ก็สามารถย่างต่อได้อีก

กลิ่นหอม ๆ ของเนื้อย่าง สีฉู่ฉ่าของมันเนื้อที่หยดลงใส่ไฟ หลั่งไหลราวกับน้ำตาของเสือร้าย เนื้อเกรดดีหวานนุ่มละมุนลิ้น ตัดกับน้ำจิ้มแจ่วรสเปรี้ยวนำ เค็มตาม กุบกิ๊บด้วยรสสัมผัสของข้าวคั่ว และผักชีลาว กว่าจะวางซ่อมได้ เนื้อก็หายไปจากเตา

จานต่อมาถือได้ว่าเป็นนางเอก เมนูแปลก ชื่อเก๋ ที่คิดค้นกันตรงนั้นในระหว่างทำร้าน นั่นก็คือ "ยำรถเมลล์" ซึ่งส่วนประกอบหลักเป็นอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็น หอยนางรมตัวโต ๆ ปลาแซลมอนสด หรือหอยเป๋าฮือญี่ปุ่นเนื้อนุ่มเนียน เอามาคลุกเคล้ากับเครื่องยำแบบไทย ๆ จนได้ยำรสละมุน นุ่มลิ้นด้วยความสดหวานของส่วนประกอบคุณภาพเลิศ

จานนี้ไม่ธรรมดา เพราะเชฟต้องมาปรุงให้เราถึงโต๊ะ เรียกว่า ปรุงโชว์กันเห็น ๆ ก่อนจะแปลสภาพส่วนประกอบทั้งหลายที่เสิร์ฟมาในครั้งแรก ให้เป็นเมนูยำรสเลิศเลอเพอร์เฟคขนาดนี้ น้อง ๆ ขอเบียร์ด่วน !!!

ยำรถเมลล์ที่ปรุงเสร็จแล้ว

ส่วนใครที่ไม่ดื่ม ก็อย่าเพิ่งเซ็งไป กลับหมดยังมีของหวานแบบไทย ๆ ทำง่ายแต่อร่อยล่ำอย่าง "ข้าวเหนียวมะม่วง" ข้าวเหนียวมูลหอมหวานมัน กินเข้ากันกับมะม่วงน้ำดอกไม้เนื้อหนาหวานฉ่ำ ราดกะทิโรยถั่วทองให้ได้รสชาติเค็มมันกรุบกรอบ ยิ่งอร่อยล้ำ

น่าเสียดายที่ค่ำคืนนั้นไม่ยาวนานดั่งใจ และงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา โอกาสหน้าย่อมเวียนมาถึง ถึงเวลาต้องกล่าวคำล่ำลา กับความมาดหมายว่าจะต้องกลับมาใหม่ ในบรรยากาศอันน่าดื่มด่ำ และรสชาติที่น่าจดจำ

The Ross Kitchen ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรมอครา กรุงเทพ ย่านราชปรารถ ให้บริการอาหารไทย-จีน และอาหารอื่น ๆ อีกหลากหลาย เปิดให้บริการเป็นประจำทุกวัน