ถ้าพูดถึง "ภูเก็ต" ไม่ว่าใครก็ต้องนึกถึง ชายหาด และ เกาะ รวมทั้งความเป็นธรรมชาติที่สวยงามที่ไม่ว่าใครทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติ มักจะเลือกเป็นที่แรกๆ ในการมาพักผ่อนเพลินๆ ชมทัศนียภาพ และ สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทางภาคใต้ของประเทศไทย อย่างจังหวัด ภูเก็ต ...

เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยความที่เป็นคนชอบและหลงรักทะเลและท้องฟ้าอยู่แล้ว ทำงานมาเหนื่อยๆ ก็อยากจะหาที่ผ่อนคลายจากความเครียดสักนิด ที่ที่ผุดขึ้นมาในหัวก็เลยหนีไม่พ้น "ภูเก็ต"

ถึงเราจะขึ้นชื่อทริปนี้ด้วยคำว่า "หนีงาน" แต่จริงๆแล้วเราไม่ได้หนีนะ !! ทริปนี้ เป็นทริปที่เราเดินทางวันเสาร์เช้า กลับ วันอาทิตย์ค่ำๆ รวมเวลา 2 วัน 1 คืน ... ทริปนี้เดินทางโดยเครื่องบิน และ ไปเช่ารถเอาที่ภูเก็ต

Day 1 ...

ขึ้นเครื่องจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไฟล์ทเช้าสุด ของสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไปรับรถเช่า และก็ขับเที่ยวรอบเมืองสักนิด ก่อนเข้าที่พัก

ที่แรกที่ไป "วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง)" เอาฤกษ์เอาชัยด้วยการเข้าวัด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันก่อนกับวัดฉลอง ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของจังหวัดภูเก็ต ชาวภูเก็ตเชื่อว่าใครที่ได้มาไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้แล้ว จะเกิดสิริมงคลแก่ตัวเอง เพราะฉะนั้น เราเลยขอมาไหว้สะสมแต้มบุญสักหน่อยดีกว่า

ที่ที่สอง...เรายังคง concept สายบุญ ด้วยการมาสักการะ "พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี" พระใหญ่ คู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต ประดิษฐาน ณ พุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่ สีขาว ประดับผิวด้วยหินอ่อนหยกขาว “สุริยกันต”(สุริยกันตะ) จากพม่า เป็นพระพุทธรูปที่เราเห็นแล้วรู้สึกสงบ แม้แดดจะร้อนก็ตาม แถมด้วยวิวข้างบนนี้นั้น สวยสุดๆ สามารถมองเห็นเกาะและทะเลภูเก็ต ควบคู่กับวิวธรรมชาติต้นไม้ ป่า เขา ได้อย่างลงตัว


เมื่ออิ่มบุญกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปจุดหมายหลักของเรา อย่างที่ได้บอกไปว่านี่เป็น "Relax Trip" เราตั้งใจจะมาพักผ่อน ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน (หรืออาจจะเครียดกว่าเดิมเพราะราคาที่พัก 555) เราเลยเลือกพักที่นี่ >> "The Naka Phuket" - นิยามสถานที่ของความสงบ ที่ควรมาพักผ่อน -

แค่ทางเข้ามาก็ อลังการงานสร้างมากแล้ว สาเหตุหนึ่งที่เราเลือกพักที่นี่ก็เพราะการดีไซน์ที่ทันสมัย ในสไตล์ที่เราชอบด้วยแหละ จากล็อบบี้ สามารถมองเห็นวิวของทั้งรีสอร์ท ได้แบบพาโนรามา ความรู้สึกแรกที่เห็นวิวคือ "มัน ว้าว มาก"


ระหว่างรอเช็คอิน เข้าห้องพัก ก็มี...เรียกว่าอะไรดีล่ะ Welcome drink หรอ เราเรียก Welcome set เลยดีกว่า เพราะมีมาให้ทั้ง น้ำเปล่า และ น้ำแร่ ใส่มาในตระกร้าสวยงามพร้อมดอกไม้ 1 ดอก และยังมี ผ้าขนหนูชุบน้ำอย่างดี ได้เช็ดแล้วสดชื่นทันทีหลังฝ่าอากาศร้อนมาถึงสถานที่แห่งนี้ได้ รู้สึก Refresh มากๆเลยแหละ



และนี่ก็คือ ห้องพักของเรา เราเลือกพักห้องแบบ 1 Bedroom Pool Villa with Breakfast จองผ่านอโกด้า ด้วยราคา 14,7xx บาท ที่จริงแล้วไม่ค่อยอยากจะเรียกห้องพักเท่าไหร่ เพราะจากการสำรวจทุกซอกทุกมุมของเราแล้ว เราเรียกสิ่งนี้ว่า บ้านพัก มากกว่า ห้องพัก อีกนะ ตั้งแต่เปิดประตูมา ก็จะเจอ สระว่ายน้ำข้างตัวบ้าน พร้อมเก้าอี้พักผ่อน บวกกับวิวทะเล ถ้ามากับแฟนคงจะโรแมนติกน่าดู





เปิดประตูเข้ามาก็มีเรื่องให้ว้าวววว เลยทันที เข้ามาแล้วเราจะเจอห้องนั่งเล่นที่ใหญ่มาก บนโต๊ะจะมีผลไม้ 1 จาน พร้อมเซ็ทช้อน ส้อม มีด สำหรับรับประทานอาหาร (ป.ล. ส่วนไวน์นั้นเราซื้อเพิ่มเอง) บริเวณหลังโซฟาจะเป็นมุมของว่างก็ว่าได้ เพราะมีทั้งชา กาแฟ(ที่มาพร้อมเครื่องทำกาแฟ) ภายในตู้เย็นก็มีน้ำค่อนข้างจะหลากหลายชนิดให้เลือกสรรค์ แถมยังมีมุมโต๊ะทำงานให้อีกด้วย




มาต่อที่โซนห้องแต่งตัวที่มาแบบ Walk in Closet พร้อมอ่างล้างหน้า และ กระจกบานใหญ่ มีอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องน้ำให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าขนหนู เช็ดตัว เช็ดหน้า เช็ดหัว มีหมด มีชุดเสื้อคลุม และ ตู้เสื้อผ้า ที่ภายในใส่อุปกรณ์ไว้ให้หมดทั้ง ร่ม ถุงผ้า ไม้แขวนเสื้อ บลาๆๆๆ


ถัดมาจะเป็นโซนของห้องอาบน้ำ และ ห้องน้ำ ที่มาในรูปแบบกระจกใสแจ๋วไม่มีสิ่งใดมาบดบัง ซึ่งเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ 555 แค่นั้นไม่พอ ถัดออกมาจะเป็นอ่างอาบน้ำที่ทำจากปูนเปลือยขัดมัน ที่ใหญ่เว่อวังอลังการ และ อยู่กลางแจ้งจ้า แต่ไม่ต้องกลัว เพราะไม่อยู่ในจุดที่ใครจะมองมาเห็นแน่นอน นอกจากคนที่อยู่ในห้องเดียวกันอ่ะนะ อิอิ ทำเอาเลือกไม่ถูกเลยทีเดียวว่าจะ แช่อ่างสวยๆ หรือ เล่นน้ำสระมันส์ๆ (คนเดียว) ดี แหะๆ ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าสิ่งที่ดีงามอีกอย่างหนึ่งคือ ครีมอาบน้ำ อยากจะบอกว่าหอมมาก แนะนำซื้อกลับอย่างที่สุด



ดูห้องอื่นๆไปแล้ว ห้องที่พลาดไม่ได้คงเป็น "ห้องนอน" อยากจะบอกว่าห้องวิวดีมากเว่อร์ ด้วยความที่หันหน้าออกให้เห็นวิวทะเล พร้อมมีระเบียงสำหรับนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกพลางๆ และตื่นเช้ามาพร้อมวิวธรรมชาติ เป็นการพักผ่อนที่เรียกได้ว่า "Perfect" สุดๆ สำหรับเราเลยล่ะ

แต่มาพักทั้งที เลยอยากจะใช้ Facilities ของทางที่พักให้ครบ ได้ยินมาว่า Roof top Bar ที่นี่นั้นดีงาม ก็เลยขอ แว้บไปทางอาหารค่ำเลยละกัน ...




นี่เป็นหน้าตาเมนูอาหารที่เราทาน นอกจากนี้ก็สั่งคอกเทล นิดๆหน่อยๆ มาจิบสวยๆ พร้อมกับลมเย็นๆ ด้วยความหิวของเรา ก็เลยทำให้ลืมที่จะถ่ายภาพวิวอีกเช่นเคย เลยได้มาแค่ภาพหน้าตาอาหารที่น่าทาน และ รสชาติอร่อยสมมาตรฐานโรงแรมเลยทีเดียว



หลังจากนอนพักอย่างเต็มอิ่มไป 1 คืน ก็ขอตื่นเช้าลงมาเดินเล่นก่อนรับประทานอาหารเช้าสักนิด จุดนี้เป็นวิวที่มองเห็นได้โดยตรงจากห้องอาหาร ซึ่งจะมี สระว่ายน้ำส่วนกลาง ที่ว่ายไปพลาง ชมวิวทะเลได้อย่างใกล้ชิดไปพลางๆ ก็เพลิดเพลินไม่เบา



อาหารเช้าที่ทางโรงแรมจัดไว้เป็นแบบ "International Buffet" และมีเยอะมาก เรียกได้ว่าเลือกทานยังไม่ครบ ท้องก็รับไม่ไหวเอาซะแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สลัดบาร์ ของคาว ของหวาน ขนมปัง คอนเฟลก และอื่นๆ อีกมากมายก่ายกองจริงๆ อยากจะทานให้ได้ซะทุกอย่าง แต่ ท้องบอกว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ TT

ป.ล. สำหรับการเดินทางภายใน The Naka Phuket นั้น สามารถโทรเรียกบริการรถรับ-ส่ง ได้โดยใช้โทรศัพท์ภายในห้องพัก แจ้งเลขห้อง พร้อมจุดหมาย ก็จะมีรถมาจอดรอรับเราในเวลาไม่กี่นาที แต่รถใช้สำหรับจุดหมายภายในที่พักเท่านั้นนะจ๊ะ ถ้าจะออกไปข้างนอกก็จะมีบริการ Shuttle Bus ที่จะไปส่งตามจุดหลักๆต่างๆเช่น ห้างจางซีลอน เป็นต้น

ป.ล. 2 อาหารและบริการทุกอย่างที่เราใช้ภายในเวลาที่เข้าพัก จะถูกลงบิลไว้ แล้วไปชำระเงินเพิ่มเติมตอนเรา เช็คเอ้าท์เลยทีเดียว


Day 2 ...

หลังจากรับประทานอาหารเช้า และ เช็คเอ้าท์ เรียบร้อย เราก็เหลือเวลาเที่ยวอีกสักพักก่อนที่จะต้องไปคืนรถและกลับสู่ชีวิตจริงในวันทำงานต่อไป จุดที่เราเลือกไปและถือเป็นแลนด์มาร์คที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาคงหนีไม่พ้นที่นี่ "แหลมพรหมเทพ"

"แหลมพรหมเทพ" เป็นจุดชมวิวยอดฮิต ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่มาเที่ยวภูเก็ตจะต้องมาเยือน ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงภูเก็ตกันเลยทีเดียว ด้วยวิวทะเลกว้างใหญ่ไพศาลแบบพาโนรามา ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายแบบสุดๆ แม้อากาศจะร้อนไปหน่อย แต่ลมเย็นๆเคล้ากลิ่นไอทะเลก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายอยู่เหมือนกัน บริเวณแหลมพรหมเทพ นั้นเราสามารถเดินลงไปได้ด้วยนะ จะเป็นเหมือนเส้นทางเดินเขาระยะสั้นๆ (มั้ง) ... เราใช้เวลาเดินลงไป-กลับ ประมาณเกือบ 2 ชม นิดๆ เพราะวิวข้างล่างมันถ่ายรูปเพลินดีนะ ถ้าจะเดินลงไปเราขอแนะนำว่า จะต้องเป็นคนที่แข็งแรงพอสมควร เพราะทางไม่ได้สะดวกสบาย จะต้องมีจุดที่ ปีนขึ้น ปีนลง แต่รับรองว่าถ้าลงไปได้จนถึงปลายแหลมแล้วจะหายเหนื่อยทันทีกับวิวที่ได้เจอ ^^

อีกที่ที่เราไปก่อนจะกลับเป็นหนึ่งในจุดที่เราอยากไปมากที่สุด "หาดไม้ขาว" หาดนี้ไม่ได้เปิดให้เล่นน้ำแต่อย่างใด เพราะอยู่ติดกับสนามบินเพียงรั้วกั้น แต่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกับเครื่องบิน เพราะเป็นจุดขึ้น-ลงเครื่องบิน ที่จะทำให้เห็นเครื่องบินได้ชัดที่สุด และ ใกล้ที่สุด ... แต่ด้วยความที่แต้มบุญไม่ค่อยจะมี วันที่เราไปแทนที่เครื่องบินจะบินลง กลับเจอเครื่องบินที่บินขึ้นแทน ภาพที่ได้ก็เลยได้มาประมาณนี้แหละ แอบเฟลนิดๆ แต่ก็ถือว่าโอเคอยู่


หลังจากนั้น เราก็ไปคืนรถเช่า และ เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เช่นเดิม ถือเป็นทริปที่บรรลุเป้าหมายของการไปพักผ่อนจริงๆ แต่คงจะดีกว่านี้ถ้ามีใครสักคน...ไปด้วย ^___^

เชื่อเสมอว่า "การท่องเที่ยว" เป็นการเพิ่มพลังชีวิต และ ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ออกไปมองโลกในมุมที่ต่างกันบ้าง มันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ ...



ความคิดเห็น