ทริปท่องเที่ยวที่จะมาแนะนำกันครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งพิเศษอีกครั้งนะครับ ที่ผมไม่ได้ไปคนเดียว แต่ไป "ยกแก๊ง" ครานี้จะพาไปทัวร์ต่างประเทศกันอีกครั้งครับ จะพาไปสัมผัสกับบรรยากาศที่หลากหลายในทริปเดียว เที่ยวเมืองหนาวแบบสวิตเซอร์แลนด์ เที่ยวชมทะเลทรายอย่างกับอียิปต์ ชมความศิวิไลของสถาปัตยกรรมแนวยุโรป อย่าเพิ่งแปลกใจ ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี่อยู่ในทริปเดียวจริงๆ ครับ และก็ยังคงเป็นประเทศที่คุ้นเคยอีกด้วย นั้นคือ "ประเทศเวียดนาม" นั่นเอง ซึ่งทริปนี้เราจะไป ดาลัทเมืองหนาว-ทะเลทรายมุยเน่-และมหานครโฮจิมินห์ กันครับ สมาชิกครั้งนี้ในแก๊งมีทั้งสิ้น 6 ชีวิตด้วยกันครับ ได้สมนาคุณจากพี่ท่านหนึ่งที่ทำงานร่วมกับ ททท. เลยได้รับความสะดวกสบายระดับหนึ่งครับ ^_^

มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ครั้งนี้เราก็ใช้บริการของ "สายการบินนกแอร์" เช่นเคย ถ้าเป็นช่วงไม่มีโปร ผมว่าสายการบินนี้ราคาดีที่สุดนะผมว่า เราไป Flight เช้าวันศุกร์และกลับ Flight ดึกวันอังคารกันครับ รวม 5 วัน สำหรับทริปนี้

0eg627q7gypc

ไม่นานพวกเราก็เดินทางมาถึงสนามบินเตินเซินเญิ้ต เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม หน้าตายังสดใสกันทุกคน 555+

p6jgq359c5xj

ควรเตรียมเงินไปให้พอดี ครั้งนี้ผมเตรียมไปเยอะหน่อยครับ โดยซื้อเงิน $US จาก ซุปเปอร์ริช ไป 200$US ไปถึงสนามบินเตินเซินเญิ้ต ก็แลกเงินดองไว้ 50$US ได้เงินดองมาประมาณ ล้านกว่าๆ ได้พกเงินล้านติดตัวอีกแล้วครับ 555+ (1 ล้านดองประมาณ 1,400 บาท)

6hvq6kvvi7x1

ยืนรอที่สนามบินไม่นาน ก็มีรถตู้ที่ได้จองไว้มาจอดรอรับครับ (เดี๋ยวรีวิวครั้งหน้าผมจะพานั่งรถโดยสารไปครับ ไว้มาคนเดียวก่อน 555+) พวกผมได้ 5 วัน ที่ราคา 500 $US ราคาใช้เส้นสุด 555+ จริงๆแพงกว่านี้เยอะครับ ผมก็ลืมถ่ายรูปตัวรถมา แต่ก็เป็นเจ้าเดียวกับท่านเจ้าของกระทู้ในพันทิพย์ตามเครดิตมุมซ้ายล่างของรูปครับ

tbqgi0y03h4c

จากนั้นเราก็ออกเดินทางไกลกัน ระยะทางประมาณ 300 กม. แต่ใช้เวลาไปเกือบ 6 ชม. (รวมแวะพักเข้าห้องน้ำ+กินข้าว) ออกจากสนามบินตอน 09:00 น. คาดว่าจะถึงก็เย็นพอดี

bomvr6g1tdjk

คือนั่งกันยาวมากครับ หลับก็แล้ว ตื่นก็แล้ว เล่นมือถือก็แล้ว 555+

a2m4cizkbwgu

ช่วงบ่ายโมง ก็จอดแวะร้านข้าวข้างทาง ถนนเส้นนี้มีร้านให้แวะเยอะครับ อาหารก็หลากหลาย ใช้การชี้นิ้วสั่งเอา เพราะอ่านไม่ออก 555+ (แต่บางร้านมีภาษาไทยเฉย >_< )

m2dzg9ni9dd3

และที่ขาดไม่ได้เลย เวลาที่ผมมาเวียดนาม คือ แซนวิสเวียดนามนี่แหล่ะ 555+

vbnp5r5a0p95

จากนั้นก็กลับขึ้นรถ นั่งกันไปต่อยาวๆ อีกรอบ เกือบ 17:00 น. เราก็เริ่มรู้สึกเย็นๆ เลยตื่นมาดู คือใกล้จะถึงเมืองดาลัทแล้วนั้นเอง ถือเป็นเมืองที่บรรยากาศดีเลยหล่ะ ที่นี้อากาศเย็นตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะมาช่วงไหนก็พกเสื้อกันหนาวมาด้วยก็ดีครับ >_<

pfktkc9et2w8

มาถึงก็ต้องรีบไปเช็คอินโรงแรมที่จองไว้ ครั้งนี้เราจอง Tulip Hotel ได้ เป็นโรงแรมที่อยู่ในตำแหล่งที่ดีเลย ใกล้ตลาดกลางคืน ใกล้ของกิน (จองโรงแรมนี้กับ AGODA )

เข้ามาด้านในรอน้องๆ พนักงานต้อนรับมาบริการ (สวยๆ ทั้งนั้น 555+)

9xsm05m9qm2n

บรรยากาศภายในก็ตกแต่งสวยงาม ระหว่างรอเช็คอินก็นั่งเพลินๆ

5cz2bumm64zh

ห้องก็สบายๆ ไม่ต้องมีแอร์ แต่ก็เย็นสบาย

bxc9m3wist2e

มีทีวีให้ดูด้วยนะเอออ 555+

8xpcb35rqu5r

จากนั้นเริ่มมืดเราก็ออกไปหาอะไรกินที่ตลาดกลางคืน (Night Market) ได้สั่งของแปลกๆ มากินอีกแล้ว

60v18cxjmwux

สั่งอะไรไปไม่รู้ ดูจากโต๊ะข้างๆ เหมือนจิ้มจุ๋ม 555+ แต่มีเส้น (เหมือนเส้นขนมจีน) เป็นเมนูหลัก

63cexo2lepdp

ระหว่างรอ ไม่รอช้า สั่งเบียร์เวียดนามมาแก้หนาวหน่อย 555+

g2nrl9luwsx2

และแล้วอาหารเราก็มา หน้าตาประมาณนี้ ก็จะดูงงๆ หน่อย แต่ก็อร่อยดีครับ 555+

ftagvy8ghqun

กินเสร็จแล้วก็กลับโรงแรม แยกย้ายไปนอนเอาแรง สำหรับตื่นมาท่องเที่ยวทั้งวันในวันพรุ่งนี้ครับ

**** จบวันที่ 1 ****

---------------------------------------------------

วันที่ 2 (วันเสาร์)

วันนี้ร่างกายพร้อมสำหรับการเที่ยวมาก 555+ ตื่นแต่เช้า จากโรงแรมออกไปเดินเล่นรอบๆ ที่พัก พอให้ได้เหงื่อ แล้วค่อยกลับมาอาบน้ำเตรียมออกไปเที่ยว

e141cahfvc7f

เดินออกจากโรงแรมไม่ไกลเป็นวงเวียนและตลาด ซึ่งตอนกลางคืนที่นี้จะกลายเป็นตลาดกลางคืนที่จะมีของมาขายเต็มพื้นที่ (หมายเลข 2 ในแผนที่)

k9w2827i2w2r

เดินมาซักหน่อยจะเป็นอ่างเก็บน้ำและทะเลสาบ (หมายเลข 3 ในแผนที่) ผมถ่ายมาเป็นมุมท้ายเขื่อน (ตัวเขื่อนจะเป็นถนน)

d7jcwuuo7ypc

ได้เหงื่อซักหน่อยแล้วก็กลับมาอาบน้ำที่โรงแรม จากนั้นก็ออกไปหาอะไรกินที่ร้านตรงข้ามโรงแรม อาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม "เฝอ" นั้นเอง >_<

994n8k3culss

มีกาแฟแบบพิเศษให้ลองกินด้วย สุดยอดของความเข้มข้น อร่อยดี ตาแข็งยันเย็น 555+

osttmokqqhyh
x19svaili0dx

จากนี้จะเป็นการออกไปท่องเที่ยวสถานที่เด่นๆ ไฮไลท์ต่างๆ ของเมืองดาลัท เริ่มจากจุดแรกกันเลย พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิเบ๋าได๋ ใช้เวลาจากโรงแรมไม่นานครับ ไม่ถึง 10 นาที

k25vf7fg8chh

เมื่อมาถึงที่จอดรถจะต้องเสียค่าบัตรเข้าชมคนละ 40,000 ดอง แล้วเดินเข้าไป จะพบตัวอาคารสีเหลืองตั้งอยู่บนเนินเขาสูง บรรยากาศดี

ybwdiq7l3pcp

พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิเบ๋าได๋ ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียดนาม ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี โดยเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2476 ภายในตัวอาคารมีห้องภาพขของพระเจ้าเบ๋าได๋ พระมเหสี พระโอรส พระธิดา มีห้องสำหรับทรงงานแต่บนโต๊ะสำหรับทรงงานกลับมีโทรศัพท์วางไว้สองเครื่อง อีกเครื่องคาดว่าจะเป็นของเหวียนวันเทียว อดีตประธานาธิบดีของเวียดนามใต้ หลังจากพระเจ้าเบ๋าได๋เสด็จออกจากประเทศเวียดนามเพื่อไปพำนักอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ส. 1975 พระราชวังแห่งนี้จึงกลายเป็นที่พำนักของเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์

nkdeh51g3q5r

การจะเข้าไปเดินในอาคาร ทุกคนต้องสวมถุงเท้าที่เตรียมไว้ให้สวมทับร้องเท้าอีกที แบบในรูปครับ

q85ggnbowan3

ด้านในเป็นข้าวของเครื่องใช้ คงสภาพเหมือนเดิม มีหลายห้องครับ มีให้แต่งชุดถ่ายรูปด้วย

qfeayhdxmlk8

ส่วนพวกผมเข้าไปแป๊บเดียวก็ออกมาถ่ายรูปด้านนอกกันแล้ว

hnq14hyss360

ข้างนอกมีที่ให้ถ่ายรูปเยอะครับ เช่น ถ่ายกับรถ ถ่ายกับม้า แต่เสียตังก์นะครับ

r2trm1rontg3

อันนี้ก็เก๋ดีครับ

3kxn2b6vp1wz

ไม่อยากเสียตังกืก็ต้องถ่ายแบบนี้ ขอบคุณช่างภาพสำหรับมุมเผลอ 555+

npqkl4aplpm9

จากนั้นเราก็ไปยังสถานที่ถัดไปกันต่อ ต้องทำเวลาครับ ยังมีอีหลายที่ 555+

สถานที่ถัดไปเป็นการนั่งบน Cable Car ไปยังวัดเซน เขาว่าวิวดีนักแล ลองจัดซักหน่อย นั่งรถออกมาจากพระราชวังไม่ไกล ประมาณ 10 นาที

dgk1d55y3poj

เราก็เดินทางมาถึงสถานีปล่อย Cable Car รถตู้มาส่งเราเสร็จก็จะไปรอรับเราที่ฝั่งวัดเซน ส่วนพวกเราก็ต้องเดินขึ้นไปซื้อตั๋วข้างบน

zqdnbnvmocyk

ขั้นมาข้างบนแล้วจะเป็นลานกว้างแบบในรูปด้านล่างครับ วิวรอบๆ ดีมากเห็นทั่วเมืองดาลัทเลย

kyz4vtc4gatt

อากาศก็ดีเย็นๆ เอื่อยๆ แต่ไม่ถึงกับหนาวมาก

kw0rdbua5u7t

ซักพักก็เข้าไปซื้อตั๋วข้างในกันดีกว่า มีห้องน้ำด้วย ควรเข้าให้เรียบร้อย

ur4aob1zpwur

ผมก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อยครับ เพราะแต่งตัวหนาวกว่าชาวบ้านเขา 555+ จากนั้นก็ไปซื้อตั๋ว แล้วเข้าแถวรอขึ้น Cable Car (ราคาเที่ยวเดียวอยู่ที่คนละ 50,000 ดอง ไป-กลับ 70,000 ดอง)

cotrejxdes6e

แล้วก็มาถึงจุดรอขึ้น แอบตื่นเต้นด้วย จะตื่นเต้นทำไมไม่รู้ 555+

fne1ox0jivaj

หลุดออกมาจากสถานีปล่อย วิวดีมากครับ อากาศดีด้วย เย็นตลอดเส้นทาง

wbpscecg6xvf

สายเคเบิ้ลยาวไปสุดลูกหูลูกตา เฉียดปลายยอดสน อากาศดีสุดๆ สูดแล้วโล่งปอด

x2ejiynmmxzp

วิวข้างทาง เขียวชะอุ่ม

oixmb1fbfux9

มีเครื่องเปล่าสวนกลับมาเป็นระยะ 55+

5zr4g8m6zc77

สภาพด้านใน นั่งกัน 4 คน ฝั่งละ 2 ก็จะแคบๆ นิดนึง 555+

41qy0478mom3
wjjaqk66gucn

และแล้วเราก็มาถึงจุดสิ้นสุดสถานี Cable Car ก็จะต้องเดินขึ้นไปไหว้พระข้างบนเสียหน่อย ชื่อวัดตั๊กลัม เป็นวันเซ็น ครับ บรรยากาศดีมากๆ เหมือนในภาพยนตร์เลย

c257ssqmhofd

เหมือนข้าจะมาสมัครตัวเป็นศิษย์อย่างไงอย่างงั้น 555+ แต่สวยจริงครับที่นี้ ชอบๆ

1ebjla3ontub

ถอดรองเท้าเข้าไปกราบพระให้เป็นมงคลแก่ชีวิตหน่อย

19kr8sujlpsb

จากนั้นก็เดินถ่ายรูป รอบๆ บริเวณวัดครับ กว้างขวางมาก

m7jqs632ocz9

พ้นประตูนี้ไป จะเป็นทางลงไปยังทะเลสาบ ลองไปกันดูครับ

93gtvx12jqpl

รู้สึกจะไกล คงเดินไม่ถึงครับ เหนื่อยก่อน กลับมาๆ พวกเรา 555+

sj7vkd02elt6

จากนั้นก็กลับมาขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าวัด เพื่อไปยังสถานที่ถัดไปครับ น้ำตกดาทันลา ไม่ไกลกันมากครับ นั่งรถไม่ถึง 5 นาทีก็มาถึง

1vd6niar7a9i

ที่นี้มีไฮไลน์มากกว่าน้ำตกที่สวยครับ นั้นคือ การเดินทางลงไปชมน้ำตกด้วยโรลเลอร์โคสเตอร์ครับ (ราคาไป-กลับ อยู่ที่ 45,000 ดอง ต่อคนครับ)

xted6vgboy9n

อ่านวิธีเล่นด้านบนแล้วก็ลงได้ 555+ มันส์จริงครับ สุดๆ

5b8ogyup225b

บางจังหว่ะนี้พุ่งอย่างเร็ว ถ้าไม่เบรคจะชนคันหน้าหัวทิ่มได้ 555+

56koyv31u54r

ไม่นานก็ลงมาถึงตัวน้ำตกครับ สวยงามอลังการ สมคำร่ำลือ มีกระเช้าเลาะไปตามลำธารด้วยนะครับ แต่ผมไม่ได้ขึ้นไป หลายตังก?อยู่ 555+

dv05d1uewdv1

จากนั้นกระขึ้นโรลเลอร์โคสเตอร์กลับมายังที่จอดรถ เพื่อไปยังสถานที่ถัดไป นั้นคือโบสถ์คริสเก่าแกของเมือง อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 นาที ตามแผนที่ข้างล่าง

wt7ik6jppj4w

เมื่อมาถึงก็สามารถเข้าไปชมได้เลย สำรวมและสุภาพนิดนึงนะครับ เพราะเป็นศาสนสถาน โบสถ์นี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 1940 เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโปแตสแตนท์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา มีหอคอยสูงเด่นมองเห็นเป็นแลนด์มาร์กแต่ไกล บนยอดหอคอยมีไก่ประดับอยู่ จึงถูกเรียกขานกันอีกชื่อหนึ่งว่า “โบสถ์ไก่” มีความสวยงาม Classic ดีทีเดียวครับ

xdiedmvyrf95
c5rugkbc5z9l

จุดเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือกระจกสีครับ สวยงามมาก

871zlmwyhc60

ถัดจากโบสถ์เราก็ไปยัง Landmark ของเมืองดาลัทลำดับถัดไป นั้นคือ บ้านเพี้ยน หรือ Crazy House นั้นเอง อยู่ไม่ห่างจากโบสถ์มากครับ แค่ 1 กม. ก็ถึงครับ

7dvkr2l4m7kn

ที่นี้ต้องจ่ายค่าเข้า 50,000 ดอง ต่อคนครับ จ่ายเงินแล้วก็เข้าสู่ด้านในกันเลยครับ

3fudlx52ti7g
zkgkib8stvvl

เครซีเฮ้าส์ หรือ โรงแรมเครซีเฮ้าส์ บ้านปริศนาที่เมืองดาลัต สร้างขึ้นโดยหญิงสาวชาวเวียดนาม Hang Nga อดีตลูกของประธานาธิบดีคนที่ 3 ของเวียดนาม ซึ่งจบสถาปัตยกรรมจากฝรั่งเศส ออกแบบบ้านรูปทรงแปลกๆพิศดาร มีลักษณะเป็นโพรงต้นไม้ ส่วนมากสร้างจากปูนเป็นหลัก เอามาตบแต่ง ให้เหมือนต้นไม้และป่า แต่ละส่วนทะลุถึงกันได้ ถ้าเดินไม่ดีจะหลงกลับมาอยู่ที่เดิม ทั้งที่พื้นที่ก็แคบๆเท่านั้น ภายใน ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ บางห้องภายในตกแต่งด้วยวัสดุโบราณ บางห้องบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านทาร์ซานในดิสนีย์แลนด์ บ้างประดับประดาด้วย แก้วหลากสี

04piy8fdky5u

ทางเดินเชื่อมบนที่สูงๆ ต้องใช้ความกล้าและความระมัดระวังพอสมควรครับ

ccjvm4ezios4

เดินกันไป ก็ขาสั่นกันไป 555+

gw5n7dye0mx9
rpp0m5kf1t27

สวย น่ากลัว ปะหลาด ความรู้สึก ปนๆ กันไปครับ

z5izotu02rnv

สองรูปล่าง เป็นทางเดินภายในตัวอาคารครับ แปลกดี

kbs1c25bbid4
9wqjvidkq11f

ภายในอาคารก็จะเป็นห้องพักครับ ลืมบอกไปที่นี้เป็นที่พักนะครับ ห้องพักเหล่านี้จะเข้าไปได้เฉพาะคนที่พักที่นี้เท่านั้นครับ

m0ufiu8own12

มีหลายห้องให้เลือก แล้วแต่ชอบ

hngax3pojoqk

พวกเราก็สำรวจแทบจะทุกซอกทุกมุม เอาให้คุ้ม 50,000 ดอง >_<

f9lzkb50mqpy
foi5c77c67og

ท่านไหนสนใจอยากลองพักในสถานที่แห่งนี้ จองกับ Agoda

จากที่นี้เราก็ไปต่อกันที่สถานีรถไฟดาลัทครับ อยู่ไม่ไกลเช่นเคย ประมาณ 10 นาทีถึงครับ

e7fxh3y9ktq5

ที่นี้ยังมีรถไฟวิ่งอยู่นะครับ แต่เพื่อการท่องเที่ยว ระยะทางไม่ไกลเป็นรอบๆ ครับ พวกผมไม่ได้ขึ้นเวลาน้อย 555 ถ่ายรูปเอาบรรยากาศดีกว่า

jd4l7aaf2gmv

หัวรถจักรนี้ Classic ดีแท้ เหมาะแก่การเอาตัวเองไปประกอบ แล้วเก็บภาพ 555+

o83u0ty8hko1
civ74o8w38r9
fsa5xjxuzc6o

อันนี้เป็นบรรยากาศรอบๆ ครับ ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเก็บภาพเยอะทีเดียว

dgrzcw5evt1y

เสร็จจากที่นี้ก็ไปยังสถานที่ถัดไป พวกผมรีบ วันนี้ต้องเอาให้ครบทุกทีที่วางแผนไว้ครับ >_< สถานที่ถัดไปอยู่ไม่ไกล ประมาณ 3 กม. ครับ

aiyzmsfci0n6

อันนี้ผมว่าคล้ายๆ ภาคเหนือบ้านเรา แต่มีดอกไม้แปลกๆ เยอะเหมือนกัน ค่าเข้า 30,000 ดอง เข้ามาแล้วก็ถ่ายรูปกันเก็บไว้เป็นความทรงจำ

we1y4z5m33yo

มุมใครมุมมันกันเลยจร้า 555+

dx947kevfhv6

จะ Selfie ก็ได้

mlwmkq6t0s15

เดินจนหมดแรงกันตามระเบียบ 555+ นั่งพักยังสามารถเก็บภาพได้

pprpu4ct1aem

หายเหนื่อยกันแล้วก็ไปยังสถานที่ถัดไป ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายสำหรับวันนี้ นั้นคือ หุบเขาแห่งความรัก (Valley Of Love) อันนี้ไกลหน่อยครับ ตั้ง 5 กม. แต่ใช้เวลาไม่นาน เพราะอยู่นอกเมือง

wl3lbw2bzmaz

เมื่อมาถึงก็จ่ายเงินค่าเข้าคนละ 50,000 ดอง แล้วก็เดินเข้าชมเลยครับ ที่นี้มีอะไรให้ดูให้ชมเยอะดีครับ ผมชอบนะ มีจุดให้ถ่ายรูปเพียบเลย

sv8gfyvzpx2c
e488pd4p4gsx
9d36dr2jj4mu

เดินเข้าไปด้านในจะมีรถนำเที่ยวด้วยนะครับ พื้นที่ค่อนข้างใหญ่

iaac2e08h5el

เราสามารถเดินลงไปถ่ายรูปกันข้างล่างได้ครับ เห็นว่าสวยหรอกนะเลยทุ่มทุนลงไป 555+

5awj6h4grzhp

อันนี้ทางลงครับ แล้วคิดถึงตอนเดินขึ้นดู 555+

xwde7dtiwce7

เมื่อลงมาถึงจุดไฮไลน์บริเวณสันเขื่อน จะถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ละทึกเสียหน่อย ก็มีเวลาให้ไม่นาน ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวรถนำเที่ยวจะชนเอา เอ้าวิ่งสิพวก 555+

66nig14wm90i

ข้ามจากสันเขื่อนมาก็จะมีจุดให้ถ่ายรูปอีกเพียบครับ

5108zezrl6wu

เหมาะแก่การมาเป็นคู่จริงๆ ที่นี้ จุดที่เตรียมไว้ให้ถ่ายรูปแต่ละจุด 555+

4bhf5v95gzqa

แต่พวกเรามาคี่คร๊าบบบบบบบ สลับกันถ่ายกันเนาะ 555+

pam2oyqsucir

นี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าขำอะไร 555+

2f8upxydms5c

ถ้าอยากถ่ายคนเดียวก็ต้องแบบผมนี่ 555+ ไม่นานฝนเริ่มตก ได้เวลาเดินกลับละ

y9k182g2p3d5
vx8ui15z0av2

ระหว่างยืนหลบฝน เจอต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เขาบอกว่าถ้าพาคู่รักมาผูกริบบิ้นแดงที่เขียนชื่อด้วยกัน จะรักกันมั่นคงยาวนาน แล้วถ้ามาไม่มีคู่อย่างพวกเราหล่ะ ทำเป็นถ่ายรูปไว้ละกันโน๊ะ 555+

5utmgh9tguic

ฝนหยุดตก เราก็เดินกันกลับไปที่รถ เพื่อกลับไปยังโรงแรม เหนื่อยเอาเรื่องทีเดียว เที่ยวทั้งวัน 555+

อาบน้ำอาบท่า รอค่ำก็ออกไปเดินเล่นและหาอะไรกินที่ตลาดกลางคืนที่เดิม

hwx59q1fp3gd
xu45nrhirbdl

วันนี้มีโอกาสเก็บภาพขณะเดินเที่ยวด้วย แต่ผมไม่เข้าใจว่ารูปข้างล่างนี้ผมถ่ายเอาอะไร 555+

b0jw97kf61ga

ระหว่างทางกลับที่พัก ใกล้ๆ โรงแรม เห็นร้านน่าสนใจ เลยลองเดินเลยไปดูหน่อย ว้าวววว ฝรั่งเพียบ เข้าไปกันเลย 555+

ntlxe82txu93

เข้ามาแล้วก็สั่งเครื่องดื่ม พร้อมเก็บภาพบรรยากาศกันหน่อยยยย

t9u4oiteiut4
9be6fqchtain
8u2yusg4ldlo

โต๊ะข้างหน้าเริ่มได้ที่ ลุกขึ้นเต้นแล้ววววว ว้าวๆๆๆๆๆ

yn3qrxpmlags

สงสัยจะมันส์มากขึ้นโต๊ะแล้ว 5555+

tla76a7ucn14

พอหอมปากหอมคอ พวกเราก็เดินกลับที่พัก เพื่อนอนเอาแรง พรุ่งนี้เช้าต้องเดินทางไกล ไปยังเมืองชายทะเล มุยเน่ เมืองแห่งทะเลทราย สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ

**** จบวันที่ 2 ****

---------------------------------------------------

วันที่ 3 (วันอาทิตย์)

วันนี้จะเป็นการเดินทางไกลอีกวันข้ามเขาหลายลูกทีเดียวครับ ตื่นแต่เช้า ออกไปหาอาหารเช้ากินที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามโรงแรมเช่นเคย (อย่ากินเยอะนะครับ เดี๋ยวอ๊วก จะหาว่าไม่เตือน 555+) กลับมาอาบน้ำ แต่งตัว แล้วเช็คเอ้าท์ ออกจากดาลัทตอนประมาณ 9 โมง ระยะทาง ประมาณ 160 กม. แต่ใช้เวลาเดินทางร่วม 4 ชม. เพราะเส้นทางค่อนข้างหฤหรรษ์ทีเดียวครับ ทั้งแคบทั้งชัน (เตือนอีกอย่าง หากมีโอกาสได้เข้าห้องน้ำ ก็ควรรีบเข้าซะ จะหาว่าไม่เตือนอีกเช่นกัน หุหุ)

zxsho7jqzbwf

ระหว่างทาง เที่ยงพอดี ก็ต้องหาร้านข้าวข้างทางจอดกินกัน อาจจะสื่อสารกันยากนิดนึง เราจึงส่งคนที่มี Skill ด้านภาษาดีที่สุดไปคุย 555+

vuqcdeutmzjy

และแล้วเราเดินทางมาถึงเขตฟานเที๊ยต (เหมือนเขตจังหวัดบ้านเรา) ก่อนจะเข้าเมืองมุยเน่ ในเวลา 14:00 น. แดดกำลังดีเลย จุดแรกที่แวะคือทะเลทรายแดง (Red Sand) ครับ จอดรถแล้วก็เดินขึ้นไปเลย อันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับว่าเขายืนทำอะไรกัน เราก็เดินผ่านๆ กันไป 55+

r32n4ns3jyfm

พอเดินขึ้นมาถึง ก็จะเห็นเป็นเนินทรายกว้างใหญ่สีชมพู ซึ่งมีชื่อเสียงมากของเมืองมุยเน่ พอๆ กับ ทะเลทรายขาวเลย โดยทะเลทรายแดงจะอยู่ริมทะเลห่างจากตัวเมืองมุยเน่ประมาณ 5 กม. และจะมีเด็กๆ นำแผ่นพลาสติกให้นักท่องเที่ยวได้เล่นสไลด์เนินทรายกัน (คิดตังก์นะคร๊าบบบ 555+)

jret7t2n0yjw

สวยและแปลกตาไปอีกแบบครับ แต่พวกผมมาผิดช่วงเวลา ตอนนี้แดดกำลังแรงเลย พอก่อนๆ 555+

9a1q92iv7k87

จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังสถานที่ถัดไป นั่นคือ Fairy Stream ครับ เป็นทางน้ำเล็กๆ แต่มีภูมิประเทศที่สวยงาม ไม่ไกลจากทะเลทรายแดง ไปได้หลายเส้นทาง ตามแผนที่เลยครับ

kgzve01v9sdn

เมื่อมาถึงก็ถอดรองเท้าลงเดินเลยครับ เดินตามลำน้ำไปเรื่อยๆ

qdcyo0gbrfno

ยังครับ ยังไม่ถึง ไปอีก (ขอบคุณช่างภาพที่ถ่ายผมได้หล่อมากรูปนี้ 555+)

13zse9k3fpwp

และแล้วเราก็เดินมาถึงครับ ซุยเตียน (Fairy Stream) หรือแกรนด์แคนยอนแห่งเวียดนาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Landmark อีกแห่งหนึ่งของมุยเน่ ซุยเตียนเกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมจึงก่อเกิดเป็นรอยกัดเซาะที่สวยงามคล้ายๆกับแพะเมืองผีของบ้านเรา และมีลำธารเล็กๆระดับน้ำประมาณตาตุ่มซึ่งพัดพาตะกอนทรายสีแดงไหลออกไปสู่ทะเล

ctrkwjjstkgz

เดินเล่นถ่ายรูปกันซักพัก เราก็เดินกลับมาขึ้นรถกันครับ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 16:00 น. แล้ว ได้เวลาไปเช็คอิน เข้าโรงแรมกันดีกว่า ประมาณ 10 นาทีถึงครับ

rn7v95nqdccz

ที่นี้เราพักที่โรงแรม Thao Ha กันนะครับ เป็นโรงแรมเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ไม่ไกลจากตลาดกลางคืน และที่กินกลางคืนของเรา มีสระว่ายน้ำแกร้อนด้วย ท่านไหนสนใจ สามารถคลิกรูปด้านล่างเข้าไปดู ไปจองจาก Agoda ได้เลยครับ

lztwhreq0jwz

ช่วงเย็นๆ พระอาทิตย์กำลังจะตก ก็นั่งรถซักหน่อย เลาะตามชายหาด ชมพระอาทิตย์ตกดิน (ทะเล) กันครับ บรรยากาศดีจริงๆ

npgj8a0vqeow

สวยงามทีเดียว

9bh5v2zx8cp6

มุมตรงกันบ้าง

krkyrxmj0ijg

จากนั้นก็ไปหาอะไรกินกันครับ ร้านอาหารทะเลดังแถวนี้มีหลายร้านครับ แต่ถ้าขึ้นชื่อสำหรับคนไทย รู้สึกจะเป็นร้านแหลมทอง (Lam Tong) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม เดินเล่นมาเรื่อยๆ ก็ถึงครับ

w9vhcxgmen7l

หน้าร้านจะมีป้ายทางเข้าบอก แบบนี้ครับ เดินเข้าไปข้างในเลย

vnjdeqd5jvyx

อาหารก็ราคาไม่แพงมาก เอาเป็นว่าถูกกว่าบ้านเราเยอะครับ ล็อบสเตอร์ตัวนี้ราคาไม่ถึงพันเลย จัดหนักๆ เลยครับ แต่เสียอย่างเดียวไม่ได้เตรียมน้ำจิ้มซีฟู๊ตมา เสียดายๆ 555+

cbt9z1kfebdh

ผมนี่ไม่กลับโรงแรมเลยครับ ไปเลาะแล้วให้รถมาส่งที่ร้านอาหารเลย นั่งจิบเบียร์เย็นๆ ชมวิวรอเพื่อนๆ เดินมา รู้สึกจะหมดไปหลายขวดทีเดียว 555+

gmytzqc5c7h3

จากนั้นเราก็เดินดูอะไรกันซักพัก แวะกินนั้นนี่ตามทางเดินที่จะกลับโรงแรมซักหน่อย แล้วก็กลับเข้าโรงแรม อาบน้ำ ใครไคร่เล่นน้ำในสระก็ตามสบาย เย็นๆ ผมนั้นรีบนอน (รู้สึกจะมึนๆ ) 555+

**** จบวันที่ 3 ****

---------------------------------------------------

วันที่ 4 (วันจันทร์)

ตื่นเช้ามาวันนี้อย่างสดใส อาบน้ำแต่งตัวไปกินข้าวเช้า (โรงแรมมีข้าวเช้าให้) ออกเดินทางไปยังไฮท์ไลท์ของเมืองนี้กัน ต้องไปเช้าๆ จะได้ไม่ร้อน 555+ เช็คเอ้าท์ให้เรียบร้อย เราจะยิงยาวกันเลยไม่วกกลับมาอีก ก่อนออกเดินทางผมเห็นร้านขายแซนวิสเวียดนาม ก็จัดไปอีก 1 ชิ้น เอ้าวพวกราววว !!! ออกเดินทางได้

8jmpoiwb1032
ln33r52div2r

จุดแรกที่เราจะแวะคือ ตลาดปลา หรือท่าเรือมุยเน่ ครับ ห่างจากโรงแรมประมาณ 10 กม. แป๊บเดียวถึงครับ

ksocyazvxvpn

ที่นี้ช่วงเช้าจะมีเรือประมงกลับเข้าฝั่งมาจอดเรียงรายกันสวยงาม แล้วก็มีเรือเล็กๆ รับส่งต่อมายังฝั่ง เรือเล็กๆ หน้าตาแปลกดี เหมือนกะลังมังลอยน้ำเลย ผู้คนก็ลงไปเดินดูอาหารทะเลสดกัน บรรยากาศแปลกตาดีครับ

cv6exkmox5ga

เราอยู่ตลาดปลากันไปนานก็เดินทางต่อไปยังไฮท์ไลน์ที่เราตั้งใจกัน นั้นคือทะเลทรายขาว หรือ White Sand Dunes นั้นเอง ขับยาวๆ ไป 33 กม.

6bp9fw2ifrrq

เมื่อมาถึงต้องจอดรถไว้แล้วเดินเข้าไปครับ ไกลเอาเรื่องเลยกว่าจะถึงจุดที่สวยๆ ผมแนะนำให้นั่งรถขึ้นไป เพื่อความสะบายและได้ถ่ายรูปสวยๆ (แต่แอบแพงนิดนึงครับ) คันละ 800,000 ดอง เอาวะ 6 คน ก็ตกคนละแสนกว่า

hb0i4fg12j5k

ไกลจริงครับ ดีแล้วที่ไม่เดิน 555+ รถจิ๊บพี่แกก็ขับซิ่งใช้ได้ มันส์มากขอบอก เราจะไปเนินทรายไกลๆ นู้นนนนน

lvt3kqs4n0wo

ถึงจะซิ่งยังไง ผมก็ยัง Selfie ได้ 555+

19cdgi1vf0s9

และแล้วเราก็มาถึงครับ เดินย้ำๆ ไปถ่ายรูปกัน

hi20i9lpfivp

มีหลายมุมให้เลือก จัดกันได้เต็มที่

husre4dmsama

ผมเอาบ้าง 555+

3pyotjupd0mu

ไปยังที่ต่อไป (ถ้าไม่มีรถคิดสภาพการเดิน เหมือนเดินในทะเลทราย คงตายพอดี 555+)

a8rwcmautwhi

จุดสุดท้ายเราจะไปตรงโอเอซีสนั้นกัน

c58w7ndioovt

ถ่ายรูปหมู่เสียหน่อยจร้าาาาา นานๆ จะถ่ายครบ 6 คน 555+

ll9nmuar0wlr

ให้คุณพี่เขาหน่อย ตอนอยู่ดาลัท คุณพี่เขาไม่สบาย >_<

c90ut3wlohqi

น้องสาวสุดสวยของเราบ้าง (ท่านี้ไม่มีใครยอมใคร 55+)

2bb5rmcs4h6a

อันนี้คุณเพื่อนบ้าง แต่ยังงงๆ ว่า Selfie หรือถ่ายอะไรยังไง 555+

n0kef1n4qhmm

ขอตัวเอง เท่ห์ๆ บ้าง

l8q5m7vxxd1f

ถ่ายรูปจนหน่ำใจ ก็เตรียมตัวกลับ ก่อนกลับก็ขอรูปหมู่แบบเป็นทางการหน่อย ใช้พี่คนขับรถจิ๊บนั้นแหล่ะถ่ายให้ >_< แช๊ะ

(แต่ดูรูปมันเอียงๆ หนักไปทางซ้ายไหมครับพี่ 5555+)

v8sqgb6jf177

จบแล้วครับ สำหรับมุยเน่ คราวนี้ก็ต้องนั่งรถยิงยาวกลับเมืองโฮจิมินห์ต่อละครับทีนี้

a1pnex0ijryy

ระหว่างทางก็แวะหาอะไรกิน มื้อกลางวันเช่นเคย

9a4nq7l6hkf8

เรามาถึงมหานครโฮจิมินห์ช่วงเย็นพอดีครับ เป็นการเดินทางที่ยาวนานมากกกก ตึกใหญ่โต รถวิ่งกันชุลมุน

vhcrt1gajwja
q9sl7r5t888u

วันนี้เราจองโรงแรมให้ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินไปได้ครับ นั่นคือให้ใกล้ตลาดเบ็นถันนั้นเอง เราได้โรงแรมเลียนอาน ไซ่ง่อน (Lien An Saigon Hotel) คืนละพันต้นๆ ต่อห้อง ดูหรูหราสวยดีครับ ท่านไหนสนใจจองที่พักนี้กับ Agodaลิกที่รูปด้านล่างได้เลยครับ

x9vbwr6rylbc

เก็บของเสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปชมเมืองยามค่ำคืนกันซักหน่อย เดินไปตามถนน

khqwea73jkm6

อันนี้โรงละครโอเปล่าอันโด่งดังของเมืองนี้ครับ ไว้ตอนกลางวันจะมาถ่ายใหม่ 555+

bey4b6mks8ka

แวะบูธกิจกรรมของ ททท. ที่มาเปิดที่นี้หน่อย

gdgl6vc3tp4b

ช่วยเขาขายของนิดนึงก็หนีดีกว่า 555+

14io1eiku7o6

ไปเดินซื้อของตลาดเบ็นถัน ตลาดกลางคืนที่ขายของเยอะมาก ตั้งแต่สากเบือยันเรือรบ (อันนี้ก็พูดเดินไป) 555+

9nhzy2qsvres

ซื้อกระเป๋าเสร็จ ก็ไปหาซื้อรองเท่าต่อ (ที่นี้เป็นแหล่งผลิตสินค้าแบรนด์ดังๆ ทั่วโลกนะครับ) แต่ก็ต้องเลือกและต่อรองราคาดีๆ อันนี้ของเตือน 555+

h24y1lcjgwd8

เรียบร้อยโรงเรียนเวียดนาม ผมได้รองเท้ากับกระเป๋ามาเรียบร้อย 555+

qdziphrui7l4
gj6k3fbks38q

หลังจากได้เสียเงินก็สบายใจละ ไปหาซื้อเครื่องดื่มแก้เหนื่อยดีกว่า พวกเรา (มีแต่น้ำเต็มตะกร้า)

q8zy6v74honi

อันนี้ของผมคนเดียวครับ อนากลองมันทุกยี่ห่อ ว่ามันจะแตกต่างกันยังไง 555+

zf5uea36je21

กินหมดก็เรียบร้อยครับ 555+ นอนหลับสบาย พรุ่งนี้ค่อยว่ากันนะทุกคน >_<

**** จบวันที่ 4 ****

---------------------------------------------------

วันที่ 5 (วันอังคาร)

วันนี้วันสุดท้ายแล้วต้องเก็บสถานที่ท่องเที่ยวแถวเมืองโฮจิมินห์ ก็ตื่นไม่ได้เช้ามากครับ กว่าจะอาบน้ำ แต่งตัว เก็บของ กินข้าว เช็คเอ้าท์กัน ก็เกือบ 9 โมง เสร็จแล้วรถตู้ก็มารับเพื่อไปยังอุโมงค์กู่จี๋ ที่ทหารเวียดนามใช้รบกับทหารอเมริกัน ระยะทางประมาณ กม. ไกลเอาเรื่องครับ ใช้เวลาเดินทางร่วม 2 ชม. แต่ก็ไปครับ ควรไปดูซักครั้ง

241rrz35vrfe

พอไปถึงก็ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 80,000 ดอง แล้วก็เดินเข้าไปในพื้นที่ได้เลยครับ ตื่นตาตื่นใจดีครับ มัวแต่เดินดู เดินชม เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันซักเท่าไหร่

jrir5ltu2b82

แนะนำให้ลองไปดูครับ อินไปกับสถานที่มาก มานึกได้ว่าจะต้องถ่ายรูปก็จะออกแล้ว เลยได้ถ่ายแค่ซากรถถังเองครับ 555+

t6p0qoc6q5f9

งั้นก่อนกลับก็จัดกันซะหน่อย 555+

s5ux0waxbpn0
2doka5kgo4wg

เสร็จจากนี่ก็กลับเข้าเมืองครับ พอดีพี่อีกคนช่วงเช้าต้องไปช่วยงาน ททท. เลยไม่ได้ไปด้วย ต้องกลับมาเที่ยวในเมืองกันต่อสำหรับวันนี้ แผนการเที่ยวจะเป็นเช่นเดียวกับตอนที่ผมมาคนเดียวเลยครับ (เพราะในเมืองผมวางแผนเอง 555+) สามารถดูแบบละเอียดได้โดยคลิกที่รูปด้านล่างเลยครับ >_<

7bzgmqp2mzj0

รีวิวครั้งที่ 3 เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

สำหรับรีวิวนี้จะถ่ายรูปมาบ้างประปราย ครับ เช่น ทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนาม

ybruepnp9pcm

ไปรษณีย์กลางเวียดนาม

ndx7q3ylzeth

โอเปล่าเฮ้าส์ตอนกลางวัน

0ddcpj70vdim

และจุดสุดท้ายก็จัตุรัสโฮจิมินห์ครับ มาถึงนี่ก็เย็นพอดี ถ่ายรูปเอาบรรยากาศแล้วกัน

qquc1zb0id33

Selfie ก่อนกลับ 1 รูป 555+

wdy96az44fcp

จากนั้นก็ขึ้นรถตู้เดินทางไปยังสนามบินเพื่อเตรียมกลับประเทศไทยครับ ถึงสนามบิน 19:00 น. เช็คอินให้เรียบร้อย ไปนั่งรอที่ GATE เครื่องออก 20:45 น. ถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง โดยสวัสดิภาพ ละก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน 555+

*********************

สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

  1. ค่าเครื่องบิน (ไป-กลับ) ช่วงไม่โปร แต่ราคาก็ยังถูกอยู่ ตกคนละ 2,800 บาท เอง
  2. ค่าที่พัก 4 คืน ตกคืนละ 500-600 บาท ไปกัน 6 คน แยก 2-3 ห้องๆ ละ 2-3 คน รวมอยู่ที่คนละ 2,000 บาท
  3. ค่าเช่ารถตู้ทัวร์ 5 วัน ราคารวม 500$us ตกต่อหัวเป็นเงินไทยประมาณ 2,600 บาท
  4. ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่ต่างๆ ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณราคา 1,000,000 ดอง/คน เป็นเงินไทยประมาณ 1,400 บาท
  5. ค่าอาหาร+เครื่องดื่มทั้งหมด ประมาณ 1,200,000 ดอง เป็นเงินไทยประมาณ 1,650 บาท
  6. ซื้อรองเท้า+กระเป๋าเดินทางตลาดเบนถันหลังต่อ ได้ราคาอยู่ที่ 1,100 บาท

รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ทั้งหมด ประมาณ 12,000 บาท

*********************

ก็เป็นอีก 1 ทริปที่สนุกและคุ้มมากนะครับ (บอกเลยว่าโคตรคุ้ม สำหรับเที่ยวต่างประเทศในราคาเท่านี้) อาจจะเล่าไม่ค่อยละเอียดเหมือนบทความก่อนๆ พอดีรูปถ่ายไม่ค่อยเยอะด้วย แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบทริปนี้เป็นอันดับต้นๆ เลย อยากให้ลองไปกันดูครับ มันครบรสจริงๆ

แล้วพบกันใหม่ บทความหน้านะครับ สำหรับบทความความนี้ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ >_<


ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ที่

Blog : https://goalonetravel.blogspot.com/

FB Page : https://www.facebook.com/คนเดียวก็ไปเที่ยวได้-1238634139627858/

ความคิดเห็น