เย้ ได้ไปทะเลฝั่งตะวันออกสักที หลังจากที่อยากไปมานานอ้ะะ อ้ากก มากกกกกกกกกกก
เราเลือกไปเกาะสีชัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีค่ะ
เพราะใกล้กรุงเทพ เลยบางแสนมานิดเดียว สะดวก มีรถทัวร์-รถตู้ผ่าน
แถมที่พักก็ราคาไม่แพงเกิน มีกิจกรรมครบจบในเกาะเดียว ทั้งไหว้พระ ชมวิว ถ่ายรูป เล่นน้ำทะเล
ตรงโจทย์ ! ถ้างั้นจะรออะไรล่ะ ไปกันเล้ยยยงับ ◕‿◕
อย่างทีบอกไปข้างต้น ทริปนี้เราเลือกเดินทางโดยรถตู้ ซึ่งจริงๆก็จะมีรถทัวร์ด้วยนะ สำหรับใครที่ไม่ชอบนั่งรถตู้หรือไม่ชอบที่แคบๆ ส่วนตัวเลือกใช้บริการรถตู้เพราะขับไว ถึงเร็วกว่า แฮะ ><
เราขึ้นที่สถานีขนส่งเอกมัยค่ะ ท่ารถที่เราขึ้นจะอยู่โต๊ะในสุดขวามือ (ช่องคิวรถตู้)
สนนราคาไปลงโรบินสันศรีราชา 100 บาทถ้วน
พอได้ตั๋วก็ไปรอขึ้นรถกันฮะ ตอนไปได้ชานชาลา28 รอรถตู้มาจอดเทียบ ก็โดดขึ้นจับจองที่นั่งกันได้เร้ยย
ใช้เวลาเดินทางออกจากกรุงเทพถึงหน้าโรบินสันศรีราชา ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษๆเท่านั้น
ยังไม่ทันหลับก็ถึงแล้วค่ะ 5555555555 พอลงรถตู้ปุ้บเราก็ข้ามสะพานลอยมาฝั่งโรบินสัน
แล้วก็นั่งวิน หรือ สามล้อ ก็ได้แล้วแต่ปริมาณคนที่มาด้วย บอกพี่คนขับเลยว่า ไปท่าเรือเกาะลอย หรือ
ไปท่าเรือข้ามไปเกาะสีชังค่ะ ราคาแล้วแต่พี่ๆคนขับ แต่จะอยู่ที่ประมาณคนละ 20 - 30 บาท
- ปล. ท่าข้ามเรือไปเกาะสีชังมีทั้งหมด2ที่ แต่คิดว่าตอนนี้น่าจะข้ามที่เกาะลอยที่เดียว แต่เพื่อความชัวร์ในช่วงเวลาที่ไป บอกพี่คนขับว่าไปท่าเรือข้ามไปเกาะสีชังจะครอบคลุมกว่าฮะ
แล้วพี่คนขับก็จะพาเรามาส่งที่ท่าเรือเกาะลอย
- มาถึงแล้วก็ไปซื้อตั๋วก่อนเลย ตู้สีขาวข้างๆแถวนั่นเอง เราได้นั่งเรือรอบ 9.00 น.
- ไม่แน่ใจว่ามีรอบก่อนหน้านั้นไหม เดาว่ามี (?) แต่รอบเก้าโมงเช้าของเรานี่ก็คนยังไม่เยอะมากเท่าไร
- ค่าตั๋วข้ามไปเกาะสีชัง คนละ 50 บาท
ต่อคิวไปได้สักพัก เรือก็มาละฮ้าบบบบบ ><
ไปค่ะทุกคน จับจองที่นั่ง เราได้นั่งด้านบน เพราะมาไว ><
ตอนเรือยังไม่ออก ฝั่งซ้ายมือจะมีแดด แต่เราก็เลือกนั่งฝั่งมีแดดค่ะ พอเรือออกแล้วจริงๆก็ไม่มีฝั่งไหน
โดนแดดเลย เอาเป็นว่า สะดวกนั่งฝั่งไหนก็ตามสบายใจได้เลยฮะ
นั่งชมวิวทะเลไปเรื่อยๆ เพลินๆ สักพักก็เริ่มเห็นเกาะอยู่ลิบๆตาแล้วว
- ใช้เวลาเดินทางบนเรือ 45 นาทีค่ะ เหมือนจะนาน แต่ไม่นาน
ลงเรือมาเราจะเจอกับศาลาสีเขียว ซึ่งเป็นจุดบริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลต่างๆ
มีรถสองแถวบริการ สำหรับคนมาเป็นกลุ่มใหญ่ มีสกายแลป มีรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่า
ซึ่งทางเราเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์ค่า แว้นๆกันไปเลยย
แต่แวบไปหยิบโบว์ชัวร์ในศาลาเขียวมาศึกษานิดหน่อย คิคิ
แวะนั่งพักสักแปป + กินหมึกย่าง แฮ่ ><
ด้านหลังศาลาเขียวนั่นเองจะเป็นจุดให้เช่ามอเตอร์ไซค์ ไปค่ะ ลุยย
- สำหรับค่าเช่ามอเตอร์ไซค์จะอยู่ที่ 250 บาท / 1 วัน และ 300 บาท / 24 ชม. (รวมเติมน้ำมันเต็มถัง)
- ใครที่มาเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ก็เลือกเช่า 1 วันได้ คือยืมเช้า คืนเย็น
- ทางเราเลือกเช่า 24 ชม.ค่ะ คือยืม 10 โมงเช้าวันนี้ คืน 10 โมงเช้าวันพรุ่งนี้
- เลือกรถได้ตามเราสะดวก มีทั้งเกียร์และออโต้
- เมื่อได้รถแล้วก็เช็ครถก่อนนะ ไม่ว่าจะน้ำมัน เบรค ใดๆ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
- พี่ที่ให้เช่ารถ เขาจะมีให้แผนที่เรามาแผ่นนึง พร้อมกับ เบอร์โทรติดต่อพี่เขา กรณีมีปัญหาหรือโทรมาคืนรถ แนะนำให้ถ่ายรูปเก็บไว้ หรือเมมใส่โทรศัพท์ไว้เลย ป้องกันใบหายน้าา
พร้อมลุยยย !
หลักการเที่ยวเกาะสีชัง ง่ายมากกกก ให้เราวิ่งตรงออกจากท่าเรือ เมื่อถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาก่อน
สังเกตุง่ายๆทางแยกจะมีเซเว่นอยู่ซ้ายมือ ให้เราเลี้ยวขวาก่อนนะะ แล้วขับตามทางไปเรื่อยๆเลย
จะผ่านที่ว่าการอำเภอเกาะสีชัง โรงพยาบาล ขับตามทางมาเรื่อยๆไม่มีหลงแน่นอน
เพราะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆเลย
และนี่คือที่แรกที่เราจะมาแวะ
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่นั่นเองค่ะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเคารพบูชาของชาวบ้านบนเกาะสีชัง
แต่เดี๋ยวเราจะแวะเข้าศาลเจ้าแม่กวนอิมข้างๆก่อน ซึ่งจะมีโฆสกประกาศเรียกให้ขึ้นไปค่ะ 5555
สักการะเจ้าแม่กวนอิมเรียบร้อยแล้ว ก็ไปศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่กันต่อฮะ :)
ตอนเราออกมาจากเจ้าแม่กวนอิม มีพี่ๆคนอื่นรออยู่บนรถรางนี้4คน เขาเลยชวนๆให้เราขึ้นไป
เพื่อคนจะได้ครบ เจ้าหน้าที่ข้างบนจะได้พาขึ้นไป เราเลยขึ้นก็ขึ้นค่ะ 555 ส่วนตัวแอบหวิวๆ เพราะมันค่อนข้าง
ชันมากๆ แล้วขึ้นช้าๆ รู้สึกตื่นเต้น แต่วิวข้างๆสวยม้ากกกกก >/////<
เมื่อขึ้นมาถึงก็ซื้อธูปเทียนสักการะจากด้านหน้าได้เลยค่ะ
- ตอนเราไปมีเด็กน้อยเก็บค่าฝากรองเท้าด้วยค่ะ คู่ละ5บาท ฮ่าๆ
มาดูวิวข้างๆกัน เห็นกว้างม้ากกกก
เสร็จจากสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่เรียบร้อยแล้ว เราก็ลงมาด้านล่างโดยใช้บันไดข้างๆ
จากนั้นเราไปกันต่อค่ะ เมื่อออกจากศาลเจ้าพ่อ ก็ขับไปทางขวามือเหมือนเดิม
ระหว่างทางก็จะผ่านบ้านคน ผ่านชุมชน ใครไม่เซียน แนะนำให้จ้างสกายแลปนะคะ
ทางค่อนข้างชันพอสมควรในบางจุด
ที่ต่อมาเรามาโผล่กันที่ช่องเขาขาดค่ะ ขับตามทางมาเรื่อยๆทางเข้าจะอยู่ขวามือ มีป้ายบอกชัดเจน
แต่ระหว่างทางแอบผ่านทางขึ้นพระพุทธบาท แต่เราไม่ได้แวะ เพราะ1ทางขึ้นชันม้าก เป็นโค้งหักศอก
2คืออากาศร้อนมากไม่ไหวจะเป็นลม ขอผ่าน แต่ใครสายบุญ สายธรรม น่าจะชอบ
ช่องเขาขาด เรามาถึงตอนประมาณ 11 โมง แดดกำลังบ่มเลยค่ะ 555 ร้อนเป็นหมึกย่างเลย
แต่ถ่ายรูปสวย เห็นมีหลายกลุ่มมาแชะภาพกัน เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ได้ไป 1 set ลงไอจี ฮี่ฮี่
แต่มาเวลาไหนก็สวยค่ะ ตอนเย็นๆเรามาอีกรอบนึง บรรยากาศดีมาก เหมาะกับมาดูพระอาทิตย์ตก ><
อ้อ ที่นี่มีลิงด้วยนะ อย่าเผลอวางของทิ้งไว้นะคะ น้องอาจจะมารื้อของได้
เราออกจากช่องเขาขาด ก็ขับตามทางไปเรื่อยๆ จนสุดทางจะเจอกับโซนสะพานอัษฎางค์
อันแสนโด่งดังของทีนี่ ที่ใครๆมาก็ต้องมาถ่ายรูปเช็คอิน แต่ !!!
แต่ตอนเรามาเขาปิดปรับปรุงทาสีค่ะ แงๆ อดเลยเรา ._.
อันนี้ฮา ห้ามยก ! ใครจะยก .___.
ย้อนกลับทางเดิม แวะดูพิพิธภัณฑ์สักหน่อย เข้าชมฟรีค่ะ
ปลิงทะเลตัวใหญ่มาก ใหญ่แบบถ้าโดนกัดคือยอมค่ะ 55555555555
ออกจากตรงนี้ ขับตรงมาอีกหน่อยเราเลี้ยวซ้ายไปหาดถ้ำพังค่ะ
ซึ่งก็จะมีป้ายบอกก่อนตรงเข้าไปพิพิธภัณฑ์กับสะพานอัษฎางค์
ทางขึ้นค่อนข้างชัน ตอนเย็นและกลางคืนค่อนข้างเปลี่ยว
- ที่เกาะสีชัง จะมีหาดเดียวที่เล่นน้ำได้ คือหาดถ้ำพัง คนจะมาเล่นกันเยอะช่วงเย็น
ซึ่งรูปด้านบนนี้เราถ่ายตอนกลางวัน น้ำยังขึ้นมาไม่สูง แต่ตอนเย็นน้ำขึ้นมาเลยหาดทรายหมดเลยค่ะ
ตรงจุดที่เราถ่าย ด้านหน้าจะมีโขดหิน ซึ่งเขาจะมีป้ายปักเตือนและมีทุ่นลอยกั้นไว้
เพราะถ้าน้ำขึ้นแล้วมันจะจมหมดเลย หากใครไม่รู้ เล่นตรงบริเวณนี้อาจจะโดนหินบาดได้นะคะ
แนะนำให้เล่นตรงจุดที่เลยทุ่นกั้นไปน้า กิจกรรมมีทั้งบานาน่าโบ๊ท แต่ที่ฮิตสุดๆคือพายเรือคายัคค่ะ
เสียใจมากเราไปจองคิวไม่ทัน เย็นเกิน อดเล่นไป TT
แอบเสียดายที่ตอนเย็นเราไม่ได้ถ่ายตอนน้ำขึ้น เพราะรีบวิ่งไปเล่นน้ำค่ะ ><
- เตือนนิดนึง ! น้ำค่อนข้างลึก อาจเป็นเพราะน้ำขึ้นมาสูงยันหาดทราย มันจะตื้นๆอยู่แล้วก็ลึกลงไปเลยเราสูง 162 ลงไปถึงจุดที่มีน้ำตามภาพคือพอดีคอค่ะ 5555 แต่มีห่วงยางให้ยืม คนใช้กันเต็มเลยค่ะ -.-
- สำหรับใครมาแล้วไม่มีคนเฝ้าของ มีล็อกเกอร์ให้บริการนะคะ ตรงร้านอาหารข้างๆทางลงหาด ตู้ละ 30 บาท ติดต่อกับคนเก็บเงิน หน้าห้องน้ำฝั่งตรงข้ามได้เลย เขาจะให้กุญแจมา เราเอากุญแจห้อยไว้กับสายสิญจน์ที่มือค่ะ ฮ่าๆ
จบจากตรงนี้ เราไปเช็คอินที่พัก
เราพักที่ UNSEEN RESORT ค่า (ไม่สปอนเซอร์ จ่ายเอง ถถถ )
ทางเข้าที่พักค่อนข้าง งง นิดนึง เพราะตรงนั้นมีที่พัก 4 อันติดๆกันไปหมด
เราจองผ่าน agoda ราคา 1,170 บาท จ่ายกับที่พักโดยตรง (แต่พี่พนักงานบอกถ้าครั้งหน้ามา
โทรมาจองกับที่พักโดยตรงถูกกว่า เราเอานามบัตรมาเรียบร้อย คริคริ)
- เราจองเป็นห้อง Standard ก็จะอยู่สูงหน่อย แต่สะดวกกับการเดินค่ะ
เพราะยิ่งห้องใกล้ทะเล ยิ่งเดินลงเขาไปเรื่อยๆ เหนื่อยค้ะ 555555555
- ที่พักหลักพัน วิวหลักล้าน ><
- บนเกาะมีเซเว่นอยู่ 1 ร้านนะคะ ราคาอาจจะอัพจากฝั่งขึ้นมานิดหน่อย พอเข้าใจได้ค่ะ
- สำหรับร้านอาหาร มีร้านดังเลยคือ ร้านป้าหน่อยริมทาง เป็นร้านอาหารทะเลสดๆ ร้านจะอยู่ซ้ายมือทางไปสะพานอัษฎางค์ค่ะ หาง่ายมาก เพราะคนจะเยอะๆ ส่วนตัวขี้เกียจรอคิว เลยไปกินร้านปิ้งย่างชาบูแทน แฮะๆ .-.
- อันนี้คือ 3 แยกที่บอกค่า ตอนเย็นกับดึกๆก็จะคึกคักหน่อย มีร้านของกินของทอดขายพอจุบจิบ
เอาล่ะ ! เช้าวันต่อมา ตื่นสายได้เย้ เราเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักตอนเก้าโมงครึ่ง ตอนแรกจะแวะหาข้าวกินก่อน
แต่พอไปถึงท่าเรือ พี่คนที่ให้เช่ารถ คิดว่าเรารีบกลับ เขาเลยเรียกคนเรือไว้ให้ เพราะเรือรอบ 10 โมงกำลังจะ
ออก เราเลยรีบวิ่งไปซื้อตั๋วและขึ้นเรือค่ะ อดกินข้าว 555555
ขากลับเราได้นั่งด้านล่าง รู้สึกใกล้ชิดทะเลมากกว่าเดิม แต่รู้สึกมึนหัว เมาเรือ อาจเพราะไม่ได้กินข้าวเช้าด้วย
- บ้ายบายนะเกาะสีชัง ผู้คนน่ารัก ไว้เราจะมาหาใหม่ :)
ขากลับใช้เวลา 45 นาทีเหมือนเดิม ถึงเกาะลอย เราใช้บริการสามล้อไปตลาดสดศรีราชา เพื่อไปบางแสนต่ออีก 1 คืน (นั่งสองแถวสีส้ม จอดอยู่ทางด้านหลังตลาดสด ไปลงตลาดหนองมน )
แต่ถ้าใครกลับกรุงเทพ บอกสามล้อไปโรบินสันศรีราชาได้เลยนะคะ ด้านข้างของห้าง มีรถตู้กลับกรุงเทพค่ะ
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่ารถตู้ไปกลับ กรุงเทพ - ศรีราชา 200 บาท / คน ( เที่ยวละ 100 บาท )
- ค่ารถไปท่าเรือเกาะลอย 20-30 บาท / คน / เที่ยว
- ค่าเรือข้ามเกาะ ไปกลับ 100 บาท / คน ( เที่ยวละ 50 บาท )
- ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 24 ชม. 300 บาท / คัน
- ค่าที่พัก 1170 บาท / คืน
- ค่าเครื่องสักการะเจ้าแม่กวนอิม 40 บาท / ชุด
สำหรับทริปสั้นๆนี้ พกเงินมาคนละ 2,000 บาท ก็เพียงพอแล้วค่ะ :)
( ส่วนค่าอาหาร แต่ละมื้ออยู่ที่แต่ละคนจัดการค่ะ มีหลากหลายราคาให้เลือกสรร หาทานตามงบที่มีได้เล้ย )
ไว้ทริปหน้า ไปเที่ยวที่ไหน จะแชะภาพมาฝากทุกคนอีกนะคะ ทริปนี้ลาไปก่อน บ้ายบายยยคร้าบ :p
Solaninee
วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 20.03 น.