ช่วงเวลาเดินทาง 13 - 21 เมษายน 2562 เป็นทริปหนีร้อนในไทย ไปหาความหนาวในยุโรป

รีวิว: 🚇การเดินทาง 🍴เรื่องอาหาร 🏠และสถานที่พัก

🚩แนะนำ รวมโปรโมชั่น

เที่ยวไกล นั่งเครื่องนาน เลยจัด Emirate ไปเลย พอดีช่วงนั้นมีโปร และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้
ไปต่างประเทศต้องทำ ประกันการเดินทาง เพื่อยื่นขอวีซ่า แนะนำเว็บนี้สมัครฟรี พร้อมมีส่วนลด5% ด้วยนะ
ขอวีซ่าเชงเก็น เนเธอร์แลนด์

🏠โรงแรมที่พัก
ครั้งนี้ใช้ Booking *(ลิ้งนี้สำหรับคนยังไม่เคยใช้ รับ 550บาท เมื่อจองและเข้าพักจริง)
โรงแรมในเมืองAmsterdam Generator Amsterdam
โรงแรมในเมืองBrussels Brxxl 5 City Centre Hostel
โรงแรมมในเมือง Frankfurt Comfort Hotel Frankfurt Central Station
*แนะนำโรงแรมไว้ แต่ใครอยากได้ที่ไหน ตามสะดวกนะจ๊ะ

🚇เช่ารถ + ซื้อตั๋วรถไฟ

เช่ารถ ในAmsterdam ใช้บริการของ Sixt rent a car rentalcargroup
ตั๋วรถไฟ Amsterdam > Brussels trainline
ตั๋วรถไฟ Brussels > Cologne DB
เช่ารถ Cologne > Frankfurt ใช้บริการของ Europcar rentalcargroup
*เว็บเช่ารถ มีทุกยี่ห้อ เลือกตามที่ถูกใจ ใช่เลย นะคะ

เมื่อทุกอย่างพร้อม นับถอยหลัง สู่การเดินทางครั้งใหม่ของเหล่าสเมิร์ฟ

เครื่องบิน Bangkok > Dubai > Amsterdam
อาหาร ของว่าง เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ครบหมดทุกอย่าง
นั่งๆ นอนๆ กินๆ อ้วนกลมกันไปเลย 💺

เครื่องลงที่ Amsterdam ก็หารถไฟเข้าเมืองทันที จากนั้นนั่งรถรางในเมืองจนถึงแถวที่พัก
รถรางในเมือง จะคิดราคาเป็นชม. และเราต้องจ่ายโดยใช้บัตรเครดิต เท่านั้น ถ้าจะจ่ายเงินสดต้องมีพอดี เพราะเขาไม่มีตังทอนให้

💸เรทก็ประมาณนี้ 💸
1 ชม. €3.20
24ชม. / 1 day €8.00

---

📍Day 1 : Amsterdam, Netherlands

- keukenhof gardens
- Giethoorn

เราเริ่มออกเดินทางจากโรงแรมเพื่อไปรับรถ ตั้งตอน 7 โมงเช้า แต่รถเช่ารับได้ตอน 8 โมง พวกเราเลยเดินชมเมืองท้าลมหนาวกันไปก่อน เช้าๆอย่างนี้ถ่ายรูปวิวเมืองแบบร้างผู้คนได้เยอะเลยทีเดียว

💸เราใช้บริการ Uber €7.82 (สำหรับคนที่ยังไม่เคยลงทะเบียน รับส่วนลด 3 เหรียญสำหรับเรียกรอบแรก) สำหรับเดินทางในเมือง สะดวกกว่าเพราะเราไปกันหลายคน หารได้

เมื่อลมหนาวมา จนเหล่าสเมิร์ฟ ทนไม่ไหวขอซุกในซอกตึก

หลังจากได้รับรถ เราก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายแรก keukenhof gardens ต้องบอกก่อนว่าแผนแรกที่เราจะไปจริงนั้นไม่ใช่ที่นี้ แต่เป็น Noordoostpolder

แต่เนื่องจากเราไปถามเจ้าถิ่น เลยได้ keukenhof gardens มา เราก็ไปจ้า แต่พอขับมาใกล้จะถึง พวกเราขับเลยทางเข้าหมดทุกทาง วนกลับมาก็หาทางเข้าไม่เจอแล้ว สุดท้ายเลยไปแวะสวนแปลงทดลอง Lisse และ Hillegom แทน และเราก็ได้ทิวลิปตามที่หวังตามด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์มาด้วย

📷ถ่ายรูปรวมเหล่าสเมิร์ฟกับทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ก่อนไปจุดหนายถัดไป

หลังจากเดินทางตั้งแต่เช้า ยังไม่มีอาหารตกถึงท้อง พวกเราทั้งหมดจึงแวะร้านแม็คข้างทาง
ซึ่งแฮมเบอเกอรที่นี้ ใหญ่เกินคาด กินกันจนอิ่มแล้วเราก็ขับรถยาวๆไปหมู่บ้านที่ไม่มีถนน Giethoorn กีโธร์น ใช้เวลาขับรถโดยประมาณ 1 ชม.

🍴 แม็คโดนัล

ถึงแล้วเราก็จัดการซื้อตั๋วนั่งเรือ ชมรอบๆหมู่บ้านกันหน่อย

💸ราคา € 8.5/คน

เรือที่นี้ไม่ใช้น้ำมัน ใช้แต่ไฟฟ้าทุกลำเลยด้วย ลุงคนขับเรือของเราก็บรรยายความรู้ไปแบบชิวๆ พวกเราก็ถ่ายรูปไม่ฟังแกพูด แล้วอยู่ๆ ลุงก็เลี้ยวเรือแรงเหมือนโกรธที่ไม่ฟังแก(จริงๆไม่ใช่นะ) แล้วเครื่องก็ดับจ้า สรุปที่เสียเงินนั่งเรือคือ ต้องเดินเองด้วยนะรอบนี้ T^T

หลังลงจากเรือ พวกเราก็รีบเดินกลับมาที่รถ เพื่อจะขับรถกลับเลยทันที เพราะจะต้องคืนรถแล้ว จึงไม่ได้แวะสวนทิวลิปที่อยู่แถวๆนั้น
💸ก่อนคืนรถมีแวะเติมน้ำมันก่อน ขับทั้งวันเติมคืนไป €45

เข้ามาถึงในเมืองก็ 6 โมงเย็นแล้ว แต่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ พวกเราจึงเดินหาร้านอาหาร แวะกินข้าวเย็นกันก่อน แล้วตกลงกันไว้ว่าจะไปเดินซอยโสเภนีและหากัญชาดูด >^<

🍴ร้าน Wurst & Schnitzelhaus

ถามว่าที่เราสั่งมานั้นมันคืออะไรบ้าง บอกเลย ยังงงๆอยู่ 🤣 แต่โดยรวมถือว่ากินได้ทุกอย่างนะ

หลังจากนั้นก็เดินเล่นในเมืองต่อ ช่วงเย็น อากาศเริ่มหนาวมากขึ้น แต่ไม่หนาวเท่าช่วงเช้าตรู่
จากร้านอาหารที่เราทาน เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอตรอกโสเภณีและร้านขายกัญชา

📍Day 2 : Amsterdam, Netherlands
- Rijksmuseum
- Zaanse Schans

เริ่มวันพวกเราก็ตื่นเช้าอีกเช่นเคย วันนี้ก็ใช้บริการ💸 Uber €10.61 (สำหรับคนที่ยังไม่เคยลงทะเบียน รับส่วนลด 3 เหรียญสำหรับเรียกรอบแรก) ไป Rijksmuseum เพื่อจะถ่ายรูปกับป้าย Iamstardam แต่แล้วคนขับบอกกับเราว่า ป้ายได้ถูกย้ายไปแล้วนะ!!! ทำให้ทุกคนอึ้งไปอีก แต่ถึงแม้ว่าจะพลาดจุดหมายเป็นวันที่2 แต่พวกเราก็จะไปนะจ๊ะ

พอเดินมาเรื่อยๆ เราก็เจอเก้าอี้ที่มีคำที่เราต้องการ เลยถ่ายรูปกะเก้าอี้แทนละกัน ไม่ได้ใหญ่ๆก็เอาเล็กๆก็ได้
ถ่ายรูปมาซักพักก็ถึงเวลาอาหารเช้าของเราแล้ว

🍴วันนี้เลือกร้าน Corner bakery ร้านน่ารักๆ

สีสดใสแต่บอกก่อนร้านนี้ไม่รับเงินสดนะ รับบัตรอย่างเดียว บอกเลยงงในงง ยุโรปใช้แต่บัตร
เราแลกเงินมาทำไมกันหะ

นอกจากร้านน่ารักแล้ว อาหารยังน่ารับประทานอีกด้วยนะเธอร์ มื้อนี้ราคา € 49.30

อิ่มกันแล้วก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายถัดไป Zaanse Schans

พวกเรานั่งรถรางกลับไปสถานีรถไฟหลักของเมือง แล้วเดินไปซื้อตั๋วรถบัส รถบัสจะจอดอยู่ชั้นบน จริงๆเราสามารถซื้อตั๋วบนรถก็ได้นะ ค่าตั๋วไปกลับ €10.15/คน

ก่อนไปเราก็เข้าไปซื้อเสบียงอาหารที่ร้านAlbert Heijn
ร้านนี้มีอาหารหลากหลาย สลัด พาสต้า เนื้อสเต็ก ผักผลไม้ มีหมดทุกอย่าง แต่ขาดอยู่อย่างคือถุง ที่ไม่มีให้
เราต้องมีถุงไปใส่เอง ลดโลกร้อนกันไป ซื้ออาหารเรายังได้ความรู้เพิ่มเติมมาอีกว่า คนที่นี้ ไม่อุ่นอาหาร
กินแบบเย็นๆไปเลย แต่ใครจะอุ่นก็สามารถอุ่นได้เพราะในร้านมีไมโครเวฟไว้ให้

ชีสที่นี่ของดั้งเดิม ชิมฟรีได้เรื่อยๆ ฮ่าๆ และแนะนำให้ซื้อกลับไปฝาก ราคาไม่แพงเลยประมาณ €10-15 เราซื้อชีสรมควัน และชีสแกะเห็ดทรัฟเฟิล เพราะลองชิมแล้วหอมติดใจ ^^

เดินถ่ายรูปจนหนำใจ ก็ถึงเวลากลับแล้ว หาร้านอาหารนั่ง แต่วันนี้ทุกคนลงมติว่าอยากไปกินอาหารไทย
คิดถึงอาหารไทยแล้วอ่าาา จึงได้ค้นหาอาหารไทยในGoogleเลยจ้า แต่ก่อนไปนั่งกินข้าวเราก็เดินเล่นในเมืองกันก่อนนิดหน่อย แล้วก็ได้รู้ว่าทิวลิปเต็มเมือง ไปให้ไกลทำไม แต่มันแค่อยู่ในกระถางนะ

🍴ร้านอาหารไทย Bird Thais Restaurant

อาหารรสเค็มไปหน่อย แต่ก็ใช้ได้ สำหรับคนที่เบื่อขนมปัง เนย ชีตแบบพวกเรา มื้อนี้ถือว่า เปลี่ยนรสชาติ ก่อนจะเบื่อขั้นสุดได้ดี👌

📍Day 3 : Gent , Belgium

- The Belfy Tower
- St.Bavo's Cathedral
- St.Nicholas's Cathedral

เราออกเดินทางแต่เช้ามืด นั่งรถรางจากที่พักมาที่ Amsterdam Centraal เพื่อนั่งรถไฟไปเบลเยี่ยม
Bruxelles Central

พอถึงเบลเยี่ยม พวกเราเข้าไปที่โรงแรมก่อนเลย เพื่อวางของ แล้วเราจะไปเมือง Gent จุดหมายของวันนี้

เราต้องเดินกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานี Bruxelles Central อีกครั้ง ตลอดทางในเมืองนี้ มีแต่สกู๊ตเตอร์วาง
ให้เช่าขับด้วยนะ

วิธีคือต้องแสกนQRโหลดแอปมาก่อน แล้วทำการสมัคร พอเข้ามาหน้าหลัก มันจะบอกเลยว่า คิดราคายังไง
แล้วคือพวกเราก็อยากจะขับ แต่พอเห็นราคาเท่านั้นแหละ ถึงกับลบแอปแทบไม่ทันเลย
จิงๆไม่ได้แพงหรอกนะ คิดนาทีละ € 0.10 แพงเลยทันที แถมต้องตัดจากบัตรเคดิตอี๊ก

💸ซื้อตั๋วไปกลับ เที่ยวเมือง Gent คนละ € 18.00

พอลงรถไฟปุ๊บ ก็หาร้านอาหารก่อนเลย

🍴มื้อเที่ยงวันนี้ที่ร้าน Toulouse Maison De La Bouffe
อย่าถามว่ารู้จักร้านนี้ได้อย่างไร ก็เปิดหา ร้านอาหารใกล้ฉันใน Google มันมีนำเสนอมา

อาหารร้านนี้หน้าตาแปลกด้วย ใกล้เคียงกับสลัด มีรสชาติเปรี้ยวๆ แต่ก็ถูกปากอยู่

หลังจากอิ่มอร่อย(มั้ง) เราก็จะไปจุดหมายของเราในวันนี้ละนะ เมืองนี้รถราง ไม่ได้ซื้อตั๋วในรถ สามารถซื้อตั๋วที่ป้ายรถได้เลย ต้องใช้เหรียญเท่านั้น ประมาณ € 3 เนี้ยแหละ แต่ถ้าใช้โทรศัพท์
โทรไปซื้อจะเหลือแค่ €1.8 ซึ่งเรางงกับระบบโทรไปซื้อ เลยไม่ได้ลองทำ พอขึ้นบนรถ ก็จะต้องสแกนบัตร แต่ตัวเลขมีเยอะมากและสีก็ต่างกัน เราเลย กดทุกสีเลย สุดท้ายก็สแกนตั๋วได้ (พวกสเมิร์ฟกดอย่างจิงจังมาก)
ยังมีอีกเรื่องคือ ตั๋วรถจะมีระยะเวลาใช้แค่ ชม.เดียว แต่ดีนะจุดหมายของเรา อยู่ติดกันหมดเลย เดินถึงกันได้

ก่อนกลับ เราได้ถ่ายรูปยืนยันว่า ที่คือที่มาของซื่อทริปเรา สเมิร์ฟอย่างเห็นได้ชัด

🍴มื้อเย็นวันนี้เราไปกันที่ร้าน Chez Leon

ร้านนี้คนไทยรู้จักกันดี อาหารทะเลสดอร่อย

📍Day 4 : Bruxelles, Belgium

- Grand Place
- Galeries Royales Saint-Hubert
- Manneken Pis
- Cinquantenaire Park

วันนี้เราขอตื่นสายนิดหน่อย เดินเล่นในเมืองBruxelles กันบ้าง เรามาเริ่มต้นที่สถานีรถไฟหลักของเมือง เพื่อหาอาหารเช้ากินกันก่อน แล้วเดินไป Grand Place แล้วเราก็จะเดินผ่าน Galeries Royales Saint-Hubert ซึ่งตอนแรกพวกเราไม่รู้ว่าเป็นที่ท่องเที่ยว หรือสถานที่ถ่ายรูป เห็นว่ามันสวยดี เลยเดินเข้าไป
และจุดมุ่งหมายหลักของเมืองนี้คือ Manneken Pis (พูดแบบยิ่งใหญ่ 55) Manneken Pisเหมือนเป็นสัณลักษณ์ของเมือง ของฝากก็มีรูปเด็กยืนฉี่อันนี้ ในเมืองนำเสนอมาก เห็นได้ทุกที่ แต่พอไปจริง
มันเล็กมาก พวกเราตกใจกันไปเลย แต่ก็เก็บรูปมา คนที่ไปทุกคนจะเข้าไปมุงถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่ง มาก!!!!
และสุดท้ายเรานั่งUber ไปCinquantenaire Park พวกเราอยู่ที่นั้นนานที่สุด อากาศดี คนไม่เยอะ (จริงๆค่าUberมาแพงสุดแต่ขากลับแพงกว่า T T) แต่เสียดายไม่ได้ไปโรงงานซ็อกโกแลต เพราะไกลเกินไป

ซื้อซ็อกโกแลต จากแห่งกำเนิด แล้วมากินขนมรังผึ้ง ครีมเยอะ กินแก้หิวไปก่อน

🍴เที่ยงวันนี้ แวะกินอาหารฟาสต์ฟู้ด ร้านBelgian Frites

กลับจากCinquantenaire Park เราก็มาหาร้านอาหาร

🍴ร้าน Drug Opera บรรยากาศดี อาหารรสชาติโอเค เบียร์เยอะ แต่เสียอย่างคือ
เก็บค่าเข้าห้องน้ำด้วย

📍Day 5 : Cologne (Köln), Germany
- Cologne Cathedral (Kölner Dom)
- Cologne Old market
- Hohenzollern Bridge
- Burg Eltz Castle

วันนี้เราต้องเดินทางไปเยอรมันแล้ว ประเทศสุดท้ายของทริปนี้ เริ่มต้นเดินทางกันตั้งแต่เช้า ขึ้นรถไฟไปลงที่เมืองKöln แล้วฝากกระเป๋า ตรงข้ามสถานีรถไฟเราจะเจอ Cologne Cathedral เลย ใกล้มาก แต่ช่วงนี้ปิดปรับปรุง จึงไม่ได้เข้าไปชมด้านใน พอเดินมาอีกนิดหน่อย เราก็จะเจอCologne Old market เราจึงแวะไปหาอาหารเที่ยงกินกันที่นั้นและแวะถ่ายรูปรอบเมืองกัน

🍴ร้าน Extrablatt

สิ่งแรกที่สะดุดตาในร้านคือ เมนู มาเป็นแบบหนังสือพิมพ์ ทำโน้นนั้นนี้ น่ารัก แต่เมนูเป็นภาษาเยอรมัน เราต้องแปลกันเหนื่อยเลยกว่าจะได้สั่งอาหาร อาหารของมื้อนี้นับว่าอร่อยนะ ถึงแม้ว่าพวกเราจะเริ่มเบื่อ แป้ง ชีตแล้วก็ตาม

หลังกินเสร็จ เราก็มาเดินย่อยอาหาร ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ📷

เราเดินกลับมาสถานีรถไฟ อีกครั้ง มารับรถ ขับไปอีกเมือง เพราะเราจะไปดูปราสาท ที่สวย ติดอันดับ 1 ใน10ของโลก อันนี้หาข้อมูลมาเอง เพราะที่นี้เดินทางยากมาก ต้องตั้งใจมา จริงๆ

🚗ขับรถจาก Köln มา Burg Eltz Castle ใช้เวลา 2 ชม. จากนั้นนั่งรถสีแดง มีค่าบริการ € 2
บริการรับส่งถึง 6 โมงเย็น

ภายในปราสาท จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ และยังส่วนของเจ้าของบ้านพักอาศัยอยู่ ค่าเข้า € 20

ถ่ายทำMVจบแล้ว ถึงเวลาเดินทางไปเมือง Frankfurt เข้าที่พักซักที เราใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. กว่า

พอเข้าถึงเมืองก็มืดมากแล้ว แต่ก่อนคืนรถ ไปเติมน้ำมัน อีก €19 รถที่เช่ามา เวลาคืน ต้องเอากุณแจไปหย่อนในกล่องรับกุณแจด้วย แล้วก็จอดรถข้างฟุตพาทไว้ได้เลย

🍴ร้าน Jade

มื้อเย็นวันนี้เราเข้าร้านอาหารจีนใกล้ที่พัก รสชาติใช้ได้ สั่งเป็ด จิ้มกับน้ำปลาพริกแบบจีน ข้าวฟรี
ราคาไม่แพง

📍Day 6 : Heidelberg, Germany
- Schloss Heidelberg
- Deutsches Apotheken Museum
- Kornmarkt
- Marktplatz
- Hauptstrasse
- Karl-Theodor-Brucke

วันนี้เราจะไปเมือง Heidelberg กัน ไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟของเมือง Frankfurt นั่งมาประมาณ ชม

🎫ในสถานีรถไฟของเมืองHeidelberg จะมีขายตั๋วรถโดยสายประจำทาง ราคา €15.10 ใช้ได้ทั้งวัน แต่จำไม่ได้ว่าขึ้นรถสายอะไร รู้แค่ว่าลงสุดสาย จะเจอที่ซื้อตั๋วนั่งรถรางขึ้นไปบนยอดเขา ชมวิวรอบเมือง

🎫ค่ารถราง ขึ้นไปชมวิว €12 รถจะจอด3 ช่วง รถช่วงที่3น่าตาจะโบราณๆ หน่อย
พวกเราตัดสินใจไปบนสุดก่อน แล้วค่อยๆลงมา

🍴เราขึ้นมาจะไม่กินลมชมวิว แต่เปลี่ยนเป็น กินเบียร์นั่งชิว

เยอรมันขึ้นชื่อ เมืองเบียร์ กับไส้กรอก เราก็ต้องลองให้หมด

หลังอาหารว่าง เราก็นั่งรถรางลงมาในส่วนของปราสาทกันบ้าง ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงเกี่ยวกับยาสมุนไพร แบบยุโรป ในสมัยก่อน และมีโรงเบียร์ ถังเบียร์ยัก ด้วย ส่วนพิพิธภัณฑ์ อีกส่วนเราไม่ได้เข้าไปชม เพราะใช้เวลาเดินเยอะ

หลังจากชื่นชมวิวด้านบน พวกเราก็เริ่มหิว มื้อไหนไม่รู้ บ่าย3 มาถึงเยอรมัน ก็ต้องกินขาหมูเยอรมันด้วย

🍴ร้าน Vetter

กินเสร็จมาเดินบนสะพาน ถ่ายรูปปราสาท📷

📍Day 7 : Frankfurt, Germany

- Altstadt and The Römerberg
- iron bridge frankfurt
- Städel Museum

วันสุดท้ายก่อนกลับไทย เราจะเดินให้ทั่วเมือง Frankfurt ไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ไหนจึงไม่รู้จะเริ่มอธิบายว่าเดินอย่างไร เอาเป็นว่าเปิดGoogle Mapกันไปเลยทั้งวันนะ

เดินมาซักพัก แวะกินข้าวกันก่อน

🍴ร้าน Caffe &Gelateria La Drele

ไปซื้อของฝาก ซะหน่อย แล้วไปดูพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยกันต่อ

💸ค่าเข้าชม €16

End of the walk way สิ้นสุดการเดินทาง ไปยุโรปครั้งแรกของเหล่าสเมิร์ฟ หวังว่าคงได้มีโอกาส ....

ทริปนี้ ถามว่าแลกเงินไปเท่าไร 💰10,000฿ (ประมาณ)
เคดิตการ์ดรูด💳 อีกนิดหน่อย

🧳ก่อนไปคำนวณค่าเดินทาง ค่าที่พักและค่าต่างๆอีกมากมาย ถ้าให้เทียบกับราคาทัวร์
บอกเลยราคาพอๆกัน
แต่เราเลือกที่จะไปเอง เหตุผลคือ อยากไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนที่นั้นจริงๆว่า เดินทางอย่างไร กินอะไร
ทำอะไร จึงทำให้ตัดสินใจแบกเป้ เที่ยวเองตลอด🧳

🙏ขอบคุณที่ติดตามกัน🙏

Go To The Moon

💙Instagram: https://www.instagram.com/pk_gotothemoon/

💜Readme: https://th.readme.me/id/Pkgotothemoon