สวัสดีค่ะทุกคน ห่างหายไปนาน มากๆ วันนี้เรากลับมากับกระทู้ใหม่ เคยไปปากเซมา เมื่อนานมากแล้ว 10กว่าปีเห็นจะได้ พอดีมีเพื่อนสนิทอยู่ที่โน้นเลยหาโอกาสไปเยี่ยมซักหน่อย จริงๆจากกรุงเทพ ก็มีไฟท์บินตรงลงปากเซเลย แต่เนื่องจากตั๋วเครื่องบินแพงมากๆ เราเลยเลือกที่จะบินไปลงที่อุบล แล้วให้เพื่อนข้ามฝั่งมารับเราแทนละกัน เนื่องจาก ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าฝนกันแล้ว เราเลยทำใจก่อนไปแล้วว่า ฝนอาจจะตกนะ
ได้เวลาเดินทางกันแล้ว เริ่มเดินทางจาก ดอนเมือง สู่ สนามบินอุบลราชธานี ใช้เวลาประมาณ50นาทีก็ถึงแล้วจ๊ะ ลงเครื่องมาเพื่อนก็มารอรับเลย อากาศร้อนมากๆ หิวมากๆด้วย กองทัพต้องเดินด้วยท้องจ๊ะ ไปแวะทานอาหารเช้ากันก่อนดีกว่า แวะทานปากหม้อเจ้าดัง บางคนก็เรียก ปากหม้อโรบอท หรือบางคนก็เรียก ปากหม้อหุ่นยนต์ค่ะ มีแบบใส่ไข่ และแบบธรรมดา ถ้าใครอยากกินก๋วยจั๊บญวนก็เดินไปสั่งร้านข้างๆได้เลย
เราข้ามด่านกันที่ ด่านช่องเม็ก ระหว่างทางไปด่านเราก็จะผ่านวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว วัดชื่อดังของเมืองอุบล หรือหลายๆคนอาจจะรู้จักว่าวัดเรืองแสงเมืองอุบล แต่จริงๆต้องมาช่วงเย็นๆจะบรรยากาศดีมากๆ มีที่ชมวิวด้านหลังด้วย แต่เนืองจากเรามาตอนเที่ยง แดดร้อนจัดมากๆ ถ้าใครจะข้ามด่านช่องเม็ก ก็แวะมาเที่ยววัดกันก่อนได้นะคะ
วันนี้กว่าจะข้ามด่านมาถึงเมืองปากเซก็บ่ายแก่ๆแล้ว เพราะต้องทำธุระในเมืองอุบลหลายที่ วันนี้พอมีเวลาเราก็ไปเที่ยว น้ำตกตาดเยื้อง กันก่อนเลย น้ำตกตาดเยื้องเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เราสามารถมองเห็นได้จากข้างบน อยากเห็นใกล้ๆ ก็สามารถเดินลงไปได้ แต่ทางค่อยข้างชัน แต่ไหนๆก็มาละลงไปดูซักหน่อยแล้วกัน ตอนแรกเราเดินไปเดินยังไม่ออก แต่พอแดดออกจัด ทำให้ละอองน้ำเป็นสายรุ้งกินน้ำเลย สวยมากๆ ธรรมชาติมากๆ
กลับเข้าเมืองปากเซก็ยังไม่เย็นมาก ยังพอมีเวลาเราก็เลยแวะขึ้นเขาไปวัดพูสะเหลา เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา คนพื้นเมืองปากเซออกมาเดินออกกำลังกายขึ้นเขากันเยอะมากๆ คือใครไม่อยากเหนื่อยก็สามารถขับรถขึ้นมาถึงด้านบนได้เลยค่ะ จุดชมวิวนี้ถือว่าเป็นอีกจุดนึงที่สวย เพราะสามารถเห็นวิวเมืองปากเซได้ทั้งหมดจากบนนี้ จากบนนี้จะสามารถมองเห็นบ้านเจ้าของกาแฟดาวชื่อดังของเมืองลาวอีกด้วย ส่วนด้านขวามือจะเป็นโรงแรมจำปาสัก แกรนด์
มื้อเย็นวันนี้ เราไปลองเนื้อย่าง สไตล์ปากเซกันซะหน่อยดีกว่า ร้านนี้เห็นเพื่อนบอกเป็นร้านดังของที่นี้ สั่งเป็นชุด เสือร้องไห้นี้เด็ดจริงจ๊ะ หอม อร่อย ราคาไม่แพงด้วย ร้านอยู่ใจกลางเมือง ถ้าใครมีโอกาสไปปากเซแนะนำให้ไปลองนะจ๊ะ
วันที่สอง เราก็จะเดินทางไปเที่ยวปราสาทหินวัดพูกัน จากเมืองปากเซขับรถไปวัดพูประมาณ1ชม. ระยะทางประมาณ44กิโล ระหว่างทางเราก็ต้องผ่านร้านอาหารแพริมน้ำ จริงๆก็มีหลายร้านให้เลือกวิวดีๆทั้งนั้น แต่ร้านนี้วิวอาจจะไม่ได้หรูหรา
แต่รสชาติอาหารถือว่าอร่อยใช้ได้ ปกติหนุงหนิงเป็นคนไม่ชอบทานปลาอยู่แล้ว มาร้านนี้ต้องยอม เพราะเนื้อปลาเค้าไม่มีกลิ่นคาวเลย แล้วก็สดใหม่อร่อยมากจริงๆ เราจะเป็นเป็นเซท ก็จะมีปลาลวกจิ้มมาอย่างแรก อร่อยมากจริงๆ แล้วก็จะมี ต้มยำปลา ลาบปลา ปลาย่าง ผักสด ขนมจีน แล้วก็สั่งข้าวเหนียวมาเพิ่ม
วิวร้านก็จะเป็นแบบนี้
อิ่มท้องกันแล้ว เราก็เดินทางต่อกันไปที่ปราสาทหินวัดพูสมัย10-20ปีที่แล้ว เพื่อนเล่าให้ฟังว่า จะมาที่นี้ลำบากมากถนนยังไม่มีมาถึง ต้องเดินทางมาทางเรือเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้มีถนนสะดวกสบายแล้ว จะมีก็ไม่ได้ลำบากอะไรแล้ว ก่อนถึงวัดก็ต้องผ่านหมู่บ้านมาก่อน ปราสาทหินวัดพูนี้ ถือว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญของประเทศลาว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งสถาปัตยกรรมแบบเขมร สร้างจากหินทราย และอิฐ แต่เนื่องจากเรามาตอนสายแล้ว ร้อนมาก มีบริการเช่าร่มด้วย คันละ20บาท แต่สวยจริงๆ สามารถเดินขึ้นเขาไปชมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่นี้เดินไม่ไหวแล้ว เพราะร้อนมาก เมื่อวานเดินขึ้นจากน้ำตกตาดเยื้องยังไม่หายเมื่อยเลยจ๊ะ ปราสาทหินวัดพูแห่งนี้ ได้รับยูเนสโก ขึ้นเป็นมรดกโลกด้วยนะ
พอดีวันนี้เป็นวันเกิดขอเจ้าของกระทู้พอดี เพื่อนเลยบอกให้ไปDinner ดาดฟ้าโรงแรมซักหน่อย อยู่ที่ Pakse Hotel ร้านอาหารอยู่ชั้นบนดาดฟ้า ชื่อร้านว่า Le Panorama Restaurant
วิวบนนี้ดีจริงๆ สามารถมองเห็นวิวเมืองปากเซได้ทั้งเมืองเลยค่ะ
Happy Hour ซื้อเครื่องดื่ม ซื้อ1แก้ว ฟรี อีก1แก้วไปเลยค่ะ
อาหารก็มีให้เลือก แต่เราขอกินง่ายๆแล้วกัน เพราะยังอิ่มอยู่เลย
เช้านี้ เติมพลังด้วยเฝอเจ้าดัง ต้องต่อคิวเลย รู้สึกจะเป็นคนพื้นที่กิน ขออภัยที่ลืมถ่ายหน้าร้านมา
มากินกาแฟกันต่อ ร้าน 124 THALUANG COFFEE ร้านนี้เจ้าของร้านเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆนะคะ แต่พอพูดภาษาลาวได้ เพราะอยู่มาหลายปีแล้ว สมัยก่อนมาทำงานอยู่ที่ปากเซ ไปๆมาๆติดใจ เมืองนี้ เลยตัดสินใจเปิดร้านกาแฟซะเลย เจ้าของร้านทำเองทุกอย่าง ชงกาแฟ ทำขนม ถักกำไรข้อมือขาย
สุดท้ายนี้ ขอฝาก Hostel เปิดใหม่ ใจกลางเมือง ปากเซ อยู่ตรงข้ามสมาคมจีน ปากเซ ตึกเหลืองเด่นอยู่ติดถนนใหญ่ หรือถ้าใครอยากถ่ายรูป Chic Chic ก็ยินดีนะคะ มาเช็คอินกันได้ อีกไม่นานเกินรอ จะเปืดร้านกาแฟด้วยค่ะ ตอนนี้มีโปรโมชั่น อยู่ที่คนละ 185 บาทเท่านั้นค่ะ
1918's Hostel เมืองปากเซ
ส่วนของ Lobby ค่ะ สอบถามข้อมูล จะ Check-in , Check-out ได้ที่เคาท์เตอร์นี้เลยค่ะ
ถอดรองเท้าก่อนขึ้นห้องพักนะคะ
ทางHostel มี Locker ให้บริการค่ะ
ขึ้นไปชม ชั้น 2กันต่อเลยค่ะ
ห้องน้ำก็แยกชาย และ หญิง ค่ะ
มีโซน ส่วนกลาง ให้ใช้ร่วมกัน จะนั่งคุยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเที่ยว มีหนังสือให้อ่านด้วยค่ะ
ทางเดินเข้าห้องพัก
ห้องพักมีแอร์ทุกห้อง เป็นห้องนอนรวม และก็แยกชายหญิงค่ะ หรือใครจะมา4คน ก็เหมาห้องส่วนตัวได้เลยนะคะ
ใครอยากแวะมาถ่ายรูปก็แวะมาถ่ายรูป หรือ Check-in กันได้นะคะ
ด้านข้าง อีกไม่กี่เดือน ก็จะมีร้านกาแฟเปิดด้วยนะคะ
เห็นได้ชัด ว่าทุกอย่างที่แปลกหูแปลกตามากๆ ถนนก็ตัดใหม่ เดินทางสะดวก เดินทางจากเมืองอุบลก็ไม่ได้ใช้เวลานานเท่ากับสมัยก่อนแล้ว เดินทางไปเที่ยวไหนก็สะดวกมากขึ้น ส่วนใครหลายคนก็ถามว่า มาปากเซทำไม ไม่เห็นมีอะไรทำ อยากจะบอกว่า มีอะไรเยอะแยะเลยค่ะ
มากินปลา มากินกาแฟ มาไหว้พระ มาดูปราสาทหินมรดกโลกด้วยนะ มาดูน้ำตก เห็นไหมมีอะไรให้ทำตั้งเยอะแยะเลย ยังไงก็ฝากกระทู้นี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะคะ สำหรับใครที่ว่าๆสองสามวัน ไม่รู้จะไปไหนดี รอเปิดใจและมาเที่ยวเมืองปากเซดูซักครั้งนะคะ ผู้คนก็น่ารัก พูดภาษากันรู้เรื่อง เที่ยวไม่อยาก แล้วก็สามารถใช้เงินไทยได้อีกด้วย
ขอบคุณเจ้าถิ่นที่สละเวลาพาไปเที่ยวนะคะ เจอกันอีกที เวียงจันท์เด้อ
ชะนีน้อยตะลอนทัวร์
วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 12.51 น.