การเดินทางครั้งสำคัญได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ทริปนี้ออกเดินทางวันที่ 27 ธันวาคม 2561 - 2 มกราคม 2562 ออกไปสัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ พร้อมประสบการณ์ใหม่ ทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเป็นอยู่ในต่างแดน
จุดมุ่งหมายของเรา คือไปตะลุยภาคเหนือสุด จังหวัดฮอกไกโด ของประเทศญี่ปุ่น อยากเห็นหิมะ สักครั้งในชีวิตกับความหนาวเย็นสุดขั้ว จะเป็นยังไงไปติดตามชมกันเลย
ปล.หลายคนอาจมีความสงสัย ว่าทำไมปีนี้ 2019 แล้ว ทำไมหัวข้อรีวิวยังเป็น 2018 มันเป็นความ คาบเกี่ยวระหว่าง ปีเก่ากับปีใหม่ "เลยนับจากปีที่เริ่มเดินทาง" รีวิวนี้อาจมีความล่าช้าไปหลายเดือน ขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ
ข้อคิดสำหรับตัวเราคือ
ให้รางวัลชีวิตตัวเราบ้าง จะได้มีกำลังใจสู้ต่อไป เพื่อวันข้างหน้า…
แผนการเดินทาง......
วันที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินสิงคโปร์(แวะพักสิงคโปร์) - สนามบิน New Chitose
วันที่ 2 สนามบิน New Chitose - สนามบินฮาโกดาเตะ - โกดังอิฐแดงคาเนโมริ
วันที่ 3 ตลาดเช้า(Hakodate Morning Market) - ป้อมโกเรียวคาคุ(Goryōkaku) - ชมวิว (Mount Hakodate)
วันที่ 4 สนามบินฮาโกดาเตะ - สนามบิน New Chitose - ร้านโยโซระโนะ (Yozojin)
วันที่ 5 ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) - ภูเขาโมอิวะ(Mount Moiwa) - โรงงานช็อคโกแลต (Shiroi Koibito Park)
วันที่ 6 ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) - หอนาฬิกาซัปโปโระ(Sapporo Clock Tower) - ซัปโปโระทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) - ร้านดองกี้ (Don Quijote)
วันที่ 7 สนามบิน New Chitose - สนามบินสิงคโปร์(แวะพักสิงคโปร์) - สนามบินสุวรรณภูมิ
รายละเอียดการเตรียมตัว
การจองตั๋วเครื่องบิน
สายการบินขาไป Singapore Airlines (แวะพักสิงคโปร์)
สายการบินขากลับ Singapore Airlines (แวะพักสิงคโปร์)
การจองที่พัก
Airbnb Hakodate 12,100 บาท (มีรูปให้ดูด้านล่าง)
APA Hotel Sapporo Susukino-Ekimae 23,150 บาท (มีรูปให้ดูด้านล่าง)
ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ
มีหลายราคาให้เลือก หลากหลายความคุ้มครอง ตามเว็บนี้ https://traveljoy.sompo.co.th/
เราเลือกแผน B
ศึกษาข้อมูล
- ศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวซัปโปโระ,ฮาโกดาเตะ
- ศึกษาลักษณะภูมิประเทศ
- ศึกษาการเดินทาง
- ศึกษาภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน เช่น ขอบคุณ ขอโทษ ถามทาง ฯลฯ
ดาวน์โหลดแอพ
- แปลภาษา
- แปลงค่าเงิน
- แผนที่
- วัดอุณหภูมิ
อุปกรณ์แต่งตัว
- เสื้อโค้ดขนเป็ด
- กางเกงบุขน
- เสื้อไหมพรม
- เสื้อฮิตเทค
- กางเกงฮิตเทค
- หมวกไหมพรม
- ถุงมือ
- ผ้าพันคอ
- รองเท้าลุยหิมะ
- ถุงเท้าบุขน
อุปกรณ์เดินทาง
- กระเป๋าเดินทาง 28-30 นิ้ว
- กระเป๋าใบเล็กสะพายติดตัว
- ปลั๊กไฟแบบ Universal
- กล้องถ่ายรูป
- กล้องวิดีโอ
- Memory Card
- PowerBank
- หมอนหนุนคอ(ใช้เวลานอนหลับบนเครื่องบิน)
- ยารักษาโรค(ระวังเรื่องยาต้องห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น)
หลังจากเตรียมตัว และจัดการจองทุกสิ่งทุกอย่าง ไว้เรียบร้อยแล้ว วันที่เดินทางก่อนออกจากบ้าน ทำการสำรวจตรวจเช็คว่าลืมอะไรบ้าง เก็บสิ่งของสำคัญเข้ากระเป๋าสะพายให้เรียบร้อย และควรเผื่อเวลาไปสนามบินเยอะๆ หน่อย
*********สิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาด*********
- หนังสือเดินทาง (Passport)
- เงินเยน ,เงินไทย,บัตรเครดิต ฯลฯ
- SIM 2FLY ของ AIS ซิมโรมมิ่ง ทวีปเอเชีย
- โทรศัพท์มือถือ
- ตั๋วเครื่องบิน
วันที่ 1
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทำการเช็คอิน ชั่งน้ำหนักกระเป๋า 1 ใบ ต้องไม่เกิน 30 กิโล
เช็คอินเรียบร้อย เดินเข้า Gate เพราะต้องผ่านจุดตรวจ ตม. แถวยาวนิดหน่อย
เดินมาถึงหน้า Gate D2 นั่งรอเปิดให้ขึ้นเครื่อง
พอขึ้นเครื่องปุ๊บ คุณแอร์โฮสเตส ก็มีผ้าร้อนที่แจกให้ผู้โดยสารสำหรับเช็ดหน้า เช็คมือ
สิ่งอำนวยความสะดวก ที่สายการบินมีให้
เมนูอาหารบนเครื่อง เราเลือกสปาเก็ตตี้กุ้งขี้เมา
สนามบินสิงคโปร์(แวะพักสิงคโปร์)
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพมหานคร - สิงคโปร์ ประมาณ 2.30 ชั่วโมง
รอ Skytrain คล้ายๆรถไฟ วิ่งเชื่อมต่อระหว่าง Terminals
จากนั้นเราเดินหา จุดแลกคูปอง เพื่อรับคูปองมูลค่า 20 ดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อใช้ช้อปปิ้ง หรือการใช้บริการต่างๆ สามารถใช้สิทธิ์สำหรับแลกการเข้าใช้บริการ Ambassador Lounge
วิธีการแลก
- เตรียม passport
- ตั๋วเครื่องบินต่อไปยัง Sapporo
ที่ Lounge มีบริการห้องอาบน้ำ (รวมถึงอุปกรณ์อาบน้ำพื้นฐาน) เครื่องดื่มและของว่าง หนังสือสิ่งพิมพ์ และ WiFi ฟรี
ก่อนขึ้นเครื่องแวะซื้อเครื่องดื่มกันหน่อย คอแห้ง แต่!!! ดื่มไม่หมดเพราะได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว
ตอนนี้ขึ้นเครื่องต่อไปซัปโปโระอีกรอบ มีเมนูสำหรับมื้อเช้า ก่อนถึงที่ซัปโปโระ
อาหารว่าง ก่อนนอนยาวๆ
แต่เรานอนไม่ค่อยหลับ นั่งดูหนัง ดูไรไปเรื่อยเปื่อย
อาหารมื้อเช้า
วันที่ 2
สนามบิน New Chitose
ลงจากเครื่องผ่าน ตม.ของสนามบินมาได้และ รอกระเป๋านานมากกกกกกกกก
ระหว่างทางออกภายในสนามบิน
แวะซื้อของที่ยูนิโคล่กันหน่อย ถูกกว่าไทยอยู่นะ
ระหว่างรอเพื่อนช้อปปิ้ง เดินดูขนมกัน เผื่อซื้อกลับไทย(ขากลับ)
เรามีไฟล์บิน ต่อไปยัง Hakodate วันที่ไปมีพายุเข้า ต้องยืนลุ้นกันว่าเครื่องบินเราจะดีเลย์มั๊ย
สรุปสามารถบินไป Hakodate ได้ เราทำการเช็คอินสายการบิน ANA ภายในประเทศน้ำหนักกระเป๋าต้องไม่เกิน 20 กิโล
ที่ซัปโปโระ ท้องฟ้าแจ่มใสมากกกก
เป็นเครื่องบินลำเล็กพอควร ที่นั่งก็จะประมาณนี้แหละ
ด้วยความที่เป็น เครื่องบินขนาดเล็ก เวลาบินก็จะสั่นๆ เริ่มเมาเครื่องบินอีกและ T_T
สนามบินฮาโกดาเตะ
เราจองรถตู้จากสนามบิน ให้ไปส่งที่พัก คุณลุงคนขับรถตู้น่ารักมาก
ร้านมะรุคะสึซุยซัง
สาขาใหญ่ (Marukatsu Suisan Main Store)
พิกัด https://goo.gl/maps/EGiGJxPZM1L2
แวะทานข้าวกัน ที่ร้านอาหารซูชิบนสายพาน
สั่งซูซิผ่านเครื่องนี้ หรือ จะหยิบซูซิบนสายพานก็ได้
กดน้ำร้อนจากที่โต๊ะได้เลย ใส่ผงชาเขียวในถ้วย
วาซาบิ หยิบจากบนสายพาน
หน้าตาซูชิ แท้ๆที่ญี่ปุ่น สีสันน่าทานมากเลย
การคิดราคาของร้านซูชิ คิดตามสีของแต่ละจาน
Airbnb Hakodate
เว็บนี้ >>>> https://bit.ly/2GuwK2d
ที่พักเป็นห้องแบบ อพาร์ทเม้นท์ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ มีห้องครัวและอุปกรณ์ครัว สามารถทำอาหารรับประทานได้
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักเช่น
• โทรทัศน์จอแบน
• ห้องน้ำส่วนตัว
• ห้องครัว (พร้อมอุปกรณ์ครัว)
• อ่างอาบน้ำ
• ไดร์เป่าผม
• ตู้เย็น
• ไมโครเวฟ
• ฮิตเตอร์
• เครื่องซักผ้า
ท่าเรือโกดังอิฐแดงคาเนะโมริ(Kanemori Red Brick Warehouse)
พิกัด https://goo.gl/maps/q3fkUQTuMf82
ออกไปเดินเที่ยวกันดีกว่า
ร้านอาจิไซราเมน Ajisai Ramen
พิกัด https://goo.gl/maps/PmZbvydcGsQ2
อากาศหนาวติดลบ -7 องศา แบบนี้ต้องทานราแมนร้อนๆ
ตู้สั่งอาหารอัตโมมัติใส่เงินก่อน แล้วเลือกเมนูที่อยากได้
รอเงินทอน แล้วรับคูปอง
หน้าตาคูปองที่ได้ 750 เยน
มาแล้วราแมนร้อนๆ น้ำซุปเข้มข้นสุดๆ รสชาติเฉยๆ ไม่ว้าว
วันที่ 3
ตลาดเช้า (Hakodate Morning Market)
พิกัด https://goo.gl/maps/BG46iQSXYMk
ถึงตลาดหิมะยังคงตกหนัก ไปเรื่อยๆ เราก็เดินทอดน่อง ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
เจอเมล่อน น่าทาน ลองซื้อมาชิมดู
คำแรกที่ทานคือ….เย็นๆมากกกกก เย็นเหมือนแช่ช่องฟิตเลย รสชาติก็หวานๆ
อันนี้หอย เพื่อนลองซื้อชิมดู
พอซื้อเสร็จ หิมะตกลงมากหนักมากกกก เลยได้ Background เป็นหิมะฟุ้ๆนั้นหลัง
ด้านในอาคาร มีบ่อตกปลาหมึกด้วย
เดินไปเรื่อยๆ เริ่มหิวกันแล้วพวกเราเลือกทานร้านนี้กัน
ทางร้านมีเมนูภาษาอังกฤษไว้บริการลูกค้าต่างชาติ ไว้ด้วยนะ
อันนี้ของเราเอง ไข่ปลาช่ำๆ เพิ่งเคยทานอุนิที่ญี่ปุ่นครั้งแรก รสชาติหวานๆ มีรสเค็มเหมือนจากน้ำทะเลนิดๆ
อันนี้ของ เพื่อนเรากุ้งตัวใหญ่ๆ หวานๆ
อันนี้พอลาดซอสปรุงรส ลงบนหัวปลาหมึกมันขยับได้ด้วย
สถานีรถไฟ JR Sapporo
พิกัด https://goo.gl/maps/UCrk3u7UjVH2
จุดหมายต่อไปเราจะไปชม ป้อมโกเรียวคาคุ(Goryōkaku) เดินมารอรถเมล์ ตรงหน้า สถานีรถไฟ JR Sapporo
ป้อมโกเรียวคาคุ(Goryōkaku Tower)
พิกัด https://goo.gl/maps/m2iuee3RdEJ2
เราขึ้นไปชมวิวกัน ราคาค่าขึ้น
ที่นี่มีคำแปลหลายๆภาษา เพื่อบอกทัศนวิสัยการมองเห็นด้านบน ให้นักท่องเที่ยวอ่านก่อนตัดสินใจซื้อตั๋วขึ้นไป
ช่วงนี้หิมะตกหนักอีกแล้ว มองไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่
หิมะ ตกๆ หยุดๆ ฟ้าใสแล้ว
ใช้กล้องซูมระยะ 200 mm.
ที่โกเรียวคาคุ ทาวเวอร์ มีพวกร้านขายเครื่องดื่ม ไอครีม ไว้บริการเผื่อใครหิว
มีเอกสารฉบับภาษาไทยให้ด้วยนะ
จุดชมวิว Mt.Hakodate Ropeway
พิกัด https://goo.gl/maps/2VLiSBaaiv82
ตกเย็นเราขึ้นไปชมวิวกันที่ จุดชมวิวเมือง Hakodate
คนเยอะมาก มีรถทัวร์มาลงเพียบ
เขาบอกกันว่ายิ่งสูง ยิ่งหนาว แต่ที่นี่ลมแรงโคตรหนาวเลย
จุดชมวิวด้านบนคนเป็นล้าน เลยต้องลงมา ถ่ายผ่านกระจกด้านล่างแทน
ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดัง Lucky Pierrot
พิกัด https://goo.gl/maps/VTWt58LBeJy
กลับลงมาจากจุดชมวิว ไปหาอะไรอร่อยๆทานแถวๆ โกดังอิฐแดงคาเนะโมริที่อยากแนะนำ หากใครได้มาเดินเที่ยวโกดังอิฐแดงคาเนโมริ ลองแวะมาทานร้านนี้กันดู
ชุดนี้ราคา 650 เยน คุ้มสุดๆ
เป็นเนื้อไก่ทอด คลุกซอยหวานๆ ไก่ทอดช่ำกำลังดี
อันนี้เป็นเหมือนกุ้งทอด คลุกซอยมายองเนส
วันที่ 4
สนามบินฮาโกดาเตะ
พิกัด https://goo.gl/maps/Ajo29q4FciN2
เรามีบินกลับไปที่ซัปโปโระ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง ซื้ออะไรมาทานก่อนขึ้นเครื่อง
อิ่มแล้วเดินเล่นจุดชมวิว ของสนามบิน
ได้เวลา CheckIn แล้วล่ะ
สุดยอดไฮครีมแห่งฮอกไกโด
เริ่มหิวอีกรอบ หาอะไรอร่อยๆมารองท้อง กันสักหน่อย
ถึงเวลาขึ้นเครื่องสักที
สนามบิน New Chitose
รอรถบัสไปโรงแรม APA แถว Susukino รู้แค่ว่าต้องมาขึ้นจุดนี้ เบอร์ 22
บนรถเมล์จะบอกว่า ตอนนี้เราถึงตรงไหน
ค่าโดยสารจากสนามบินซัปโปโระ คนละ 1030 เยน
APA Hotel Sapporo Susukino-Ekimae
พิกัด https://goo.gl/maps/nxRCqD4LLVH2
ลงจากรถบัส ก็เดินข้ามถนนมาหน่อย ก็เจอโรงแรมแล้ว
ข้างโรงแรมเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน
หน้าโรงแรมก็มีมินิมาร์
ฝั่งตรงข้าม ของโรงแรมด้านซ้ายมือ ก็มี 7-11
เรามาชมภายในห้องพักกัน
มีชุดคลุม และ นกกระเรียน
ห้องก็จะแคบๆ ไปสักหน่อย
ร้านโยโซระโนะ (Yozojin)
พิกัด https://goo.gl/maps/KrsbJBxXQiD2
ทานข้าวมื้อเย็นกันที่ ร้านเนื้อแกะย่าง หรือที่เรียงกันว่า Jingisukan (เจงกีสข่าน)
ร้านนี้เป็นเมนูภาษาญี่ปุ่น แต่เราให้หัวหน้าเพื่อน เป็นคนญี่ปุ่นสั่งให้(เขาพูดไทยได้)
สั่งบุฟเฟ่เบียร์มา ทานคู่กับเนื้อแกะย่างร้อนๆ
เนื้อแกะยังไม่มา มาแต่ผัก ก็ย่างผักรอก่อนเลยหิว
เนื้อแกะที่สั่ง มีทั้ง แกะธรรมดา แกะออสเตรเลีย เนื้อกวาง ทุกอย่างนุ่ม ไม่มีกลิ่นคราวเลย
สิ่งที่เข้ากันมากที่สุด กับเนื้อแกะ คือจิ้มเกลือ
น้ำจิ้มแบบต่างๆ มีให้เลือก
เครื่องเคียง และสลัดผัก แก้เลี่ยน
อันนี้ชื่อไรไม่รู้ แต่รสชาติคล้ายๆ เรเมน ร้านฮะจิบัง หมี่เย็นคลุกซอสเปรี้ยวๆ
วันที่ 5
ศาลเจ้าฮอกไกโด(Hokkaido Shrine)
พิกัด https://goo.gl/maps/wvcNUj7aZD92
เดินผ่านสวนสาธารณะมารุยาม่า(Maruyama Park)
แวะถ่ายรูปกับ Snowman ซะหน่อย น่ารักดี
ช่วงวันสิ้นปี ผู้คนมากมายต่างมุ่งหน้ามาวัดไหว้พระขอพร
คืนนี้วัดมีการจัดงาน คล้ายๆงานวัดบ้านเราเลย
ลองชิม ทาโกะยากิของญี่ปุ่นบ้าง
ก่อนเข้าวัด จะต้องล้างมือ เพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธิ์
มีป้ายวิธีการ แนะนำการล้างทำความสะอาด
ต่อคิว พร้อมเตรียมเหรียญ 5 เยนนำโชค
- โยนเหรียญ
- โค้งสองครั้ง
- ตบมือสองครั้ง แล้วพนมมือขอพร
- โค้งอีกครั้ง จบ...
หากใครชอบเสี่ยงโชค จะมีเซียมซี
หรือจะเขียนแผ่นป้ายขอพรก็ได้
ระวังทางเจอกล่องเจ้านี่ แอบสงสัยว่ามันคืออะไร ก็เลยรู้ว่ามันคือกล่องใส่ทรายกันลื่น เอาไว้โรยตามทางเดิน
หาข้าวเที่ยงทานกันที่ Maruyama Class
เซ็ตข้าวหน้าหมูทอด ทงคัตสึ + อุด้ง
หมูทอดชุ่มช่ำซอส หอมละมุน
เส้นอุด้งนุ่มๆเหนียวๆ จุ่มน้ำซอส
ภูเขาโมอิวะ(Mount Moiwa)
พิกัด https://goo.gl/maps/qxJwbqjRznw
เราขึ้นรถบัสไปภูเขาโมอิวะ บัตร Suica สามารถใช้กับรถรางและรถบัส
การขึ้นกระเช้ามี 2 ระดับให้เลือก จะขึ้นไปถึงจุดขายของที่ระลึก หรือ ไปถึงจุดชมวิว
จุดแรก เป็นที่ขายของที่ระลึก
สิ่งที่คิด กับความเป็นจริง มันช่างต่างกันเหลือเกิน นึกว่าจะได้ชมวิวยามค่ำคืน
“แดนศักดิ์สิทธิ์ของคู่รัก” ที่คู่รักจะขึ้นมาสั่นระฆัง
โรงงานช็อคโกแลต (Shiroi Koibito Park)
พิกัด https://goo.gl/maps/WaLyH5TQbs52
ช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้านหน้าโรงงานจะมีการ ประดับไฟสวยๆ เอาไว้ให้ถ่ายรูปกัน ช่วงเทศกาล คนก็จะแน่นๆ ถ่ายรูปไม่สะดวกเท่าไหร่
วันที่ 6
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market)
พิกัด https://goo.gl/maps/5goVfBfhwbG2
วันเริ่มต้นปีใหม่ ร้านปิดเกือบทั้งหมด
มีเพียงไม่กี่ร้าน ที่เปิด
ระหว่างทางไปเงียบมาก ไม่ค่อยมีคน
ซัปโปโระทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower)
พิกัด https://goo.gl/maps/mYuamyxe6QR2
หอนาฬิกาซัปโปโร(Sapporo Clock Tower)
พิกัด https://goo.gl/maps/8M4r2GgAkVn
เที่ยงแวะทานข้าวกันที่ร้าน Bier Keller Sapporo
พิกัด https://goo.gl/maps/YpuNu2dd5LS2
อยู่แถวๆ Sapporo Factory
เดินเล่นช้อปปิ้งกันไปเรื่อยๆ ก่อนกลับ
เย็นๆ เดินช้อปปิ้ง ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ
แหล่งช้อปปิ้งย่านทะนุกิโคจิ(Tanuki Koji)
พิกัด https://goo.gl/maps/AhnNRQYjmBP2
ร้านดองกี้ (Don Quijote)
ร้าน Mo Ippon!!
รวมประเภทของทอดๆ
พิกัด https://goo.gl/maps/i2QCWxYpD5F2
มีห้องส่วนตัว เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
การสั่งอาหาร มีระบบเลือกได้หลายภาษา เลือกสั่งอาหาร ผ่านเครื่องนี้ได้เลย
เบียร์ Sapporo แบบสดๆ อร่อยดี
น้ำจิ้มมี 3 แบบให้เลือก
เมนูอาหารมากมาย เพียงแค่กดจากเครื่องสั่งอาหาร
วันที่ 7
สนามบินซัปโปโระ
เช้าวันเดินทางกลับสู่ประเทศไทย เราออกจากโรงแรมกันตั้งแต่ ตี 4 เพื่อรอรถบัสไปสนามบิน ทานข้าวเช้ากันบนเครื่องเลย
หลับกันไปยาวๆ จนถึงสนามบินสิงค์โปร์
สรุปยอดรวมค่าใช้จ่าย(โดยประมาณ)
ประสบการณ์การเดินทางของ “วันเวลา” ในประเทศญี่ปุ่น เปิดมุมมองอีกด้านนึง เราได้เจอกับหิมะ ครั้งแรกในชีวิต เจออากาศติดลบ -7 องศา อย่าที่ไม่เคยได้เจอมาก่อน ที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ทั้งบ้านเมือง วิถีชีวิต และความเป็นระเบียบ ของชาวญี่ปุ่น
ฉันจะคิดถึงที่นี่ตลอดไป หากมีโอกาส จะกลับมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ^^
จบทริป
.
.
.
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน
Wanwaylaa
วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.05 น.