...วังเวียง-เวียงจันทน์ | เมืองโคตรชิลระดับตำนาน...
พกเงิน 5,000 กว่า ไปเที่ยวต่างประเทศแบบ Slowlife กันเถอะ…
เที่ยวโคตรชิล โคตรง่าย โคตรสบาย และโคตรดี
หนีความความวุ่นวาย พาใจไปพักผ่อนแป๊ป!!!
วันเดินทาง
9 - 12 กรกฎาคม 2561 (4 วัน 3 คืน)
——————
ข้อควรรู้ก่อนไปวังเวียง
- อย่าลืมพาสปอร์ต!!!
- ค่าเงิน 40 บาท = ประมาณ 10000 กีบ
- ภาษาลาวคล้ายภาษาไทยเลยค่ะ อารมณ์แบบภาษาอีสานบ้านเฮาเลยเด้อ
- ช่องรายการทีวี และเพลงที่ลาว เป็นของไทยซะส่วนใหญ่
- เวลาตรงกับที่ไทย ไม่ต้องปรับเวลาให้ยุ่งยาก
- คนลาวน่ารัก และใจดีมากๆๆ เดินไปไหนมาไหนก็จะทักกัน “สะบายดี” ตลอดเลย
- เสียค่าผ่านทางยิบย่อยมาก เพราะฉะนั้น..อย่าข้ามสะพานบ่อย!!
การเดินทาง
เรานั่งเครื่องมากับสายการบิน AirAsia บินลงอุดรธานี ถึงอุดรฯ ประมาณ 07:15 น.
จากนั้นต่อรถ Taxi จากสนามบินไปลงบขส.อุดรได้เลย 200 บาทขาดตัว
**แนะนำให้จองตั๋วรถไปวังเวียงผ่านเว็บมาเลยจะดีกว่า ไม่งั้นต้องพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงเพื่อไปจองตั๋วรถให้ทัน
(คือรถมีรอบเดียวไง ถ้าพลาดนี่ต้องไปต่อรถที่เวียงจันทน์เลย T^T)
>> ทางไปจอง เข้าเว็บ https://www.busticket.in.th/ เลือกจังหวัดปลายทางเป็นหนองคาย จุดลงรถ “วังเวียง”
การเดินทางในวังเวียง
- เช่ามอเตอร์ไซค์
เราเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวกันเองค่ะ
เพราะทัวร์ไม่ค่อยตอบโจทย์เรา เราไม่อยากเข้าถ้ำ และไม่เล่นน้ำ 5555+
คือพ้อยท์หลักๆของเรามีแค่สะพานส้ม กับผาเงิน และนอนกันยาวๆ
ค่าเช่ามอไซค์วันละ 80,000 กีบ (เติมน้ำมันเอง เราเติม 20,000 กีบ เหลือเพียบ!!)
**ถนนที่นี่จะขับเลนขวา คนละเลนกับบ้านเรา ระมัดระวังด้วยน๊า
- ถ้าใครไม่สะดวกมอเตอร์ไซค์ จะซื้อทัวร์ก็ได้นะ มีทั้ง Full day และ Half day สามารถเลือกโปรแกรมทัวร์ได้ตามชอบเลยค่ะ
ที่พัก
คืนแรก Champalao Bungalows (ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้านมากก!!)
คืนสอง Vieng Tara Villa (มาวังเวียงต้องห้ามพลาดที่นี่ โคตรดีจริงๆ)
คืนสุดท้าย ไปต่อเวียงจันทน์ พัก New ihouse hotel
อินเทอร์เน็ต
เราซื้อซิมเน็ตเปลี่ยน
จะมีร้านขายซิมอยู่ที่จุดพักรถเลย เป็นซิมของ Unitel 4G
ให้พนักงานช่วยเปลี่ยนและสมัครโปรฯ ให้เลย
เน็ตใช้ได้ดีเลยแหละ เราไป 4 วัน ค่าซิมรวมค่าโปรฯ ประมาณ 30000 กีบ (120 ไทยบาท)
**มีแอปฯ My Unitel Laos ให้โหลดด้วยนะ จะได้ Bonus net เพิ่มไปอี๊กกกก
อาหาร
หลักๆ ก็คล้ายอาหารไทยค่ะ แต่ที่ไทยแซ่บกว่าาาาา
- ตำเส้นเปียกที่เวียงธาราอร่อยมาก แต่ไม่ขายแยกนะจ๊ะ ต้องทานเป็นเซ็ต ซึ่งราคาสูง (6 อย่าง 240,000 กีบ) แต่เราว่าคุ้มอ่ะ เยอะมากและอร่อยด้วย
- พิซซ่าที่ Otherside อร่อยอยู่นะ แต่เราว่าร้านอื่นก็น่าจะอร่อยเหมือนกันแหละ
- เฝอเนื้อ everyday ของเรา กินทุกวัน คิดว่าต้องเจอร้านอร่อย ไม่เข็ดสักที 55555+ (เฝอ54 ที่ไทยอร่อยกว่า)
ค่าใช้จ่าย
- เครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ-อุดร AirAsia คนละ 1,300 บาท (อยากประหยัดกว่านี้ก็รถทัวร์เลยจ้า)
- แท็กซี่ สนามบิน-บขส.อุดร 200 บาท (หาร2 คนละ 100 บาท)
- รถบัส อุดร-วังเวียง คนละ 320 บาท
- ที่พัก จำปาลาว บังกาโล 600 บาท (หาร2 คนละ 300 บาท)
- ที่พัก เวียงธารา วิลล่า (เราเลือกบังกาโล รวมอาหารเช้า) 1,600 บาท (หาร2 คนละ 800 บาท) **จริงๆ ควรนอนวิลล่าวิวทุ่งนา มันสวยมากกกก แต่เรา On budget ง่ะ!!
- ที่พัก new iHouse Hotel 600 บาท (หาร2 คนละ 300 บาท)
- แลกเงินไป 5,000 บาท 2 คนหมดเกลี้ยง!! (คนละ 2,500 บาท)
รวมๆ แล้วจ่ายไปคนล่ะ ประมาณ 5,500 บาทเท่านั้นค่า
.........................................
Follow Us :: https://www.facebook.com/talonpaiitour
Instagram :: https://www.instagram.com/talonpaitour
Day 1:: BANGKOK - UDON THANI - VANG VIENG
เริ่มทริปเช้ามาก เช้าจนเกือบไม่ได้นอน ต้องตื่นมาแต่งหน้าตั้งแต่ตีสาม บ้าไปแล้ว!!!
ไฟล์ทบินเรา 06.05 น. ดังนั้นเราต้องถึงดอนเมืองตีห้า เอ้า!! ก็ต้องออกตีสี่หน่ะสิ ถูกม่ะ??
เรามาถึงอุดรฯ 07.05 น. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการ 10 นาที อื้มม.. ดีดี จะได้ไปหาข้าวกินทัน
เรานั่งแท็กซี่จากสนามบิน ไปบขส.อุดรฯ ราคาแบบเหมาไปเลย 200 บาทถ้วน
สำหรับใครที่ยังไม่ได้จองตั๋วรถ อุดรฯ-วังเวียง มา ให้พุ่งตัวไปที่สีส้มๆนี่เลยค่ะ รีบเร่งเลยนะ เพราะรถมีรอบเดียว เต็มแล้วเต็มเลย พลาดนี่ต้องไปต่อรถตู้ที่เวียงจันทน์เลยนะ
แต่สำหรับเรา โคตรชิล... จอง จ่าย ปริ้นตั๋ว มาเรียบร้อย พร้อมขึ้นไปนอนมาก!!!
พอถึงเวลา 08.30 น. พนักงานก็จะประกาศเรียกขึ้นรถ จากนั้นก็จะแจกบัตรขาเข้า-ออก ให้เรากรอกรายละเอียด ย้ำอีกครั้งว่าห้ามลืมพาสปอร์ตนะ!! จากนั้นเราก้นั่งรถไปเรื่อยๆ จนถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ลงจากรถแล้วไปต่อแถวยื่นเอกสารที่กรอกพร้อมพาสปอร์ต เสร็จแล้วก็วนกลับมาซื้อ One way ticket (จ-ศ 5 บาท, ส-อา 50บาท) ซื้อเสร็จก็เดินไปเสียบบัตรได้เลย เหมือนบัตร BTS บ้านเราเลยค่า ง่าย สบายมากก
นั่งรถมาได้ครึ่งทาง ก็จะมีจุดพักรถ ให้เราลงไปกินข้าว แลกเงิน ซื้อซิม บลาๆๆๆ
ราคาซิม 20,000 กีบ บวกเติมเงิน 10,000 กีบ รวม 30,000 กีบ (ประมาณ 120 ไทยบาท)
และเราก็หิวมาก!! เราตั้งใจว่าจะกินกินเฝอเนื้อ Everyday อ่ะเริ่ม!!!
เฝอถ้วยใหญ่มาก!!! ใหญ่แบบกินไม่หมด ราคา 20,000 กีบ
รสชาติก็พอไปวัดไปวาได้แหละเนอะ
จากนั้นเราก็นั่งรถกันต่อ จนประมาณ 16.30 น. เราก็ถึงที่หมาย ... วังเวียงเมืองชิคๆของเรานั่นเอง
ลงรถที่บขส.วังเวียง เราจองตั๋วไปเวียงจันทน์เลย เลือกรอบ 13.30 น. คนละ 50,000 กีบ
จากนั้นก็นั่งรถเข้าเมืองวังเวียง (ซึ่งไม่ไกลมากหรอก) เป็นรถบริการฟรีนะ อย่าเผลอไปเสียเงินล่ะ อิอิ
จุดหมายแรกของเราคือ Champalao Bungalows เราเลือกบังกะโลแบบคูลๆ ราคาหลังละ 600 บาท (จ่ายเป็นเงินไทยได้เลย) จ่ายหลักร้อย แต่วิวหลักล้านมาก โคตรดีเลยอ่าาา ยอมแล้วววว
หลังจากเช็คอิน เก็บของเรียบร้อย ตอนแรกกะจะไปเดินหา Day trip ของพรุ่งนี้
แต่แวะไปคุยกับพนักงานที่ดูแลที่พัก เค้าแนะนำให้เราไป private ดีกว่า
เพราะเราไม่อยากลอดถ้ำ ไม่อยากเล่นน้ำ ไม่อยากทำไรทั้งสิ้น อยากไปแค่ผาเงิน และไปดูบลูลากูนนิดนึง
พนักงานก็ใจดี๊ดี โทรไปเช็คราคารถให้ ได้มา 200,000 กีบ แต่เรายังไม่เคาะค่ะ เดี๋ยวตังค์หมดค่ะ
ไปหามอเตอร์ไซค์แว๊นเองน่าจะดีกว่า มีกูเกิ้ลแมพไม่น่ายากหรอกเนอะ
เราเดินต๊อกแต๊กไปหาเช่ามอเตอร์ไซค์ ได้มาในราคา 80,000 กีบ เติมน้ำมันไปอีก 20,000 กีบ เหลือเฟือมาก ไม่ต้องเติมเยอะเลย เปลืองค่ะ!!
เจ้าสีชมพูคันนี้ของเราเอง น่าร้ากกกก
หลังจากได้รถแล้ว เราจะไปไหนก็ย่อมได้ ไปค่ะไป!!!
วันแรกเรามีเป้าหมายคือถ่ายรูปที่สะพานส้ม คือวันนี้ต้องได้อัพรูปอ่ะ ไม่งั้นนอนไม่หลับ ฮ่าฮ่า
และแล้วเป้าหมายก็มีไว้พุ่งชนอ่ะเนอะ อยากได้ต้องได้ สบายใจล่ะคืนนี้
นี่คือวิวแม่น้ำซองที่มองจากสะพานส้มนะทุกคน ชิลอ่ะ รู้สึกแบบเออมันสบายๆดีว่ะ
สะพานส้มเชื่อมไปหาถ้ำจัง...แต่เรามาก็เย็นแล้ว ถ้ำปิด ไม่ขึ้นหรอก อยู่แค่นี้ก็พอ น้ำหน้าถ้ำคือใสอ่ะ สีฟ้าสวยงามมาก อากาศก็เย็นๆ
นี่วังเวียงเป็นเมืองชิคๆ จริงๆ นะ ควรค่าแก่การไปเดินสวยๆ ถ่ายรูปชิลๆ มากกกกก
เออ..ลืมบอก เจ้าสะพานนี่ก็เสียค่าข้ามด้วยนะ เสียค่าจอดรถด้วย เอ้อ!! จ่ายเข้าไป
เสร็จจากสะพานส้มในตำนานของเรา เราหิวค่ะ หิวแต่ไม่รู้จะกินร้านไหน วนไปวนมาเข้าร้าน Otherside เฉย อ่ะลองดูกัน
เราสั่งไปสามอย่าง รวมน้ำเปล่า 1 ขวดใหญ่ จ่ายไป 91,000 กีบ สวยและรวยมากมั้ยล่ะ มื้อล่ะเกือบแสน
จบวันนี้เข้านอนได้ ทริปเราไม่มีซากุระบาร์ ไม่มีปาร์ตี้ใดๆ สายถ่ายรูป กิน นอน จอบอ...
พรุ่งนี้มีเป้าหมายคือผาเงิน อ่ะสู้ๆ
DAY 2: ผาเงิน และมีไรอีกอ่ะ งง??
Good Morning Vang Vieng, How are you today?? ให้ดูรูปด้านล่าง แล้วคิดว่า I'm okay มั้ยล่ะค่ะ ...
ฮัลโหลลล ฝนตกตั้งแต่เช้าเลยจ้า นี่ก้ได้แต่ภาวนาให้ฝนหยุด เกือบจะต้องไปปักตะไคร้กันแล้วเชียว
มื้อเช้าวันนี้เราเดินลุยฝนไปซื้อแซนวิชย่านกลางเมือง (หน้าร้าน Otherside นั่นแหละ)
เค้าบอกมาวังเวียงต้องกินสิ่งนี้ แซนวิชที่ไส้แน่นมาก ไม่รู่จะแน่นอะไรขนาดนั้นอ่ะ ชิ้นเดียวกินสองคนยังไม่หมดเลย เราเลือก Chicken Beef Cheese Veggie ราคา 22,000 กีบ ... แต่คุณป้าน่ารักเวอร์ ลดให้เราเหลือ 20,000 กีบ พร้อมแถมกล้วยให้อีก
...สำหรับรสชาตินะ เราว่าน้ำมันเยอะไปอ่ะ กินแก้หิวได้ แต่ไม่อินเท่าไหร่
จากนั้นเราก็กลับมานั่งกินที่ที่พัก เพื่อรอฝนหยุด และก้ถือว่าเรายังมีความโชคดี ฝนหยุดแดดจ้าเลยจ้าาาา
เค้าถึงว่าฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เย้
เอ้า!! ไปต่อกันค่ะ ฝนหยุดแล้วจะไปไหนก็ได้แล้ว
เรา check out จากจำปาลาว บังกาโล และขับมอเตอร์ไซค์ไป เวียงธารา วิลล่า ซึ่งเราจอง และจ่ายไว้แล้ว
ไปถึงเวียงธาราประมาณ 11.00 ยังไม่ถึงเวลา check in เราเลยขอฝากกระเป๋าไว้ก่อน ไปผาเงินกันดีกว่า
วันนี้แพลนหลักเราคือผาเงิน!! ที่อื่นเราไม่สนใจ เราต้องการผาเงิน ... วิวข้างบนดีมาก ทางขึ้นไม่ง่ายเลย แต่ขึ้นไปถึงหายเหนื่อยแน่นอน
สู้ๆ เราก็สู้ อย่าลืมพกน้ำไปกินด้วยนะ มันเหนื่อยจริงๆ แต่ก็ฟินจริงๆ เช่นกัน
เรานั่งพักอยู่บนผาเงินประมาณ 30 นาที ถ่ายรูปเล่น นั่งตากลมชิลๆ แล้วค่อยเดินลงมา
**** ใครจะขึ้นผาเงิน ควรพกผ้าใบมาด้วยนะ ซึ่งเราก็พกแหละ แต่เราไม่ใส่มา
เหตุผลเพียงเพราะขี้เกียจ หนีบแตะก็ได้มั้ง มันไม่ดีเอาซะเลย ควรใส่ผ้าใบมากันนะ
จบจากผาเงิน ถือว่าทริปเราคอมพลีทแล้วแหละ 555555+ แต่แวะไปบลูลากูนหน่อยก็ได้ ไปดูเฉยๆพอ (เราไม่ค่อยอินไง)
เอ้า!! มาถึงแล้ว...ไหนอ่ะบลู นี่มันกรีนชัดๆ กลับไปนอนดีกว่าาา
เรากลับมาเช็คอินที่เวียงธาราประมาณบ่ายสองกว่า จากนั้นก็อาบน้ำนอนไปเลยค่า เจอกันมื้อเย็นเลยดีกว่า เพลียจากผาเงินมาก
หลังจากหลับไปงีบนึง ตื่นมาพบว่าตัวเองหิวมาก!!!!!! แต่ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็น งี้ต้องไปทานอาหารว่างแล้วแหละ
เราเลือกไปร้าน หลวงพระบางเบเกอรี่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านที่เราเช่ารถ (กินเสร็จต้องรีบไปคืนรถไง >.< )
กินชีสเค้กกับโกโก้ อร่อยนะ อันนี้ให้ผ่าน อิ่มแล้วสบายใจ
เดินออกมาหน้าร้าน เจอคนเกาหลีมาคุยด้วย เราก็งงเลยจ้า พูดเกาหลีใส่เราเลย สักพักถามเรา No Korea หรอออออ
นี่อยากตอบไปเลยว่า ชอนึน แทกุกซารัม อิมนีดา ผ่างๆๆๆๆ
หรืออาจเป็นที่ชุด อ่ะทดลองเป็นสาวเกาหลีแป๊ป 55555+
กินขนมเสร็จเราก็ไปคืนรถ และเดินกลับที่พัก ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่ใกล้นะ กลับไปต้องหิวอีกแน่ๆ อ่ะ งั้นคิดเมนูไว้เลยแล้วกัน หืมมมม???
ระหว่างทางก็แวะซื้อเบียร์ลาวมาลองชิมด้วย 8000 กีบฮ่ะ
มื้อเย็นวันนี้เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะกินที่ เวียงธารา นี่แหละ ไม่ไปไหนล่ะ เหนื่อย!! ข้ามสะพานบ่อยก็เสียตังค์โดยใช่เหตุ พอๆ กินที่นี่เลยดีกว่า
Set อาหารที่เวียงธารา เราเลือก Set C เพราะมีตำข้าวเปียก (ขนมจีน) ที่อร่อยมาก ที่นี่ไม่ขายแยกจานนะจ๊ะ ต้องสั่งเป็นเซ็ต ราคา 240,000 กีบ (ประมาณ 900 กว่าบาท) เราว่าคุ้มนะ บรรยากาศเอาไปเลย10 10 10 อาหารก็อร่อย ให้เยอะมาก กินไม่หมดด้วยแหละ
และแล้วเราก็จบทริปวันที่สองกันที่อาหารนี่แหละค่ะ อิ่มแล้วกลับห้องพักนอนได้ บอกแล้วเราไม่มีปาร์ตี้ใดๆ น้องมาเพื่อนอนรึป่าวนะ
แพลนพรุ่งนี้คือตื่นมาถ่ายรูป และไปเวียงจันทน์เด้อ สายชิล สายเน้นรูปสวย ก็ต้องสู้กันต่อไป!!!
DAY 3: VIENG TARA VILLA - VIENTIANE - PATUXAI
เช้านี้แดดดี๊ดี เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่สุด ..
แต่ก่อนอื่น..กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ขอไปทาน Breakfast ก่อนแล้วกันเนอะ
อาหารเช้าของที่นี่จะมีให้เลือกหลายแบบเลย เราเลือกเป็นข้าวต้มไก่ กับนมถั่วเหลือง
ส่วนอีกเซ็ตเลือก American Breakfast แบบไข่ต้มมมมมมม....
หลังจากเติมพลังมื้อเช้าเสร็จ เรามาลุยกันเถอะ... วันนี้ขอเบาๆ ร้อยรูปเป็นอย่างต่ำ (สงสารตากล้องเนอะ)
เกรงใจเพื่อนๆ จังเลยค่ะ ไม่กล้าลงรูปเยอะกว่านี้ กลัวใจ กลัวโดนแบน 5555+
แต่ที่นี่วิวดีหลักล้านจริงๆนะ สวยงามทุกมุมเลยอ่ะ จะหันกล้องไปทางไหนก้ดีไปหมดเลย มาวังเวียงยังไงก็ต้องมานะ ขอร้องหล่ะ มาเถอะะะะ
ถ่ายรูปเสร็จทำไร...ว่างค่ะ นอนตากแอร์ รอกินข้าวกลางวัน และนั่งรถไปเวียงจันทน์
มื้อกลางวันเราออกมากินแถวๆ ที่พักแหละค่ะ ด้วยความที่ไม่อยากเสียเงินข้ามสะพาน (งกค่ะงก)
สั่งมาสองอย่าง กับข้าวอีก 1 จาน กินกันสองคน (รู้สึกผอมเลยอ่ะ กินข้าวน้อย 55555+)
มื้อนี้จ่ายไป 57,000 กีบค่ะ
หลังจากกินเสร็จ เราก็เดินสวยๆ กลับที่พัก รอรถไปส่งที่ บขส.วังเวียง (บริการฟรีจากที่พัก)
มาถึง บขส.ประมาณบ่ายโมง นั่งรอไปเลยจ้า เกือบบ่ายสองได้ขึ้นรถ
ซึ่งรถที่ได้เป็นรถตู้ จะขับดีมั้ยให้คุ้กกี้ทำนายกัน ฮืออออออ กลัวใจจริงๆ
เราได้ที่นั่งด้านหลังสุด จะร้องไห้กลัวเมารถ นั่งรถ 4 ชั่วโมงเลยนะเหวยยยย
อ่ะ..ขึ้นไปนี่พยายามหลับเลย หลับให้ตลอดทางเลย (และก้ทำได้ด้วยอ่ะ เก่งจัง ฮ่าฮ่า)
ระหว่างทางมีแวะพัก 1 จุด แดดร้อนมากกกก ไม่อยากพักโว้ยยยย อยากถึงแล้วววว
จุดพักรถ ให้เกียรติชุดเราด้วย โคตรร้อนอ่ะ ให้ตายเถอะ!!
หลับไปหลับมาเราก็มาถึงเวียงจันทน์ประมาณ 17.00 น.
ลงจากรถแล้วรีบเปิดแมพไปโรงแรมเลย ร่างกายต้องการแอร์มาก (บนรถมีแอร์นะ แต่เย็นน้อยไปหน่อย)
เดินมาเรื่อยๆ สักพักก็ถึงที่พัก เรารีบเช็คอิน และนั่งพัก 30 นาที คือพักนานกว่านี้ไม่ได้ค่ะ เรามีเป้าหมายอีกแล้ว
มาเวียงจันทน์ต้องถ่ายรูปกับประตูชัย ไปค่ะไป อย่าให้เสียเวลา เหนื่อยก็ต้องสู้ค่ะ
เราเดินจากที่พักไปประตูชัย ประมาณกิโลกว่าเลยแหละ แต่ก็ถือว่าชมเมืองไปเรื่อยๆ
ระหว่างทางนี่เจอธนาคารไทยเพียบ กรุงเทพฯ, กสิกร, ไทยพาณิชย์, กรุงศรีฯ,... มากันให้หมดดด
เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงประตูชัยแล้ว เย้!! ทริปนี้จะคอมพลีทจริงๆแล้วนะ
และในที่สุด...ภารกิจก็สำเร็จค่า ต่อไปก็หามื้อเย็นโล้ดดด วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะกินตำบักหุ่ง ใส่ปลาร้าให้ได้
เรานั่งตุ๊กตุ๊ก มาดินเนอร์ริมแม่น้ำโขง มองเห็นฝั่งไทยแบบลิบตา กินเสร็จก็เดินกลับโรงแรม
ตอนแรกกะว่าจะแวะ night market แต่พอเดินเฉียบเข้าไปนิดนึง เอ้อออ..ขี้เกียจล่ะอ่ะ มันไม่มีอะไรอ่ะ
ฝนก็ลงเม็ด รีบกลับไปนอนดีกว่า (นี่มาเพื่อนอนจริงๆ ใช่มั้ย ตอบบบบบ!!!)
DAY 4: ANNABELLE CAFE VIENTIANE - UDON THANI - BANGKOK
ตื่นเช้ามาฝนตกอีกแล้วจ้าาาาา เธอมากับฝนรึป่าว หรืออะไรยังไง (คือมันหน้าฝนมั้ยล่ะแกรรร??)
แต่เราต้องไปจองรถกลับอุดรฯ หน่ะสิ คือจริงๆจองจากที่พักก้ได้แหละ
แต่มันแพงกว่าตั้ง 10,000 กีบแหนะ ไม่ยอมจ่ายอ่ะ ยอมเดินตากฝนดีกว่า
เราเดินมาซื้อตั๋วรถทัวร์กลับอุดรฯ ที่บขส. ได้มาในราคา คนละ 22,000 กีบ
เราจองรอบ 11.30 น. เพราะกลัวไปขึ้นเครื่องไม่ทัน (หารู้ไม่ว่าเวลาเหลือเฟือมาก มารอบ 14.00 น. ก็ยังทัน แต่เซฟๆไว้แหละดีแล้วเนอะ)
จองเสร็จก็ไปหาข้าวเช้ากิน วันสุดท้ายก็ต้องจัดเฝอเนื้ออีกแหละน่าาาา
แต่หลังจากเฝอเนื้อที่รัก เราก็มีเป้าหมายอีกแล้วจ้าา....ไปนั่งเล่นคาเฟ่กันมั๊ยล๊าาาา
ว่าแล้วก็เสิร์จเลย เราเคาะ Annabelle cafe เพราะดูสีฟ้าๆน่ารักดี
จบแล้วค่า หมดสิ้นเป้าหมาย ไม่มีอะไรให้พุ่งชนอีกต่อไป
จากนี้ก็ check out แล้วเดินไปรอขึ้นรถกลับอุดรแบบชิลๆเลยค่า
ป่ะ กลับบ้านกันเด้อออออ
ระหว่างทางแอบถ่ายพระธาตุมา
เรามานั่งรอรถที่จุดนี้เลยค่า และเงินเหลือ 22,000 กีบ ก้หาซื้อขนมแถวนี้เพื่อเคลียร์เงินกีบเลย
ข้ามแม่น้ำโขงแล้ววว บ๊ายบายนะ สปป.ลาว เดี๋ยวเรามาใหม่
ขากลับก็เหมือนขามาเลย เอาพาสปอร์ตไปยื่น เพื่อเอา One way ticket จากนั้นก็ยื่นบัตรขาออก ปั๊มพาสปอร์ต และมาสแกนขาเข้าของไทยโล้ดด
เอาจริงๆ จากเวียงจันทน์มาอุดรฯ แค่ 2 ชั่วโมงกว่าเองนะ
เรามาถึงอุดรฯ ตอนเกือบบ่ายสอง เลยไปเดินเล่น กินข้าวที่เซ็นทรัล แล้วค่อยนั่งรถไปสนามบินตอนเย็นๆ ไฟล์ทเรา 18.30 น. เลยแหละ
***จะแนะนำการเดินทางจากเซ็นทรัลไปสนามบินแบบไม่แพง เรานั่งสามล้อ 100 บาทเท่านั้น หาร2 ตกคนละ 50 บาท คือดี...
แต่ถ้ามาหลายคนก็แท็กซี่โล้ดดดด หารๆกันไป
จบทริปแล้วนะ สะบายดี..วังเวียง (เมืองอะไรโคตรชิลเลย)
Talon Pai Tour
วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.18 น.