ชมงานศิลป์ กินพิซซ่า.... หอศิลปกรุงเทพฯ ปทุมวัน Dr.Pizza เขาก็มาส่งนะจ๊ะ

บ่ายวันพฤหัสบดีที่ร้อนอ้าว ร้อนอบ ร้อนไม่เกรงใจใคร ของประเทศไทยของเรา จะมีอะไรดีเท่ากับการไปเดินตากแอร์ และหาอะไรดูที่จะประเทืองจิตวิญญาณเท่ากับงานศิลป์เป็นไม่มี ดังนั้น หลังจากเสร็จธุระในช่วงเช้า จึงไปตามนัดหมายที่นัดไว้กับเพื่อนในช่วงบ่ายที่หอศิลป์กรุงเทพมหานคร และด้วยความที่ค่อนข้างเลท เลยคิดว่าเดี๋ยวชวนเพื่อนออกไปหาอะไรกินก่อน จะเข้าไปดูงานศิลป์ที่จัดแสดงอย่างที่ตั้งใจ

เมื่อไปถึงทักทายปราศรัยกันเป็นที่เรียบร้อย เลยเอ่ยปากชวนไปหาอะไรกินกันก่อน แต่บังเอิญที่เพื่อนสาวยังไม่เสร็จธุระจากงานตรงหน้า เลยขอเป็นโทรสั่งอะไรที่ดิลิเวอร์รี่มากินกันที่นี่ก็แล้วกัน

คิดกันอยู่สองสามตลบ เพื่อนเสนอว่ากินพิซซ่ามั้ยแกง่ายเร็ว กินไปคุยไปได้สบาย ๆ เลยบอกว่างั้นลุกเลยร้านพิซซ่าอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อนแทบเบิร์ดกระโหลก และใช้สายตาแบบพูดไม่รู้ฟัง ว่าข้างนอกร้อนอย่างกับนคร ให้โทรสั่ง ๆ งานก็ยังไม่เสร็จเนี่ยเห็นมั้ย

แต่ก่อนจะกดเบอร์ง่าย ๆ 4 หลักประจำ เพื่อนอีกคนเสนอว่า ลองกินร้านนี้มั้ย เป็นพิซซ่าแบบโฮมเมด ที่สำคัญเขามีบริการส่งด้วยนะเออ ว่าแล้วเธอก็เปิดเพจของร้านมาให้ดู เพื่อจะได้เลือกเมนูกัน ว่าแล้วเปิดเลยจ้า http://dr-pizza.com ร้านที่เพื่อนแนะนำนี้ชื่อร้าน Dr.Pizza ตัวร้านเองอยู่ที่ ถนนสุขุมวิท 22 มีบริการส่งพิซซ่าภายในรัศมีไม่เกิน 7 กม. จากร้าน มีค่าบริการ 40 บาท ถ้วน และต้องสั่งสินค้ามูลค่าไม่ต่ำกว่า 250 บาททางร้านจะดำเนินการมาส่งให้

เราสามารถโทรเช็คกับทางร้านได้ค่ะ ว่าที่ ๆ จะให้มาส่งนั้น เกินกว่าระยะทางที่ทางร้านมีบริการหรือไม่ แต่เราเอาง่าย ๆ ค่ะ ขี้เกียจโทรเดี๋ยวโทรตอนสั่งทีเดียว เช็คจาก GPS ในคอมฯ หรือในโทรศัพท์ก็ได้ค่ะแจ้งระยะทางให้เหมือนกัน แน่นอนค่ะ ระยะจากทางร้านมาหอศิลปกรุงเทพฯ ไม่เกิน 7 กม. ดังนั้น เลือกกันเลยค่ะ

ทีแรกจะสั่งถาดใหญ่ถาดนึง แต่เพื่อนที่เป็นฝรั่งเธอเป็นมังสวิรัตค่ะ เลยสั่งถาดเล็กสองถาดก็แล้วกัน เพราะเพื่อนบอกว่า ถาดเล็กน่ะ เท่า ๆ กับถาดกลางของร้านพิซซ่าทั่ว ๆ ไป เลยสั่งไปสองถาดเล็ก เป็นหน้า DR.Pizza กับหน้า 4 ชีส ไปอย่างละถาด ลองดูเมนูไปเรื่อย ๆ เจอกับ เพสโต้พาสต้ากุ้ง เอาหละสั่งเลยชั้นอยากกิน หามานานละ ไม่ค่อยมีใครทำขายกัน ลองดู ๆ

พิซซ่า หน้า 4 ชีส สำหรับสาวผู้เป็นมังสวิรัต และผองเพื่อน

โทรไปที่ร้านที่หมายเลข 09-1228-1229 เบอร์จำง่ายดีนะคะ ถามเรื่องระยะทางเพื่อเป็นการยืนยันกับทางร้าน แล้วสั่งอาหารเลย ทางร้านแจ้งว่าประมาณ 40 นาทีนะคะ เดี๋ยวไปถึงแล้วจะโทรแจ้งอีกที นั่นหละค่ะ จบกระบวนการสั่งอาหารของเราเรียบร้อย ตอนนี้ก็นั่งช่วยเพื่อนปั่นงานรอไปก่อน

พิซซ่าหน้า DR.Pizza

ไม่ทันจะสี่สิบนาทีดี น้องผู้ชายในชุด Delivery Boy ของ DR.Pizza ก็มาปรากฏตัวตรงหน้า เพื่อให้เป็นการเสียเวลา เพราะหิวแล้ว เริ่มเช็คของค่ะ โอเคครบถ้วนกระบวนความ ปล่อยน้องกลับไปได้ จากนั้น เริ่มจัดการกับเจ้าพิซซ่าผู้โชคร้ายเหล่านั้น ที่ต้องตกเป็นอาหารของสี่สาวผู้หิวโหย (ภาพตอนทานเป็นภาพที่ไม่น่าชมอย่างยิ่ง จึงขอสงวนไว้ไม่แสดงออกในที่สาธารณะ อิอิอิ)

รายการอาหารทั้งหมดของเรา

พิซซ่าหน้า DR.Pizza ซึ่งถือเป็น Signature ของทางร้าน

มาเริ่มกันจากพิซซ่าหน้า DR.Pizza ซึ่งถือเป็น Signature ของทางร้านเลยทีเดียว เริ่มจากแป้งก่อน ชอบแป้งมากค่ะ ถึงจะไม่ใช่ตุ๊กแกก็ตาม แป้งพิซซ่าของที่นี่บางกรอบจริง ๆ คือ ไม่แข็ง ไม่ร่วน กัดไปไม่แตกโผ๊ละ แต่มีความเหนียวหนึบหนับกำลังดี ซอสและชีสหอมมาก เพิ่มความหวานมัน กินกับแฮมชิ้นใหญ่ ๆ ที่วางมาบนหน้าพิซซ่าแล้วสุดยอดค่ะ อันนี้ยังไม่รวมมะกอกดอง ที่น้อยร้านนะคะจะใส่ เพราะมันแพงค่ะ มะกอกดำดองของทางร้านทานง่าย ให้รสชาติเปรี้ยวนิด ๆ เผื่อนหน่อย ๆ ช่วยตัดรสและความเลี่ยนของชีสออกไปได้มาก อร่อยค่ะ บอกเลย ต้องลอง

และด้วยความที่ทางร้านใช้เวลาในการส่งไม่นาน พิซซ่าที่เอามาส่งเลยยังร้อนกรุ่นอยู่ ทำให้เวลาเราหยิบออกมาจากชิ้นยังมีความยืดดดด ของชีสตามมา และมีกลิ่นที่หอมหวลชวนชิมมาก

พิซซ่าหน้า 4 ชีส

พิซซ่าหน้านี้ เขาเรียกว่าเป็น พิซซ่าปราบเซียนค่ะ เพราะไม่มีอะไรเลย นอกจาก แป้งพิซซ่า ซอสพิซซ่า และชีส 4 ประเภท อันได้แก่ พาร์เมซานชีส, กอร์กอนโซล่าชีส, เชดด้าชีส และ มอสเซเรลล่าชีส ไม่มีเนื้อสัตว์ใด ๆ อบให้ได้ที่พร้อมเสิร์ฟ ถือเป็นภาคบังคับว่าทุกร้านพิซซ่า ต้องมีพิซซ่าประเภทนี้

เมนูนี้ได้ความกรอบ มันหนึบหนับของแป้งพิซซ่า และชีสทั้งสี่ประเภท ที่รวมกันได้รสกลมกล่อม แต่ออกจะเลี่ยนสักหน่อย ต้องกินกับซอสมะเขือเทศ เหมาะสำหรับคนที่กินมังสวิรัตอย่างเพื่อนเรา หรือคนที่ชอบชีส แต่ส่วนตัวแล้วก็อร่อยดีค่ะ โรยออริกาโน่ให้หอม ๆ อีกหน่อย สบายปากเลยทีเดียว

เพสโต้ พาสต้ากุ้ง

จานนี้อย่างที่บอก หามานาน เพราะไม่ค่อยมีร้านไหนทำขายด้วยความที่ซอสเพสโต้ และส่วนผสมอื่น ๆ ค่อนข้างแพง แถมไม่ค่อยมีคนกินกัน เลยไม่ค่อยมีใครทำขาย หรือทำขายก็ไม่อร่อยเหมือนไปนั่งกินในร้านอาหารอิตาเลี่ยน แต่นี่บอกเลยค่ะว่าชอบมาก

กลิ่นหอม ๆ ฟุ้ง ๆ ของโหระพาอิตาเลี่ยน ที่ผัดเส้นสปาเกตตี้มากับน้ำมันมะกอกจนชุ่ม ใส่เม็ดอัลมอนป่น มะเขือเทศราชินีรสหวาน และ กุ้งตัวโต ๆ ทอดกรอบ เวลาเคี้ยวจะได้รสสัมผัสของกุ้งทอด เม็ดอัลมอน และความฟุ้งของโหระพาอยู่เต็มปาก หวานสดชื่นของมะเขือเทศราชินี แต่คำเตือน ควรคลุกเส้นให้เข้ากับน้ำมันมะกอกที่ผัดซอสมาให้ทั่วก่อน จะได้ความหวานมัน และนุ่มจากเส้นอย่างเต็มที่ จานนี้ ชั้นกินคนเดียวไม่แบ่งใคร

เมื่อจัดการกับอาหารตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว งานของคุณเพื่อนก็เสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาไปเดินชมงานศิลป์กันเสียที และอาจจะด้วยวันนี้เป็นวันกลางสัปดาห์ ภาพศิลป์ที่แสดงอยู่ที่หอศิลป์แห่งนี้ จึงน้อยไปนิดนึง แต่ก็มีนิทรรศการภาพถ่ายอยู่ที่ชั่น L ของหอศิลป์ นั่นคือ นิทรรศการภาพถ่ายนานาชาติ บนความเปลี่ยนแปลง "Change"

แนวความคิดในการจัดแสดง

มีผู้ให้ความสนใจเข้าชมตามสมควร

ภายในนิทรรศการมีการแสดงภาพต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก

ถือเป็นการเดินย่อยอาหารที่ประเทืองจิตวิญญาณ และความรู้ มุมมองในการมองโลกให้เพิ่มขึ้นอีกมาก นิทรรศการภาพถ่ายนานาชาติ บนความเปลี่ยนแปลง "Change" จัดแสดงอยู่ที่ชั้น L หอศิลปกรุงเทพฯ มหานคร

สำหรับการสั่งพิซซ่า จาก DR. Pizza สามารถสั่งได้ตามที่อยู่นี้เลยนะคะ หรือจะลองเปิดเมนูดูก่อนได้ที่ http://dr-pizza.com