" สรุปสงกรานต์นี้จะไปทะเลปะวะ ? "
" ไปดิ...แล้วสรุปไปที่ไหนดีอะ ? "
"เกาะกูดมะ? ไปฟิลกู๊ดกัน"
DEAL !
SUMMER ปีนี้จึงเริ่มต้นตัวดำกันที่ "เกาะกูด" เป็นแพลนของสองสาวที่นานทีปีหนจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน ก็เลยจัดเต็มในช่วงสงกรานต์วันหยุดยาวกันเลยจ้า 4 วัน 3 คืน นี่คือแพลนที่เราทำขึ้นมาไว้เพื่อความสบายใจในการท่องเที่ยว เพราะว่าเรื่องจริงนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพหน้างานเจ้าค่ะ
พวกเราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ขับกันมาจากกรุงเทพก็ร่วม 4-5 ชั่วโมง เรามาพักผ่อนกันที่โรงแรม AVADA HOTEL ในเมืองตราด เพราะว่าในวันรุ่งขึ้นเราจะได้ไม่ต้องรีบไปท่าเรือ ไปแบบสบายๆ Slowlife กันไป กว่าจะมาถึงก็พลบค่ำพอดี สองสาวอย่างเราเลยไม่รีรอ ตรงไปหามื้อค่ำร้านเด็ดอย่าง
"สวนอาหารนำโชค"
อร่อย ถูกปาก สดมาก มื้อนี้ค่าเสียหายหมดไป 740 บาท
อิ่มหน่ำสำราญแน่นพุงกันอยู่สองคน ถามว่าหมดไหม ก็เกือบนะ ฮ่าๆๆ ไม่นานพวกเราก็กลับมาพักผ่อนที่โรงแรม ต้องรีบนอนนะคะ ไม่งั้นวันรุ่งขึ้นเมาเรือแน่นอน
โรงแรม AVADA HOTEL ราคาไม่แพง ปลอดภัยและสะอาด คืนละ 800 บาท
มากันสองคนก็ต้องเลือกดีๆไว้ก่อนน้า
เช้าวันใหม่นี่ต้องรีบดึงตัวเองออกจากเตียงที่แสนจะนุ่มนิ่มไปท่าเรือแหลมศอก นอนบิดแล้วบิดอีก พวกเรารีบเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม แวะปั๊มหาอะไรรองท้องกันก่อนที่จะไปขึ้นเรือค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย!
"สวัสดีจ้ะนายจ๋า ณัฐรุจามาถึงแล้ว" (จองสปีดโบ้ทไปกลับตกคนละ 1200 บาท)
พอมาถึงเราก็แจ้งชื่อพร้อมยื่นหลักฐานในการจองให้พี่สาวคนสวยไปเลยค่ะ เช็คอินเสร็จก็นั่งสวยๆ รอเขาเรียกขึ้นรถไปที่ท่าเรือ เอาละเว้ย! ขาไปจองที่พักกับ CHAM'S HOUSE มีคุณพี่สุดหล่อมารอต้อนรับ พร้อมกับบริการรถตู้ไปยังท่าเรือ สวยเลย สวยมากมาย พี่เขาถือกระเป๋าพร้อมเชิญเราแค่สองคนขึ้นรถตู้แอร์เย็นฉ่ำ ในใจก็นึกอยากจะเรียกคนอื่นมาด้วย ฮ่าๆ นั่น! ความโชคดียังไม่จบลงเพียงเท่านี้ พวกเราสองคนได้รอบเรือที่เร็วขึ้นอีกครึ่งชั่วโมงเพราะพี่เขาสลับกับกลุ่มอื่นให้ อาจจะเนื่องจากเรียกตัวและหาไม่เจอ วินๆไปจ้าเช้านี้
ไปกันเลยค่ะ หนูพร้อมมาก (แนะนำให้ใส่ชุดสบายๆพร้อมก้าวขายาวๆ ฮ่าๆ )
ถึงแล้วท่าเรือขามาเกาะกูด เก็บภาพสักหน่อย
บรรยากาศโดยรอบ
ระหว่างรอรถสองแถวมารับไปที่โรงแรม
เอากระเป๋าเป้มาจะดีสุด เพราะถ้าลากมาก็จะลากบนไม้แบบนี้
******
คืนแรกพวกเราพักกันที่ CHAM'S HOUSE ไกลสุดอะไรสุด รอรถค่อนข้างนานพอสมควร แต่รอได้เสมอเรื่องเที่ยวซะอย่าง ในที่สุดก็มาถึงสักที เดินทางมาเกือบๆ 30 นาที เพื่อไม่เป็นการให้เสียเวลาไปชมภาพบรรยากาศกันเลยค่ะ
เดินชมโรงแรมกันพอหอมปากหอมคอ เราก็เลยแวะจองคิวนวดตัวสักนิดนึง จะได้ผ่อนคลายกันเต็มที่ระหว่างที่รอนวด บวกกับอากาศข้างนอกที่ร้อนมากๆ เลยถือโอกาสถ่ายรูปนอนแช่ตัวกันแบบฟินๆ
ถ่ายรูปกันจนเหนื่อยก็เปลี่ยนชุดไปนวดผ่อนคลายเบา ๆ
คิดไปคิดมาทริปนี้ทำไมมันสวีทกันจังวะ คนอื่นมากันเป็นคู่รัก ตูมากันเป็นคู่เพื่อนสาวเลิฟลี่ ฮ่าๆ แต่ก็เอาวะดีกว่ามาเที่ยวคนเดียว เดี๋ยวพอตกเย็นเราก็จะมานั่งดูพระอาทิตย์ตกหน้าหาดกันด้วยกันอีก โอ้ย สวีทกว่านี้ก็คู่ข้างๆแล้วหละ ที่นี่มีหาดที่สวยมาก สะอาดและเงียบสงบ ไม่มีคนนอกรบกวน คนเดินใส่บิกินี่ถ่ายรูปกันเป็นปกติมาก สาวๆมาก็ไม่ต้องอายนะคะ พกความมั่นใจไปเลย เพราะเอาจริงไม่มีใครมาคอยสนใจเราขนาดนั้น
ช่วงเวลาหลังจากนี้ไป ก็จะเป็นอารมณ์ซึมซับบรรยากาศยามเย็นที่นี่กัน
มานั่งถ่ายรูปเก๋ๆได้นะคะ
มื้อค่ำพวกเรามาถึงแล้ว
อร่อยมาก
อันนี้ก็อร่อย ถ้ามาเร็วเหมือนจะมีฟรีดริ้งหน้าหาดนะคะ ช่วงเวลา 17.00-18.00 น. แจ้งห้องรอรับได้เลย
หลังจากเสร็จมื้อค่ำ เราก็จิบบรรยากาศริมทะเล แล้วไปพักผ่อน คืนนี้ยังไม่มีกิจกรรมใดๆ อาจเป็นเพราะยังไม่ถึงวันสงกราต์ นี่เพิ่งวันที่ 12 เองแก ควรไปนอนพักก่อน...พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาถ่ายรูปเล่นน้ำ ก่อนจะต้องย้ายไปอีกโรงแรมนึงนั่นก็คือ KohKood Paradise Beach Resort
GOOD NIGHT <3
***
เอาจริงๆ คือหลับสนิทมาก การตื่นเช้ามาเล่นน้ำก็จะตื่นเต้นหน่อยแรงเหลือ อีกอย่างคือน้ำใสมาก เห็นปลาว่ายน้ำกันไปมาสนุกสนาน ใครที่สนใจมาพักที่นี่ กิจกรรมทางน้ำเล่นฟรีหมดนะคะ พายเรือ ดำน้ำ ไม่มีใครมาแย่งเลย เงียบมากๆ เหมาะสำหรับครอบครัวและคู่รัก หรือคู่หูแบบเรา
ก็ถือเก๋ๆไป พายมั้ยอีกเรื่องนึง ฮ่าๆ
ช่วงเช้าหมดไปกับกิจกรรมเบา ๆ และถ่ายรูปส่งท้ายกัน พวกเราเช็คเอาท์แล้วรอรถมารับเพื่อไปยังโรงแรมพาราไดซ์ บีช บรรยากาศวันสงกรานต์ที่นี่ก็จะเปลี่ยนไปในแบบพนักงานใส่ชุดไทย เกือบหลอนในบางที แต่ก็สวยอยู่จ้า สักพักประมานเที่ยงๆ พนักงานก็มารับเราไปขึ้นรถ
เฮ้ยยย! คราวนี้นั่งหน้ารถนะจ้ะไม่งั้นเปียก พี่ที่มารับบริการดีมากเลย ชวนคุยตลอดทาง แถมยังแวะพาซื้อไอติมกะทิอีก ถ้วยละ 20 บาทเอง อร่อยด้วยฮ่าๆ ไม่นานก็มาถึงโรงแรม...
" KohKood Paradise Beach Resort "
จุดเด่นของที่นี่คือ สระว่ายน้ำสีส้มที่ตัดกับสีของท้องฟ้า
เราจองเป็นวิลล่า นู้นเลยจ้ะริมเลยหลังที่ 9 จะบอกว่าต้นมะพร้าวเรียงต้นกันสวยมาก
หลังจากนี้จะไม่เขียนอะไรมากมายนะ ให้ชมภาพกันไปเรื่อย ๆ จะดีกว่า.. เพราะเราเองตอนมาถึงที่นี่ก็รู้สึกเหงา ทั้งที่ผู้คนมากมายเฉลิมฉลองสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน หรือเป็นเพราะย้ายที่นอนบ่อย คงไม่น่าใช่ น่าจะเป็นเพราะใจเราที่เหงาเองมากกว่า...ไม่งั้นเขาจะว่าหนีรักมาทะเลหรอ?
วิวจากห้องนอน
ห้องน้ำที่ห้ามอาบน้ำตอนสายๆไม่งั้นโดนต้มแน่ๆ ร้อนฉิบเป๋ง
ดูพวกเขามีความสุขกันมากเลยอะ
พี่หมาาาาา วิ่งตัดหน้ากล้องเค้า
เรามานั่งดูพระอาทิตย์คนเดียวเย็นนี้ เพราะเพื่อนไม่ค่อยสบาย หันซ้ายหันขวาก็มาเป็นคู่รักหวานแว่วเลยเว้ย เหม็นความรักกกกกก!
แต่ในบางขณะเรารู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก นั่งฟังเสียงคลื่นค่อยๆซัดเข้าฝั่ง แสงพระอาทิตย์ค่อยๆจางหาย
ภาพที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่กระทบถึงใจ
ไม่ได้เอื้อนเอ่ยกับใคร นั่งเงียบๆคนเดียว จนแสงอาทิตย์ลาลับไป พร้อมกับใจบางๆ ของเรา
ไปแล้วจริง ๆ นะ อยู่นานก็เพ้อเจ้อ ฮ่าๆ
ไว้พบกันใหม่แสงอาทิตย์ยามเย็น ที่ดูที่ไหนก็ไม่เคยเหมือนกันสักที่...ค่ำคืนนี้เรามีดินเนอร์ริมหาด พร้อมชมการแสดงของโรงแรม เวลาเดินผ่านไปอย่างช้าๆ แต่เผลอแปปเดียวก็หมดวันแล้ว อีกทั้งวันพรุ่งนี้ก็ต้องกลับบ้าน คืนนี้พวกเราเลยนั่งดื่มกันอย่างสบายอกสบายใจ ใช้ชีวิตเต็มที่ให้สมกับการมาพักผ่อนวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์
ชอบเวลาที่เราได้นั่งฟังเสียงคลื่นเบา ๆ ได้อยู่กับตัวเอง ไม่วุ่นวายกับใคร
นั่งเล่นในคืนสุดท้ายเพราะอีกไม่นานต้องเข้านอน...
**********
" เช้าวันสุดท้ายก่อนจาก "
แทนกว่านี้คือ เขียวแล้ว
จะกลับจริง ๆ แล้วนะ
*****
แถมรูปฟรีอีกทีตอนขากลับไปขึ้นเรือที่ท่าของ To the sea โคตรดี! ต้องมาโดน
นี่ไม่ได้ค่าโฆษณาเลย
ทำไมเกาะกูดมันสวยจังว้อยยยย!!
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ในงบคนละ 10000 บาทถ้วนจ้า หมดไปกับที่พักค่อนข้างเยอะ ไหนจะพร้อบอีกฮ่าๆ
- CHAM'S HOUSE 4460 /ห้อง
- Paradise beach resort 4400/ห้อง
อยู่ดีกินดีกันไป กลับไปทำงานชดใช้กรรมต่อไปจ้า
เ จ อ กั น ใ ห ม่ ท ริ ป ห น้ า น ะ ค ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
NATRUJA
( ig : jarmy_poch )
จาเล่า
วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 23.00 น.