สวัสดี ใครก็ตามแต่ที่หลงเข้ามา ฮาาาา
นี่เป็นการเขียน รีวิวทริปเที่ยวครั้งแรกของเรา แอบตื่นเต้นนิดๆปนประหม่าหน่อยๆ ฮาาาา คือ นี่พิมพ์รอบที่ สอง ล๊าวววฮ่าๆๆ การเดินทางครั้งนี้เราเพลนคร่าวๆ
ว่าจะไป ม่อนแจ่ม-แม่กำปอง-ตีนตก-ร้านกาแฟต้นไม้ พร้อมๆแวะเที่ยวรายทาง ด้วย ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก เริ่มต้นด้วยการรวบรวมสมาชิก ที่จะมาตกหลุมไปกับเราฮ่าๆ หามาได้ สามคน รวมเราเป็นสี่ สาวโฉด สวยแระรวยพอๆกัน ฮาาาา รีวิวแรก อาจจะพังและปังก็ไม่ว่ากันถ้าหลงเข้ามาแล้วก็อ่านเพลินๆดูรูปไปพลางๆ จิบกาแฟไปด้วยจะดีมากๆ ฮ่าๆๆ
กทม > เชียงใหม่ ด้วยเครื่องบิน ของ นกแอร์ เราถึงเชียงใหม่ 8.20 น.18 สค 58
โดยโทรติดต่อเหมารถแดง ของคุณลุงธวัชชัยให้มารับ และพาเราเที่ยวครั้งนี้ เหมา 3800 ม่อนแจ่ม-แม่กำปอง เบอร์ลุง 0846111667 เผื่ออยากใช้บริการ
ลุงพาเราแวะกินข้าวเช้า และ พาไปไหว้ ครูบาศรีวิชัยก่อนไปเที่ยว ด้วย
ดอกไม้ธูปเทียนชุดละ 20 บาท ลุงยังแอบกระซิบเบาๆว่า ข้างหลัง นั้นมีน้ำตก เราไม่รอช้าใช้เวลาไหว้ คนละ ห้านาที ก็ เดินไปต่อที่น้ำตก
สวัสดี น้ำตกห้วยแก้ว เข้าฟรีไม่เสียตัง
ไม่ถึงกับชันมาก
ปล่อยให้สาวๆได้ใช้เวลา ส่วนตัวฮ่าๆๆ
มาต่อด้วย พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมณ์ และวัดป่าดาราภินมย์
พระตำหนักดาราภิรมย์อยู่ในความรับผิดชอบของ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ดูแลดีมากๆค่ะ บรรยากาศรอบๆร่มรื่น
บัตรค่าเข้าชม คนละ 20 บาท ด้านในห้ามถ่ายรูป ใช้ความทรงจำในการเก็บภาพแทนละกันน้าา
หลังจากที่เดินจนทั่ว ลุงบอกไปวัดต่อกันเลย เห้ยๆๆเดี๊ยวๆๆ ไม่มีในเพลนนะวัด ลุงงงง เรามาแบบ พลิกๆ ชิคๆ ชิวๆ(ไปไกลๆ) มีร้อนแน่งานนี้ เอร๊ยยย เย็นกายสบายใจ ฮ่าๆๆ ไปค่ะวัดก็วัด
วัดป่าดาราภิรมย์
เรามาวัดกันจริงๆ กินติมต้องแบ่งปัน ฮ่าๆๆ อ้ามๆๆ
ออกจากวัด ลุงพาไปคุ้มเสือ จร้าาา คือไปดูเสือ ฮ่าๆๆ รูปมีแต่ เลนส์ฟิค คือ ลายเป็นแมว เลยขอข้ามน้าา ไปที่ต่อไปดีกว่า เนอะ สวนกล้วยไม้และผีเสื้อ น่ารักๆเหมาะกับสาวๆแบบเรา ฮ่าๆๆ
เสียค่าเข้าคนละ 40 บาท จ้าววว
โฟกัส อาจวืดด เพราะผีเสื้อ บอกว่า ฉันจะบินโชว์ปีกสวยๆ ฮ่าๆ
หลังจาก slow life กันมาพอสมควร เสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้น ฉันนนน หิวววว ! กระเพาะ กล่าวว เหลือบมองนาฬิกาก็เกือบๆเที่ยง แฟนคลับที่ตามไลด์รูปในเฟสบุค ได้กระซิบเรามาว่า ทางนี้มีร้านอาหารสุดพีคค บรรยากาศดีเว่อร์ อร่อยแรง อยู่ระหว่างทางไปม่อนแจ่ม ชื่อ ร้าน โป่งแยงแอ่งดอย ช้าอยู่ไยรีบไปบอกคุณลุง แล้วก็โกๆๆ จ้าวว
ทางร้านมีที่พักให้บริการด้วยเผื่อใครอยากมานอน บรรยากาศดีจริงๆค่ะ
เราเป็นผู้หญิงกินคลีน เลยสั่งมาแค่อย่างเดียว จริงๆ(เสียงสูงมาก) คลีนขนาดที่ สะอาดทุกโต๊ะค่ะฮ่าๆๆ รสชาดอาหารก็พอใช้ได้ ค่ะกินได้ อ่ะ หลังจากสนองความต้องการของกระเพาะแล้วต้องเดินย่อย จ๊ะ เดินเล่นรอบๆร้าน
หลังจากเดินย่อยกันเสร็จ ก็ถึงเวลาที่จะขึ้น ม่อนแจ่ม ฮ่าๆๆ เกือบๆบ่ายสองแย้ววว เรื่อยๆ จร้าา ไปดีกว่า ฮาา
ถึงแล้วววววววว สวัสดีม่อนแจ่ม คือ ก่อนมา ก็คิดว่า ไม่มีอะไร เออ ก็ไม่มีอะไรจริงๆฮ่าๆ แต่สิ่งที่ได้คือ ความฟิน ปนความหายเหนื่อย อากาศดี มากๆวิวสวย มากๆค่ะ ทางขึ้น ค่อนข้างชัน แต่เห็น วีออส จอดเรียงรายกันอยู่ที่ลานจอดรถ เห้ยย แกร๋ อย่า ช้า ไปถ่ายรูปกัน
มองดูท้องฟ้าตรงนั้น สิ ส่งยิ้มให้กัน แบบไม่ต้องการ อะไร
บอกรัก ท้องฟ้า ต้นไม้ และสายลม สายฝนเริ่มน้อยใจ๋ ตกมาปรอยๆละสิ
สายฝนปรอยๆ ช่วยลบรอยน้ำตาให้จางหาย ลืมไปเลย ความทุกข์ ....
บรรยากาศโลแม้นนนน จน แทบอยากหยุดเวลา ครึ้มๆลมแรงๆ ฝนปรอยๆ lowseason มันดี ง่ะ ฮ่าๆ
เริ่มลงดอกไม้ เพื่อรอฤดูหนาวที่กำลังจะมาเยือน
เดินจนเหนื่อย เริ่มหิวอีกล๊าววว ต้องการที่นั่ง และน้ำ ฮ่าๆๆ
ศาลานั่งฟรีได้ค่ะ สั่งอาหารจากทางร้านมาทาน ราคาก็ ตามระยะทาง ที่ขนขึ้นมา ฮ่าๆ วิวตรงนี้ดีมากๆ บางคนหลับ บางคนถ่ายรูป เก็บความประทับใจกัน อย่างเมามัน
แมวตัวนี้กินเก่งมากๆ
เราใช้เวลาอยู่ที่ม่อนแจ่ม จนถึง 16.30 ก็เดินทางออกจากม่อนแจ่ม เพื่อไปม่อนตะวัน ที่พักคืนนี้ของเรา จริงๆอยากอยู่ต่อ แต่คุณลุงต้อง ขับรถลงเขาและทางค่อนข้างชัน เลยต้องรีบให้คุณลุงไปส่ง ที่ม่อนตะวัน และพรุ่งนี้เช้ามารับพวกเราลงเขา ไปแม่กำปองประมาณ 9 น. อ่านรีวิวจากเน็ต ม่อนตะวันห่างจากม่อนแแจ่ม 1 กิโลเมตร แต่มันคือ กิโลแม้วว จร้าาา พังงงงง วิวสวยๆของฉันตอนเช้า กับทะเลหมอก ที่ม่อนแจ่ม คือ นางกะจะตื่นแล้วเดินมาดูไงแอบมีงอล ฮ่าๆ แอบเสียใจแต่ก็ไม่เป็นไร ฮ่าๆ
วิวตอนเช้าจากม่อนตะวัน ที่พัก คนละ 500 บาท มีเครื่องทำน้ำอุ่น มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ที่นี่ลมแรงมากๆๆ อากาศประมาณ 15 องศา ตอนกลางคืน
เช้าของวันที่ 19 สค 58 คุณลุงมารับ เรา ช้ากว่าเวลาที่กำหนด เพราะในตัวเมืองฝนตกรถติด แต่บนเขาอากาศดีเว่อร์ ลมเย็นๆ ทะเลหมอกสวยๆ ฟินไปอีก ฮรือ ต้องไปแล้ววว นี่ตื่นมาดูทะเลหมอกตังแต่ 6 โมงเช้า พร้อมกับฝนปรอยๆ วันนี้เป้าหมายการเดินทาง คือแม่กำปอง ระหว่างทางลงจากม่อนแจ่ม เราขอคุณลุงแวะ สวนพฤษศาสาตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์
ถึงที่หมายยย โกๆๆ ไปเดินดู พันธุ์ไม้ กัน มีหลายหลายโซนด้วยกัน ทั้ง ตะบองเพชร เฟิร์น บัว ไม้น้ำ และพันธุ์ไม้หายาก อีกมากมายค่ะ
cactus น่ารักมาก ใครที่รัก cactus ถ้ามาเชียงใหม่ไม่ควรพลาดที่นี่ นะ มีขายต้นละ 20 บาท
ลืมบอก ค่าเข้าคนละ 40 บาท พาหนะ 100 บาทค่ะ
เราออกจากสวน เกือบๆเที่ยง ลุงเลยพา แวะกินข้าวที่ ร้านเฮือนเพ็ญ2 อาหารเหนือ จัดเต็ม แบบ คลีนๆจร้าาา
ท้องอิ่ม ก็มีแรงไปต่อ จร้าา แกรนนแคนนนนย่อนนนนนนน อ่ะแกร ฮ่าๆๆๆ
สวัสดีแกรนแคนย่อน
วันที่เรามาฝนตกเลยอดโดดน้ำ ฮรือ แล้วแบบ ดินโคลนอ่ะ จ๊ะ กว่าจะได้รูปมา นี่ก้มมาดูรองเท้าอีกที ก้าวไม่ไปละจ๊ะ ฮ่าๆๆ
ค่าเข้าคนละ 50 บาท
มาต่อค่ะ ออกเดินทาง จากแกรนแคนย่อนไป ต่อที่ ถ้ำเมืองออน
เข้าฟรี มีดอกไม้ธูปเทียนขาย เพื่อนำไปไหวหลวงพ่อทันใจ บรรยากาศภายในถ้ำ มีน้องนักเรียนเป็น ไกด์ ให้ด้วยค่ะ สงสัยอะไรถามได้ น้อง ข้อมูลเพี้ยบ
เดินขึ้นถ้ำด้วย บรรได 106 ขั้น ถ้าจะขึ้นไปไหว้ หลวงพ่อทันใจ อีก 706 ขั้น เราไม่ได้ไปค่ะ ด้ยเวลาตอนนั้น บ่ายสามแล้ว ในถ้ำเป็นหินงอก สวยงาม ค่อนข้างมืด มีไฟฉายใ้หเช่า ยุ่งเยอะ มากๆ
เดินทางออกจาก ถ้ำเมืองออน เราไปต่อกันที่น้ำพุร้อนสันกำแพง ที่นี่ดูเงียบสงบ หรือมันเย็นแล้วคนเลยน้อยฮ่าๆ
สวัสดี น้ำพุร้อน
ไข่มีขาย ตะกร้อ ละ ยี่สิบบาท ต้มไว้สัก สิบ-สิบห้านาที เราจะได้ไข่สุข อย่าลืมหยิบถุงซอสออกมาด้วยละ มันจิแตก
เข้าใกล้ๆนี่ ร้อน มากกอ่ะแกร ที่นี่มีให้แช่เท้า ทำสปาด้วย ถ้าหน้าหนาวคงฟิน แรงงง ฮิ
เราเดินทางออกจากน้ำพุร้อนสันกำแพง ก็ประมาณ บ่ายสี่โมงกว่าๆแล้ว วันนี้อย่างที่บอกไปเป้าหมายคือ แม่กำปอง ยังไม่ถึงอ่ะแกร ฮ่าๆๆ แถมยังขอคุณลุงแวะเดินกาดหาของกิน ไปเผื่อที่แม่กำปองด้วย กลัว ไม่มีข้าวเย็นกินกัน ฮ่าาา แถมยังอยากไปร้านกาแฟ the giant ด้วย ก็มันเป็นทางผ่านอ่ะเนอะ มาทั้งที่ก็อยากไปแระ ฮ่าๆ แต่ด้วยเวลาระยะทาง ความชัน บวกกับ ความมืดที่กำลังจะมาเยือน เราก็เลย ตัดสินใจไม่ไปกัน ค่ะ อีกอย่าง เรามารู้ความจริงทีหลังว่า ร้านปิด บ่ายสามโมง ขณะนี้เส้นทางไป the gaint กำลังปรับปรุง ชาวบ้านบอกว่าทางค่อนข้างชันค่ะ เราไปแม่กำปองกันดีกว่า ที่ที่เราอยากให้ทุกคนมาเที่ยว ที่ สุดในทริปนี้
ถึงแล้วกว่าจะถึง แวะถามทาง คือ คุณลุงก็ยังไม่เคยขึ้นมา ฮ่าๆๆ คือไร ชาวบ้านน่ารัก เราก็โทรถามเจ้าของโฮมสเตย์ที่เราจองที่พัก คือพี่ ดาริน ถอดใจไปแล้ว ว่าเราจะไม่มากัน คือ โทรติดต่อไม่ได้ แถม ยังมา ซะ หกโมงเย็น ฮ่าๆๆ เราถึงแม่กำปอง 18.15 น. ทำเวลาดี เราลาคุณลุง ธวัชชัย และ โทรหาพี่ดารินให้พาเราเข้าที่พักฮ่าๆๆ
บ้านพักของเราอยู่ในเครือ ลุงปุด & ป้าเป็ง ร้านกาแฟ ที่ ทุกคนต้องแวะ
ที่พักเดินเลยร้านมาสัก 100 เมตร
หน้าบ้านระหว่างรอ กุญแจ
บ้านฮิมฮ้วย ค่าที่พัก คนละ 500 บาท
โดยรอบๆ อาณาบริเวร คือ น่าอยู่มั๊กๆอ่ะแกร
ที่บ้านไม่มี wifi ให้บริการ แต่มี เครื่องครัว ครบครัน สามห้องน้ำ เรานอนห้อง รวม นอนกันสี่คน
หลังจากเก็บกระเป๋าเราก็ขอออกสำรวจ พื้นที่ แต่ดูท้องฟ้าสิ เริ่มมืดซะแล้ววว
ถ่ายลงมาจาก บ้านพัก อากาศดีแบบ พีคคคค
เดินมาพอประมาณ กระเพาะเริ่มประ ท้วง อีกรอบ ฮ่าๆๆๆ ทางบ้านพักไม่มีอาหารเย็นให้ ต้องหาทานเอง
เห้ยยยยยย แกร นางฟ้าที่ไหน ฮ่าๆๆๆ พี่คนในรูปชื่อพี่เก๋ เป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง (แล้วกับข้าวที่ซื้อขึ้นมาตะกี้คือไร ไม่กันดารอย่างที่คิดแฮะฮ่าๆ อันนี้คิดในใจ คือเจริญเลยก็ว่าได้ นั่นนนน มี wifi ด้วยย สุดๆ) พี่เก๋ คนสวยใจดี และน่ารักมากๆ หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างพยายามปล่อยความรั่วให้กันและกัน ฮ่าๆๆๆ พี่เก๋ใจดี ลดให้ 10% เราก็เลยตอบแทนด้วย มื้อเที่ยงของวันพรุ่งนี้ จะมาโซยส้มตำกันที่นี่ เราร่ำลาพี่แกและเดินกลับที่พัก กลับไปนอนฟินๆ กิน อาหารเหนือ แซ่บๆนั่วๆต่อที่ บ้าน
เช้าวันที่ 20 สค 58 ที่แม่กำปอง วันนี้เราไม่มีเพลนอะไร นอกจากเดินเล่นในหมู่บ้านแต่เมื่อคืน ที่คุยกะพี่ รินพี่บอกว่าจะพาไปดู ตาน้ำ ไปน้ำตก เดี่ยวหาไก่ (ไกด์) ให้เรา เราก็ฟังภาษาเหนือเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ตกปากรับคำไปเรียบร้อย ฮาาาาา สรุปตอนเช้า เรารอรับการ์ดไปทานอาหารเช้า และไก่จะมาหาเราหน้าบ้าน 9น. เราอดรน ทนความหิวไม่ไหว 8น. เราก็มาที่ร้านกาแฟลุงปุดป้าเป็ง ตามคำบอกเล่าของพี่ดารินว่ามาทานได้เลยไม่ต้องรอการ์ดอาหาร ฮ่าๆๆ มาคนแรกของร้าน คือ ร้านเพิ่งเปิดฮ่าๆ เรื่องกินเรื่องใหญ่อ่ะเอ็ง
ต๊ะเอ๋ มีใครอยู่ม่ายยยย น้าาาา
สวัสดีค่ะ ..แหะๆ พี่เค้าชื่อพี่อ้อม จร้า พี่อ้อมบอกเราว่า อาหารเช้าเป็น ข้าวต้ม และเลือกเครื่องดื่ม ได้ หนึ่งอย่าง ตามรายการตรงหน้า เห้ยยยย แกร อลัง เครื่องดื่มอ่ะนะ ฮาๆๆๆ ลาเต้ร้อนเย็น โก้โก้ร้อนเย็น ชาร้อนเย็น นมสด และอีกบลาๆๆ ใจปั้มมากๆ
มาเถอะมาดูอาหารเช้าที่เรา ฟินนนแบบ คิดถึงข้าวต้มฝีมือแม่ตอนเด็ก ไม่เว่อร์นะเอ็ง รู้สึกงั้นจริง หรือหิว ฮาาาา เพลีย
อ้ามมม อ้าปากจิ เดี่ยวป้อนนน #เดี๋ยวๆๆๆๆ
มีวัฟเฟิล ให้ด้วย คนละ สองชิ้น
โกโก้ร้อน ของเราเอง ฮ่าๆ
ตามด้วยชาร้อน ที่หอมเอามากๆ คือไม่ใช่คอชา แต่ก็ว่าแซ่บ อ่ะเอ็ง
มาดูบรรยากาศรอบ ร้าน ร้านเล็กๆ ที่น่ารัก
มีสะพานน้อยให้นั่งถ่ายรูปสวยๆด้วย ฮ่าา
อิ่มแล้วต้องไปต่อ 9น.พอดี โทรหาพี่ริน ได้ความว่าไม่มีไก่ เดี่ยวพี่รินพาไปเอง แต่รอพี่รินสักครู่ค่ะขอไปดูแลลูกค้าที่บ้านหลังใหญ่และเก็บขยะเอามาวางหน้าบ้าน เพราะที่นี้จะเก็บขยะเดือนละ 3 ครั้ง คือวันที่ 10,20,30
ระหว่างรอ ถ่ายรูป พี่มอสกัน เราเจอมอส แทบทุกที่เลย พี่เก๋ เล่าให้ฟังว่าที่นี่อากาศดีตลอดทั้งปี บ้านทุกหลังไม่มีแอร์ (เรื่องจริงเราไปแอบดูมา) มีมากสุดก็พัดลม ตอนเช้าของวันนี้มีแดดอ่อนๆค่อนไปทางแรง หวังว่าจะเจอฝนปรอยๆในตอนบ่ายเป็นแน่แท้
ชาวบ้านที่นี่น่ารักเป็นกันเอง เรายิ้มให้ทุกคน ฮ่าๆๆ
เอาละ พี่รินมาแล้ว พี่รินจะพาเราไปดูตาน้ำและไปน้ำตกแม่กำปอง มี เจ็ดชั้น
เดินตัดในตัวหมู่บ้านมา ถึงทางโค้ง พี่รินอธิบายสิ่งที่เจอตลอดทางให้ฟัง และได้เวลาเดินป่า ห๊าาาา เดินป่าา ไม่มีในเพลน ดูชุดเราเสียก่อนพร้อมากๆฮ่าๆ
เพื่อนร่วมนำทาง
พี่รินได้ หน่อไม้ติดไม้ติดมือ มาด้วย คนที่นี่อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
พี่รินเล่าว่า พืชที่ปลูกได้ดีของที่นี่คือ ชาและกาแฟ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นพวกลินจี่ หรือผลไม้เมืองหนาวที่นำขึ้นมาปลูก มักจะไม่ให้ผล แต่ถ้าให้ก็จะมีรสเปรี้ยวมาก ในป่าปลูก ชากับกาแฟ โดยที่ไม่แบ่งขอบเขตชัดเจน ถ้าสังเกตขณะเดินป่าเราจะเจอ ต้นชา ขึ้นสลับกับกาแฟ พี่รินเด็ดใบชาให้เราชิม อร่อยดี ฮ่าๆๆๆ ไปลองชิมกันดูนะกินสดๆ
พี่รินเดินเร็วมากๆ ฮ่าๆๆๆ
สถาพป่า เป็นป่าดิบชื้น เขียวตลอดทาง ไม่เหนื่อยเลยระยะทางเกือบๆ สี่ กิโลเมตรที่เราเดินกันในครั้งนี้
ถึงแล้วตาน้ำ เป็นต้นไม้สองต้นใหญ่ๆ มีน้ำไหลผ่านใต้ต้นไม้ตรงนี้ ตลอดทั้งปี
ถามว่ามาถึงตรงนี้เหนื่อยไหม ตอบเลย ว่า ไหม้ ผิดๆๆๆ เหนื่อยแต่ คุ้มจ้าววว
ชุดเดินป่า จ๊ะ ใสๆ
สุดท้ายพี่รินก็ใจอ่อนพาเราเดินออกจากป่า ฮ่าๆๆ ผิดๆๆไม่ใช่ ถึงเวลาที่เราต้องออกจากป่าแล้ว ฮ่าาา ไปร้านกาแฟกัน
เกือบลืม ดอก พญาค้างควาดำ พี่ดารินบอกกับเราว่า สามารถใช้ต้มดื่มเพื่อรักษา คนที่มีภาวะเกณ็ดเลือดต่ำได้ และยังช่วยลดตวามดันโลหิตได้ด้วย มีพืชสมุนไพรอีกมากมายที่พี่รินให้ความรู้กับเรา พี่รินบอกว่า ทุกอย่างที่นี้ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ถ้ามีใครฝ่าฝืน ต้องเสียค่าปรับเพราะเป็นกฏของหมู่บ้าน เหมือนที่พี่เก๋บอกว่า ชาวบ้านจะรักษาป่า เพราะพวกเค้าได้ปรพโยชน์ จากป่า ฟังแล้วซึ้งอย่างบอกไม่ถูก ที่แบบนี้ยังมีอยู่ คิดถึงบ้านตัวเองแล้วเศร้าฮ่าๆ ยาฆ่าแมลง นี่ ตรึม
พี่มอสส เจอกันอีกแล้ว
เดินมาสักพักเรา เราก็มาถึง ร้านกาแฟ ชมนกชมไม้
นั่งไปได้ แปปเดียว ฝนตก เราเลยได้พักยาว ฮาาาาา
จิบกาแฟชมวิว ฟินไปฟินไป
นั่งรอจนฝน ซา สุดท้ายก็ว่างเปล่า ผิดๆๆ จะนั่งจนฝนหยุดก็ไม่ใช่ พี่รินเลยมาขออนุญาติเราไปหยิบร่ม มาให้ เห้ยยย แกร กางร่มเดินป่า คิดภาพตามนะฮ่าๆๆๆ เราจะเดินไปน้ำตกกัน ฮ่าๆๆ
พร้อมแล้วก็ไปกันเลย
หลักกิโล มีตลอดทาง
ข้ามตรงนี้ไปเลี้ยวซ้ายก็ถึง น้ำตก ล๊าววว
โชคไม่เข้าข้าง เรา หลังจากฝนตกทำให้ด้านบน มีหินถล่ม สะพานหัก เราเลยขึ้นไปดูชั้นบนของน้ำตกไม่ได้ ดูได้แค่ชั้น 1 เพียงเท่านั้น
เราต้องเดินกลับเข้าป่ากัน อีกรอบเพื่อ ตัดเข้าหมู่บ้านฮาาาาา เพื่อนโผมม นี่เพลียขาลากกแล้วว จร้าาา
หมู่บ้านแม่กำปอง เกิดขึ้นจากแนวคิด อยากทำโฮมสเตย์ ของพ่อหลวงพรมหมินทร์(อาจพิม์ชื่อท่านผิด ผู้ใหญ่บ้านคนก่อน) ส่วนคนปัจุบันคือพ่อหลวงประทีป เราประทับใจการบริหารจัดการของที่นี่มาก การดึงดูดนักท่องเที่ยว แรงจูงใจ ชาวบ้านกลับมาอยู่บ้านมีรายได้ไม่ต้องไปหางานทำในเมือง แถมที่นี่น่าอยู่ ทุกคนที่มาเี่ยวต้องเดินเที่ยว มีบริการรถรับส่ง จาก ชม-แม่กำปอง ต้องติดต่อทาง โอมสเตย์เอง ที่แม่กำปอง มีกาคั่วกาแฟกันสดๆให้ดูด้วย แต่วันนี้ เค้าไม่คั่วกันฮ่าๆๆ เพราะเค้าเพิ่งคั่วไปเย็นเมื่อวาน ถ้ามาช่วงฤดูหนาวจะมีกิจกรรมให้ทำมากว่านี้ มีพาไปดูทะเลหมอกที่กิ่วฟิน ด้วย
เราจากลาพี่ดารินที่วัดแม่กำปอง ค่าไกด์ 200 บาท ขอบคุณพี่ดาริน เราสนุกมากๆ เราขอพี่ดาริน ออกจากที่พัก บ่ายๆ หลังจากนี้ไม่มีรถมารับเราไปตีนตก เราต้องหารถไปเอง สนุกละสิ
ต้องไปแล้วววว หง่อยยย บ๊ายๆ
เก็บความประทับใจเอาไว้ การได้พูดคุย พบปะ มันดีแบบนี้ ออกเดินทางเพื่อ ตามหาอะไรนั้น ไม่อาจมีคำตอบ เราต้องไปเจอ
รถโบก รถเยอะ มากๆฮ่าๆๆ คนไทยใจดี
สวัสดีตีนตก นอนนี่นะคืนนี้
ทริปนี้ กิน อลัง ทุกมื้อ ฮ่าๆ
ราคาที่พัก คืน ละ 1500 บาท มีน้ำตกไหลผ่านหน้าห้อง เราพักบ้าน ธาริน 4,5
เวลาช่างผ่านไปเร็ว พรุ่งนี้เช้าเราก็ต้องกลับแล้ว ฮรือออ
เช้าของวันที่ 21 สค 58 เราต้องออกเดินทาง จาก ตีนตกเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ฮาาา เราไม่มีรถมารับ เรามาเอง เราต้องโบกก รถ !!
นั่งรอรถที่จะพอให้เราติดรถออกไปด้วย นานพอสมควรก็ไม่มีสะที ฮ่าๆ เลยตัดสินใจ เดินลงเขาไปเลย !!
เดินผ่านเขา ผ่านหมู่บ้าน ก็ยังไม่มีรถคันไหนพอจะพาเรา สี่คนไปด้วยได้เลย ฮาาา เดินจนผ่านรถขายของเก่า ก็แล้ววว บัยย
และแล้ว คนไทย ใจดีก็มาปรากฎตัว ฮาาาา พี่เค้าไปแค่ อ.สันกำแพง ไม่ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ระหว่างนั่งรถมีทั้ง ลม แดด ฝน ครบสามฤดู เลยจร้าา เปียกกันถ้วนหน้า
พี่เค้ามาส่งเราที่ท่ารถเข้าตัวเมืองด้วย ใจดีโคตรๆ
เราถึงตัวเมืองโดยสวัสดิภาพ ที่หมายต่อไปคือ โครงการบ้านข้างวัด เรานั่งรถแดง จากตัวเมืองคนละ 30 บาท ไป บ้านข้างวัด เราใช้เวลา สิงสถิตอยู่นี่นาน จนหกโมงเย็น ฮาๆ
บุปเฟ่ ร้านลุง 69 บาท อร่อยทุกอย่าง ลุงใจดี น่ารักขี้เล่น
ทุกคนมาถึงจุดนี้ได้ยังไง จุกที่ หกโมงเย็นแล้ว จุดที่ไม่มีรถไปสนามบิน เราเดินกันอีกแล้ว เดินไปสนามบิน ไม่ใช่ เดินไปโบกรถแดง
ตัดภาพประทับใจมาที่ตรง นี้ ตรงที่เครื่องบินกำลัง จะบินขึ้น บาย เชียงใหม่ จะกลับมาอีกครั้ง เมื่อ มีวันหยุดยาวๆฮาาา ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ค่ะ
Die bergen trip #ทริปของคนหลงเขา
วันพฤหัสที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.55 น.