รีวิว : 2 วัน 1 คืน ที่ "บ า ง แ ส น - บ า ง เ ส ร่ " รูปเยอะมาก
ฝ้ายเริ่มต้นออกจากกรุงเทพ ประมาณ 9 โมงเช้าของวันศุกร์ ซึ่งขนาดทางด่วนยังรถติด
เราได้กินข้าวเช้าแล้วก่อนขับรถออกมา เพราะฉะนั้นที่แรกที่จะไปก็คือไปถ่ายรูปสวย ๆ ที่คาเฟ่นั้นเอง
เมื่อมาถึงร้าน ร้านก็เปิดพอดิบพอดี ตามที่คาดเอาไว้ ร้านนี้มีชื่อว่า Austin Cafe
ร้านปิดวันจันทร์ เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00- 22:00 น. ร้านหาไม่ยากอยู่ตรงข้ามศาลเจ้านาจา เปิดตาม map ไปเลย
ร้านนี้จากที่ดูรีวิวเพิ่งเปิดไม่นาน แต่เห็นคนรีวิวเยอะมาก ด้วยความที่ร้านสวย ทำเลดีติดทะเล และก็เป็นความโชคดีของเราที่มาตอนร้านเปิดพอดี ถ้ามาตอนเย็นกับร้านแบบนี้คงอดแน่ ๆ เลย เพราะวิวดีมาก สำหรับมุมนี้ มีแค่ 2 โต๊ะเท่านั้น ถ้าอยากมานั่งชิวตอนเย็นคงต้องจองนะคะ ของดีมีน้อย แต่รับรองถ้าได้มุมนี้รูปสวยแน่ ๆ แต่ฝ้ายไม่ต้องจองเพราะมาแต่ร้านเปิดเลยจ้า
มุมถ่ายรูปสวย ๆ ทั้งนั้น ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ ฮาวาย หรือ มัลดีฟ เลย วันไปแดดแรงเหมือนกันค่ะ แต่มีลมจากทะเล ทำให้ยังพอสู้ได้
เมื่อยังไม่มีคนมาเท่าไหร่ ร้านก็เป็นของเรา เดินถ่ายตามใจชอบ แต่ร้านเปิดสักพักคนก็เริ่มมาแล้ว
อาหารมีให้เลือกหลากหลายทั้งคาวทั้งหวาน ราคาเหมือนร้านคาเฟ่ทั่วไป ถามว่าแพงมั้ยก็อยู่ที่คนจะมองนํ้าประมาณแก้วละ 80 ส่วนตัวคิดว่าซื้อบรรยากาศก็ถือว่าโอเค พนักงานน่ารักยิ้มแย้ม พูดจาดี บริการดี (ที่รองแก้วเอามาเองนะคะ ให้เข้ากับบรรยากาศซะหน่อย)
ถือว่าเป็นอีกคาเฟ่ที่มาไม่ยาก และก็ได้รูปสวย ๆ เพียบ บรรยากาศดี วิวทะเล ใครอยากได้รูปสวย ๆ ต้องมา
หลังจากนั่งสักพักเราก็ไปที่ต่อไป แวะหาข้าวกินก่อนไปที่พัก ซึ่งร้านที่เราไปมีชื่อว่า ลมศิลา ซีฟู๊ด อ่างศิลา สั่งยำเนื้อปู กับ แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว 2 อย่าง ข้าว 2 จาน นํ้า 1 ขวด ประมาณเกือบ 700 แพงเหมือนกัน แต่คุณภาพก็โอเค แต่ไม่ถึงกับรู้สึกว่าอร่อยมากมาย เลยขอข้ามรีวิวนี้เลยแล้วกัน
เมื่อกินข้าวเสร็จก็ถึงเวลาไปที่พัก ที่ พั ก น่ า รั ก “ บ า ง แ ส น “ marina sea view bangsaen ราคา 1,850 ฿ / 2 Persons
เป็นที่พักที่อยากมานอนมากแล้ว จองยากเหมือนกัน ศุกร์เสาร์อาทิตย์เต็มตลอด
เวลา Check in 14.00 น. marina sea view bangsaen ติดหาดวอนนภา มีที่จอดรถด้านหลังโรงแรม
เช็คอินแล้วขึ้นห้องกันเลย สำหรับชั้น 1 เป็น cafe ด้วย ซึ่งถ้าไม่ได้มาพักก็มานั่งดื่มกาแฟ ชาอะไรได้ ร้านน่ารักเหมาะกับการถ่ายรูป ชั้น 2-5 คือห้องพัก ชั้น 6 คือ ดาดฟ้าถ่ายรูป ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะคะต้องเดินขึ้น
ซึ่งถ้าอยากได้ห้องวิวแบบนี้มีแค่ 4 ห้องเท่านั้น
ห้องพักน่ารักตามสไตส์ญี่ปุ่นเลย Cute มากกกกกกกกกกก.ก
บนดาดฟ้าของที่พักมองเห็นวิว แถมมีมุมเก๋ ๆ ให้ถ่ายรูปอีก ถูกใจมาก ตามหาดวอนนภาจะมีร้านอาหาร ร้านดื่มนั่งชิล แถวหาดเยอะมาก ถือว่าทำเลดีสุด ๆ คุ้มมากสำหรับราคาแบบนี้ แนะนำเลยว่าใครมาบางแสนควรมาพักที่นี่ ที่สำคัญด้านล่างของที่นี่เป็นคาเฟ่ด้วย ใครไม่ได้มาพักก็มานั่งกินได้ค่ะ
มุมของร้านคาเฟ่ แต่ตอนเช้าก่อนร้านเปิดจะเป็นที่กินอาหารเช้า มีทั้งข้าวต้ม / breakfast/ อิสลาม ให้เลือก และก็มีนํ้า กาแฟ ขนม หยิบตามใจชอบ
ถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี เราเลือกไปร้าน Sea Salt Bangpra
ร้านนี้ตั้งอยู่ใน Paradiso Beach บางแสน-บางพระ ขับมาตาม map ได้เลยค่ะ ก่อนเข้าแลกบัตรประชาชนบอกว่ามาร้าน Sea Salt Bangpra
ร้านเปิด จันทร์ - ศุกร์ : 17.00 - 23.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ : 11.00 - 24.00 น
ถ้าอยากได้ที่ดี ๆ ก็ต้องจองนะคะ แต่ที่นี่มุมสวยทุกมุมอยู่แล้ว บรรยากาศดี ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกตามที่รีวิวหลาย ๆ คนบอกเลย
พนักงานเยอะมากกกก แบบ 1 คนต่อโต๊ะได้ บริการดีสุด ๆ และแน่นอนว่าบริการดี วิวดีมาก อาหารย่อมมีราคา ถ้ากะจะเอาอิ่มคงหมดเยอะมาก ๆ แนะนำมาแบบเอาบรรยากาศ กินสวย ๆ พอนะคะ เมนูที่นี่มีเยอะเหมือนกัน ฝ้ายเลือกสั่งสเต็กมา จานละ 320 บาท ถ้ารวมมื้อนี้ไปประมาณ 800 บาท
ด้านข้างของร้านมีสะพานสวย ๆ ให้ถ่ายรูปด้วย มุมนี้ดีมาก ๆ นั่งกินลมชมวิว ฟังเพลงไปสักพักใหญ่ก็กลับ ทางกลับเลยแวะเดินตลาดคนเดินบางแสน เดินไปได้สักพักลมแรงมากเหมือนฝนจะตกเลยรีบกลับห้อง ก็หมดสำหรับวันแรกของเรา
เช้าวันที่ 2 ตื่นมาทานข้าวเช้าของโรงแรม
เลือกที่นั่งได้ตามใจชอบเลย ความที่โรงแรมน่ารักด้านหน้าเป็นทะเล ทำให้อาหารเช้าอร่อยขึ้นมากจริง ๆ ฟินจนไม่อยากกลับไปทำงานเลย : )
กินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ฝ้ายก็เก็บของ check out เลย เพราะว่าจะไปเที่ยวต่อที่ บางเสร่ ซึ่งจากบางแสนไปบางเสร่ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิด ๆ
และแล้วก็มาถึงบางเสร่ สถานที่ ที่ทำให้เราต้องขับรถจากบางแสนมาบางเสร่ ก็คือ Kept Pier Cafe ร้านเปิดตั้งแต่ 11.00-22.00 น. ทุกวัน
เป็นร้านคาเฟ่ที่สวยมาก ๆ อยู่กลางทะเล ร้านอยู่ภายในตัวโรงแรม Kept Bangsaray Hotel แต่ใครที่ไม่ได้เข้าพักก็สามารถไปได้ค่ะ จอดรถในส่วนของโรงแรมได้เลย ที่จอดรถอยู่ข้างหน้า จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปได้เลย ส่วนของคาเฟ่จะเด่นมากเพราะยื่นออกไปตรงทะเล
มุมเล็ก ๆ ตรงทางเข้า น่ารักมาก ๆ เป็นที่ให้เด็ก ๆ ที่มาพักได้เล่นทราย
ระหว่างทางเดินไป ก็จะผ่านสระว่ายนํ้าของโรงแรม พยายามไม่รบกวนทางคนที่มาเข้าพักนะคะ สำหรับใครที่มาคาเฟ่
วิวดีมาก ๆ หลายคนแนะนำให้มาตอนพระอาทิตย์ตกดินจะสวย แต่ว่าอาจจะต้องแลกด้วยคนที่เยอะ ทางเราเลยมาแต่ร้านเปิดเลย โชคดีที่ไม่ร้อน มีลมเย็นสบาย นั่งจิบเครื่องดื่ม และกินเค้กชิว ๆ ราคาที่นี่ก็พอ ๆ กับร้านแรกค่ะ นํ้าประมาณ 80 บาท ราคาประมาณนี้ เค้ก 100 นิด ๆ
นั่งกินลมชมวิวสักพัก ก็กลับ ขากลับแวะ outlet mall นิดหน่อยทางผ่านและก็แวะไปกินข้าวที่ร้าน ข้าวต้มประจัญบาน ใครมาพัทยาบ่อย ๆ อยากกินร้านอาหารแบบไม่แพงและคุณภาพดี ยํ้าว่าไม่แพง !!! สั่งเยอะสุด แต่ถูกสุดกว่าร้านแรกที่สั่งมาแค่ 2 แน่นอน อาหารทะเลสดอร่อย ควรมาร้านนี้เลยเลย อยู่ทางไปเซนทรัล อันนี้คอนเฟิร์มปักหมุดไว้เลย มีเมนูยาวเป็นหางว่าว กลางวันกลางคืนมานั่งกินได้เลย ร้านใหญ่มีที่จอดรถด้วย เป็นร้านประจำที่ฝ้ายมาต้องมากิน ก็อยากให้ทุกคนมาลองกัน
อิ่มท้อง อิ่มใจ แล้ว ก็ได้เวลากลับกรุงเทพแล้วนะคะ ก็เป็นทริปสั้น ๆ นะคะ ไม่มีสถานที่เที่ยวแต่ว่าได้รูปสวย ๆ เพียบ
ยังไงไปตามรอยกันได้เลย ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้เลยนะคะ : ) ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ
ฝากกดไลท์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ : https://www.facebook.com/puifaikamonblog/
Puifaikamon
วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.49 น.