"ตลาดน้อย" ถือเป็นย่านชุมชนคนจีนเลยก็ว่าได้ เป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและส่วนมากมีคนจีนอาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ขยับขยายมาจากย่านสำเพ็ง ชาวจีนเรียกกันว่า "ตะลัคเกียะ" หรือ "ตลาดน้อย" นั่นเอง และที่สำคัญเดินทางก็ง่ายและสะดวก เพื่อนๆที่อยากไปชิคแอนด์ชิลเหมือนเราไม่ควรพลาดเลย ต่อไปเราจะพาเพื่อนๆไปชิคๆที่ไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเลยย

อย่างแรกเลยก่อนที่จะไป เรามาหาอาหารอร่อยๆ รองท้องกันก่อนดีกว่า

ร้านแรกจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวรูชื่อดัง ร้านจะอยู่ริมถนนเจริญกรุงเลย หาไม่ยากจ้า

เมนูที่เราสั่งก็คือ เส้นเล็กเย็นตาโฟต้มยำ

สำหรับทุกเมนู ราคาอยู่ที่ 40 บาทค่ะ เราถือว่าถูกอยู่นะคะ เพราะว่าชามใหญ่ดีค่ะ ถ้าพิเศษก็ 50 บาทค่ะ
ส่วนรสชาตินะคะ น้ำซุปจะยังออกใสๆ ไม่เค็มมาก แต่รสชาติโดยทั่วไปมักจะออกหวานนำค่ะ เส้นลวกได้กำลังดี ลูกชิ้นปลาอร่อย นุ่มได้ที่ ฮื่อก้วยก็อร่อยชิ้นใหญ่ดี ถือว่ามาแล้วควรมาลอง


ร้านนี้จะเปิดทุกวันค่ะ ปิดวันพุธสุดท้ายของเดือน เปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 7.30 - 16.00 น.
ต่อมาเราก็จะมาเดินลัดเลาะตามตรอกตามซอยที่เต็มไปด้วยสิ่งที่สีสัน วัฒนธรรมเก่าแก่กันค่ะ

โบสถ์วัดแม่พระลูกประคำ(กาลหว่าร์)

ใครเคยนั่งเรือตามแม่น้ำเจ้าพระยา จะต้องประหลาดใจกับโบสถ์นี้ เป็นโบสถ์หาดูได้ยากมากในเมืองไทย ข้างในตกแต่งสวยงาม เต็มไปด้วยเก้าอี้และกระจกแก้ว ใช้ประกอบพิธีต่างๆ ทั้งงานแต่งงานและกิจกรรมของโรงเรียน บรรยากาศภายนอกก็ร่มรื่น ลมจากแม่น้ำเย็นสบาย


Street Art ภาพวาดสะท้อนความเป็นอยู่ของชาวจีนในสมัยก่อน ไว้ถ่ายรูปเก๋ๆ ชิคๆ กันได้ตามใจชอบเลย


ระหว่างทางเดินไปยังสถานที่อื่นๆ จะมีภาพวาดเต็มไปหมดเลยค่ะ

ระหว่างเดินยังมีขนมขายข้างทางอีกเพี๊ยบไม่ต้องกลัวหิวเลยจ้า

กล้วยปิ้งเจ้าเด็ดจ้า

ต่อมา

ธนาคารไทยพาณิชย์แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่ยาวนาน

ตัวอาคารเป็นอาคารขนาดกลาง 3 ชั้น สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกที่เรียกว่า “โบซาร์”
ผสมกับ “นีโอคลาสสิก” มีความสวยงามประณีตมาก....

ธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านขวามือคือ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน....


โซวเฮงไถ่ เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ที่ตั้งโดยตะกูลโซวผู้มั่งคั่งที่เข้ามาตั้งรกรากในไทย ที่นี่มีอายุมากถึง 200 ปีแล้ว

ส่วนใครจะขึ้นไปชมด้านบนหรือเซลฟี่ ทางสถานที่จะมีให้ซื้อน้ำต่างๆก่อนขึ้นชมนะคะ เพื่อจะนำเงินส่วนนี้มาบำรุงสถานที่นี้กันต่อไปค่ะ

บอกเลยคุ้มแน่นอน!! บรรยากาศรอบตัวบ้านจะเงียบสงบ เหมาะมากๆ บรรยากาศมันดีจริงๆ


ศาลเจ้าโจวซือกง เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชาวจีนฮกเกี้ยนในประเทศไทย

ด้านหน้าของศาลค่ะ แวะกราบสักการะ หลวงปู่โจวซือกง เพื่อเป็นศิริมงคลกันหน่อยจ้า

เรามาดูด้านในกันบ้าง

เดินเข้ามาถึงด้านใน เหมือนกับต้องมนต์เลยละค่ะดูสวย ขลัง อย่างบอกไม่ถูก

เดินลัดเลาะถ่ายรูปกันจนเหนื่อยแล้วก็เริ่มหิวอีกละด้วย อยากจะหาที่นั่งพักชิลๆ เราขอแนะนำร้านนี้เลยจ้าาา

River Vibe Restaurant & Bar

River Vibe from The Rooftop ถึงแม้ว่าทางมาที่นี่จะค่อนข้างซับซ้อน แต่เมื่อกดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 8 จะพบกับวิวสวย ๆ และบรรยากาศน่านั่งท่ามกลางบรรยากาศ 360 องศา ริมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา มีลมเย็น ๆ พัดทั่วถึงตลอดทั้งวัน



ชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีประวัติยาวนาน ท่ามกลางร้านขายอะไหล่รถยนต์เก่าที่มีอยู่ทุกซอกทุกมุม ภายในซอยภาณุรังษี มีร้านน่านั่งบรรยากาศสบาย ๆ อยู่บนดาดฟ้าของ
River View Guest House โรงแรมแห่งแรกในตลาดน้อย

เรามาสั่งอาหารยั่วๆ กันดีกว่าจ้า


อาหารเบาๆ กับบรรยากาศเต็มสิบไปเลยจ้าา

ถ้ามาเป็นคู่รักบอกเลยว่าเหมาะสุดๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ มองหน้ากันไป โอ้ยยยยฟินสุดๆไปเลย

บรรยากาศสุดๆไปเลย ชมวิววนไปค่ะ

ราคาไม่ถูกไม่แพงสมกับราคาเลยจริงๆ เพราะบรรยากาศเกินคุ้ม ร้านเปิด 7:30AM - 11PM

จุดเด่น

มีความเป็นบ้านดังเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจึงทำให้เห็นถึงความเก่าแก่ และวิถีชีวิตของคนในชุมชน

กิจกรรม

มีการปั่นจักรยานดูชุมชน ถ่ายรูป สอนวิธีทำบ๊ะจ่าง


สินค้าที่ระลึก / ของฝาก

เรียกได้ว่าถ้ามาชุมชนแห่งนี้ขาดไม่ได้เลยคือ "บ๊ะจ่าง"




การเดินทาง : มาตลาดน้อยก็ไม่ได้ยากลำบากอะไร ใครมาทาง BTS ก็ลงสถานีสะพานตากสิน ต่อเรือมาลงท่ากรมเจ้าท่า เดินทะลุซอยประมาณ 100 เมตรก็ถึงแล้วละ ส่วนใครใคร่โดยสารโดยรถเมล์ ก็เชิญขึ้นสาย 1, 35 และ 75 กันได้



จบกันไปแล้วนะคะสำหรับการรีวิวของเราบอกเลยว่าทริปนี้เที่ยวคุ้ม ชิคและชิลแน่นอนจ้าาา


แล้วอย่าลืมแวะมาเที่ยวที่ "ชุมชนตลาดน้อย" กันนะคะ




ความคิดเห็น